ตอนที่ 735: ส่งไม้ต่อ
“ในเมื่อพวกท่านพากันออกไป ก็คิดว่าคงจะมีการเตรียมการไว้แล้วสินะ?”
อี้เทียนหยุนเปลี่ยนหัวข้ออีกครั้ง ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนให้เขามา แน่นอนว่าย่อมเรียกมาพูดเรื่องนี้
“ใช่ หากพวกเราไม่กลับมา และปีศาจร้ายทำลายผนึกออกมาได้ ภารกิจในการยับยั้งปีศาจร้ายตนนี้ ก็คงต้องมอบมันให้กับเจ้า” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดอย่างจริงจัง “ในสามโลกนี้มีพลังที่พวกเราสำรองไว้อยู่ ตราบเท่าที่เจ้าเรียกใช้พลังนี้ เจ้าก็จะสามารถสยบปีศาจตนนั้นได้อีกครั้ง!”
“ในโลกสวรรค์มีวงแหวนล้อมดาวอยู่ นั่นก็คืออุปกรณ์ระดับเทวะที่อยู่บนฟ้านั้น ซึ่งเป็นที่เก็บสำรองพลังของข้า” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูด “ตราบเท่าที่เจ้าปลดปล่อยมันออกมา เจ้าก็จะสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งอย่างมากได้ อย่างน้อยก็สามารถที่จะปะทะกับพลังของปีศาจร้ายได้ แน่นอนว่าสถานการณ์ของปีศาจในตอนนี้เป็นยังไงนั้นข้าไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ แต่เมื่อเจ้าเลือกที่จะปลดปล่อยมัน สัมผัสศักดิ์สิทธิ์นี้ของข้าก็จะพุ่งเข้าไปรวมกับอุปกรณ์ระดับเทวะนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา!”
“เมื่อถึงตอนนั้น วงแหวนล้อมดาวนั่น เกรงว่าคงจะแตกสลายไปใช่ไหม?” อี้เทียนหยุนรู้สึกหนักอึ้งในใจ
“ใช่ เมื่อต้องระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา ผลลัพธ์ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดอย่างจริงจัง
อี้เทียนหยุนพยักหน้า ไม่ว่าจะเป็นอะไร หากต้องระเบิดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา แน่นอนว่าย่อมต้องจ่ายราคาที่สมน้ำสมเนื้อ นี่ก็เหมือนกับการเผาผลาญแก่นโลหิต ไม่เพียงแต่จะต้องมีความกล้าหาญมากเท่านั้น แต่ราคาที่ต้องจ่ายเองก็ไม่ใช่น้อยๆ เช่นกัน
“แล้วของที่เตรียมไว้อย่างอื่นล่ะ?” อี้เทียนหยุนถาม
“นอกจากนี้ก็เป็นแท่นบูชาเทพเติ้งเทียน หากว่าเจ้าสามารถครอบครองได้ก็จะดียิ่งกว่า ที่นั่นมีรดกอยู่ แต่ว่าจำต้องผ่านเงื่อนไขบางอย่างด้วย พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง หากไม่ยอมจ่ายราคา ก็จะไม่ได้รับสิ่งตอบแทน” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูด
“นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะว่าข้าได้กลายเป็นผู้สืบทอดของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนแล้ว” อี้เทียนหยุนบอกความจริงออกไป
“เป็นเรื่องจริงหรือนี่…..” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจออกมา “ข้าคิดไว้แต่แรกแล้ว ว่าขุมอำนาจของราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียนจะต้องตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว หลักใหญ่ใจความเป็นเพราะเขาไม่ยอมทิ้งทรัพยากรจำนวนมากเอาไว้เหมือนกับพวกเรา ทำให้ยากที่พัฒนา จนสุดท้ายก็ต้องหายไป”
เมื่อเขารู้ว่าอี้เทียนหยุนกลายเป็นผู้สืบทอด ไม่เพียงแต่จะไม่มีความสุขเท่านั้น แต่กลับรู้สึกเสียดายขึ้นมาแทน
“ในเมื่อเจ้าได้ครอบครองแท่นบูชาเทพเติ้งเทียน งั้นเรื่องก็ง่ายขึ้น ตอนนี้เจ้าได้ครอบครองสองแห่งแล้ว อีกแห่งเป็นพลังที่ราชาศักดิ์สิทธิ์กู่หมิงเก็บรักษาไว้ ซึ่งอยู่ด้านล่างแดนเทพเทียนหมิง” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดต่อ
หัวข้อนี้วิญญาณศาสตราได้เคยพูดไว้ก่อนแล้ว แต่ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนไม่รู้ ตั้งแต่แรก พวกเขาเข้าใจว่าคนที่เข้ามาจะต้องไม่รู้ถึงเรื่องปีศาจร้ายที่ถูกผนึกไว้ พวกเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเขารู้มาก่อนแล้ว?
“ก่อนหน้านี้วิญญาณศาสตราได้บอกเรื่องนี้กับข้าแล้ว” อี้เทียนหยุนพูด “บอกว่าต้องค้นหาผู้สืบทอด หรือไม่ก็คว้ามาไว้ในมือ?”
“ใช่ คงมีแต่วิธีนี้ ทั้งสามสิ่งเป็นวิธีการที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดอย่างเข้มงวด “มีเพียงแต่ระเบิดพลังทั้งสามสิ่งนี้พร้อมกันเท่านั้น ถึงจะสามารถสยบทุกซอกมุมของสามโลกได้ในพริบตา! ไม่ว่าปีศาจร้ายตนนั้นจะหนีไปที่ไหน ก็จะถูกค้นพบในทันที พร้อมกับถูกสยบไว้ จากนั้นก็จะถูกผนึกไปอีกหมื่นปี!”
“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว…..” อี้เทียนหยุนสั่นสะท้านในใจ ถึงกับสามารถผนึกได้ถึงหมื่นปีเชียว “แต่ครั้งก่อนที่ข้าไปพบมัน พลังของมันนั้นแข็งแกร่งมาก หากว่าออกมา เกรงว่าพลังของมันจะอยู่ในระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ”
“ขอแค่ยังอยู่ในระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ พวกเราย่อมสามารถสยบมันได้!” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนสายตาเย็นชา พร้อมกับพูดด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความอหังการ “ในตอนแรกที่พวกเราสยบมัน ระดับของมันก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าที่เจ้าพูด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่ว่าถูกพวกเราสยบไว้ได้อยู่ดีอย่างงั้นเหรอ!”
“ดังนั้น ก่อนที่จะจาก พวกเราจึงได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้อีกครั้ง หลังจากมันทำลายผนึกออกมาได้ ก็จะสำแดงพลังเข้าสะกด และผนึกมันไว้อีกครั้งในทันที!”
หลังจากอี้เทียนหยุนได้ฟัง ก็รู้สึกเลื่อมใสขึ้นอีกมาก ไม่คิดว่าก่อนพวกเขาจะจากไป ก็ยังเตรียมการอะไรไว้มากมาย นี่ทำให้เขารู้สึกเลื่อมใสอย่างมาก หากเปลี่ยนเป็นผู้เชี่ยวชาญคนอื่น เมื่อจากไป เกรงว่าคงคร้านที่จะสนใจ ต่อให้ภายหลังโลกนี้จะเป็นจะตายยังไง ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอย่างนี้ ทั้งยังได้เตรียมการอะไรมากมาย เพื่อที่จะได้สามารถสะกดปีศาจร้ายนี้ไว้อีกครั้ง ซึ่งนี่ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ถึงพลังของพวกเขา
แม้จะไม่สามารถสังหารให้ตายได้ แต่แค่สะกดเอาไว้ย่อมไม่ใช่ปัญหา บางครั้งการถูกกักขัง ก็ยังรู้สึกแย่กว่าถูกฆ่าให้ตายนัก
“ท่านบรรพบุรุษ ลำบากท่านแล้วจริงๆ คนส่วนใหญ่เชื่อว่าคงไม่มีใครรู้ว่าพวกท่านต้องจ่ายออกไปแค่ไหน…..” อี้เทียนหยุนส่ายหัว หลายคนไม่รู้เรื่องนี้ อย่างมากก็มีแค่ไม่กี่คนที่รู้
“จะรู้หรือไม่นั้น มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเรา สำหรับพวกเราแล้ว ชื่อเสียงไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใด” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เทียบกับเรื่องนี้แล้ว พวกเราใฝ่หาโลกใหม่ และก็พลังที่แข็งแกร่งขึ้นมากกว่า เพราะหากมีปีศาจร้ายที่แข็งแกร่งกว่าบุกมา ต่อให้จะลาภยศหรือชื่อเสียงอะไร ก็เปรียบได้กับก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่บนฟ้า”
หากให้พูดจริงๆ แล้ว หมัดจึงจะเป็นความสามารถยิ่งใหญ่ที่เป็นเอกสิทธิ์ชั้นยอด ไม่ใช่เหตุผลเหลวไหลอะไรพวกนั้น
“ที่เหลือก็มีแค่เรื่องเล็กน้อยที่ข้าอยากจะบอกกับเจ้า ซึ่งข้าจะมอบมันให้เจ้าผ่านความทรงจำ” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนยื่นมือออกมา จากนั้นก็มีความทรงจำกลุ่มหนึ่งผุดขึ้นในสมองของเขา
อี้เทียนหยุนไม่ต่อต้าน พร้อมกับดูดซับเอาความทรงจำนี้มา ทำให้รู้ถึงรายละเอียดของเรื่องราวคร่าวๆ พร้อมทั้งรู้ข้อมูลมากกว่าความทรงจำที่ป้ายศิลาบรรพกาลสะกดสวรรค์มอบให้กับเขา
พร้อมกันนั้น มรดกทุกอย่างของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ก็ถูกส่งมอบให้กับตัวเขาอย่างสมบูรณ์
“เด็กน้อย ที่เหลือคงต้องฝากเจ้าแล้ว ข้ารู้ว่าเรื่องนี้คงต้องลำบากมาก แต่หากคิดจะมีชีวิตอยู่ ก็มีแต่ต้องลงมือทำเท่านั้น” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “บางทีในการที่จะทำเรื่องนี้ อาจจะมีหลายคนที่ดูถูกและหัวเราะเยาะเจ้า แต่เพื่อปกป้องสมาชิกในครอบครัวของตนแล้ว อย่าได้ไปใส่ใจสายตาของคนอื่น!”
อี้เทียนหยุนพยักหน้าหนักๆ ที่พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพื่อที่จะปกป้องสมาชิกในครอบครัวของตน ปกป้องสามโลกโดยไม่สนวิธีการ ซึ่งมีผู้ฝึกตนมากมายที่ต่อให้จะมีชีวิตหรือตายไปก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา ยิ่งกว่านั้น ยังมีคนที่ไม่คิดจะใส่ใจอะไรอยู่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปีศาจร้ายหรืออะไรมา พวกเขาก็จะเอาแต่หลบซ่อนตัวอย่างเดียว
ซึ่งคนพวกนี้ต่อให้ตายไปก็ไม่มีอะไรน่าเสียดาย แต่พวกเขาจำต้องปกป้องสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นจึงทำได้เพียงทุ่มทุกอย่างออกไป!
“ข้าทราบแล้ว!” สายตาอี้เทียนหยุนเป็นประกาย เขาไม่ต้องการแค่สะกดปีศาจร้ายตนนี้ไว้เท่านั้น แต่ยังต้องการสังหารมันให้เด็ดขาดด้วย แบบนี้จึงจะสามารถแก้ปัญหาใหญ่ในใจของเขาได้
“ดีมาก ด้วยความทรงจำที่มอบให้นี้ คงจะมีส่วนช่วยให้เจ้าเลื่อนระดับได้เร็วขึ้น” ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนโบกมือ จากนั้นก็ค่อยๆ หายไปจากที่นี่อย่างช้าๆ
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ถูกดีดออกมาจากศิลามรดก ปรากฏขึ้นที่ด้านนอก ผู้ฝึกตนหลายคนพากันมองมาที่เขา ไม่ได้ตกใจที่เขาเข้าไปได้มากเท่าไหร่นัก แต่ตกใจที่เขาใช้เวลาไปที่นั่นสั้นมากมากกว่า!
“เจ้ารับมรดกเสร็จแล้ว?” สัวไค่เฟิงถามขึ้นอย่างตกใจ
“ใช่ ใกล้เวลาที่ข้าต้องไปจากที่นี่แล้ว” ในตอนนี้เอง อี้เทียนหยุนก็ได้หย่อมระเบิดลูกโตออกมา
ในตอนนี้ ทุกคนพากันหน้าเปลี่ยนสี เหล่าผู้อาวุโสรวมถึงเหล่าศิษย์ต่างก็รีบพากันคุกเข่าลง
“ผู้อาวุโสรอง ท่านไปไม่ได้ พวกเรารู้ว่าก่อนหน้านี้ที่ทำเป็นสิ่งที่ผิด แต่หวังว่าท่านจะยกโทษให้กับพวกเรา และไม่จากแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนไป!”
พวกเขาพากันร้องขอไม่ให้อี้เทียนหยุนไป กับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังขนาดนี้ พวกเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปโดยไม่สนใจได้ยังไง?