ตอนที่ 752: เผ่าอสูรสีชาด
พูดได้ว่าเงือกสาวตรงหน้านี้งดงามเป็นอย่างมาก ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ ถือเป็นระดับชั้นยอดอย่างแน่นอน แต่ด้วยความที่มีหางเป็นปลาของเธอ จึงทำให้เขาไม่สามารถที่จะรู้สึกหลงใหลไปกับเธอได้จริงๆ
และที่สำคัญคือเขามีชิเสวี่ยอวิ๋นอยู่แล้วด้วย จึงทำให้เขาไม่มีความคิดใดใดกับเธอแม้แต่น้อย ชิเสวี่ยอวิ๋นนั้นงดงามมากกว่าเธอ อีกทั้งยังมีความรู้สึกที่มากกว่าด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใด
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว!”
อี้เทียนหยุนโยนเธอลงใกล้ๆ ทำให้เธอลอยอยู่เหนือน้ำ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนแบบนั้นหรือไง?”
“กะ ก็มนุษย์อย่างพวกเจ้าเป็นแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ ชอบที่จะมาจับเผ่าเงือกของพวกเราเพื่อไปเป็นของเล่น ไม่ก็สินค้า!” เงือกสาวมองมาที่เขาพร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจ “ท่านย่าบอกข้าว่า อย่าได้เชื่อใจเผ่ามนุษย์!”
“แต่ข้าเพิ่งช่วยเจ้าเมื่อกี้นี้ ดังนั้น การร้องขออะไรบางอย่างคงไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลหรอกจริงไหม? ท่านย่าของเจ้าไม่บอกเจ้าเหรอ ว่าให้ตอบแทนคนที่ช่วยเจ้าน่ะ?” อี้เทียนหยุนพูดตามที่ใจคิด
“มะ มีเรื่องนี้จริงๆ….” เงือกสาวขมวดคิ้ว จากนั้นก็พยักหน้าพูดออกมา
อี้เทียนหยุนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ต้องยิ้มออกมา เขาก็แค่พูดออกไปตามที่ใจคิดเท่านั้น ใครจะรู้ว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ สาวน้อยนางนี้ดูแล้วช่างไร้เดียงสาจริงๆ เชื่อในสิ่งที่ย่าของเธอบอกทุกอย่าง
“ในเมื่อรู้แล้วก็ดี ยิ่งกว่านั้น ข้ายังไม่ได้คิดจะเอาเปรียบเจ้าด้วย เอาจริงๆ แล้ว ข้าไม่ได้จะมาจับเจ้า ก็แค่ต้องการอยากจะถามเรื่องบางอย่างจากเจ้า ก็เท่านั้นเอง” อี้เทียนหยุนพูด
“จริงเหรอ!?” เงือกสาวสีหน้าเต็มไปด้วยความดีใจทั้งประหลาดใจ หากเป็นอย่างนี้ เธอก็จะสามารถกลับไปได้น่ะสิ
“เจ้าคิดว่าข้าจะหลอกเจ้าหรือไง?” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา
“อืม…. เจ้าก็ดูไม่เหมือนคนชั่วจริงๆ นั่นล่ะ คนชั่วพวกนั้นที่จับพวกพี่สาวข้าไป พวกมันไม่พูดมากอย่างนี้หรอก” เงือกสาวเอียงศีรษะ เหมือนกับคิดเป็นจริงเป็นจัง
อี้เทียนหยุนก็พลันดีใจ คำพูดนี้ก็ถูก คนสวยเช่นนี้ ย่อมเป็นของดีในตลาดอย่างแน่นอน ปกติแล้วคงจะถูกซื้อไปเป็นทาสหรืออะไรต่างๆ ให้กับพวกขุนนางหรือพวกคหบดี ด้วยใบหน้าที่งดงาม รวมถึงความพิเศษ นี่สามารถมอบความสนุกให้กับพวกเขาได้
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่มีความสนใจในสิ่งนี้ ต่อให้จะงดงามสักเพียงใด สำหรับเขาแล้วก็ไม่ได้มีความหมาย
“เอาล่ะ เจ้าอยากจะถามอะไรก็ถามมา เมื่อข้าตอบเจ้าแล้วทุกอย่างจะได้ถือว่าจบ” เงือกสาวคิดอย่างระวัง จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดออกมา
“ดีมาก งั้นเจ้าก็แค่ตอบข้ามาว่า มีอสูรทะเลกลุ่มหนึ่งที่ลากวิหารขนาดยักษ์ไป เจ้ารู้ไหมว่าอยู่ที่ไหน?” อี้เทียนหยุนถาม
“อสูรทะเลลากวิหารขนาดยักษ์ไปอย่างงั้นเหรอ…..” เงือกสาวคิด จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความตกใจ “เจ้าหมายถึงเผ่าอสูรสีชาดอย่างงั้นเหรอ? พวกมันโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก แม้แต่พวกเราเองยังต้องยอมถอยให้พวกมันถึงสามส่วน หากว่าเข้าไปใกล้เขตพวกมัน แม้แต่พวกเราเองยังต้องถูกจับ เจ้าคงไม่คิดจะไปที่เผ่าอสูรสีชาดนี่หรอกนะ?”
“ฉลาดมาก เจ้าพูดถูกแล้ว!” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ทันใดนั้นก็ได้ข้อมูลสำคัญมา ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่เผ่าเดียวกัน
เผ่าพันธุ์นั้นมีอยู่มากมาย อย่าว่าแต่ในทะเลเลย แม้แต่บนพื้นดินก็มีอยู่หลากหลายเผ่า เพียงแต่เผ่ามนุษย์มีอยู่มากที่สุดก็เท่านั้น ดังนั้น เผ่าอื่นๆ จึงเหมือนหาได้ยาก นอกจากนี้ อีกฝ่ายก็ไม่มีอะไรให้ดู ทั้งตอนนี้ยังอยู่ด้วยกันอย่างสงบ ตราบเท่าที่ไม่สร้างปัญหา ก็จะไม่มีเรื่องอะไร
“แต่ว่าพวกมันอันตรายมากเลยนะ เจ้าอย่าไปเลย! พวกมันมีราชาอสูรทะเลที่น่ากลัวมาก ออกคุกคามเผ่าต่างๆ รอบๆ อยู่เป็นประจำ แถมยังจับเผ่ามนุษย์ไปด้วย…. ไม่รู้ว่าเอาไปทำอะไร หากมีใครเข้าไปใกล้อาณาเขตของพวกมัน ก็จะถูกจับไปทันที” เงือกสาวเตือนเขาด้วยความเป็นห่วง
อี้เทียนหยุนเอามือลูบคาง จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ยังไงข้าก็ต้องไปหาพวกมัน ไม่ใช่ว่าพวกมันเป็นคนเคลื่อนย้ายวิหารไปหรอกเหรอ เจ้ารู้ไหมว่าพวกมันเคลื่อนย้ายวิหารไปที่ไหน?”
“เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจเท่าไหร่ ได้ยินเพียงแต่ว่ากลุ่มอสูรสีชาดได้เคลื่อนย้ายของบางอย่าง แต่จะเป็นอะไรนั้นข้าไม่ค่อยแน่ใจ รู้แต่ว่าใครที่เข้าไปใกล้ก็จะถูกพวกมันฆ่า พวกเราก็เลยไม่รู้ว่าพวกมันย้ายไปที่ไหน” เงือกสาวตอบตามจริง
อี้เทียนหยุนมีท่าทางครุ่นคิด พร้อมกับพยักหน้าออกมา ดูเหมือนว่าพวกเธอคงจะไม่รู้รายละเอียดของเรื่องนี้เท่าไหร่ เผ่าอสูรสีชาดดูเหมือนจะค่อนข้างเอาแต่ใจ อีกทั้งยังมีพลังแข็งแกร่งด้วย เหมือนจะเป็นผู้ปกครองทะเลแถบนี้ ทำให้ไม่มีใครกล้าต่อต้านพวกมัน
“แล้วเจ้ารู้ไหมว่าพวกมันอาศัยอยู่บริเวณไหน?” อี้เทียนหยุนถาม
“นี่เจ้าจะไปจริงๆ เหรอ? พวกมันอันตรายมาก ข้าว่าเจ้าอย่าได้ไปเลยดีกว่า แม้ว่าระดับของเจ้าจะดี แต่หากเข้าไปใกล้พวกมัน เจ้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!” เงือกสาวยังไม่ลืมที่จะเตือนเขา
“เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องมายุ่งหรอก ข้าต้องการไปที่เผ่าอสูรสีชาดเพื่อเอาของบางอย่างคือ เจ้าแค่ชี้นิ้วบอกทางข้าก็พอ เท่านี้ก็จะถือว่าหายกันกับเรื่องที่ข้าช่วยเจ้าไว้” อี้เทียนหยุนโบกมือ หญิงสาวคนนี้ดีมาก แต่จะให้เขายอมปล่อยเรื่องนี้ไป ย่อมเป็นไปไม่ได้
“ไม่ได้ หากเจ้าตาย ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่ได้ตอบแทนเจ้าเท่านั้น แต่กลับเป็นการทำร้ายเจ้าแทน!” เงือกสาวไม่ยอมบอกแต่โดยดี
อี้เทียนหยุนแทบจะเป็นบ้าจนอยากจะร้องไห้ออกมา หญิงสาวนางนี้โชคดีที่เจอตน หากไปเจอกับคนอื่นเข้า เกรงว่าต่อให้ถูกขายก็ยังช่วยคนอื่นนับเงินด้วยซ้ำ
“เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องไป เผ่าอสูรสีชาดมีความแค้นด้วยกันกับข้า ข้าจำเป็นต้องไปเอาคืน แล้วอย่างนี้เจ้ายังจะขวางข้าอีกเหรอ?” อี้เทียนหยุนรู้สึกหมดหนทางอย่างมาก หากยังไม่ได้อีก คราวนี้เขาจะใช้เนตรเสน่ห์เพื่อให้เธอบอกเขาจริงๆ แล้ว
“เจ้ามีความแค้นกับเผ่าอสูรสีชาดอย่างงั้นเหรอ?” เงือกสาวถามอย่างสงสัย
“อืม จะว่าอย่างนั้นก็ได้ สิ่งที่พวกมันเคลื่อนย้ายไปนั้นเป็นของของข้า ดังนั้นจึงนับว่ามีความแค้นต่อกัน”
อี้เทียนหยุนไม่เคยเห็นเผ่าอสูรสีชาดมาก่อน แต่พวกมันมาเคลื่อนย้ายแท่นบูชาเทพเติ้งเทียนของเขาไป อย่างนี้ก็เท่ากับมีความแค้นด้วยกันกับเขา ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นความแค้นที่ใหญ่หลวง! นี่เป็นของที่เอาไว้ใช้ต่อต้านปีศาจร้าย แน่นอนว่าไม่สามารถให้ใครเอามันไปได้ตามใจ
เงือกสาวเงียบไป จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ดี ในเมื่อไม่ว่ายังไงเจ้าก็จะไป งั้นข้าก็จะไปกับเจ้าด้วย!”
“หืม? เจ้าก็จะไปด้วย ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าที่นั่นอันตรายมากหรอกเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างสงสัย
“ใช่ แต่พวกมันก็มีความแค้นกับข้าเช่นกัน พวกมันได้ฆ่าพ่อแม่ของข้าไป….” เบ้าตาของเงือกสาวแดงก่ำ พร้อมกับกัดฟันพูดว่า “อีกทั้งพวกมันยังจับเหล่าพี่สาวของข้าไปมากมาย ข้าจึงปรารถนาที่จะสังหารพวกมันให้ได้!”
“งั้นเจ้าก็รีบนำทางข้า แล้วข้าจะช่วยแก้แค้นให้กับเจ้า” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม
นัยน์ตาคู่งามของเงือกสาวเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เจ้ามากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปยังที่อยู่อาศัยของพวกเรา ข้าต้องไปเอาของบางอย่าง จากนั้นค่อยนำทางเจ้า หากเจ้าไปโดยไม่มีข้านำทาง ย่อมไม่มีทางที่จะไปถึงที่ที่เผ่าอสูรสีชาดอยู่ได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน”
“ตกลง งั้นเจ้าก็นำทางได้เลย” อี้เทียนหยุนตอบ
เงือกสาวพยักหน้า จากนั้นก็ดำลงไปในน้ำ อี้เทียนหยุนดำตามลงไป เพิ่งจะดำลงไป เงือกสาวก็เป่าฟองอากาศใส่เขา ครอบลงที่หัวของเขา
“นี่จะช่วยให้เจ้าหายใจในน้ำได้ ข้ารู้ว่าเผ่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าหายใจในน้ำไม่ได้” เงือกสาวยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “จับมือข้าไว้ ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำของพวกเจ้าช้ามาก ไม่สามารถเทียบกับเผ่าเงือกของพวกเราได้”
อี้เทียนหยุนรู้สึกเหมือนมีฟองครอบลงบนหัว จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา หญิงสาวนางนี้ช่างเอาใจใส่จริงๆ จริงอยู่ที่เผ่ามนุษย์ไม่สามารถหายใจใต้น้ำได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ผู้ที่มีระดับต่ำเท่านั้น แต่สำหรับเขาแล้ว ต่อให้ต้องใช้ชีวิตในนี้ก็ไม่นับว่ามีปัญหาแต่อย่างใด
หลังจากระดับสูงพอ ก็สามารถหายใจได้ตามต้องการ หรือแม้กระทั่งว่าไม่จำเป็นต้องหายใจเลยก็ได้ เพียงแค่ควบคุมลมหายใจภายในร่าง พร้อมกับโคจรพลังแห่งชีวิตอย่างต่อเนื่อง ก็จะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย
