ตอนที่ 739: กำจัดจนไม่เหลือซาก!
ขณะที่เจ้าดินแดนทั้งหลายพากันคาดเดากันว่าอี้เทียนหยุนมีที่มายังไงอยู่นั้น อี้เทียนหยุนก็ได้ให้คำตอบกับพวกเขาว่าตนนั้นคือคนที่จุดสิบดารานั้นขึ้นมา!
บอกว่าคนที่พวกเขาต้องการสังหารนั้น ก็คือเด็กหนุ่มที่ท้าทายสวรรค์ตรงหน้านี้ ที่สามารถตัดร่างของเจ้าดินแดนเทียนฉานออกเป็นสองส่วนด้วยกระบี่เดียว โดยที่อีกฝ่ายไม่สามารถที่จะต้านทานได้ พลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้พวกเขาต้องเบิกตามองด้วยความตกใจ ราวกับเป็นไอ้งั่ง
“นะ นี่เป็นไปได้ยังไง ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะตรวจสอบพลังสายเลือดอย่างงั้นเหรอ แล้วทำไมถึงได้มีระดับที่น่าสะพรึงเช่นนี้ได้?”
พวกเขาพากันตกใจ ปกติแล้วการทดสอบจะทำขึ้นกับศิษย์ใหม่ หรือไม่ก็เด็กที่เพิ่งเกิด พวกเขาก็คิดว่าเป็นการทดสอบของทารกคนหนึ่ง แต่ใครจะคิดว่าจะเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวไปแทน
และการทดสอบกับคนที่โตแล้วนั้นก็มีความเป็นไปได้เดียว นั่นก็คืออีกฝ่ายอาศัยอยู่ภายนอก และเพิ่งจะกลับมา พวกเขาวางสายลับไว้ด้านในเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้รับข่าวอะไรจากด้านในเลย และเมื่อตอนนี้พวกเขาพากันรู้ความจริง ก็ได้ทำให้พวกเขาตกใจกันสุดๆ
“ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย……”
เจ้าดินแดนเทียนฉานที่ถูกผ่าครึ่งนั้นยังไม่ตาย แต่กำลังถูกเพลิงเผาอย่างบ้าคลั่งอยู่ พร้อมกับเปล่งเสียงกรีดร้องโหยหวนที่สร้างความตกใจให้กับพวกเขา และในตอนนี้เอง ก็ได้มีพวกเขาบางคนรีบเข้าไปช่วยเขา แต่เพิ่งจะเข้าไปใกล้ เปลวเพลิงก็ลุกพรวดขึ้นมา พร้อมกับเผาร่างของผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่เข้าไปช่วยอีกฝ่ายไว้
“อ๊ากกกก……”
ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณผู้นั้นกรีดร้องออกมา พร้อมกับดิ้นพล่านร่างไม่หยุด ต้องการสะบัดเพลิงนี้ทิ้งไป แต่เปลวเพลิงนี้กลับติดหนึบอยู่บนร่าง ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำให้มันสลายไปได้ นอกเสียจากว่าจะตัดบริเวณที่ถูกเผาออกไป ไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังว่าจะดับได้
“เร็ว รีบตัดส่วนที่ไฟกำลังลุกเร็วเข้า!”
บางคนที่เห็นว่าไม่สามารถดับได้ ก็พลันสั่งให้ตัดบริเวณที่ถูกเผาในทันที แต่ว่าทุกอย่างก็ได้สายไปแล้ว เพราะตอนนี้เปลวเพลิงได้ลุกท่วมเกือบทั้งร่างของเขาเรียบร้อยแล้ว หากจะให้ตัดจริง ก็ต้องผ่าครึ่งจนไม่นับว่าเป็นคนได้
เพียงไม่ถึงอึดใจ ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณที่มีชีวิตอยู่ก็ถูกเผาจนสิ้น การที่เจ้าดินแดนเทียนฉานยังไม่ถูกเผาจนสิ้นไปนั้น เหตุผลเป็นเพราะเขาใช้พลังของตนพยุงอาการเอาไว้อยู่
นี่ไม่ได้หมายความว่าระดับของเจ้าดินแดนเทียนฉานสูงเกินกว่าที่จะถูกเผาอย่างง่ายๆ แต่เป็นเพราะอี้เทียนหยุนไม่ต้องการกำจัดอีกฝ่ายให้ตายไปเร็วนัก แต่อยากให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทีละน้อยมากกว่า
“ตาย ผู้ฝึกตนคนนั้นตายแล้ว….” เห็นผู้ฝึกตนระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 7 ที่ 8 ถูกเผาจนตายไปต่อหน้าต่อตา ก็ทำให้พวกเขาต้องพากันตกใจ
เพียงแค่สะเก็ดไฟที่กระเด็นมา ก็สามารถเผาร่างคนจนมอดไหม้ ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงนัก
สือเหอเทียนกับพวกพากันมองด้วยความตกใจ โดยเฉพาะระดับของพวกเขาก็พอๆ กันกับเจ้าดินแดนเทียนฉาน แต่กลับต้องมาตายเพราะกระบี่เดียว ความห่างชั้นนี้ มันต่างกันมากแค่ไหนกัน?
“เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป พวกเรามีคนมากกว่า ต่อให้เจ้าจะร้ายกาจ แต่จะสามารถสังหารพวกเราทั้งหมดได้ในทีเดียวอย่างงั้นเหรอ?” สือเหอเทียนไม่ขลาดกลัว แต่กลับตะโกนออกไปด้วยความโกรธแทน “ไปฆ่ามัน ฆ่ามันให้ข้า กวาดล้างแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนให้สิ้นซาก!”
“โอ้อออออ!”
เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุด แต่พากันบุกเข้าไปยังกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็หยิบเอาอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา เตรียมทุบกำแพงเมืองนี้ หรือว่าปีนขึ้นไป
เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกตนพวกนี้เตรียมที่จะปีนกำแพงเมืองแต่เริ่มแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำลายกำแพงเมืองโดยเฉพาะ แค่ปีนขึ้นไปก็พอ
“เปิดใช้งานมหาค่ายกล!” สัวไค่เฟิงสีหน้าเย็นชา ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ในเมื่อฝั่งตรงข้ามเตรียมที่จะทุ่มทุกอย่าง พวกเขาก็จะไม่ยอมงอมืองอเท้า และพร้อมที่จะทุ่มทุกอย่างเพื่อจัดการกับผู้บุกรุกทั้งหมดนี้เช่นกัน
“เปรี้ยง!”
จากนั้น มหาค่ายกลก็เปิดออก พร้อมกับปลดปล่อยโล่หนาออกมา ซัดผู้ฝึกตนจำนวนมากกระเด็นไป ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยแรงกดดันที่บ้าคลั่งออกมา ทำการกดดันเข้าใส่พวกเขา หวังที่จะสยบผู้บุกรุกเอาไว้
“พวกเรามาร่วมมือกันทำลายโล่ป้องกันนี้!”
สือเหอเทียนและเจ้าดินแดนคนอื่นไม่คิดที่จะยืนมองเฉยๆ พวกเขารีบรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนหลายคนรวมพลังกัน พร้อมกับยิงพลังขึ้นไปบนฟ้า ก่อร่างเป็นกระบี่ที่น่าสะพรึง พุ่งลงมาจากฟ้า จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่โล่ป้องกันนี้อย่างไม่ปรานี
“ปัง!”
โล่ป้องกันที่แข็งแกร่งภายใต้การโจมตีที่รุนแรง ก็ได้ปรากฏรอยร้าวขึ้น พร้อมกับเสียงปะทะที่ดังสะท้านออกทั่วทุกทิศทาง อีกทั้งยังมีพลังที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าทะลุเข้าไปด้านในโล่ป้องกัน จนทำให้ยามผู้หนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ต้องถูกแรงปะทะนั้นส่งปลิวกระเด็นออกจากกำแพงเมือง พร้อมกับได้รับบาดเจ็บหนัก
เพียงแค่การโจมตีเดียว ก็ทำให้โล่ป้องกันเกิดรอยร้าวขึ้น หากเป็นอย่างนี้ต่อไป โล่ป้องกันนี้เกรงว่าคงจะต้องถูกทำลายลงอย่างง่ายดายแน่นอน
“เตรียมตัวกันมาจริงๆ ด้วย ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะคิดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ถึงขนาดใช้วิชาผสานร่วมกัน!” สัวไค่เฟิงสีหน้าดำคล้ำ เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายย่อมมีการทดลองมาก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถเข้ากันได้ขนาดนี้
“เจ้าคิดว่าหดหัวอยู่ข้างในแล้วจะปลอดภัยหรือไง? เจ้าคิดง่ายเกินไปแล้ว ก็แค่โล่กระดองเต่าพังๆ พวกเราจะทำลายมันให้ดู!” สือเหอเทียนพูดอย่างดูถูก “ตอนนี้ถึงเวลาตายของพวกเจ้าแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ไป แดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนจะหายไปตลอดกาล!”
นอกจากพวกเขาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณนับไม่ถ้วนต่างก็พากันโจมตีอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน และพวกเขาก็ใช้ออกด้วยวิชาผสาน พร้อมกับเล็งโจมตีเข้าใส่โล่ป้องกันไม่หยุด แต่ก็ยังยากที่จะทำลายการป้องกันที่แข็งแกร่งนี้
ในใจผู้คนนับไม่ถ้วนเกิดความรู้สึกกังวลขึ้น โล่ป้องกันที่ไม่เคยถูกทำลายได้มาก่อน กลับมาเกิดรอยร้าวด้วยกระบี่นี้ หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะต้องถูกทำลายลงอย่างแน่นอน และเมื่อขาดโล่ป้องกันนี้ไป พวกเขาจะต้านทานกลุ่มศัตรูที่ทรงพลังนี้ได้ยังไง?
“นี่คือทั้งหมดของพวกเจ้าแล้ว?” อี้เทียนหยุนที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่กลางอากาศมองมาที่พวกเขาอย่างเย็นชา “หากนี่คือทั้งหมดของพวกเจ้าแล้วล่ะก็ คงต้องถึงเวลาต้องจบทุกอย่างแล้ว”
“เจ้าหนู ข้ารู้ว่าระดับของเจ้าไม่อ่อนแอ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากของพวกเรา เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนหรือไง!” สือเหอเทียนมองไปที่เขาด้วยสีหน้าดูถูก จากนั้นก็พูดด้วยความโกรธว่า “ทำลายโล่ป้องกันนี้ด้วยกัน จากนั้นก็ฆ่ากลุ่มคนสามหาวพวกนี้! แล้วเอามรดกทั้งหมดของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนมา รวมถึงสมบัติทั้งหมดด้วย!”
เขาร้องคำรามออกมาพร้อมกับโจมตีออกไปราวกับถูกฉีดเลือดไก่ ทันใดนั้นกลิ่นอายของพวกเขาก็เริ่มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้ยินว่าจะได้รับมรดก ก็ทำให้ในใจของพวกเขาพากันตื่นเต้น มรดกของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ใครบ้างจะไม่อยากได้?
พวกเขาต่างก็ติดอยู่ตรงคอขวดมานานแล้ว ทำให้พวกเขาพากันคิดร่วมมือกันเพื่อโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน พวกเขาอยากจะดูว่ามรดกพวกนี้จะทำให้พวกเขาทะลวงคอขวดนี้ไปได้หรือเปล่า
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นกฎ หรือบุญคุณอะไร ต่างก็ถูกวางทิ้งไว้ ตอนนี้มีแต่ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น นอกนั้นล้วนไม่ใช่สิ่งสำคัญ!
“แม้ข้าจะไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน แต่ข้าก็เป็นทายาทของเขา…..”
อี้เทียนหยุนทำการชี้มือออกไป จากนั้น หมู่เมฆที่อยู่บนท้องฟ้าก็พลันแยกออก พร้อมกับลำแสงที่ถูกยิงลงมาจากสิบดารา แทบจะพริบตา ลำแสงที่น่าสะพรึงนี้ก็ซัดเปรี้ยงลงมาจากฟ้า พร้อมกันนั้นก็ปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่าร้อยจ้าง
แต่ที่ที่ลำแสงพวกนี้ตกลงมานั้นไม่ใช่ตรงที่พวกสือเหอเทียนอยู่ แต่เป็นบริเวณด้านหลังตรงจุดที่ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณรวมตัวกัน ในพริบตานั้น ลำแสงก็ได้ปกคลุมร่างผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทุกคน
เมื่อลำแสงนี้ปกคลุมพวกเขา มันก็ได้ทำการทำลายทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ทำลายล้างทุกอย่าง…..
แม้แต่เสียงกรีดร้องยังไม่ทันได้เปล่งออกมา หลังจากที่ลำแสงเจิดจ้าสลายไป ก็เหลือเพียงหลุมขนาดยักษ์ แม้แต่โครงกระดูกก็ไม่เหลือ
ทันใดนั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณทั้งหมดก็ถูกกำจัดจนไม่เหลือซาก!