ตอนที่ 750: ลูกพลังหนึ่งลูก
“อสูรทะเลกลุ่มหนึ่งเคลื่อนย้ายวิหารไป ดูเหมือนว่าพวกมันคงตามหาที่นี่มานานแล้ว และที่ที่เคลื่อนย้ายไปก็น่าจะไกลน่าดู…..”
ต่อให้อี้เทียนหยุนต้องการหาว่าอสูรทะเลพวกนี้ย้ายวิหารไปไว้ไหน ก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี โดยเฉพาะทะเลนี้ที่กว้างใหญ่มากจริงๆ หากคิดที่จะหาวิหารนี้ ก็จำต้องพยายามอย่างหนัก
แม้ว่าระดับของเขาจะไม่แย่ แต่ก็ยังห่างกับระดับที่ท้าทายสวรรค์ ต่อให้จะเป็นระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เอง ก็จำต้องใช้เวลาหากคิดจะหามัน ยังไงก็ตาม สำหรับระดับราชาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความเร็วและขอบเขตในการค้นหา ก็น่าทึ่งกว่ามาก หากเทียบกับเขา
ในตอนแรกที่พวกเขาพากันเสาะหาที่ซ่อนของปีศาจร้าย พวกเขาก็พากันเสาะหาทุกซอกมุมของทั้งสามโลก ด้วยความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งของพวกเขา ก็ยังใช้เวลาไปหลายเดือนถึงจะค้นหาทั่วทั้งสามโลกโดยที่ไม่ข้ามผ่านซอกมุมไหน
พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ที่ซ่อนไหนหลบพ้นสายตาไป แต่ใครจะคิดว่าปีศาจร้ายพวกนั้นจะไม่หลบซ่อน แต่กลับทิ้งทายาทของพวกมันไว้ ในสถานที่ที่อันตรายที่สุด ในเมื่อไม่สามารถทำลายได้ ก็ทิ้งทายาทไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ กัดกินที่นี่ทีละน้อย
ดังนั้น จึงได้มีเผ่าวิญญาณร้ายนี้ขึ้น ยังไงก็ตาม เขาก็คิดว่าจะต้องมีเผ่าวิญญาณร้ายนี้เป็นจำนวนมากในโลกใต้พิภพ เพราะสายเลือดของเผ่าวิญญาณร้ายนั้นมีพลังไปทางฝั่งหยินเป็นพิเศษ ดังนั้น สภาพแวดล้อมในโลกใต้พิภพจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะที่จะใช้ชีวิต
“น้องชาย เจ้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกอย่างงั้นเหรอ?” หลินเฉียงถาม
คำถามที่อี้เทียนหยุนถามออกมานั้น เป็นตัวบอกว่าเขามาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่อย่างนั้น เขาก็คงจะไม่ถามคำถามนี้ขึ้น
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยมาที่นี่แล้ว เพียงแต่ว่าคราวนี้มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ” อี้เทียนหยุนไม่ได้โกหก ก่อนหน้านี้นานมาก เขาได้มาล่าสัตว์อสูรที่นี่ และการที่หมอกมืดสลายไป ส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นเพราะตัวเขา
“ข้าก็คิดว่าเจ้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกซะอีก การเปลี่ยนแปลงของที่นี่ไม่น้อยจริงๆ แต่ที่สำคัญก็คือหมอกดำสลายไปนี่แหละ! ก่อนหน้านี้ที่นี่ถูกเรียกว่าเกาะโหมวหยุน(หมอกปีศาจ) แต่ตอนนี้หมอกพวกนั้นก็ไม่มีแล้ว และก็เพราะการหายไปของหมอกนั่น ก็เลยทำให้มีเมืองตั้งขึ้นที่เกาะนี้ กลายเป็นเมืองโหมวหยุนไป” หลินเฉียงคอยบอกรายละเอียดอยู่ใกล้ๆ
จากนั้น อี้เทียนหยุนก็สอบถามสถานการณ์อื่นของที่นี่ ว่าเร็วๆ นี้ที่นี่เกิดอะไรบ้าง หลินเฉียงก็ไม่ปกปิดอะไร บอกล่าวออกไปตรงๆ ซึ่งนี่ทำให้เขาประหยัดเวลาในการหาข่าวไปได้มาก ไม่ต้องเสียเวลาไปหาข่าวจากที่นู่นทีที่นี่ที
“ลูกพี่ เจ้าเด็กนี่ไม่ว่าอะไรก็ไม่รู้สักอย่าง แต่กลับกล้ามาที่นี่…..” สหายที่อยู่ใกล้ๆ ส่ายหัว พร้อมกับลดความสงสัยที่มีต่อตัวอี้เทียนหยุนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังคงแอบระวังอยู่ในใจ
“เจ้าหนู ข้าถามเจ้าจริงๆ เถอะ ทำไมอยู่ๆ เจ้าถึงมาโผล่ที่นี่ นี่เจ้าถูกโยนลงทะเลมาใช่ไหม?” สหายที่อยู่ใกล้ๆ ถามขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่
“ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้นี้ข้าบอกไปแล้วหรอกเหรอ ข้าว่ายมาที่นี่จริงๆ จากนั้นก็ถูกลูกพี่ของพวกพี่ชายดึงขึ้นมา” อี้เทียนหยุนปรายตามองพวกเขา จากนั้นก็เตรียมที่จะไปจากที่นี่
ในเมื่อข่าวก็ได้แล้ว ควรที่จะจากไปเสียที ไม่จำเป็นต้องไปหาข่าวถึงที่เกาะโหมวหยุนอีก
“ไม่คิดว่าพวกเราอุตส่าห์ช่วยเจ้าขึ้นมา แต่เจ้ากลับโกหกพวกเรา แต่เอาเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะถึงเกาะโหมวหยุนแล้ว ลูกพี่ของพวกเราจิตใจดี แต่อย่าคิดว่าหากเจอปัญหาระหว่างทางแล้วพวกเราจะเป็นป้อมปราการให้เจ้าล่ะ!” ชายคนนี้ไม่เชื่อที่อี้เทียนหยุนบอก คิดว่าคำพูดนี้ของเขาเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา
“เฉียนล่าง!” หลินเฉียงขมวดคิ้ว พร้อมกับตวาดออกมาเบาๆ คิดว่าน้องชายของตนจะพูดเกินไปแล้ว
“ฮึ่ม….” เฉียนล่างแค่นเสียงออกมา แล้วนั่งลง จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
“น้องชายท่านนี้ ข้าต้องขอโทษจริงๆ ก่อนหน้านี้พวกเราเคยถูกหลอกมาก่อน ดังนั้นก็เลยต้องระวังเล็กน้อย เจ้าอย่าได้ถือสาเลยนะ” หลินเฉียงส่ายหัว ไม่รู้จะทำยังไงดี
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็กำลังคิดจะไปอยู่พอดี…..”
แต่ในขณะที่อี้เทียนหยุนเปิดปากว่าจะไปอยู่นั้น อยู่ๆ ที่ทะเลด้านหน้าก็พลันมีคลื่นซัดมา พร้อมกับสัตว์อสูรขนาดใหญ่กระโดดขึ้นมาจากน้ำ ตัวมันสูงประมาณสิบจ้าง เหมือนกับยักษ์ก็ไม่ปาน ขณะที่มือของมันก็ทำการฟาดฝ่ามือขนาดใหญ่ กวาดเข้ามาอย่างแรง
“เปรี้ยง!”
ด้วยการโจมตีนับไม่ถ้วน ทำให้ตบจนเรือพวกนั้นกระเด็นไป พร้อมกับผู้ฝึกตนบนเรือที่พากันกรีดร้องออกมา ก่อนที่จะตกลงไปในทะเลในทันที ระดับของพวกเขานั้นต่ำเกินไป ไม่มีทางที่จะบินได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงจมลงไปในทะเลเท่านั้น
และในทะเลก็ได้มีสัตว์อสูรจำนวนมากรออยู่ รอให้มนุษย์ตกลงไป จะได้จัดการกัดกินให้สาสม
“มันคืออสูรน้ำเทียนสุ่ย!” หลินเฉียงกับพวกตกใจ มันปรากฏขึ้นห่างจากพวกเขาไม่ถึง 20 เมตร มันจะต้องส่งผลกระทบกับพวกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้น เขาจึงรีบพูดออกมา “เร็ว รีบพายเรือออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!”
ทันใดนั้นพวกเขาก็ราวกับคนบ้า พร้อมกับจ้วงพายในมือพายเรือออกห่างจากอสูรน้ำเทียนสุ่ยนี้
“น้องชาย เจ้าก็รีบช่วยพวกเราพายเร็ว หากช้ากว่านี้ พวกเราจะต้องตายอย่างแน่นอน บัดซบเอ๊ย ทำไมอยู่ๆ อสูรน้ำเทียนสุ่ยถึงได้ปรากฏขึ้น พวกเขายังไม่ทันเข้าไปในเขตน้ำลึกเลยด้วยซ้ำ!” หลินเฉียงทั้งตกใจทั้งโกรธ
ระดับของอสูรน้ำเทียนสุ่ยนี้ไม่ต่ำเลย มันมีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณ แม้ว่าจะไม่ได้สูงมาก แต่หากคิดจะจัดการกับพวกเขาแล้ว ถือว่ามากเกินพอ
อี้เทียนหยุนมองไปยังอสูรน้ำเทียนสุ่ยตนนี้ พร้อมกับหรี่ตาแล้วพูดขึ้นว่า “อสูรน้ำเทียนสุ่ยตนนี้เป็นระดับสัตว์ปีศาจ การปรากฏตัวที่นี่ของมัน ถือว่ามีพลังไม่ต่ำเลย ดูเหมือนว่าที่นี่จะเปลี่ยนไปมากจริงๆ ถึงกับมีสัตว์อสูรระดับสูงปรากฏขึ้น…..”
“เจ้าหนู เจ้าจะยืนนิ่งทำอะไร รีบพายเข้าสิ!” เฉียนล่างที่อยู่ใกล้ๆ ตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับจ้วงพายในมือด้วยความเร็วสูงสุด เพราะหากช้า นั่นก็เท่ากับตาย
แต่เสียงของเขาไม่ทันจะจบ อสูรน้ำเทียนสุ่ยก็พลันสังเกตเห็นพวกเขา ในบริเวณนี้มีเรืออยู่สองลำ ลำหนึ่งถูกตบปลิวไปแล้ว ที่เหลืออยู่คือลำของพวกเขา
“คำราม!”
อสูรน้ำเทียนสุ่ยร้องคำรามออกมา พร้อมกับฟาดฝ่ามือขนาดใหญ่ของมันเข้าใส่เรือของพวกเขาอย่างแรง ความเร็วของฝ่ามือนี้เร็วมาก ต้องการที่จะตบฝังพวกเขาลงไปในน้ำ
“จบแล้ว พวกเราตายแน่…..”
หลินเฉียงกับพวกเผยแววตาแตกตื่นออกมา การโจมตีที่เล็งใส่พวกเขานี้ แล้วจะให้พวกเขาหนีจากมันยังไง?
“เร็ว รีบกระโดดลงจากเรือเร็ว! นี่มีโอกาสเล็กน้อยที่พวกเราจะรอด จากนั้นก็ว่ายน้ำออกไปหาคนช่วย!” หลินเฉียงตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว พวกเราบอกให้พวกเขารีบกระโดดลงน้ำ หากถูกตบลงน้ำไป ต่อให้ไม่ตายก็พิการ
“ไม่ต้องโดดลงไปหรอก พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ให้ข้าจัดการเอง” อี้เทียนหยุนบอกให้พวกเขาอยู่เฉยๆ พวกเขาทั้งสามพากันตกใจ เฉียนล่างกับคนอื่นๆ พากันสงสัยว่าเขาปัญญาอ่อน คิดว่าตนเองจะสามารถจัดการกับอสูรน้ำเทียนสุ่ยได้อย่างงั้นเหรอ?
คำพูดเพิ่งจะจบ อี้เทียนหยุนก็ชี้นิ้วปล่อยลูกพลังออกไป “เปรี้ยง” เสียงคลื่นอัดอากาศถูกยิงออกไปเบาๆ กระแทกร่างอสูรน้ำเทียนสุ่ยจนกระเด็นไป จากนั้นก็แน่นิ่ง แล้วจมลงทะเลไป
พร้อมๆ กับคลื่นอัดอากาศที่กระจายออก ทำให้น้ำทะเลพากันเดือดพล่าน จากนั้นสักพัก ก็มีร่างสัตว์อสูรจำนวนมากลอยขึ้นมาจากใต้ทะเล และเมื่อดูดีๆ แล้ว ก็พบว่าพวกมันแต่ละตัวต่างก็ตายไปแล้ว กระทั่งร่างอสูรน้ำเทียนสุ่ยที่จมลงไปเมื่อครู่นี้ ก็ได้ลอยขึ้นมาเหมือนกัน ทำให้ผู้ฝึกตนรอบๆ ที่ได้เห็นพากันตกตะลึง
ตกตะลึง อสูรน้ำเทียนสุ่ยที่น่าสะพรึง ตายไปแล้วเหรอ?
หลินเฉียงกับพวกเห็นอย่างชัดเจน พวกเขาเห็นเพียงอี้เทียนหยุนชี้นิ้วออกไป จากนั้นก็มีลูกพลังลูกหนึ่งถูกปล่อยออกไป จากนั้นลูกพลังนั้นก็ได้ซัดฝ่ามือนั้นจนกระเด็นไป แท้จริงแล้วนี่มันพลังอะไรกันแน่?