ตอนที่ 695: ตามหา
เมื่อสอบถามได้ความว่าอย่างนี้ ชิเสวี่ยอวิ๋นก็ได้แต่ตกใจ อุตส่าห์เหนื่อยยากลำบากจนมาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนนี้ แต่กลับพบว่าคนไม่อยู่ที่นี่? ยามพวกนี้ไม่มีทางโกหกอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องโกหก
หากไม่เพราะว่าพวกเขาไม่รู้จริงๆ ก็เป็นเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ ทำให้หลายคนไม่รู้เรื่องนี้ และเรื่องจริงจะเป็นแบบไหนนั้น อี้เทียนหยุนก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ใจได้อย่างหนึ่งก็คือ พวกเขามาเสียเที่ยวแล้ว
“เป็นไปได้ยังไง…..”
นัยน์ตาคู่งามของชิเสวี่ยอวิ๋นเต็มไปด้วยความผิดหวัง ที่เธอเลือกมาที่โลกสวรรค์แห่งนี้ ก็เพื่อที่จะมาตามหาเจียวหลิงเหอและพากลับไป แต่ใครจะคิดว่าคนจะไม่อยู่ที่นี่ ทันใดนั้นก็พลันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับหลงทางง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
เพราะมีอี้เทียนหยุนมาด้วย เธอถึงได้มาเร็วขนาดนี้ หากว่าให้เธอออกมาเองจริงๆ คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีหลังจากนี้ เพราะว่าเธอวางแผนว่าจะต้องเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 2 ที่ 3 ซะก่อนถึงจะออกตามหา เพราะพลังระดับนี้ ถือว่าเป็นระดับที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว
หากว่าหลังจากนี้หลายปีขึ้นมาตาม แล้วพบว่าคนไม่อยู่ที่นี่ นั่นก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างแท้จริง
“ท่านน้า ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก” อี้เทียนหยุนตบไหล่เธอ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “อาจเป็นเพราะมีการปกปิดชื่อจริงไว้ หรือไม่ก็มีปกปิดเรื่องนี้ หากเป็นตามทฤษฎีแล้วล่ะก็ เรื่องนี้จะต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน”
ความเป็นไปได้มีมากมาย แต่เขาเชื่อว่าพ่อแม่ของเขาจะต้องยังไม่ถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน ต่อให้แดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนจะโหดร้าย แต่คงไม่มีทางที่จะโหดร้ายถึงขั้นนี้หรอกจริงไหม?
บางทีอาจจะถูกจับขัง ไม่ก็ถูกคุมให้อยู่ในบางแห่ง จำต้องออกตามหาดูถึงจะดี
“อืม….” ชิเสวี่ยอวิ๋นพยักหน้า พร้อมกับฝืนยิ้มออกมา เธอเป็นห่วงเจียวหลิงเหออย่างมาก
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็มองไปข้างหน้า พร้อมกับสองตาที่เป็นประกาย ใช้ดวงตาประเมินทำการตรวจสอบที่นี่อย่างรวดเร็ว แม้ว่าภูเขาห้าลูกนี้จะใหญ่มาก แต่ดวงตาประเมินก็ไม่ใช่ของปลอมเช่นกัน มันสามารถตรวจสอบบริเวณได้อย่างเพียงพอ
หากเป็นคนอื่น คงจะถูกมหาค่ายกลของที่นี่ทำให้สัมผัสวิญญาณยากจะเล็ดรอดเข้าไป แต่ว่าสำหรับเขาแล้วถือเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างมาก หลังจากตรวจสอบดู เขาก็ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อย ไม่พบใครที่มีรูปร่างคล้ายกับเขาเลยสักคน
“ดูเหมือนว่าพวกเราคงต้องเข้าไปดูเองแล้ว…..”
ดวงตาประเมินของอี้เทียนหยุนสามารถปกคลุมเขาห้าลูกนี้ได้ แต่ก็แค่เฉพาะบริเวณกว้างๆ เท่านั้น เพราะพื้นที่ของเขาห้าลูกนี้กว้างมาก ไม่มีทางที่ดวงตาประเมินจะตรวจสอบทุกอย่างได้อย่างละเอียด ดังนั้นจึงมีเพียงแต่ต้องเข้าไปตรวจดูด้วยตัวเองถึงจะดี
“เข้าไป พวกเราเข้าไปได้เหรอ?”
ชิเสวี่ยอวิ๋นมองไปที่ยามหลายคนที่ตรงหน้า หากฝืนบุกเข้าไป คงถูกหาว่าเป็นผู้บุกรุกอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่เข้าไปได้เลย เกรงว่าคงจะถูกล้อมเอาไว้อย่างรวดเร็วมากกว่า
“ไม่มีปัญหา ตามข้ามา”
อี้เทียนหยุนพาเธอเดินไปใกล้ๆ เมื่อยามเห็นพวกเขาจากไป ก็ค่อยๆ ผ่อนคลายความระวังลง ไม่ได้จับตาจ้องไปที่พวกเขา และดูว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อ
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็นำเธอไปที่มุม ที่นี่เป็นมุมอับ ทำให้ยามมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
“มาที่นี่ทำอะไร?” ชิเสวี่ยอวิ๋นถามอย่างสงสัย
“ก็ต้องมาเพื่อลอบเข้าไปอยู่แล้ว ท่านน้า ปกปิดกลิ่นอายของท่านด้วย” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แม้ว่าชิเสวี่ยอวิ๋นจะสงสัย แต่เธอก็รับปาก จากนั้นคนทั้งคู่ก็หายไปจากจุดที่ยืนอยู่ ราวกับว่าไม่เคยมีคนอยู่ที่นี่มาก่อน
อึดใจต่อมา พวกเขาก็มาปรากฏตัวที่บริเวณป่าด้านใน ชิเสวี่ยอวิ๋นมีท่าทางตกใจ พร้อมกับมองไปรอบๆ อย่างระวัง เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือหนึ่งในเขาห้าลูกที่เห็นจากข้างนอกนั้น!
“นี่พวกเราเข้ามาแล้วเหรอ?” ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจ เธอสัมผัสไม่ได้ถึงร่องรอยของการเคลื่อนย้ายอะไรเลย
เธอเอาแต่ช่วยจัดการงานต่างๆ ในตำหนักให้กับอี้เทียนหยุน ไม่เคยร่วมกันสู้กับเขา ดังนั้นเธอจึงรู้หลายเรื่อง และก็มีหลายเรื่องที่ไม่รู้
“ใช่ พวกเราเข้ามาแล้ว ท่านปกปิดกลิ่นอายให้ดี พวกเราจะออกไปหาดูใกล้ๆ นี้”
อี้เทียนหยุนยิ้ม พร้อมกับจูงมือน้อยๆ ของเธอเดินตรงไปข้างหน้า ชิเสวี่ยอวิ๋นพยักหน้า และก็ไม่พูดอะไร เดินตามอี้เทียนหยุนที่จูงมือเธอไป
นี่เหมือนกับเข้ามาสืบที่ไหน เหมือนกับมาเดินเล่นมากกว่า แล้วก็ไม่ใช่แค่นั้น สภาพแวดล้อมรอบๆ นี้ก็ดีเป็นอย่างมาก มีดอกไม้และสมุนไพรบางอย่างที่แม้จะไม่ได้มีระดับสูงมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นดอกไม้และสมุนไพรที่แดนศักดิ์สิทธิ์ทั่วๆ ไปไม่สามารถมีได้
“เขาห้าลูกต่างก็เชื่อมถึงกัน พร้อมกับก่อตัวเป็นมหาค่ายกลป้องกันขึ้น หากว่าทำงานขึ้นมา คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนมองสำรวจไปตลอดทาง เขาห้าลูกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เป็นการสร้างขึ้นมา
สร้างขึ้นเป็นมหาค่ายกลที่ร้ายกาจ หากว่าเปิดใช้งานเมื่อไหร่ มันจะกลายเป็นสุดยอดอาวุธสังหารอย่างแน่นอน หากว่ามีใครเข้ามาใกล้ที่นี่ ต่อให้เป็นระดับราชาเซียน ก็เกรงว่าคงจะต้องถูกสยบโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้
พวกเขาพากันเดินเข้าไปโดยอาศัยการปกปิดกลิ่นอาย ขณะที่เดิน อี้เทียนหยุนก็ใช้ดวงตาประเมินทำการสำรวจไปรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือที่อยู่อาศัย ล้วนแต่ถูกเขาสำรวจทั้งในนอกจนหมด
เขาต้องการดูว่ามีเงื่อนงำอะไรบ้าง แต่ก็มีบางทีเหมือนกันที่เขาไม่ได้ทำการตรวจสอบ เพราะว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ หากว่าทำการตรวจสอบ เกรงว่าคงจะสร้างเป็นจุดสนใจให้ผู้เชี่ยวชาญพากันพุ่งเข้ามาอย่างแน่นอน
ดวงตาประเมินนั้นไม่ได้ไร้เทียมทาน โดยเฉพาะในด้านสำรวจ มันง่ายที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางคนรู้สึกตัว แม้ว่าเขาจะไม่กลัว แต่หากเกิดปัญหาขึ้น มันก็คงไม่ดีเหมือนกัน
อย่างรวดเร็ว พวกเราก็ตรวจสอบจนทั่ว ภายใต้ดวงตาประเมิน ทำให้เขาสามารถหลบรอดสายตาของผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ได้อย่างง่ายดาย
“ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่มากจริงๆ สมแล้วที่เป็นที่สืบทอดมรดกที่ทรงพลัง…..” อี้เทียนหยุนจับจ้องสำรวจไปตลอดทาง แม้ว่าเขาจะไม่เห็นร่องรอยของพ่อแม่ของตนแม้แต่เงา แต่เขาก็พอจะรู้สถานการณ์คร่าวๆ
พูดถึงจำนวนผู้เชี่ยวชาญแล้วล่ะก็ การบอกว่าที่นี่อันดับที่ 8 นั้นเกรงว่าจะผิด มันน่าจะมีอันดับที่สูงกว่านี้ อย่างน้อย จากที่ดูรวมๆ แล้ว ถือว่าแข็งแกร่งกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงมากทีเดียว
นอกจากว่าขุมอำนาจของโลกสวรรค์จะแข็งแกร่งเกินไป จึงทำให้ระดับของพวกเขาต่ำกว่าที่ควร หรือไม่ พวกเขาก็กำลังถ่อมตัวอยู่
ยิ่งกว่านั้น เขายังหาข่าวที่เป็นประโยชน์ไม่ได้แม้แต่น้อย อี้ซิงเฉินและเจียวหลิงเหอราวกับว่าไม่มีตัวตนอยู่ ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด
“หาคนมาถามดีกว่า”
อี้เทียนหยุนส่ายหัว มันคงไม่มีวิธีอะไรแล้วจริงๆ นอกจากหาคนมาถาม
“เจ้าจะถามใคร?” ชิเสวี่ยอวิ๋นพูดขึ้นอย่างสงสัย
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็พาเธอเดินไปด้านหน้า เมื่อออกมาจากป่า ทันใดนั้นก็พบกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 4 กำลังเดินมา พวกเขาเพิ่งจะปรากฏตัว ก็ถูกพบตัวทันที
ชิเสวี่ยอวิ๋นใจหล่นลงไปถึงตาตุ่ม พร้อมกับคิดขึ้นในใจว่า จบเห่แล้ว!
“พวกเจ้าเป็นใคร!” ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณผู้นั้นมีสีหน้าเย็นชา หากเป็นคนในสำนัก เขาต้องจำได้ แต่สองคนแปลกหน้านี้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างแน่นอน
“มานี่” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย จากนั้น ร่างของผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณก็แข็งค้างไป จากนั้น สายตาของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ราวกับเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์อย่างไงอย่างงั้น
“ครับ….” ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเดินเข้ามาในป่า ขณะที่ชิเสวี่ยอวิ๋นที่อยู่ใกล้ๆ มีสีหน้าตกใจ
นี่คือผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณเชียวนะ บอกให้มาก็มาอย่างนี้เลย? ชิเสวี่ยอวิ๋นยืนเงียบอยู่ข้างๆ เธอไม่ได้อยู่ข้างกายอี้เทียนหยุนนานมากแล้ว ดังนั้นจึงมีหลายเรื่องที่เกินจินตนาการของเธอไป
