ตอนที่ 755: ทำร้ายคน
“สหายท่านนี้ ต้องขอบใจเจ้ามาที่ช่วยองค์หญิงไว้ เมื่อครู่นี้เป็นแค่การป้องกันตัว หวังว่าเจ้าจะไม่ถือสา” ผู้อาวุโสป๋อมองสำรวจอี้เทียนหยุน หวังว่าจะพบอะไรในตัวเขา แต่ก็ต้องผิดหวังที่ไม่พบอะไร แม้แต่พลังของเขาอยู่ที่ระดับไหนก็ยังมองไม่ออก
อี้เทียนหยุนมีระดับเหนือกว่าเขามาก แล้วเขาจะมองเห็นได้ยังไงกัน
“ไม่เป็นไร ข้าเองก็ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า ข้างนอกออกจะอันตราย ทำไมเจ้าถึงออกไป ก่อนหน้านี้ข้าก็ลืมถาม ในฐานะองค์หญิง แต่ทำไมเจ้าถึงออกไปข้างนอกคนเดียว” อี้เทียนหยุนส่ายหัว คิดว่าทำไมถึงไม่ถามว่าหลานชิงหลิงถึงออกไปข้างนอกคนเดียว จนทำให้ถูกสัตว์อสูรที่ร้ายกาจไล่ล่าเอา
“ข้าออกไปหาหญ้าหยกวารีเพื่อเอามารักษาท่านย่า…..” หลานชิงหลิงที่เพิ่งพูดออกมา ก็ถูกผู้อาวุโสป๋อถลึงตาใส่
“นี่เป็นความเสียหายต่อหน่วยป้องกันของเรา คำพูดของเจ้านี้ ช่างเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ” ผู้อาวุโสป๋อถลึงตาใส่หลานชิงหลิง จากนั้นก็พูดว่า “ตอนนี้สถานการณ์คับขัน เผ่าอสูรสีชาดได้ไล่ตามมา หากว่าถูกไล่ทัน พวกเราจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน”
และตอนนี้เอง อี้เทียนหยุนก็สัมผัสได้ว่า วาฬทะเลตัวนี้กำลังแหวกว่ายเข้าไปยังก้นทะเลด้วยความเร็วที่น่าทึ่งเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าคิดจะว่ายหลบไปที่ไหน
อี้เทียนหยุนหรี่ตาจ้องไปที่ผู้อาวุโสป๋อ ที่เขารีบพูดแทรกเข้ามา เห็นได้ชัดว่าต้องการเปลี่ยนเรื่อง ไม่ต้องการให้เขารู้ถึงอาการบาดเจ็บของย่าหลานชิงหลิง
ในเมื่อหลานชิงหลิงเป็นองค์หญิง อย่างงั้น ย่าของเธอก็เชื่อได้ว่าคงจะเป็นระดับราชาเงือก มีสิทธิ์บัญชาการที่นี่อย่างสูงสุด การที่ราชาเงือกได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้ การที่คนที่แข็งแกร่งที่สุดของตนได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้แน่นอนว่าย่อมก่อให้เกิดช่องโหว่ขึ้นอย่างแน่นอน
เอาจริงๆ แล้ว ผู้อาวุโสป๋อกลัวว่าอี้เทียนหยุนนั้นจะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไป แล้วทำให้เผ่าเงือกต้องประสบกับการโจมตีที่ก่อให้เกิดปัญหา
หลานชิงหลิงนั้นไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ จึงได้แสดงสีหน้าหดหู่ออกมา “ขะ ข้าก็แค่อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของท่านย่า หากท่านย่าไม่ดีขึ้น มันจะต้องเป็นปัญหาอย่างแน่นอน…..” เบ้าตาของเธอแดงก่ำ มีท่าทางปวดใจอย่างมาก
ผู้อาวุโสป๋อรู้สึกอึดอัด องค์หญิงของตนผู้นี้ช่างใสซื่อนัก เห็นได้ชัดว่าเขาได้หาทางเปลี่ยนเรื่องไปแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าหลานชิงหลิงจะเปลี่ยนเรื่องกลับมาอีก
นี่ทำให้อี้เทียนหยุนยิ้มออกมา หลานชิงหลิงนี้ช่างใสซื่อจริงๆ แต่ค่าความชอบที่เธอมีต่อเขาก็ได้มาถึง 150 แต้มแล้ว ถือว่าอยู่ในระดับเชื่อมั่นในตัวเขา
ในตอนแรกนั้นเธอไม่ได้เชื่อเขา แต่ว่าหลังจากนั้นก็ได้ค่อยๆ เชื่อถือเขาขึ้นมา ถึงยังไงนี่ก็เป็นเพราะความใสซื่อในตัวเธอ ทำให้เธอเชื่อคนอื่นได้ง่าย
“แล้วท่านย่าของเจ้าบาดเจ็บได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนมองเธอแล้วถามขึ้น
เมื่อหลานชิงหลิงได้พูดออกไปเมื่อกี้นี้แล้ว ตอนนี้ต่อให้ผู้อาวุโสป๋อจะอยากเลี่ยงก็ไม่สามารถเลี่ยงได้แล้ว ทำได้เพียงปล่อยให้เธอพูดต่อไป
“เป็นเพราะพวกเผ่าอสูรสีชาดนั่นล่ะ ไม่อย่างนั้นท่านย่าจะบาดเจ็บได้ยังไง แต่ว่าระหว่างที่พักรักษาตัว อาการบาดเจ็บก็ได้กลายเป็นสาหัส จำเป็นต้องใช้หญ้าหยกวารีถึงจะสามารถรักษาได้ แต่ว่าข้าหาอยู่ข้างนอกเป็นนานก็ไม่เจอหญ้าหยกวารีนี้สักที” หลานชิงหลิงถอนหายใจ “ตอนนี้ในเผ่าก็ไม่มีใครหาหญ้าหยกวารีพบเช่นกัน แล้วตอนนี้ยังมาถูกเผ่าอสูรสีชาดโจมตีอีก….”
ที่แท้ที่เธอออกไปคนเดียวก็เพื่อที่จะไปตามหาหญ้าหยกวารี หญ้าหยกวารีนี้ถือเป็นสมุนไพรวิญญาณขั้น 4 ซึ่งไม่ง่ายที่จะตามหา ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรวิญญาณหายากที่มีเฉพาะในทะเลก็ว่าได้
“เรื่องนี้ หลังจากที่สหายท่านนี้จากไป หวังว่าจะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟัง ข้าเกรงนี้เรื่องนี้อาจจะเป็นปัญหาได้” ผู้อาวุโสป๋อถอนหายใจ ทำได้เพียงเชื่อว่าเขาจะไม่พูดออกไปเท่านั้น
“เรื่องนี้ผู้อาวุโสป๋อวางใจได้ ข้าจะไม่พูดออกไปอย่างแน่นอน” อี้เทียนหยุนคิดอย่างตลก แต่นี่ก็เป็นเรื่องสาหัสของพวกเขาจริงๆ
“ไม่พูดก็ดีแล้ว” ผู้อาวุโสป๋อพยักหน้า ขณะที่ในใจรู้สึกเชื่อขึ้นมาอีกหลายส่วน “ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหลบหนีเผ่าอสูรสีชาดอยู่ คาดว่าคงจะหนีได้อย่างง่ายดาย เอาไว้หลังจากที่สถานการณ์มั่นคงแล้ว เจ้าก็จากไปได้ เชื่อว่าสถานการณ์ที่นี่เจ้าก็คงรู้ดี หากว่ายังอยู่ที่นี่ต่อ มันค่อนข้างจะอันตราย”
คำพูดนี้ของผู้อาวุโสป๋อมีความหมายขับไล่แขก ถึงยังไงการมีคนนอกอยู่ด้วย มันทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยจริงๆ
“เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก ที่จริงพวกท่านไม่จำเป็นต้องหนีก็ได้ เผ่าอสูรสีชาดนี้ ข้าสามารถจัดการได้” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“นี่….” พวกผู้อาวุโสป๋อพากันมีสีหน้าแข็งค้าง น้ำเสียงนี้ช่างอวดดีจริงๆ แม้แต่พวกเขายังไม่สามารถจัดการได้ แต่เจ้าหนูนี่เป็นใคร ถึงได้ออกปากว่าตนสามารถจัดการได้?
“องค์หญิง มนุษย์ที่ท่านพามานี้ คงไม่ใช่พวกต้มตุ๋นใช่ไหม? ทำไมแค่ข้าไม่ได้มาที่นี่สักพัก ก็มีคนมาพูดจาเหลวไหลแล้ว!” ในตอนนี้เอง ได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวออกมา พร้อมกับเข้ามาแทรกกลางระหว่างเขาและหลานชิงหลิง ก่อนที่จะมองมาที่เขาด้วยความระมัดระวัง
อี้เทียนหยุนมองไปที่เด็กหนุ่มคนนี้ ตอนที่เขาเพิ่งจะเข้ามา เด็กหนุ่มคนนี้ก็ได้จ้องมาที่เขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ต่อให้จะรู้ว่าเขาเป็นคนช่วยหลานชิงหลิง แต่เขาก็ยังเลือกที่จะไม่เชื่ออยู่ดี
“ไห่เสี่ยวพ่าง เจ้าคิดจะทำอะไร!” หลานชิงหลิงขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่อี้ไม่ใช่พวกต้นตุ๋น เขาช่วยข้าไว้จริงๆ ช่วยข้าจัดการกับอสูรหลงไห่ หากไม่มีพี่ใหญ่อี้ ป่านนี้ข้าคงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว!”
เธอเข้ามายืนอยู่ข้างหน้าอี้เทียนหยุน พร้อมกับพูดกับไห่เสี่ยวพ่าง ยังไงก็ตาม ชื่อนี้ก็น่าสนใจจริงๆ ไห่เสี่ยวพ่างคนนี้ก็ไม่ได้อ้วนสักหน่อย (ไห่ เป็นแซ่ แปลว่าทะเล, เสี่ยวพ่าง แปลว่า อ้วนน้อย) ออกจะดูผอมไปซะด้วยซ้ำ แต่กลับถูกเรียกว่าอ้วนน้อย ไม่รู้ว่าอ้วนที่ตรงไหน
“ต่อให้จะจัดการกับอสูรไห่หลงได้แล้วยังไง แต่การที่เขาบอกว่าสามารถจัดการกับเผ่าอสูรสีชาดได้ ไม่ใช่ว่านี่ก็เป็นคำพูดเหลวไหลหรอกเหรอ? ขนาดจักรพรรดินียังจัดการไม่ได้ แต่เขากลับบอกว่าตนสามารถจัดการได้ ไม่ใช่ว่าจะอวดดีไปหน่อยหรือไง” ไห่เสี่ยวพ่างจ้องมาที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้น “เผ่ามนุษย์ของเจ้ามักจะชอบพูดจาใหญ่โต ต้องการแสดงว่าตนนั้นร้ายกาจ แต่ใครๆ ก็รู้ว่ายามที่ต้องเผชิญกับอันตราย พวกเจ้ากลับเป็นฝ่ายที่วิ่งหนีไวกว่าใครเพื่อน!”
เจ้าหมอนี่ก้าวออกมาแสดงตนเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน อีกทั้งยังพ่นคำพูดออกมาอย่างร้ายกาจ ยังไงก็ตาม เมื่อฟังดีๆ แล้ว มันก็เป็นจริงอย่างที่เจ้าหมอนี่พูด พวกเขาหลายคนต่างก็เป็นพวกคุยโตกันทั้งนั้น แต่อี้เทียนหยุนนั้นไม่ใช่
“เจ้าชอบองค์หญิงอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนไม่เพียงไม่โกรธ แต่กลับถามขึ้นมาแทน
ทุกคนคิดว่าอี้เทียนหยุนจะต้องปฏิเสธคำพูดนี้ แต่ใครจะคิดว่าเขากลับถามคำถามนี้ขึ้นมาแทน
ไห่เสี่ยวพ่างพลันเงียบขึ้นมาทันที พร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ ใบหน้าของเขากลับเป็นการตอบคำถามอย่างชัดเจน อีกทั้งตัวเขายังดุเหมือนกับจะระเบิดออกมาอย่างไงอย่างงั้น
“จะ เจ้าพูดเหลวไหลอะไร ขะ ข้าไม่ได้…..” ไห่เสี่ยวพ่างพูดพลางถอยหลังไปสองก้าว ขณะที่สายตาหันไปมองหลานชิงหลิงพร้อมกับพูดตะกุกตะกัก
การกระทำนี้แม้แต่ผู้อาวุโสป๋อยังเห็นได้ชัด แต่หลานชิงหลิงกลับพูดอย่างใสซื่อว่า “ไห่เสี่ยวพ่าง เจ้าชอบข้าเหรอ? แต่ว่าข้าไม่ได้ชอบเจ้านะ….”
“เปรี้ยง!”
เหมือนกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางทะเล สีหน้าของไห่เสี่ยวพ่างกลายเป็นซีดขาว การปฏิเสธที่ทั้งเรียบง่ายและไม่อ้อมค้อมนี้ ถูกเอ่ยออกมาโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาคิด ทำให้อี้เทียนหยุนแทบจะสำลักออกมา เจ้าชอบข้า แต่ข้าไม่ชอบเจ้า!
คำพูดนี้ออกจะรุนแรงเกินไป อีกทั้งยังพูดต่อหน้าคนจำนวนมากอีก พูดไปแล้ว สมองของหลานชิงหลิงนี้เหมือนกับไม่มีกล้ามเนื้อเลย…..
“ขะ ข้าไปล่ะ!” ไห่เสี่ยวพ่างเอามือปิดหน้าพร้อมกับหันหลังวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ
“องค์หญิงหลาน เจ้าได้ทำร้ายคนไปแล้วนะ” อี้เทียนหยุนพูด
“ทำร้ายคน ทำร้ายใคร?” หลานชิงหลิงกระพริบตาปริบๆ ทำให้หลายคนต่างก็พากันยิ้มอย่างขมขื่น
“เอาล่ะ ไม่ใช่ว่าย่าของเจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างงั้นเหรอ เรื่องนี้ข้าสามารถช่วยรักษาให้ได้ ในเมื่อไม่เชื่อว่าข้าสามารถจัดการกับเผ่าอสูรสีชาดได้ งั้นก็เปลี่ยนให้ข้าช่วยรักษาคนแทนเป็นไง?” อี้เทียนหยุนยิ่งมองสาวน้อยนางนี้ก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตา ดังนั้นจึงคิดจะช่วยรักษาย่าของเธอให้