ตอนที่ 708: วางท่าว่าตนนั้นเที่ยงธรรม
ไม่ใช่ว่าอี้เทียนหยุนนั้นอวดดี แต่เมื่อมีพลัง ก็ต้องไขว่คว้าศักดิ์ศรีให้ตัวเองและมิตรสหาย! แต่หากไร้ซึ่งพลัง ก็มีแต่ต้องตายด้วยคำว่าศักดิ์ศรีสองคำนี้
ผู้ฝึกตนให้ความสำคัญกับคำว่าศักดิ์ศรีสองคำนี้มาก หากแม้แต่ศักดิ์ศรีของตนก็ยังยอมแพ้ ชีวิตต่อไปในอนาคต ก็ต้องเผชิญกับจิตมารที่ยากจะก้าวข้าม เมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่เพิ่มระดับเลย ดีไม่ดีอาจลมปราณแตกซ่านก็เป็นได้
คนเรานั้นสามารถแพ้หรือยอมแพ้ได้ แต่ไม่สามารถลดศักดิ์ศรีของตนลงไปได้เด็ดขาด
“เทียนหยุน!” เจียวหลิงเหอจ้องไปที่เขา ส่งสายตาบอกให้เขาใจเย็น ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของพวกเธอ เธอจึงต้องอดทน แค่เพราะคำว่านางจิ้งจอกสามคำนี้ เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องขึ้นเด็ดขาด
อี้เทียนหยุนมองไปยังเจียวหลิงเหอคราหนึ่ง และก็ไม่พูดอะไร ในเมื่อแม่บอกว่าไม่ งั้นเขาจะยอมให้คำนี้สักครั้งก็ได้
“สมกับที่เป็นลูกชายของซิงเฉินจริงๆ อารมณ์ร้ายเหมือนกันไม่ผิด” ผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างเย็นชา “แต่นี่ก็มีแต่จะลากปัญหาเข้าสู่ตัวเท่านั้น แม่เจ้าไม่เคยสอนหรือไง?”
“แล้วเจ้ามายุ่งอะไรด้วย?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“เจ้า!” ผู้อาวุโสใหญ่เกือบระเบิดความโกรธออกมา ตัวเขาเป็นถึงผู้อาวุโสใหญ่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่เกียรติตนเอง แล้วจะให้เขาไม่เดือดดาลได้ยังไง
“พอได้แล้ว!” อี้หยวนหลงพูดอย่างเย็นชา “เอาล่ะ บอกสถานการณ์ของเจ้ามา หลิงเหอ? เจ้าซ่อนตัวมาหลายปี ทำไมอยู่ๆ ถึงได้โผล่มากัน?”
อี้หยวนหลงไม่คิดว่าเธอจะแค่พาหลานชายมาแนะนำตัวให้รู้จัก มันจะต้องมีเรื่องบางอย่างอย่างแน่นอน เพราะว่าลูกชายของเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย
“เรื่องนี้ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนแรก ข้ามาที่นี่เพื่อถามหาความยุติธรรม!”
เจียวหลิงเหอโบกมือออกไป จากนั้นโลงศพผลึกวารีก็ได้ปรากฏต่อสายตาของทุกคน ทำให้สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่มันในทันที และเมื่อดูอย่างชัดเจนแล้ว ก็พบว่าในนั้นมีอี้ซิงเฉินนอนอยู่ ทำเอาคนส่วนใหญ่พากันตกใจ
“ลูกข้า!” อี้หยวนหลงกระโจนเข้าไป และเมื่ออยู่ไม่ไกลจากโลงศพผลึกวารี เขาก็สัมผัสได้ถึงลมหายใจที่อ่อนแรงอย่างมากของบุตรชาย และโดยเฉพาะเลือดฉีที่แทบจะหายไปจนหมด
ในตอนนี้ ผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามต่างก็พากันมองหน้ากัน พร้อมกับเผยสีหน้าที่ดีใจขึ้นมาหลายส่วน แต่ก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้น ทำให้ไม่มีใครรู้ คนอื่นๆ ต่างก็พากันตกใจ จากอัจฉริยะในตอนนี้ ตอนนี้กลับมาอยู่ในสภาพนี้แล้ว นี่ช่างน่าตกใจจริงๆ
คนอื่นๆ พากันล้อมเข้ามาในทันที พร้อมกับมองไปที่ร่างนี้ด้วยท่าทางทอดถอนใจ
“แท้จริงแล้วเรื่องเป็นยังไงกันแน่ ทำไมถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้?” ในสายตาของอี้หยวนหลงเต็มไปด้วยความโกรธ หวังที่จะฉีกร่างของคนที่ทำให้ลูกชายของตนเป็นอย่างนี้ออกเป็นชิ้นๆ!
จากนั้น เจียวหลิงเหอก็เล่าเหตุการณ์คร่าวๆ ออกไป เมื่ออี้หยวนหลงได้ยินก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปหลายส่วน
“จากสถานการณ์ของพวกเรา ใครจะไปกล้าลงมือ? ข้าสงสัยว่านี่ต้องเป็นแผนการของคนในแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนนี้!” เจียวหลิงเหอบอกการคาดการณ์ของตนออกมาอย่างใจกล้า
“แผนการของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนอย่างงั้นเหรอ ทำไมพวกเราถึงต้องทำอย่างนั้นด้วย? พวกเราจะได้อะไรจากสังหารพวกเจ้า? ยิ่งกว่านั้น อี้ซิงเฉินยังเป็นอัจฉริยะของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนเรา ในอนาคตจะต้องสามารถขึ้นสู่ระดับราชาเซียนได้อย่างแน่นอน แล้วทำไมพวกเราถึงต้องส่งคนไปสังหารเขาด้วย?” ผู้อาวุโสใหญ่แค่นเสียงอย่างไม่พอใจ พร้อมกับพูดอย่างดูถูกออกมา “เกรงว่าเจ้าคงไปหาเรื่องใครมากกว่า จึงได้ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ทำให้ซิงเฉินต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้!”
“ใช่ ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ใช่แค่นางจิ้งจอกเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวหายนะด้วย!” ผู้อาวุโสสามแค่นเสียงออกมา แล้วพูดต่อว่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ป่านนี้แดนศักดิ์สิทธ์เฟิงเทียนของพวกเราคงมีราชาเซียนเพิ่มอีกคนแล้ว ไม่ใช่มานอนอยู่ในโลงศพผลึกวารีแบบตอนนี้!”
“ยิ่งกว่านั้น การกล่าวหานี้ยังเป็นเรื่องไม่แน่นอนด้วย เจ้ามีหลักฐานอะไรหรือเปล่า?”
ผู้คนพากันพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของพวกเขา โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ทั้งนี่ยังเป็นการพูดใส่ความโดยไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย นี่มันเป็นการกล่าวหากันมั่วๆ ชัดๆ
คำพูดของผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามนั้นสมเหตุสมผล อี้ซิงเฉินเป็นความหวังในอนาคตของพวกเขา แล้วพวกเขาจะทำอย่างนั้นกับคนที่สามารถขึ้นเป็นราชาเซียนได้ยงไง? นี่เป็นเรื่องที่เสียเปล่าอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้
แม้ว่าอี้ซิงเฉินจะทำความผิดมหันต์ แต่ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะกักขังเขาไว้ตลอดชีวิต ไม่ว่ายังไงก็ต้องปล่อยเขาออกมา เพราะถึงยังไงอี้ซิงเฉินก็เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง เป็นกระดูกสันหลังในอนาคต แล้วพวกเขาจะไปสังหารอีกฝ่ายได้ยังไง?
นี่เป็นความคิดของคนส่วนใหญ่ พร้อมกับรอดูหายนะของเจียวหลิงเหอ
“พอได้แล้ว!” อี้หยวนหลงตวาดเสียงต่ำ “เวลานี้ยังจะมาพูดเรื่องนี้ทำอะไรอีก? ช่วยชีวิตคนสิถึงจะสำคัญที่สุด!”
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ลูกชายของตนก็นอนอยู่ในนั้น แถมยังดูท่าทางจะไม่ไหวแล้วด้วย ไม่ว่าจะแบบไหน เรื่องช่วยชีวิตก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
“ในร่างเขามีพิษกระหายเลือดที่รุนแรงมาก อีกทั้งยังเป็นพิษกระหายเลือดประเภทที่ทำให้หายไปถาวรด้วย ใครมันที่จิตใจอำมหิตขนาดนี้!” อี้หยวนหลงพูดด้วยความโกรธถึงขีดสุด
“ตอนนี้ในมือของข้ามีหญ้าดื่มโลหิตอยู่ แต่ยังขาดวัตถุดิบสำคัญอีกสองชนิด นั่นก็คือแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์ และก็หญ้าเทพเทียนเซียง” เจียวหลิงเหอพูดอยู่ด้านข้าง “นี่เป็นวิธีถอนพิษที่ข้าใช้เวลาหามาหลายปี อีกทั้งกว่าจะได้หญ้าดื่มโลหิตนี้มาก็ยากเหนือจะกล่าว ส่วนสมุนไพรอีกสองชนิดนั้น ข้าไม่มีหนทางจริงๆ…..”
“ไม่แปลกที่เจ้าจะมาพบพวกเราด้วยตัวเอง ที่แท้ก็เพราะมีเรื่องจะขอร้องพวกเรานี่เอง ปัญหาที่ตัวเองสร้าง แต่ตอนนี้อยากจะให้พวกเราช่วย? ก่อนหน้านี้ที่หนีไป ทำไมไม่คิดถึงวันนี้บ้าง?” ปากของผู้อาวุโสสามค่อนข้างชั่วร้าย พูดดูถูกอยู่ไม่ไกล
“เอาจริงๆ นะ ของสองสิ่งนี้ข้าสามารถหาเองได้ ข้าว่าพวกเจ้าคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ ที่พวกเรามาวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อยอมแพ้ แต่มาเพื่อให้พวกเจ้าชดใช้ให้กับพวกเราต่างหาก!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างเย็นชา “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นฝีมือของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน เพราะนอกจากแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นที่จะทำเรื่องอย่างนี้!”
“คนที่อยู่ถัดจากเจ้าเป็นลูกชายเจ้าใช่ไหม ข้าดูแล้ว สายเลือดก็ธรรมดา ระดับยิ่งธรรมดา โดยรวมแล้วถือว่าธรรมดาสามัญอย่างมาก เพื่ออำนาจและตำแหน่งประมุขคนถัดไป หรือเพื่อให้มีอำนาจเพิ่มมากขึ้น เจ้าก็เลยคิดจะสังหารพ่อของข้า เรื่องนี้เจ้าจะยอมรับหรือไม่!”
อี้เทียนหยุนพูดออกไปตรงๆ ทั้งยังตรงกว่าที่เจียวหลิงเหอพูดด้วย คำพูดนี้เป็นเรื่องอื้อฉาวที่ไม่มีใครกล้าพูด แต่คนในล้วนแต่รู้ดี
มาตอนนี้เมื่อเขาพูดออกมา ก็เหมือนกับการเอาความในใจที่น่าอายของพวกเขามาตีแผ่ต่อหน้าทุกคน
“เหลวไหล!” ผู้อาวุโสใหญ่พูดอย่างเย็นชา “พวกเราจะเห็นแก่ตัวจนทำลายอนาคตของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนได้เชียวเหรอ? อี้ซิงเฉินเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งยังมีโอกาสเป็นราชาเซียนในอนาคต แล้วพวกเราจะเห็นแก่ตัวยอมทำลายราชาเซียนผู้หนึ่งได้ยังไง? เจ้ามันก็แค่คนนอก อย่าได้มาสงสัยความซื่อสัตย์ของพวกเรา!”
ผู้อาวุโสใหญ่พูดด้วยท่วงท่าที่เที่ยงธรรม มีท่าทางเหมือนกับสามารถอุทิศทุกอย่างให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนได้
“ใช่ ที่ลูกชายของพวกเราสามัญนั้นก็ถูก แต่ยังไงก็ดีกว่าเจ้า! สายเลือดขยะที่ได้มาจากนางจิ้งจอกคนหนึ่ง มันจะไปดีได้ยังไง? เรื่องนี้ได้รับการตรวจสอบมานานแล้ว สายเลือดของเจ้ามันเป็นขยะ จนเกือบจะเหมือนกับเผ่ามนุษย์ธรรมดาที่ด้านนอก!” ผู้อาวุโสสามพูดอย่างดูถูก “แล้วยังมีหน้ามาบอกข้า ว่าสามารถหาแก่นโลหิตราชวงศ์ฟีนิกซ์ และหญ้าเทพเทียนเซียงได้ ช่างน่าขัน!”
คนหนึ่งทำตัวเป็นกระบอกเสียง ขณะที่อีกคนหาเหตุผลขึ้นมาอ้าง จะไปเหมือนกับคนที่วางแผนสังหารคนในเผ่าได้ยังไง พวกเขาพากันมองมายังอี้เทียนหยุนอย่างดูถูก พร้อมกับพูดด้วยท่าทางใหญ่โต ทำให้เรื่องนี้ยากที่จะจบ