Crazy Leveling System ตอนที่ 716: พลังดารา

ตอนที่ 716: พลังดารา

เมื่อผู้อาวุโสใหญ่เห็นพลังที่แข็งแกร่งของอี้เทียนหยุน ก็ไม่ได้คิดว่าจะท้าทายสวรรค์อะไร คิดแค่ว่าก็พอใช้ได้เท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นท้าทายสวรรค์ ถึงยังไงพลังระดับนี้เขาก็อยู่ในระดับที่เขาสามารถควบคุมได้ ไม่ได้เหนือไปกว่าที่เขาคาดสักเท่าไหร่

จากนั้น เขาก็ทำการเรียกขวานยักษ์ออกมา บนนั้นนอกจากจะอัดแน่นไปด้วยอักขระแล้ว แต่ยังมีความโค้งมนที่สมบูรณ์แบบมากอีกด้วย กลมราวกับเป็นจันทร์เต็มดวง พร้อมยังมีแสงดาราสลักไว้ข้างบน เหมือนกับมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอยู่บนขวาน

ผู้คนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังดาราที่ไร้สิ้นสุดจากข้างใน รู้สึกเหมือนกับตนร่างหดเล็กลง

“ขวานเทพดารา ในที่สุดผู้อาวุโสใหญ่ก็เอามันออกมา นานแล้วที่ไม่เห็นผู้อาวุโสใหญ่ใช้มัน แต่ละครั้งที่ปรากฏ ศัตรูทุกคนล้วนแต่ตายภายใต้คมขวานของมัน!”

“ใช่ ข้าเคยเห็นผู้อาวุโสใหญ่ใช้มันมาก่อน ภายใต้ขวานนี้ สามารถแยกภูเขาออกเป็นสอง ถึงขนาดว่าทำให้เกิดรอยแยกยาวเป็นกิโล แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว”

“แม้พลังของเจ้าเด็กนี่จะแข็งแกร่งมาก แต่ยังห่างจากผู้อาวุโสใหญ่เยอะ อีกทั้งอุปกรณ์ก็ยังด้อยกว่า อย่าได้พูดถึงเรื่องพลังเลย หากว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนของพวกเราขาดพวกเขา แล้วพวกเราจะเอาพลังที่ไหนไปต่อต้านศัตรูจากภายนอกกัน?”

เหล่าศิษย์ต่างก็จับจ้องสายตาไปยังขวานเทพดาราของผู้อาวุโสใหญ่ จากนั้นก็มองไปยังกระบี่ยาวในมืออี้เทียนหยุนอีกครั้ง ทั้งสองต่างก็ถือว่าอยู่กันคนละระดับโดยสมบูรณ์ แม้ว่าจะเป็นอาวุธเหมือนกัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าขวานเทพดารามีพลังมากกว่า

อี้เทียนหยุนก็มองไปเช่นกัน หลังจากที่ตรวจสอบแล้ว ขวานเทพดาราก็ร้ายกาจกว่าจริงๆ แม้ว่าทั้งสองจะมีระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระดับเทวะขั้นต่ำ แต่จากปัจจัยหลายๆ อย่าง พลังของขวานเทพดาราก็เหนือกว่ากระบี่เทพเอ้อหลิง

ยังไงก็ตาม นี่นับเพียงพลังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากรวมชุดเซ็ตเข้าไปด้วยล่ะก็ มันก็สามารถบดขยี้ได้ทุกสิ่ง

“พลังสายเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างสงสัย “งั้นก็ช่วยแสดงให้ข้าเห็นหน่อยแล้วกัน ให้ข้าดูหน่อยสิว่า สายเลือดราชาศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าบูชาจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน!”

แดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนค่อนข้างจมปลักอยู่กับสายเลือด ทั้งหมดนี่ก็ไม่ใช่อะไร เพียงแค่ต้องการให้มีทายาทที่สืบทอดสายเลือดมรดกเกิดขึ้นมา ยังไงก็ตาม ภายใต้การสืบทายาทผ่านสายเลือดเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้สายเลือดเจือจางลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาต้องแต่งคนอื่นเข้ามาในตระกูล แต่ไม่สามารถปล่อยให้แต่งกับคนนอกโลกได้

นอกจากว่าสายเลือดจะบริสุทธิ์อย่างมาก ไม่อย่างนั้น พวกเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งกันเองภายในตระกูล

“หลานเอ๊ย อย่าได้ปล่อยให้เขาปลดปล่อยพลังสายเลือดเด็ดขาด รีบจัดการเขาเร็วเข้า!” อี้หยวนหลงที่อยู่ใกล้ๆ รีบเตือน

“ท่านปู่วางใจเถอะ ตราบเท่าที่ไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนมาเอง ต่อให้เป็นสายเลือดอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าข้าก็ทำอะไรไม่ได้หรอก” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ตอนนี้ค่าก็แค่อยากจะเห็น ว่าสายเลือดที่พวกท่านหวงแหนนักหนานั้นแข็งแกร่งแค่ไหน!”

อวดดี อวดดีอย่างถึงที่สุด!

ในใจของผู้คนพากันผุดคำตัดสินนี้ขึ้นมา พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนนั้นช่างอวดดีเกินไปจริงๆ อวดดีเกินไปแล้ว คิดว่าตัวเองนั้นไร้เทียมทานหรือไง เพียงแค่จัดการผู้อาวุโสสามได้ ก็คิดว่าตนนั้นจะสามารถดูถูกทุกคนในใต้หล้าได้อย่างงั้นเหรอ

“เจ้าเด็กนี่อวดดีเกินไปแล้ว คิดว่าจัดการผู้อาวุโสสามได้ ก็จะสามารถจัดการกับผู้อาวุโสใหญ่ได้ง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ?”

“ฮ่าๆๆ ข้ากล้าพูดเลยว่า อีกเดี๋ยวเจ้าหนูนี่จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน กล้าดียังไงถึงได้มาดูถูกสายเลือดของพวกเรา!”

“พวกเด็กหนุ่มก็อย่างนี้ ใจร้อนโดยไม่รู้จักใช้หัวคิด เพิกเฉยต่อพลังสายเลือด แต่ที่พวกเรามีนั้น คือสายเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน!”

พวกเขายังคงวางสถานะเป็นกลางอยู่ ถึงยังไงการกระทำของพวกผู้อาวุโสใหญ่ก็น่ารังเกียจอย่างแท้จริง แต่ในตอนนี้พวกเขาต่างก็พากันเอาใจช่วยผู้อาวุโสใหญ่ เพราะการที่อี้เทียนหยุนดูถูกสายเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกเขาโกรธได้ยังไง?

„Boy, has to say your a little skill, but if gives some time again you, but also is unable to cope with you. Now, this world is also not you!”

“

ในที่สุดผู้อาวุโสใหญ่รวมพลังแล้วเสร็จ พร้อมกับเงื้อแขนเพื่อจะฟาดลงไป “เปรี้ยง” ขวานเทพดาราเปล่งแสงขึ้น และในทุกครั้งที่เปล่งแสง พลังก็จะเพิ่มมากขึ้น หลังจากเปล่งแสงถึงเจ็ดครั้ง ขวานเทพดาราก็เจิดจ้าถึงขีดสุด ราวกับว่าที่จับอยู่ในมือของเขาไม่ใช่ขวาน แต่เป็นดวงดาราที่เจิดจ้า!

ตามมาด้วยพลังที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว พวยพุ่งออกมาจากในร่างของเขา ก่อนที่จะปรากฏท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่ด้านหลังของเขา

“พลังดารา!”

ผู้อาวุโสใหญ่ระเบิดพลังออกมาในทันที ทำให้พลังดาราที่อยู่บนท้องฟ้าปกคลุมลงมาอย่างรวดเร็ว เพิ่มพลังให้กับเขาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมๆ กับสายเลือดในร่างของเขาที่กำลังเดือดพล่าน ด้วยพลังของสายเลือด ทำให้เขาสามารถดึงพลังจากจักรวาลที่ไร้สิ้นสุดมาใช้ได้!

ไม่เพียงแต่นี่จะเป็นพลังสายเลือดราชาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ผู้ฝึกตนวิญญาณที่น่าสนใจอีกด้วย และที่น่าสนใจขึ้นไปอีกก็คือความสามารถที่สามารถติดต่อกับดวงดาราได้ เมื่อรับพลังดาราเข้ามาด้านใน ก็จะทำให้พลังของตนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

แม้สายเลือดวิญญาณร้ายจะสามารถเพิ่มพลังให้กับตนได้ขั้นใหญ่ แต่ก็เป็นการระเบิดจากภายใน ส่วนผู้อาวุโสใหญ่ใช้ประโยชน์จากพลังของสวรรค์และปฐพี นั่นก็คือพลังดารา หยิบยืมพลังจากดวงดารามาใช้!

ชื่อราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน(ฟ้าประทาน)นี้ ไม่ใช่ชื่อที่จะเรียกกันเล่นๆ แต่สามารถใช้พลังจากท้องฟ้าได้จริงๆ ตราบเท่าที่มีสายเลือดของราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่ ภายใต้ผืนฟ้าแห่งนี้ ก็สามารถหยิบยืมพลังจากดวงดารามาใช้ได้ นี่ก็คือศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน!

พลังดาราในสามโลกนี้ล้วนแต่เป็นของสามัญ ต่อให้จะไม่อยู่ในโลกสวรรค์ พลังของมันก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี

ภายใต้พลังดาราที่รับเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พลังรบของผู้อาวุโสใหญ่เพิ่มขึ้นราวกับพายุ พริบตาก็มีพลังมากกว่า 4-5 พันล้าน และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งดุจเดิม พลังนี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นเหนือไปกว่าพลังสุดยอดของระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด กระทั่งอาจเทียบได้กับระดับราชาเซียนขั้นที่ 2 ที่ 3 เลยด้วยซ้ำ

ไม่คิดเลยว่าด้วยพลังดารานี้ จะสามารถทำให้พลังของเขาระเบิดออกมาได้มากมายมหาศาล ซึ่งเหนือกว่าพลังทั้งหมดที่เขาเคยเจอมา

“น่าสนใจ ไม่แปลกที่จะพากันหวงแหนนัก นี่ก็คือพลังดารางั้นสินะ สมแล้วที่เป็นพลังของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ถึงกับสามารถควบคุมพลังของทั่วทั้งโลกได้…..” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา แต่ก็ไม่ได้คิดจะยอมรับ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพลังนี้แข็งแกร่งมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นได้แค่พลังทั่วๆ ไป ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้ดูถูกพลังนี้ หากว่าสายเลือดและระดับรวมเข้ากับพลังที่แข็งแกร่งของพลังดารา การจะต่อสู้ข้ามระดับถึง 4-5 ขั้นก็ไม่ใช่ปัญหา!

“จบแล้ว….” อี้หยวนหลงสีหน้าจมลง ผู้อาวุโสใหญ่ปลดปล่อยพลังออกมาถึงขีดสุดแล้ว ต่อให้เขาเข้าไปขวางก็ไม่มีทางขวางได้ เมื่อระเบิดออกมา ฝ่ายตรงข้ามจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

หัวใจของเจียวหลิงเหอเต้นรัวจนแทบจะกระโดดออกจากคอ แต่ชิเสวี่ยอวิ๋นเอามือตบไหล่เธอบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “เชื่อในตัวเทียนหยุน…..”

“อืม…..” เจียวหลิงเหอพยักหน้า แต่ก็ไม่สามารถที่จะสงบใจลงได้ง่ายๆ

“เจ้าหนู ไม่รู้ว่าคราวนี้เจ้าจะสามารถรับไว้ได้ไหม?” สัวไค่เฟิงตาเป็นประกาย เขาชื่นชอบอี้เทียนหยุนมากกว่าผู้อาวุโสใหญ่ หากว่าศักยภาพของอี้เทียนหยุนเหนือกว่าผู้อาวุโสใหญ่ งั้นทุกอย่างก็จะต่างออกไป

อี้เทียนหยุนเดินเข้าไปหาผู้อาวุโสใหญ่ทีละก้าว ขณะที่ในมือถือกระบี่เทพเอ้อหลิงตามใจ พร้อมกับพูดอย่างเฉยชาว่า “นี่คือความสามารถของเจ้า เจ้ายังแข็งแกร่งได้กว่านี้ไหม?”

ท่าทีของเขายังคงไม่ใส่ใจเหมือนก่อนหน้า ยังคงมีท่าทีสบายๆ จนทำให้ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต้องพากันตกใจ แท้จริงแล้วเป็นแค่การวางมาด หรือว่ามีความสามารถจริงๆ กันแน่?