ตอนที่ 756: จักรพรรดินี
“พี่ใหญ่อี้ ท่านรักษาได้? แต่ไม่มีหญ้าหยกวารีอย่างนี้ จะรักษาได้จริงๆ?” หลานชิงหลิงพูดอย่างสงสัย
“บางครั้ง การรักษาก็ไม่จำเป็นต้องใช้หญ้าหยกวารี” ในน้ำเสียงที่พูดออกมาของอี้เทียนหยุนแฝงไปด้วยความมั่นใจ หากเป็นคนอื่น แน่นอนว่าต้องใช้หญ้าหยกวารีนี้เป็นตัวช่วย ถึงจะสามารถรักษาได้
แต่ว่าสำหรับเขาแล้วไม่จำเป็น เพียงแค่พลังวิญญาณที่บริสุทธิ์ ก็สามารถรักษาได้อย่างง่ายดายแล้ว
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็รีบตามข้าไปรักษาท่านย่าเร็ว!” หลานชิงหลิงใสซื่อจนน่ากลัว เชื่อในคำพูดของอี้เทียนหยุนในทันที พร้อมกับลากเขาไปทางที่ราชาเงือกอยู่อย่างรวดเร็ว
“องค์หญิง รอเดี๋ยวก่อน!” ผู้อาวุโสป๋อตกใจจนรีบออกมาขวางอยู่ด้านหน้าพวกเขา ในใจรู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้พูดอะไร องค์หญิงของตนถึงได้เชื่อไปซะหมด นี่มันง่ายที่จะถูกหลอกมากนะ
“ผู้อาวุโสป๋อ มีอะไรเหรอ? พี่ใหญ่อี้สามารถรักษาท่านย่าได้ ควรจะรีบพาเขาไปสิถึงจะถูก!” หลานชิงหลิงถามอย่างสงสัย
“เรื่องนี้ต้องถามให้ละเอียดก่อน…..” ในใจผู้อาวุโสป๋อรู้สึกไม่เชื่อ ดังนั้นจึงได้จ้องมาที่อี้เทียนหยุนแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าแน่ใจนะว่าสามารถรักษาจักรพรรดินีของพวกเราได้? แม้แต่อาการบาดเจ็บเป็นยังไงเจ้าก็ยังไม่เห็น แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าตนสามารถรักษาได้?”
เขาเริ่มคิดแล้วตอนนี้ว่าอี้เทียนหยุนเป็นพวกชอบคุยโต หรือกระทั่งอาจจะเข้ามาก่อกบฏจากข้างใน ตั้งแต่แรกที่มา ปากก็เอาแต่พูดแต่เรื่องโกหก ทำให้ค่าความชอบที่มีต่อเขาลดลงอย่างมาก ตอนแรกก็บอกว่าสามารถจัดการกับเผ่าอสูรสีชาดได้ มาตอนนี้ยังบอกว่าสามารถรักษาได้อีก พูดราวกับว่าปัญหาทุกอย่างเขาสามารถจัดการได้อย่างไงอย่างงั้น
“เมื่อข้าบอกว่าไม่มีปัญหาก็คือไม่มีปัญหา ข้าไม่เคยพูดเหลวไหล” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ปกติแล้วอาการบาดเจ็บที่ต้องใช้หญ้าหยกวารีในการรักษาก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากอาการบาดเจ็บทางกาย ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นประเภทสาหัสด้วย ข้าเดาว่าคงจะถูกการโจมตีที่แข็งแกร่งอะไรสักอย่างเข้า ทำให้กระดูกได้รับความเสียหายอย่างหนัก และสำหรับเผ่าเงือกอย่างพวกเจ้า กระดูกที่ว่าคงจะเป็นกระดูกตรงส่วนหาง เกรงว่าอาการบาดเจ็บนี้ คงส่งผลกระทบกับกระดูกสันหลังด้วยใช่ไหมล่ะ?”
“เจ้ารู้ได้ยังไง!?” ในใจพวกผู้อาวุโสป๋อสั่นสะท้านอย่างแรง แต่ก็เป็นอย่างที่อี้เทียนหยุนพูดจริงๆ
“ก็แค่วิเคราะห์ดู ไม่เห็นมีอะไรยาก อาการบาดเจ็บนี้ต้องการการรักษาจากหญ้าหยกวารีอย่างรวดเร็ว แต่ว่าสำหรับข้าแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้หญ้าหยกวารีก็สามารถช่วยรักษาจักรพรรดินีของพวกเจ้าได้” อี้เทียนหยุนพูด
เรื่องนี้แค่วิเคราะห์ดูก็ไม่มีอะไรยาก โดยเฉพาะยาที่ต้องใช้หญ้าหยกวารีเป็นตัวหลัก เพียงพริบตาเขาก็เดาอาการออกมาได้แล้ว เมื่อกระดูกหักทั้งร่าง ต่อให้เป็นราชาเงือกที่มีพลังเหนือกว่าระดับวิญญาณเที่ยงแท้ หรือต่อให้เป็นระดับราชาวิญญาณ ก็ไม่สามารถที่จะรักษาให้ฟื้นกลับมาได้เหมือนเดิมในทันทีได้
และที่เขาเดานั้น ราชาเงือกของที่นี่ อย่างมากก็อยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้เท่านั้น ภายใต้พลังระดับนี้ การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่นานมากเช่นกัน เขาสามารถจินตนาการได้ว่า กระดูกหางได้รับการเสียหายนั้น ก็เหมือนกับอาการขาหักนั่นล่ะ
ผู้อาวุโสป๋อกับพวกพากันขมวดคิ้ว พร้อมกับนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าควรจะเชื่อดีไหม? หากว่าพาอี้เทียนหยุนไป แล้วอีกฝ่ายเปิดเผยเจตนาชั่วออกมา อย่างนี้ไม่เท่ากับเป็นการทำร้ายจักรพรรดินีหรอกเหรอ
“ท่านปู่ป๋อ เมื่อพี่ใหญ่อี้บอกว่าสามารถรักษาได้ งั้นก็รีบไปรักษาเถอะ เมื่อกี้นี้ข้าไปดูอาการท่านย่ามา ดูเหมือนว่าอาการจะไม่ดีเท่าไหร่ ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน!” หลานชิงหลิงพูด
งั้นจะให้เชื่อคนนอกอย่างไม่มีเงื่อนไขอย่างนี้ มันดีจริงๆ เหรอ?
“องค์หญิง ทำไมท่านถึงได้เชื่อมนุษย์คนนั้นนัก ต้องรู้นะว่าเผ่าเงือกเราถูกเผ่ามนุษย์จับตัวไปเป็นจำนวนมาก! หากว่าเขามีแผนการร้ายต่อจักรพรรดินี แบบนี้จะไม่เป็นการทำร้ายจักรพรรดินีหรอกเหรอ? องค์หญิง ท่านต้องคิดให้ดีๆ นะ อย่าได้เชื่อคำพูดของคนอื่นง่ายๆ!” ในตอนนี้ องครักษ์ที่อยู่ใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ต้องพูดขึ้นมา
ความเป็นปรปักษ์ของเขายังไม่ลดลง นี่ไม่ใช่แค่คำพูดไม่กี่คำก็สามารถลดลงได้
“ทำไมข้าถึงเชื่อเขาอย่างงั้นเหรอ?” หลานชิงหลิงคิด จากนั้นก็พูดออกมา “เพราะว่าข้าสัมผัสได้ว่าคำพูดของพี่ใหญ่อี้เป็นความจริง ไม่มีคำโกหกแม้แต่น้อย ดังนั้นข้าก็เลยเชื่อเขา!”
พวกเขาพากันส่ายหัวพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา นี่มันเหตุผลอะไรกัน? ฟังคำพูดของคน แล้วสามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือโกหกได้อย่างงั้นเหรอ?
อี้เทียนหยุนที่อยู่ข้างๆ สายตาเป็นประกาย ความสามารถแบบนี้ใช่ว่าจะไม่มีใครเคยมี บางคนแค่ฟังก็สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายพูดความจริงหรือโกหก บางที หลานชิงหลิงอาจจะมีความสามารถนี้ก็ได้
“องค์หญิงหลาน ดูเหมือนว่าเจ้าจะเชื่อข้าสินะ” อี้เทียนหยุนยื่นมือออกไปลูบหัวน้อยๆ ของเธอ
“องค์หญิง ท่านอย่าได้สร้างปัญหา ไม่มีหญ้าหยกวารี ก็ยากที่จะรักษา” ในที่สุด ผู้อาวุโสป๋อก็เลือกที่จะไม่เชื่อ ไม่ว่าอี้เทียนหยุนจะพูดอะไรออกมา ก็ไร้ความหมาย
หลานชิงหลิงพลันทำสีหน้าจริงจัง มองไปที่เขาพร้อมกับพูดออกมาว่า “ท่านปู่ป๋อ ตอนนี้ข้ามีฐานะเป็นว่าที่จักรพรรดินีองค์ถัดไป พวกท่านจงหลีกทางให้ข้า ให้พวกเราไปรักษาท่านย่า! ข้าเชื่อพี่ใหญ่อี้ เชื่อว่าเขาจะไม่หลอกข้า สิ่งที่ข้าได้ยินเป็นความจริง!”
ทันใดนั้นเธอก็เปลี่ยนไป พร้อมกันนั้นก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เหมือนกับจักรพรรดินีที่แท้จริงออกมา!
“นี่….”
พวกเขาพากันมีสีหน้าแข็งค้าง ไม่คิดว่าหลานชิงหลิงจะปลดปล่อยแรงกดดันพร้อมตำแหน่งว่าที่จักรพรรดินีคนถัดไปในตอนนี้
“งั้นก็ได้….” ในที่สุด ผู้อาวุโสป๋อก็ได้แต่พูดยินยอมออกมา “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา แต่ว่าต้องพูดให้เข้าใจกันก่อน หากว่าเจ้ากล้าลงมือแล้วล่ะก็ เผ่าเงือกของพวกเราจะตามไล่ล่าเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนอย่างแน่นอน!”
“มาถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังคิดว่าข้าจำเป็นต้องทำอะไรกับจักรพรรดินีของพวกเจ้าอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เอาจริงๆ แล้ว เผ่าเงือกของพวกเจ้าก็ไม่มีอะไรสักอย่างที่ข้าต้องการ หากไม่ใช่เพราะข้ามีข้อตกลงกับองค์หญิงของพวกเจ้า ข้าก็คร้านที่จะลงมือ”
พวกเขาพากันตกใจ ขณะที่ในใจมากไปด้วยความไม่พอใจ แค่คนนำทาง หลานชิงหลิงบอกมาอย่างนี้ แค่คนนำทางเท่านั้น
ภายใต้การนำของพวกเขา ก็ได้มาถึงห้องด้านในอย่างรวดเร็ว ในตัววาฬทะเลนี้ พวกเขาได้สร้างตึกขึ้น ดูแล้ว ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อวาฬทะเล พวกเขาสร้างห้องให้สอดคล้องกับสภาพภายในของมัน
“ถึงแล้ว!” หลานชิงหลิงเปิดผ้าม่านที่ทำมาจากผลึกใส พร้อมกับพาอี้เทียนหยุนเดินเข้าไปด้านใน ผู้อาวุโสป๋อและองครักษ์จำนวนมาก ตามเข้ามาจับตาดูการกระทำของอี้เทียนหยุนอย่างรวดเร็ว
เพิ่งจะเข้ามา อี้เทียนหยุนก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เย็นไปถึงกระดูก ที่ปกคลุมยังบริเวณนี้
“ท่านย่า ข้าพาคนมาช่วยรักษาท่าน!” หลานชิงหลิงเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนไปถึงตรงด้านหน้าของเปลือกหอยยักษ์ พร้อมกับพูดอย่างดีใจ
อี้เทียนหยุนเงยหน้าขึ้นไปดู และก็พบว่าผู้ที่นอนอยู่ในเปลือกหอยยักษ์นั้น เป็นหญิงสาวที่งดงามโดดเด่นนางหนึ่ง ดูแล้วอย่างมากก็มีอายุไม่เกิน 30 ปี คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นยายของเธอ ส่วนพลังของเธอก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาด อยู่ในระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นที่ 8 เป็นไปอย่างที่เขาคาดการไว้ทุกประการ
กลิ่นอายของเธอในตอนนี้ค่อนข้างอ่อนแอ ขณะที่หางปลาของเธอถูกจับแช่ไว้ในน้ำแข็ง แต่ก็พอที่จะสามารถเห็นสภาพที่น่ากลัวของเกล็ดที่ด้านในอย่างเลือนราง ดูแล้วได้รับความเสียหายหนักมาก พร้อมกับมีเลือดไหลย้อมน้ำแข็งก้อนนั้นจนเป็นสีชมพูอ่อนๆ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้กำลังใช้ก้อนน้ำแข็งเพื่อระงับอาการบาดเจ็บ
“เผ่ามนุษย์อย่างงั้นเหรอ!?” เมื่อจักรพรรดินีเห็นอี้เทียนหยุน จิตสังหารก็พลันพวยพุ่งออกมาทันที พร้อมกับจ้องเขม็งมาที่อี้เทียนหยุน แม้จะบาดเจ็บ แต่เธอก็ไม่แสดงความอ่อนแอออกมาแม้แต่น้อย
“ท่านย่า เขาไม่ใช่คนไม่ดี เขาช่วยข้าไว้!” ในตอนนี้เอง หลานชิงหลิงก็ได้บอกเล่าเรื่องราวอย่างคร่าวๆ ทำให้จิตสังหารของจักรพรรดินีองค์น้อยค่อยๆ ลดน้อยลง ขณะที่ในสายตายังคงเต็มไปด้วยความสงสัย
“เจ้าบอกว่า ต่อให้ไม่มีหญ้าหยกวารีก็สามารถรักษาข้าได้อย่างงั้นเหรอ?” จักรพรรดินีถามขึ้นอย่างสงสัย
“ใช่ กระทั่งไม่จำเป็นต้องแตะตัวเจ้า ข้าก็สามารถรักษาเจ้าได้” อี้เทียนหยุนพูดคำที่น่าตกใจออกมา