ตอนที่ 746: ก่อตั้งพันธมิตร
เมื่อเวลารวมสามโลกเข้าด้วยกัน!
คำพูดนี้ทำเอาในใจของทุกคนสั่นสะท้าน พวกเขาคิดว่าแค่สามารถรวมโลกมนุษย์เข้าด้วยกันได้ก็ถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้ว อย่าเพิ่งไปเอ่ยถึงเรื่องรวมสามโลกเลย นี่จำเป็นต้องใช้พลังที่แข็งแกร่ง ขุมอำนาจที่ทรงพลังแค่ไหน ถึงจะรวมสามโลกเข้าด้วยกันได้?
แม้ว่าพวกเขาจะมั่นใจในตัวอี้เทียนหยุน แต่คำที่เพิ่งจะพูดออกมานี้ก็ค่อนข้างอหังการเกินไป เพราะนี่เป็นเรื่องที่ยากมาก โลกสวรรค์และโลกใต้พิภพมีขุมอำนาจแดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วน การจะให้พวกเขามายอมรับพวกตนนั้น คิดว่าความยากของมันย่อมไม่ใช่น้อยๆ อย่างแน่นอน? ดังนั้น พวกเขาจึงไม่อาจเชื่ออี้เทียนหยุนได้ เพราะเป้าหมายนี้ออกจะน่าสะพรึงเกินไป
“นี่….”
ผู้คนพากันพูดไม่ออก จากสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะสามารถรวมสามโลกเข้าด้วยกันได้
“พวกเจ้าคิดว่าเรื่องนี้ยากมากใช่ไหม?” อี้เทียนหยุนมองไปที่สีหน้าของพวกเขา ไม่ต้องให้บอก ก็รู้ว่าในใจของพวกเขาคิดอะไร พวกเขาย่อมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
“นี่ไม่ใช่ว่าพวกเราพากันสงสัยในพลังของฝ่าบาท แต่คิดว่าเรื่องนี้จำต้องใช้เวลาที่นานมาก แล้วอย่างนี้จะไม่ทำให้เจ้าตำหนักชิต้องรอนานเหรอเพคะ?” พวกเธอพากันพูดออกมาอย่างฉลาด ต่อให้พลังของอี้เทียนหยุนจะร้ายกาจ แต่เขาต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะสำเร็จ?
สิบปี ร้อยปี หรือว่าพันปี? พวกเขารู้สึกว่าอย่างน้อยก็ต้องเกินหมื่นปีขึ้นไป…..
จากหลายปีที่ผ่าน ไม่มีใครที่สามารถรวมสามโลกเป็นหนึ่งเดียวได้ ไม่มีเลย ต่อให้จะเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ช่วงเทียน หรือราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ก็ไม่มีใครที่สามารถรวมสามโลกเป็นหนึ่งได้ เมื่ออี้เทียนหยุนพูดคำนี้ออกมา มันจึงเป็นคำพูดที่ดูเกินไป
“หากพวกเราแต่งงาน เธอก็จะเป็นภรรยาของข้าในตอนนี้” อี้เทียนหยุนใช้สีหน้าที่ไม่ต้องการคำถามพูดขึ้น “แต่ข้าต้องการใช้สามโลกเป็นของขวัญ ที่จะมอบให้กับงานแต่งงานของเสวี่ยอวิ๋น หากใช้เพียงโลกมนุษย์เป็นของขวัญเพียงอย่างเดียว มันออกจะไม่น่าพอใจเท่าไหร่ ที่ข้าต้องการใช้สามโลกเป็นของขวัญนั้น ก็เพื่อให้เธอได้เป็นจักรพรรดินีของสามโลก!”
คำพูดนี้ทำให้เลือดลมบนใบหน้าของพวกเธอยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ใช้สามโลกเป็นของขวัญ นี่มันจะไม่ผยองเกินไปหรอกเหรอ?
แต่เขาไม่ได้ผยอง เพราะเขามีระบบแสนบ้าคลั่งอยู่ หากเป้าหมายนี้ยังไม่สามารถทำสำเร็จได้ แล้วยังจะพูดเรื่องอื่นได้อีกเหรอ!
ชิเสวี่ยอวิ๋นที่อยู่ใกล้ๆ มองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต่ที่ทำให้เธอตื้นตันที่สุดก็คือคำพูดในตอนแรกของอี้เทียนหยุน นั่นก็คือเธอเป็นภรรยาของเขา!
เธอไม่ได้ร้องขอของขวัญที่ยิ่งใหญ่อะไร เพียงแค่สามารถอยู่ข้างกายอี้เทียนหยุนได้เท่านั้นก็พอแล้ว มาตอนนี้ผู้คนตรงหน้าได้รู้แล้วว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ในใจก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง
เรื่องฐานะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดตลอดกาล มันเป็นข้อพิสูจน์ว่าคนๆ นั้นได้เข้าไปอยู่ในหัวใจของอีกคนแล้ว
ตอนนี้อี้เทียนหยุนได้บอกว่าให้ตำแหน่งจักรพรรดินีของสามโลกเป็นของขวัญ นี่ทำให้เธอตกใจจริงๆ แต่ก็ทำให้ใจของเธอมีความสุข แม้ว่าจากนี้ไปจะไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่แค่คำมั่นสัญญานี้ก็เพียงพอแล้ว
ยังไงก็ตาม เธอก็เชื่อว่าสิ่งที่อี้เทียนหยุนพูดจะต้องสำเร็จ ไม่ใช่แค่การพูดโอ่ไปเรื่อยอย่างแน่นอน
อี้อวี่เหว่ยกับพวกพากันเผยสีหน้าอิจฉาออกมา แต่พวกเธอก็ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้ พวกเธอก็อยากจะยืนอยู่เคียงข้างอี้เทียนหยุนเช่นกัน และคอยสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ยังไงก็ตาม ตอนนี้พวกเขาก็รู้สึกมีความสุขมากแล้ว ที่พวกเธอมีฐานะอย่างนี้ และสามารถจัดการเรื่องที่ตนเองชอบได้ ทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่อี้เทียนหยุนมอบให้ทั้งนั้น
“ข้าเชื่อว่าหลายคนคิดว่าข้าตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินไป แต่คำพูดนี้ของข้าสามารถทำให้เป็นจริงได้ เริ่มจากเป็นผู้ปกครองโลกมนุษย์นี้ก่อนเลย จากวันนี้ไป ให้ส่งข่าวไปยังขุมอำนาจทุกแห่ง เจรจากับอาณาจักรทั้งหลาย ก่อตั้งเป็นมหาพันธมิตรขึ้น พวกเราจะเป็นหัวหน้าพันธมิตร ทำหน้าที่บัญชาการทุกขุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ” อี้เทียนหยุนพูดด้วยแววตาเป็นประกายวาว
ก็เหมือนกับการกินอาหาร ที่ไม่สามารถกินทั้งหมดเข้าไปในคำเดียวได้ เขาไม่ได้ต้องการที่จะปกครองทั้งสามโลกในทันที แต่ว่าจะเริ่มจากโลกมนุษย์เป็นอันดับแรก ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
“ก่อตั้งมหาพันธมิตร?” พวกเธอต่างก็มองหน้ากัน ในสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย “พวกเราไม่ต้องฆ่าทุกคนเหมือนกับเมื่อก่อนเหรอเพคะ?”
ในความคิดของพวกเธอ เหมือนว่าต้องบดขยี้อาณาจักรเหมือนที่ผ่านมา อาณาจักรที่ปฏิเสธก็สังหาร จากนั้นก็รับอาณาจักรทั้งหมดมา มันก็แค่เรื่องง่ายๆ
“นี่พวกเจ้าเห็นข้าเป็นปีศาจคลั่งการสังหารตั้งแต่เมื่อไหร่? การรวมโลกมนุษย์เป็นหนึ่งเดียวนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่แข็งที่สุด แค่ต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพวกเราแข็งแกร่งที่สุด และทำให้พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของพวกเขาก็พอแล้ว การก่อตั้งมหาพันธมิตรขึ้น ก็เหมือนกับให้พวกเขาเข้าร่วมกับพวกเรานั่นล่ะ” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเอาแต่ฆ่าล้างอีกฝ่ายเพื่อให้เชื่อฟัง นั่นมีแต่จะนำพาหนทางแตกดับเข้ามาหาตนเท่านั้น”
เขารู้ว่าพลังของตนนั้นแข็งแกร่งมากพอ แต่ก็ไม่พอที่จะสังหารทุกคนที่ไม่อยู่ฝั่งเดียวกัน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือต้องดึงพวกเขาเข้ามา จากนั้นก็ค่อยๆ ดูดกลืนพวกเขาทีละน้อย แบบนี้ก็จะไม่เป็นที่เกลียดชังของผู้คนด้วย
“เรื่องนี้จะให้ทำก็ไม่มีปัญหาหรอกเพคะ แต่ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ยอมล่ะเพคะ?” อี้อวี่เหว่ยถาม “บางขุมอำนาจนั้นแข็งแกร่ง มีเพียงแต่บดขยี้พวกเขาเท่านั้น ไม่อย่างนั้น พวกเขาย่อมไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอน”
“เจ้าก็ไปอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด ว่าที่พวกเราต้องการคือพันธมิตร ไม่ใช่ศัตรู ตามเท่าที่ยอมสาบานที่จะจงรักต่อพวกเรา ก็จะได้รับวิชายุทธ์จำนวนมหาศาล กระทั่งอาวุธจำนวนมาก พยายามเอาผลประโยชน์เข้าล่อพวกเขา!” อี้เทียนหยุนส่งแหวนหลายวงให้กับเธอ แล้วพูดว่า “นี่ข้าให้เจ้า เอาไว้เป็นสมบัติเพื่อล่ออีกฝ่าย”
“กระบวนการนี้มันช่างสกปรกจริงๆ…..”
พวกเธอพากันมองหน้ากัน นี่มันจะเป็นการผลาญทรัพยากรที่ใหญ่มาก มีขุมอำนาจมากขนาดนั้น หากคิดจะเอาผลประโยชน์เข้าล่อ ไม่ต้องถูกขุดจนตัวนั้นกลวงเปล่าหรอกเหรอ?
“เจ้าก็ดูของที่ข้าให้ก่อน พวกเราเองก็มีขีดจำกัดของตัวเองเหมือนกัน” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ใช่ว่าจะขอของที่เป็นไปไม่ได้อะไรก็ได้อย่างนั้น พวกเขาต้องดูขุมกำลังของตนเองด้วย หากเป็นขุมอำนาจชั้น 2 แต่กลับร้องขอวิชายุทธ์ระดับสวรรค์กับพวกเรา นี่ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน”
“อืม เรื่องนี้พวกเราจะทำให้สำเร็จ” อี้อวี่เหว่ยพูด “แต่ถ้าหากมีบางคนไม่ยอมอีกล่ะเพคะ จะให้ทำยังไง?”
“งั้นก็ทำลายพวกเขาให้สิ้นซากซะ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ข้าไม่ต้องการเห็นขุมอำนาจไหนกล้าต่อต้านพลังของข้า หากกล้าต่อต้านข้า ก็จงขุดรากถอนโคนพวกมันซะ! ข้าไม่ต้องการให้พวกเขามาทำตามคำสั่งของข้าในตอนนี้ แต่ข้าต้องการให้ในเวลาที่จำเป็น พวกเราจะสามารถรวมเป็นพันธมิตรเข้าด้วยกันได้ ไม่ใช่ว่าข้าต้องการข้าทาสบริวาร เจ้าสามารถบอกเรื่องนี้กับพวกเขาได้”
ที่อี้เทียนหยุนต้องการรวมโลกมนุษย์ให้เป็นหนึ่งเดียวกันนั้น ไม่ใช่ว่าเขาจะปกครองทุกอย่างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาแค่ต้องการจัดการกับปีศาจร้ายเท่านั้น มีเพียงแต่การรวมพลังกัน ถึงจะสามรถต้านทานปีศาจร้ายได้
เขามีความทรงจำที่ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนมอบให้อยู่ ดังนั้นจึงรู้ดีว่าสถานการณ์เป็นยังไง ปีศาจร้ายที่ถูกสังหารไปนั้นมีเป็นล้าน หรืออาจกระทั่งสิบล้านตัว แออัดยัดแน่นเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน จะอาศัยเพียงพลังของผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คน ไม่มีทางที่จะต้านทานพวกมันได้อย่างเด็ดขาด จำต้องรวมพลังกันเท่านั้นถึงจะพอมีทางที่จะต้านทานพวกมันได้
เขาไม่รู้ว่าปีศาจร้ายจะสามารถเข้ามาได้อีกไหม แต่การเตรียมตัวไว้ก่อนล่วงหน้าย่อมเป็นการดี การสังหารปีศาจร้ายที่ถูกผนึกไว้ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้าย สิ่งสำคัญคือการต่อต้านปีศาจร้ายจากนอกโลกนั่นต่างหาก
หากถึงตอนนั้นแล้วยังไม่สามารถรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ แล้วจะให้เอาอะไรไปจัดการพวกมัน?
“นี่…..” พวกเธอไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของอี้เทียนหยุน จากตอนแรกพวกเธอคิดว่าอี้เทียนหยุนต้องการปกครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เมื่อเขาพูดหนึ่ง คนอื่นห้ามพูดสอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนกับกำลังต่อต้านขุมกำลังบางอย่างอย่างงั้นล่ะ
“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ายังไม่เข้าใจ มีบางเรื่องที่พวกเจ้าสามารถรู้ได้ ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าฟัง…..”
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็บอกเรื่องของปีศาจร้ายให้พวกเธอฟัง ในตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะให้พวกเธอได้รู้ แบบนี้ถึงจะสามารถก่อตั้งพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกมนุษย์ได้!”