ตอนที่ 715: วิญญาณร้ายกลืนกิน
ที่อี้เทียนหยุนมีอุปกรณ์ระดับเทวะถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก แต่ว่าผู้อาวุโสสามก็มีอุปกรณ์ระดับเทวะเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้ความต่างระหว่างทั้งสองถ่างขึ้นไปอีกในพริบตา
มีคนคิดว่าอี้เทียนหยุนนั้นปัญญาอ่อน มีชุดระดับเทวะอยู่แต่กลับไม่ใส่ กลับเลือกที่จะใช้เพียงกระบี่ระดับเทวะเพียงเท่านั้น นี่มันช่างโง่จริงๆ แต่แรกระหว่างทั้งสองก็มีความต่างมากอยู่แล้ว อีกฝ่ายเป็นถึงระดับผู้อาวุโส แต่กลับไม่ใส่ชุดระดับเทวะ นี่จึงทำให้โอกาสที่จะชนะหดลดลงไปอีก
“เจ้าหนูนี่คงจะคิดว่าผู้อาวุโสสามไม่มีอุปกรณ์ระดับเทวะ ดังนั้นจึงว่าตนที่มีอุปกรณ์ระดับเทวะอยู่จะร้ายกาจมากงั้นสินะ?”
“อาจเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นมันคงจะไม่มั่นหน้าตัวเองอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูขนาดนั้น แต่ปากก็กล่าวออกไปแล้วว่าจะไม่ยอมกลับคำ หากว่าเปลี่ยนเป็นใส่ชุดระดับเทวะขึ้นมา แล้วมันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
“หากเป็นข้า ข้าจะต้องกลับคำอย่างแน่นอน หน้าตาทำให้มีข้าวกินหรือไง สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรที่สำคัญที่สุด! โดยเฉพาะเมื่อแพ้ขึ้นมา ไม่เพียงแต่จะเสียอุปกรณ์เซ็ตนี้เท่านั้น แม้แต่ชีวิตก็จะไม่มีด้วย”
ผู้คนพากันถกเถียงกัน คิดว่าอี้เทียนหยุนนั้นไม่มีสมอง ดูท่าคงจะสืบทอดสายเลือดของอี้ซิงเฉินมาเต็มๆ ไม่อย่างนั้นทำไมถึงได้ใจร้อนขนาดนี้?
อี้หยวนหลงที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่ครึ่งคำ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ผู้อาวุโสสาม ราวกับว่าได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นในใจแล้ว หากว่าอี้เทียนหยุนตกอยู่ในอันตรายเมื่อไหร่ เขาก็พร้อมที่จะทุ่มทุกอย่างเพื่อเข้าไปช่วยเขา! ไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปก็ต้องช่วยเอาไว้ให้ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว อีกฝ่ายก็คือหลานชายของตน!
“พูดไร้สาระพอแล้วหรือยัง? ลงมือสักทีเถอะ ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า หากยังไม่ยอมลงมืออีก ข้าจะเป็นฝ่ายลงมือเอง เมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้าแล้วกัน” อี้เทียนหยุนบอกให้เขารีบลงมือ เขายืนถือกระบี่เทพเอ้อหลิงนิ่ง เหมือนกับไม่ได้คิดจะลงมือ กระทั่งพูดได้ว่าไม่สนใจผู้อาวุโสสามผู้นี้เลยด้วยซ้ำ
“ไม่รู้ว่าอี้ซิงเฉินทำให้เจ้าเกิดมาได้ยังไง ถึงได้มีท่าทางอวดดีอย่างถึงที่สุดเช่นนี้ ไม่รู้จักถ่อมตัวเลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็จะขอเป็นตัวแทนอี้ซิงเฉิน ทำการสั่งสอนเจ้า ให้รู้ว่าอะไรที่เรียกกันว่าถ่อมตัว รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าผู้เยาว์รุ่นหลัง!”
ผู้อาวุโสสามก็ไม่ออมมืออย่างที่พูดจริงๆ เขาทำการพุ่งเข้ามาพร้อมกับไม้เท้า ขณะเดียวกันก็ระเบิดพลังระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 ออกมา กลายเป็นเหมือนกับภาพเงาที่เลือนราง แม้จะไม่ใช่การระเบิดพลังออกเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็มีพลังมากถึง 80% การกระทำหลายเรื่องของอี้เทียนหยุนก่อนหน้านี้ทำให้เขาโมโหมากจริงๆ มากจนอยากที่จะทรมานอีกฝ่ายให้รู้สึกเหมือนกับตายทั้งเป็น!
พริบตา ผู้อาวุโสสามก็ได้โผล่มาถึงด้านหน้าของอี้เทียนหยุน พร้อมกับจัดการฟาดไม้เท้ายาวในมือของตนลงมาอย่างแรง ทำให้พลังอันน่าสะพรึงก่อร่างเป็นเหมือนกับร่างเงาต่างๆ ขึ้นที่ด้านหลัง และเมื่อดูดีๆ แล้ว ก็พบว่าร่างเงาที่ปรากฏขึ้นมา ก็เป็นดั่งกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่มีใครระบุได้ว่าวิญญาณเที่ยงแท้ของมันเป็นรูปอะไร บ้างก็เหมือนตัวคน บ้างก็เหมือนอาวุธ บ้างก็เหมือนสัตว์อสูร
ผู้อาวุโสสามที่รวมเข้าด้วยกันกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นดั่งสายฟ้า ไม้เท้าระดับเทวะในมือก็ปกคลุมไปด้วยสายฟ้าอย่างรวดเร็ว เหมือนกับกำลังกำสายฟ้าเอาไว้ในมือแน่น พร้อมกับทำการแทงเข้าใส่อี้เทียนหยุนอย่างแรง
หลังจากถูกพลังนี้ของเขาเข้าไป อีกฝ่ายย่อมต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ไม้เท้าสายฟ้าทะยาน!”
ในสายตาของผู้อาวุโสสามมีสายฟ้าวาบผ่าน มีสายฟ้าแล่นผ่านตั้งแต่บนลงล่าง ราวกับเทพสายฟ้ามาจุติก็ไม่ปาน
และในขณะที่กำลังจะถึงตัวอี้เทียนหยุนอยู่นั้น อี้หยวนหลงที่อยู่ใกล้ๆ ก็พลันเคลื่อนไหว ความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับผู้อาวุโสสามแล้วถือว่าเร็วกว่าหนึ่งขั้น แต่เห็นได้ชัดว่าเข้าไปขวางไม่ทัน จึงทำได้เพียงตะโกนเสียงดังออกมาว่า “หยุดให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
เขาไม่คิดว่าเริ่มมาผู้อาวุโสสามก็จะไร้ปรานีถึงขนาดนี้ เพิ่งจะกระบวนท่าแรก ก็ใช้ท่าไม้ตายออกมา ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกัน หากถูกไม้เท้านี้ฟาดเข้าไป หากไม่ตายก็สาหัส
“ไสหัวไป!”
อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา พร้อมกับทำการตวัดกระบี่เทพเอ้อหลิงออกไปอย่างห้าวหาญ พริบตา วิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนก็พากันกรีดร้องกรูออกมาจากกระบี่เทพเอ้อหลิง พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสสาม
“พวกวิญญาณร้ายโสมม แหลกไปซะ!”
สายฟ้าของผู้อาวุโสสามแล่นแปลบปลาบ ปล่อยเป็นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมา แต่ใครจะรู้ว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เพิ่งจะวิ่งออกมา ก็พลันถูกวิญญาณร้ายพวกนี้พุ่งเข้าใส่ พร้อมกับทำการกลืนกินเข้าไปในทันที
จากนั้นเหล่าวิญญาณร้ายก็พากันกรีดร้องพร้อมกับกรูเข้าใส่ร่างของเขาต่อในทันที โอบล้อมคนเอาไว้ข้างในจนมิด
ผู้อาวุโสสามตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยวิญญาณร้ายนับไม่ถ้วน ทำให้เขาไม่สามารถมองอะไรได้ชัดเจน ที่สำคัญคือวิญญาณร้ายพวกนี้ได้พากันทะลวงเข้าไปในสมองของเขา หรือแม้กระทั่วดวงวิญญาณ พร้อมกับเริ่มทำการกัดกินอย่างบ้าคลั่ง แม้เขาอยากจะขัดขวางสักเพียงใดก็ไร้ประโยชน์ ทันใดนั้น ตัวเขาก็ถูกวิญญาณร้ายน้ำไม่ถ้วนเข้ากัดกิน
“อ๊ากกกก……”
ความเจ็บปวดจนถึงวิญญาณทำให้ผู้อาวุโสสามจำต้องละการโจมตีของเขา พร้อมกับทรุดลงกับพื้นในทันที ก่อนที่จะเอามือกุมหัวพร้อมกับกรีดร้องออกมาไม่หยุด สีหน้าของเขาเริ่มดำคล้ำ ขณะที่เลือดเริ่มไหลออกมาจากทวารทั้งเจ็ด ดูแล้วน่าสยองขวัญมาก
กระบวนท่าไม้ตายของผู้อาวุโสสามกลับไม่สามารถต้านได้แม้แต่กระบี่เดียว! วิญญาณร้ายนี้น่าสะพรึงมาก หากให้พูดแล้วล่ะก็ มันสามารถทำลายพลังของผู้อาวุโสสามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถลบล้างสิ่งชั่วร้ายทั้งปวด
ใครจะคิดว่าสุดท้ายแล้วจะถูกกลืนกินเข้าไปตรงๆ ทำให้สูญเสียพลังต่อสู้ไปทันที
“เจ้าค่อยๆ สัมผัสกับการกลืนกินของวิญญาณร้ายพวกนี้ไปแล้วกัน ให้วิญญาณที่น่ารังเกียจของเจ้าเป็นอาหารให้พวกมันได้กัดกินทีละน้อย” อี้เทียนหยุนมองไปยังสีหน้าที่ตื่นตระหนกของผู้อาวุโสใหญ่ พร้อมกับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เอาล่ะ คราวนี้ถึงตาเจ้าแล้ว ลงมือเถอะ”
ผู้อาวุโสสามกลายเป็นใช้งานไม่ได้ไปแล้ว ตราบเท่าที่ตาไม่บอด ก็จะเห็นว่าอีกฝ่ายถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป วิญญาณของเขาจะต้องถูกวิญญาณร้ายกัดกินจนหมดอย่างแน่นอน
ผู้คนพากันสูดหายใจเฮือก พวกเขาไม่คิดว่าพลังของอี้เทียนหยุนจะน่าสะพรึงถึงขนาดนี้ เพียงกระบวนท่าเดียวก็จัดการจนผู้อาวุโสสามสู้ต่อไม่ได้แล้ว? นี่เป็นเอฟเฟ็กของอุปกรณ์ระดับเทวะที่เป็นผิดปกติเกินไปแล้ว?
แต่ต่างฝ่ายต่างก็ใช้อุปกรณ์ระดับเทวะเหมือนกัน ทำไมความต่างถึงยังได้ใหญ่มากขนาดนี้ล่ะ? นี่มีความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น นั่นก็คือว่าระดับของอี้เทียนหยุนจะต้องแข็งแกร่งมาก!
อี้หยวนหลงที่จะพุ่งเข้าไปก็ตกใจเช่นกัน เขาคิดว่าจะเข้าไปช่วยหลานชาย แต่ใครจะคิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเลยสักนิด เพียงแค่การโจมตีเดียวของอี้เทียนหยุน ก็สามารถจัดการกับผู้อาวุโสสามได้แล้ว อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่าได้ออมมือเอาไว้อีกด้วย ไม่อย่างนั้น กระบี่นี้คงจะตัดร่างผู้อาวุโสสามออกเป็นสองส่วนแล้ว
“ท่านปู่ ข้าบอกแล้วว่าให้เชื่อข้า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“ดี ดี ดี!” อี้หยวนหลงพยักหน้าหนักๆ ขณะที่ในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น นี่คือหลานชายของเขา หลานชายผู้ทรงพลัง!
ใครบอกว่าแต่งกับคนนอกแล้วพลังจะตกลง? หลานชายของตนเพิ่งจะมีอายุเท่าไหร่เอง แต่กลับสามารถจัดการผู้อาวุโสสามได้อย่างง่ายดาย แค่นี้ก็เป็นหลักฐานชั้นดีแล้ว!
“ท่านพี่ ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเป็นห่วง?” ชิเสวี่ยอวิ๋นเผยรอยยิ้มออกมา ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่ออี้เทียนหยุน
“เพียงกระบวนท่าเดียวก็จัดการได้แล้ว….. ผู้อาวุโสสามผู้นี้หากเทียบกับสี่ขุนโจรนั่นยังแข็งแกร่งกว่ามาก” เจียวหลิงเหอที่กังวลอยู่ใกล้ๆ ก็พบว่าตนกังวลเกินเหตุไปเอง
ยังไงก็ตาม พวกเธอก็ยังไม่ได้วางใจ เพราะศัตรูที่แท้จริงก็คือผู้อาวุโสใหญ่! พลังของผู้อาวุโสใหญ่ร้ายกาจมาก เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสสามแล้วแข็งแกร่งกว่าหลายเท่า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถนั่งในตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่นี้ได้หรอก
สัวไค่เฟิงก็ตาเป็นประกาย สถานการณ์ของผู้อาวุโสสามนี้ เขาไม่ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยหรือรักษาอีกฝ่าย ทำเพียงยืนดูอยู่ใกล้ๆ อย่างไม่ใส่ใจ
เพราะตอนนี้เขาเป็นเพียงพยานคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถลงมือได้ นอกจากพวกเขาจะยอมไว้ชีวิตอีกฝ่ายเอง ถึงยังไงนี่ก็เป็นการประลองเป็นตาย ไม่การยอมแพ้ใดใดทั้งสิ้น
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้อาวุโสของพวกเขา แต่เรื่องทั้งหมดนี้ก็เป็นหายนะที่พวกเขาก่อขึ้นเอง ทำเรื่องโหดเหี้ยมกับคนในเผ่า เก็บไว้จะได้ประโยชน์อะไร?
ยังไงก็ตาม ในใจของเขาก็รู้สึกเสียดายอยู่บ้าง หากต้องสูญเสียผู้อาวุโสทั้งสองไป ก็จะเป็นการสูญเสียที่หนักมาก แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีทางเลือก ตอนนี้คงต้องมาดูกันว่า อี้เทียนหยุนจะจัดการผู้อาวุโสใหญ่ได้หรือเปล่า
“ดีมาก ไม่แปลกที่เจ้าจะมั่นใจขนาดนี้ เป็นเพราะระดับของเจ้าได้มาถึงระดับนี้นี่เอง ทำให้ข้าเข้าใจเจ้าผิด” ผู้อาวุโสใหญ่ก้าวออกมา พร้อมกับพูดอย่างดูถูก “ข้าจะให้เจ้ารู้ว่าพลังของเจ้าเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าสายเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์ มันจะไร้ประโยชน์ขนาดไหน!”