ตอนที่ 730: สิบดารา!
เมื่อดาวดวงที่แปดจุดสว่าง ก็เหมือนกับโลกทั้งใบสว่างไสว ทำให้ในใจของหลายคนรู้สึกตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ รู้สึกเหมือนมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวจู่โจมเข้าที่ดวงใจพวกเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดาวดวงเก้าใกล้จะสว่าง หัวใจของพวกเขาก็แทบจะหลุดออกมาจากลำคอ นี่มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินไปแล้ว เหนือไปกว่าที่พวกเขาจะคาดคิดกันซะอีก พวกเขาคิดว่าคงจะหยุดตั้งแต่ดาวดวงที่เจ็ดที่แปดแล้ว
แต่ตอนนี้กลับกำลังจะจุดดาวดวงที่เก้าขึ้น เตรียมที่จะสร้างผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงขึ้นมา! ไม่มีใครรู้ว่าเคยมีใครจุดดาวเก้าดวงได้สำเร็จหรือเปล่า แต่ต่อให้คราวนี้ไม่สำเร็จ มันก็ยังให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งอยู่ดี
เพราะอย่างน้อยตอนนี้ดาวดวงที่เก้าก็เตรียมที่จะสว่างแล้ว และเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นมาจากคู่สามีภรรยาที่ทำการหันหลังให้กับแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ซึ่งนี่ทำให้ศิษย์ทั้งหมดต่างก็พากันตกตะลึง
ใครพูดว่าเด็กที่เกิดจากพวกเขามีสายเลือดที่น่าผิดหวัง?
หากผู้อาวุโสใหญ่และผู้อาวุโสสามยังมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ พวกเขาจะต้องมีสีหน้าแตกตื่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ได้เหนือไปกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง แต่ต่อให้ตอนนี้พวกเขาจะไม่อยู่ในโลก แต่ศิษย์ของพวกเขาก็ยังอยู่ และเมื่อเห็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวนี้ พวกเขาต่างก็เผยสีหน้าแห่งความเสียใจออกมา
“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านได้ตัดสินใจพลาดไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการผิดพลาดอย่างมหันต์ด้วย….”
พวกเขามองไปยังแปดดาราที่ส่องสว่างอยู่กลางฟ้า ก็สัมผัสได้ว่า ความเห็นแก่ตัวของคนๆ หนึ่ง ได้ทำให้สุดยอดอัจฉริยะหลุดลอยไป ทั้งยังทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ต้องตกต่ำลง จนสถานการณ์ทั้งหลายกลายเป็นย่ำแย่ เหมือนกับแอปเปิ้ลที่ถูกหนอนชอนไช
และตอนนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด มีเพียงแค่เพราะต้องการให้ตัวเองมีตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่กลับไม่คิดที่จะพัฒนาแดนศักดิ์สิทธิ์ นี่เป็นผู้คนที่น่ารังเกียจที่สุด และเมื่อไหร่ก็ตามที่แดนศักดิ์สิทธิ์ถูกยึดครอง ถึงตอนนั้นจะมาเสียใจทีหลังมันก็สายไปแล้ว!
และในพริบตานี้ ค่าความชอบที่พวกเขามีต่ออี้เทียนหยุนก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นเส้นตรง คนส่วนใหญ่ไม่มีใครเกลียดชังเขาอีกต่อไป แต่กลับรู้สึกเลื่อมใสและรู้สึกผิด จริงอยู่ที่พวกเขาเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่ แต่ว่าหลังจากได้รู้ความจริงแล้ว พวกเขาก็ได้โกรธอย่างมาก
แม้จะมีบางคนที่ไม่ยอมรับ แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว จะไม่ยอมรับก็คงจะไม่ได้
ดูจากที่อี้เทียนหยุนสามารถจุดเก้าดาราได้นี้ อย่างน้อยจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ถือว่าเป็นคนที่จุดดาวได้สว่างมากที่สุด
ชิเสวี่ยอวิ๋นยืนจ้องด้านหลังของอี้เทียนหยุน พร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย สถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกตกใจอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เมื่อคิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่อี้เทียนหยุนเคยทำ ก็คิดว่าไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่
“เปรี้ยง!”
ในที่สุด ดาวดวงที่เก้าก็สว่าง ทำให้กลุ่มคนพากันมองขึ้นไปบนท้องฟ้านิ่ง ใครจะคิดว่าจะจุดเก้าดาราได้สำเร็จจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพากันเห็นแบบนี้จริงๆ!
“เขาจุดดาวดวงที่เก้าสำเร็จจริงๆ นี่มันช่างน่ากลัวนัก สายเลือดของเขาที่ปรากฏตอนนี้ ถือว่าใกล้เคียงกับราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนที่สุดอย่างงั้นเหรอ? นี่มันไม่ธรรมดาเลย ช่างไม่น่าเชื่อ!”
“ใช่ ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ! เหตุการณ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏ และหลังจากนี้ก็จะไม่มีปรากฏขึ้นอีกเช่นกัน”
พวกเขาพากันตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ดาวดวงที่เก้าถูกจุดสว่างอย่างสมบูรณ์ ลำแสงสาดส่องทั่วทั้งปฐพี แทบจะสร้างความตกใจให้ทั่วทั้งโลกสวรรค์ แม้ไม่กล้าพูดว่าทุกขุมอำนาจล้วนรู้จักแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน แต่อย่างน้อย ขุมอำนาจส่วนใหญ่ล้วนแต่รู้ว่าเหตุการณ์นี้หมายถึงอะไร แต่ทุกคนต่างก็พากันจับจ้องมาที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่
ตอนนี้เมื่อดาวดวงที่เก้าถูกจุดติด ก็ทำให้ในใจของพวกเขาเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณเตือน ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนคนที่สองกำลังจะปรากฏ? ตราบเท่าที่มีเวลาอย่างเพียงพอ การที่อีกฝ่ายจะเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนคนที่สองย่อมไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดอยู่นั้น ก็ “ปัง” ดาวทั้งเก้าดวงก็พากันเชื่อมถึงกัน ก่อนจะก่อเป็นลำแสงยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำการสลายหมู่เมฆที่ชั้นบนสุดออกไป จากนั้นก็ตามมาด้วยดาวดวงที่ใหญ่มหึมาอย่างไม่น่าเชื่อ ที่ปรากฏขึ้นต่อสายตาของผู้คน เมื่อทุกคนได้เห็นดาวขนาดมหึมาอย่างไม่น่าเชื่อนี้ ต่างก็พากันตกใจไปตามๆ กัน
ดาวดวงที่สิบ!
ทุกคนไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อน คิดว่ามีดาวทั้งหมดเพียงเก้าดวงเท่านั้น มาตอนนี้กลับมีดาวดวงที่สิบโผล่ขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นดาวที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวดวงอื่นๆ ด้วย
ตอนนี้ลำแสงได้ทะยานขึ้นไปยังสวรรค์ ชนเข้ากับดาวดวงนี้ เริ่มที่จะจุดสว่างดาวดวงนี้ทีละน้อย ด้วยความเร็วที่ถือว่าค่อนข้างช้า
“ดาวดวงที่สิบ จงสว่างให้ข้า!”
อี้เทียนหยุนสายตาเป็นประกาย พร้อมกับเพิ่มพลังในมือขึ้นอีกหลายส่วน รีดเค้นพลังสายเลือดในร่างออกมา
“เปรี้ยง” ศิลาสายโลหิตเปล่งแสงเจิดจ้าออกมา พร้อมกับเพิ่มความเร็วในการจุดสว่างขึ้นสองเท่าในทันที เมื่อมาถึงตอนนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องจุดดาวที่สิบให้สำเร็จ ไม่จำเป็นต้องมีข้อสงสัยแต่อย่างใด
ในที่สุด ภายใต้ลำแสงนี้ ดาวดวงที่สิบก็จุดสว่างอย่างสมบูรณ์ พร้อมกับมีลำแสงสายหนึ่งเข้ามาปกคลุมร่างอี้เทียนหยุน พร้อมกับอึดใจต่อมา อี้เทียนหยุนก็หายไปอย่างไม่คาดคิด!
ทิ้งไว้แต่เพียงกลุ่มศิษย์ที่พากันตกตะลึงอยู่ พร้อมกับมองมาที่ศิลาสายโลหิตด้วยความสงสัยว่าอี้เทียนหยุนหายไปไหน หรือว่าจะถูกส่งขึ้นไปข้างบนกัน
หลังจากลำแสงได้หายไป ดาวดวงที่สิบก็ถูกชั้นเมฆปกคลุมไว้อีกครั้ง กลับคือสู่สภาพปกติ
“คนหายไปไหน? เกิดอะไรขึ้น ทำไมคนถึงได้หายไปกัน?”
เหล่าศิษย์พากันแตกตื่น พวกเขาไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อน คนถูกพาตัวไปหลังจากจุดดาวดวงที่สิบสำเร็จ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเคยเห็น!
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้แต่พวกสัวไค่เฟิงเองก็เพิ่งเคยเห็นแบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน หลังจากจุดดาวดวงที่สิบสำเร็จ คนก็มาหายตัวไป แท้จริงแล้วหายไปที่ไหนกันแน่?
“จากตอนแรกที่ข้าจะพาเขาเข้าไปรับมรดก เกรงว่าตอนนี้ท่านบรรพบุรุษคงจะพาเขาเข้าไปรับมรดกที่แท้จริงแทนซะแล้ว…..” สัวไค่เฟิงส่ายหัว จากนั้นก็หันไปมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ตอนนี้พวกเจ้ารู้กันหรือยัง! พวกเราเกือบจะเสียสุดยอดอัจฉริยะผู้หนึ่งไปแล้ว ไม่สิ ควรพูดว่าเสียไปครึ่งหนึ่งแล้วต่างหาก เพราะการกระทำก่อนหน้านี้ของพวกเขา จึงทำให้เกิดเรื่องอย่างตอนนี้ขึ้น!”
ทั้งผู้อาวุโสและเหล่าศิษย์ต่างก็พากันก้มหัวด้วยความละอาย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี พวกเขาเข้าใจว่าทำไมถึงได้เรียกว่าสูญเสีย เพราะอี้เทียนหยุนไม่ได้ถูกฝึกจากที่นี่ตั้งแต่เด็ก ต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่เป็นแกนหลักของพวกเขาอยู่ที่นี่
นี่ก็เหมือนกับการส่งถ่านท่ามกลางหิมะ มันย่อมดีกว่าการเติมน้ำตาลบนหน้าขนมเค้ก
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่ด้านนอกต่างก็มองมาที่นี่ด้วยความตกใจ
“สิบดารา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าเคยเห็นสิบดาราอย่างนี้ แท้จริงแล้วทำได้ยังไงกันแน่?”
“เร็ว รีบส่งคนไปสืบข่าวที่นั่นเร็ว ดูว่าจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เป็นใครกันที่สามารถจุดดาราได้มากขนาดนั้น!”
“ไปหาข้อมูลคนผู้นั้นมาให้ข้า ไม่ว่ายังไงก็ต้องได้รายละเอียดของข่าวนี้มา แม้แต่คำเดียวก็ห้ามขาด!”
“ไปสืบข่าวนี้มาให้ข้า ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เด็กคนนี้ก็ไม่สามารถปล่อยให้มีชีวิตต่อไปได้อย่างเด็ดขาด เพราะตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่ อนาคตของพวกเราจะต้องอยู่ไม่เป็นสุขอย่างแน่นอน!”
ผู้เชี่ยวชาญจากทุกขุมอำนาจต่างก็พากันปั่นป่วน พร้อมกับสั่งให้คนออกไปสืบข่าวนี้มาในทันที หรือไม่ก็ให้ไปตรวจดูสถานการณ์ ดูว่าใครที่สามารถทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เพียงแค่ 6-7 ดาราก็ทำให้พวกเขาตกใจมากเกินพอแล้ว มาตอนนี้กลับจุดสว่างถึงสิบดารา นี่ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม? ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่มีทางเป็นเรื่องล้อเล่นอย่างแน่นอน ดังนั้น แต่ละแดนศักดิ์สิทธิ์จึงได้ตัดสินใจว่าจะต้องกำจัดอี้เทียนหยุนให้ได้