ตอนที่ 722: ปรมาจารย์กลั่นโอสถที่แท้จริง
เปลวเพลิงสวรรค์กลั่นโอสถนั้นมีอยู่มาก แต่เปลวเพลิงสวรรค์กลั่นโอสถระดับสูงนั้นมีอยู่น้อยมากๆ ตัวอย่างเช่น เปลวเพลิงนิรันดร์กลั่นโอสถนี้ แม้แต่ประมุขสัวไค่เฟิงเองก็ยังไม่เคยเห็น และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นว่ามีเปลวเพลิงนิรันดร์กลั่นโอสถ
แม้จะมีเปลวเพลิงสวรรค์ที่ร้ายกาจ แต่ก็ใช่ว่าจะเหมาะกับการกลั่นโอสถ อาจจะเหมาะกับอาจารย์หลอมศาสตรามากกว่า หรือส่วนใหญ่ก็จะใช้จัดการกับศัตรูโดยตรงเลย เพราะไม่เหมาะกับอะไรทั้งนั้น
อี้เทียนหยุนที่บอกว่าตนเป็นนักกลั่นโอสถนั้น นอกจากจะแสดงเตากลั่นโอสถที่น่าทึ่งแล้ว ยังแสดงเปลวเพลิงนิรันดร์อันน่าสะพรึงออกมาด้วย ดังนั้น การที่เขาบอกว่าตนเป็นปรมาจารย์กลั่นโอสถ จึงมีคนเชื่อมากกว่าครึ่งในทันที
แต่แม้จะแสดงความน่าทึ่งออกมาถึงขนาดนี้ แต่ทำไมถึงมีคนไม่เชื่ออีกกว่าครึ่งล่ะ? นั่นก็เพราะว่ายังมีปัจจัยอื่นๆ อยู่อีกนอกจากสองอย่างนี้ นั่นก็คือเทคนิคในการกลั่นโอสถและอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ต้องมาดูกันว่าเขาจะกลั่นโอสถออกมาด้วยวิธีไหน
อี้เทียนหยุนไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบๆ เขาทำการโยนสมุนไพรวิญญาณทั้งสามลงไปพร้อมกันในอึดใจเดียว ซึ่งนี่ย่อมสร้างความตกใจให้กับผู้คนอย่างหาที่สุดไม่ได้
“นี่มันอะไรกัน ทำไมเขาถึงโยนวัตถุดิบลงไปพร้อมกันหมดเลยล่ะ?”
ก็จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง ปกติแล้ว การกลั่นโอสถนั้น จำต้องค่อยๆ ใส่วัตถุดิบลงไปทีละชนิดอย่างระมัดระวัง พร้อมกับค่อยๆ กลั่นให้ละลายทีละน้อยอย่างช้าๆ จนสำเร็จ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่นักกลั่นโอสถ แต่ก็เห็นนักกลั่นโอสถมามาก ดังนั้นจึงพอมีความเข้าใจอยู่บ้าง
แต่ใครจะคิดว่าอี้เทียนหยุนจะโยนวัตถุดิบทั้งหมดลงไปพร้อมกันในอึดใจเดียว ยิ่งกว่านั้น นี่ยังเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสูงทั้งนั้นด้วย เรื่องการกลั่นของมันยิ่งยากอย่างที่ไม่ต้องพูดถึง แค่การกลั่นแต่ละอย่างก็ว่ายากพอแล้ว แต่นี่กลับโยนวัตถุดิบทั้งหมดลงไปในคราวเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความยากของมันจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน!
นี่ทำให้พวกเขาต่างก็พากันมองด้วยความตกใจ แม้กระทั่งเจียวหลิงเหอเอง ใครจะคิดว่าอี้เทียนหยุนจะกลั่นโอสถแบบนี้ นี่มันเหนือไปกว่าสิ่งที่พวกเขาคิดเอาไว้ซะอีก
“……”
เมื่อวัตถุดิบทั้งสามถูกใส่ลงไป ก็พลันถูกเผาในทันที ทั่วทั้งเตากลั่นโอสถต่างก็มีเสียงเปรี๊ยะปร๊ะ ดังออกมาไม่หยุด ราวกับจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ ทำให้ผู้คนรอบๆ พากันรีบหาที่หลบโดยสัญชาตญาณ ไม่กล้าอยู่ใกล้แม้แต่น้อย
การระเบิดของโอสถขั้นสูง ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีจากสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเลย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางที่จะอยู่ใกล้ๆ อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น หากระเบิดออกมาเมื่อไหร่ พวกเขาก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้าโง่เอ๊ย นี่เจ้าเป็นนักกลั่นโอสถจริงๆ อย่างงั้นเหรอ? โยนวัตถุดิบทั้งหมดลงไปพร้อมกันในทีเดียว เตากลั่นโอสถนี้จะต้องระเบิดอย่างแน่นอน!”
“ใช่ รีบหลบกันเร็ว หากว่าระเบิดออกมาพวกเราคงต้องถึงจุดจบอย่างแน่นอน ข้ายังไม่อยากตายตอนนี้ด้วย!”
“นี่น่ะเหรอปรมาจารย์กลั่นโอสถ? นี่มันเจ้าโง่กลั่นโอสถชัดๆ ต่อให้ข้าเป็นคนกลั่นโอสถเอง ก็ยังทำได้ดีกว่าเขาเลย!”
ในสายตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความดูถูก คิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นเจ้าโง่กลั่นโอสถ ขนาดนักกลั่นโอสถขั้น 2 ขั้น 3 ที่ทำสั่วๆ ยังทำได้ดีกว่าเขาเลย อย่างน้อยพวกนั้นก็ยังรู้ว่าต้องค่อยๆ กลั่นสมุนไพรวิญญาณไปทีละชิ้น ไม่ใช่โยนลงไปตูมเดียวเหมือนกับอี้เทียนหยุน หากว่ากันตามกระบวนการกลั่นโอสถแล้วล่ะก็ การกระทำโง่ๆ ของเขานี้ ไม่ต่างอะไรไปจากการรนหาที่ตาย!
แตสีหน้าของอี้เทียนหยุนยังคงไม่แยแส เขาคร้านที่จะสนใจสายตาของพวกเขา พร้อมกับเพิ่มกระบวนการเผาไหม้ของเปลวเพลิงนิรันดร์ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ความเร็วในการกลั่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยวิธีนี้ ทำให้สมุนไพรด้านในเกิดการหลอมละลายอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีเสียง “เปรี๊ยะปร๊ะ” ส่งออกมา แต่เตากลั่นโอสถก็ไม่ได้ระเบิดแต่อย่างใด ยังคงทำการควบกลั่นอย่างมั่นคงและปลอดภัย ขณะที่พวกเขาพากันคิดว่าเตากลั่นจะระเบิด มันก็ไม่ระเบิด ยังคงทำการควบกลั่นของมันไป
สัวไค่เฟิงแววตาเป็นประกายระยิบระยับ เขาจับดูกระบวนการกลั่นอย่างตั้งใจตั้งแต่แรก และตอนนี้เขาก็พบว่ากระบวนการกลั่นเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างมาก กระทั่งว่ายังรวดเร็วกว่าแบบทั่วๆ ไปมากด้วย
โดยที่ใช้เวลาไม่นานนัก สมุนไพรทุกอย่างก็ได้ละลายกลายเป็นของเหลว จากนั้นเขาก็เริ่มทำการสกัดเอาแก่นของมันออกมา พร้อมกับกำจัดส่วนที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป ในกระบวนการควบแน่นเป็นโอสถของอี้เทียนหยุนนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจากนักกลั่นโอสถทั่วๆ ไปเลยแม้แต่น้อย มันเป็นไปอย่างเรียบง่ายและเถรตรงอย่างยิ่ง นั่นก็คือการต้มให้แห้งติดก้นเตา!
ขณะที่คนอื่นๆ คิดว่าเตากลั่นจะระเบิด แต่อย่างช้าๆ พวกเขาก็พบว่าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นแต่อย่างใด กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไปกี่ชั่วยามเท่านั้น ต้องรู้ว่าการกลั่นโอสถขั้น 6 นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาหลายวัน หรืออาจจะ 1-2 สัปดาห์กว่าที่จะเสร็จ
แต่ว่าเขากลับใกล้จะกลั้นสำเร็จในอีกไม่นานนี้แล้ว ความเร็วของเขานั้น เหนือไปกว่าที่พวกเขาจินตนาการกันไว้มากมายนัก ทำให้พวกเขาได้แต่ตกใจออกมา!
“เป็นไปไม่ได้ นี่เขาจะกลั่นสำเร็จทั้งแบบนี้จริงๆ? นี่ นี่ไม่ใช่ว่าอีกไม่นานเตากลั่นก็ระเบิดออกมาหรอกนะ?”
“หากไม่ถึงที่สุดก็ไม่รู้หรอกว่าจะสามารถกลั่นโอสถได้สำเร็จไหม บางทีขั้นตอนสุดท้ายอาจจะล้มเหลวก็ได้”
“ใช่! ตอนแรกอาจจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น แต่เมื่อถึงช่วงท้าย การจะขึ้นกลั่นเป็นเม็ดยานั่นแหละที่ยาก ยิ่งพลังวิญญาณแข็งแกร่งเท่าไหร่ การผสมผสานก็ยิ่งยากขึ้นมากเท่าไหร่ อาจจะทำให้กระบวนการก่อนหน้านี้สูญเปล่าไปเลยก็เป็นได้!”
พวกเขาพากันไม่เชื่อ คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ คิดว่าท้ายที่สุดอี้เทียนหยุนจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน
แต่ว่าน่าเสียดายที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคาดหวัง อี้เทียนหยุนเริ่มทำมุทรา จากนั้นเปลวเพลิงด้านในก็เพิ่มขึ้นในทันที พร้อมกันนั้น โอสถด้านในไม่เพียงแต่จะไม่ระเบิดเท่านั้น แต่กลับเริ่มผสานเข้าด้วยกันด้วยความกลมกลืนแทน
“จงออกมา!” อี้เทียนหยุนพูดด้วยสีหน้าเฉยชา จากนั้น เขาก็ตบลงไปเบาๆ “พรึบ” เปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาจากปากเตากลั่น พร้อมกับโอสถสองเม็ดบินออกมาจากด้านใน
ขณะที่โอสถเพิ่งจะบินออกมา มันก็ได้กลายเป็นแสงสีแดงบินตรงไปที่ทางออก ต้องการหนีออกไปอย่างไม่คาดคิด! โอสถขั้น 6 นั้น ถือว่ามีวิญญาณขั้นต้นอยู่ ดังนั้นจึงได้คิดที่จะหนีออกไปจากที่นี่ทันทีที่ออกมา
หากว่าหนีไปได้ ก็ยากมากที่หาพวกมัน ถึงยังโอสถพวกนี้ก็มีขนาดที่เล็กมาก หากคิดจะซ่อน การจะหามันก็ยากเท่ากับการงมเข็มในกองฟาง
“กลับมา!”
อี้เทียนหยุนสายตาเย็นชา พร้อมกับคว้ามือเอื้อมจับความว่างเปล่า ทำให้โอสถทั้งสองเม็ดลอยเข้ามาอยู่ในกำมือเขาในทันที และเมื่อเขาแบมือออกอีกครั้ง โอสถทั้งสองก็ส่องประกายสีแดงสว่างในทันที เหมือนกับไข่มุกที่กำลังส่องแสง พร้อมกับมีห้าขีดอยู่ด้านบน
“อะ โอสถขั้น 6 ห้ากลั่น?”
หลังจากทุกคนเห็นอย่างถนัด ทันใดนั้นก็พากันสูดหายใจเฮือก พวกเขาก็คิดว่าอี้เทียนหยุนจะกลั่นโอสถธรรมดาออกมา แต่ใครจะคิดว่าจะเป็นโอสถห้ากลั่น! นี่มันยากเกินมาตรฐานไปไกลมาก
โอสถชั้น 6 ก็ว่ายากที่จะกลั่นออกมาได้แล้ว มาตอนนี้กลับมีสัญลักษณ์ห้ากลั่นออกมา นั่นหมายความว่าประสิทธิภาพของมันจะเพิ่มขึ้นอีกขั้นใหญ่ อย่างน้อยก็มากกว่าโอสถแบบทั่วๆ ไปถึง 7-8 เท่า!
และที่สำคัญคือมีโอสถถึง 2 เม็ดด้วยกัน คิดว่าอย่างมากก็ทำได้เพียง 1 เม็ด แต่เขากลับกลั่นออกมาถึง 2 เม็ดจริงๆ
“โอสถห้ากลั่น เทคนิคการกลั่นโอสถระดับนี้ ช่างเหนือไปกว่าที่พวกเราจะคาดคิดจริงๆ…..” นัยน์ตาของสัวไค่เฟิงระเบิดประกายออกมาอย่างไม่เก็บกัก พร้อมกับมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยสายตาที่ปลาบปลื้มเป็นล้นพ้น
หากก่อนหน้านี้ระดับฝึกตนของอี้เทียนหยุนทำให้เขารู้สึกดีใจมากแล้ว มาตอนนี้มาตรฐานระดับปรมาจารย์กลั่นโอสถของเขาก็ทำให้มีแสงสีทองฉาบทับลงบนร่างของอี้เทียนหยุนอีกชั้น! ยิ่งกว่านั้นยังเป็นแสงสีทองที่เจิดจ้าจนทำให้คนที่มองต้องตาบอด
“นี่คือโอสถที่ข้ากลั่น ไม่ทราบว่ามีใครมีปัญหาอะไรกับมันไหม? คิดว่าโอสถของข้าได้มาตรฐานหรือยัง หรือว่ายังมีใครที่อยากจะแย้งอะไรอีก?”
อี้เทียนหยุนปล่อยให้โอสถทั้งสองเม็ดลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับมองกวาดไปรอบๆ พร้อมกับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “หรือยังมีใครคิดว่าโอสถของข้ายังไม่ได้ประสิทธิภาพบ้าง?”
หากคนอยากจะพูด มันย่อมมีปัญหาอย่างแน่นอน และอย่าว่าแต่เหตุผลเดียวเลย ต่อให้เป็นร้อยเหตุผลก็หามาพูดได้ แต่ตอนนี้ผู้คนกลับพากันเก็บปากสงบคำ ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ
สิ่งที่อี้เทียนหยุนทำสร้างความตกใจให้แก่ทุกคนอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นปรมาจารย์กลั่นโอสถเท่านั้น? แต่เขายังเป็นปรมาจารย์กลั่นโอสถที่แท้จริงตั้งแต่แรกแล้วด้วย!
