ตอนที่ 758: ไล่ล่า
กงล้อรอบที่สองก็ได้หมุนอย่างเร็วจี๋ ภายใต้ฉายาที่ถือครอง รวมกับรัศมีโชค ทำให้ผลลัพธ์แสดงออกมาในทันที
ภายใต้การภาวนาในใจของอี้เทียนหยุน เข็มก็ได้หยุดลงตรงหมวดเครื่องประดับ ไม่ได้ผิดไปจากที่คาด ด้วยเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ทำให้เขาได้ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น ดังนั้น การได้หมวดเครื่องประดับในครั้งนี้จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด
ทำให้ไม่ว่าเขาจะหวังสิ่งใด ก็จะได้สิ่งนั้น!
“ขอให้เป็นเซ็ตช่วงชีวิตทีเถอะ!”
อี้เทียนหยุนร้องภาวนาในใจ ตอนนี้ที่เขาต้องการที่สุดก็คือสิ่งนี้ แม้เซ็ตนี้จะยังมีเครื่องสวมใส่อยู่ แต่ยังไงประเภทเครื่องประดับก็ยังดีกว่าอยู่ดี เพราะหลังจากได้มา ก็สามารถเอามาจับคู่ใช้ด้วยกัน แบบนี้ผลลัพธ์ก็จะน่าทึ่งเช่นกัน
หากว่าเอามาจับคู่กับชุดเกราะเทพมาร พลังรบของเขาก็ยังคงเหนือเทพอยู่ดี
“ติ๊ง….”
หลังจากเปิดกล่องไม้ออก ที่ปรากฏตรงหน้าเขาก็คือแหวนมรกดสีเขียว เป็นแหวนแห่งช่วงชีวิตจริงๆ!
“เป็นเซ็ตช่วงชีวิตจริงๆ ด้วย!”
อี้เทียนหยุนตื่นเต้น ทำให้กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไป ผลลัพธ์ในการรักษาลดลงในทันที นี่สร้างความสงสัยให้กับจักรพรรดินี ทำให้เธอมองมาที่อี้เทียนหยุนแล้วถามอย่างสงสัยว่า “เป็นอะไร หรือว่าสิ้นเปลืองพลังมากไป ต้องการพักอย่างงั้นเหรอ?”
คนอื่นๆ ต่างกำลังจับตามองมาที่นี่ พวกเขาสามารถมองเห็นร่างกายที่ฟื้นฟูขึ้นมาได้ด้วยตาเปล่า หากเป็นอย่างนี้ต่อไป คงใช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็รักษาให้กลับมาหายดีดังเดิมได้ ตราบเท่าที่มีอี้เทียนหยุนเป็นคอยรักษา ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หญ้าหยกวารีมาช่วยรักษาเลยแม้แต่น้อย
“ขะ ข้ามีโอสถฟื้นฟูอยู่ เจ้าเอาไปใช้ก่อน!” ผู้อาวุโสป๋อรีบหยิบโอสถฟื้นฟูออกมา พวกเขาไม่มีหญ้าหยกวารีอยู่ก็จริง แต่ถ้าเป็นโอสถฟื้นฟูแล้วล่ะก็ พวกเขามีอยู่มากนักล่ะ
ได้เห็นอี้เทียนหยุนช่วยรักษาอย่างนี้ ในใจพวกเขานอกจากจะรู้สึกขอบคุณแล้ว ยังมากไปด้วยความรู้สึกผิด ดีที่หลานชิงหลิงรั้งไว้ได้ ไม่อย่างนี้ หากว่าอี้เทียนหยุนจากไป พวกเขาคงต้องออกตามหาหญ้าหยกวารีอย่างช้าๆ ซึ่งจะต้องเสียเวลาเป็นอย่างมากแน่นอน
“นี่ไม่จำเป็น ไว้ข้าปรับลมหายใจสักพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง” ในใจอี้เทียนหยุนแอบยิ้ม แน่นอนว่าไม่สามารถบอกได้ว่าที่เป็นอย่างนี้เป็นเพราะเขาตื่นเต้นเกินไป
ได้ของที่ต้องการออกมา แล้วจะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง? ยังไงก็ตาม นี่ก็เป็นเพราะฉายาที่มอบค่าความดี 3,000 แต้มให้กับเขา ไม่อย่างนั้นคงยากที่จะได้มา ก่อนหน้านี้ก็เป็นอย่างนี้ หลายครั้งที่สุ่มก็มีแต่บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ออกมา แม้จะพูดไม่ได้ว่าขาดทุน แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
“พี่ใหญ่อี้จะพักก่อนไหม?” หลานชิงหลิงถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร ข้ายังสบายดี” อี้เทียนหยุนพยักหน้า
ยังไงก็ตาม การกระทำนี้ก็ทำให้ค่าความชอบของพวกเขาเพิ่มขึ้นในทันที ไม่เพียงแต่จะไม่ขุ่นเคืองใจต่อพวกเขาเท่านั้นนั้น แต่ยังช่วยรักษาจักรพรรดินีให้พวกเขาอีกด้วย การกระทำนี้ทำให้พวกผู้อาวุโสป๋อรู้สึกผิดอย่างแท้จริง
อี้เทียนหยุนไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดอะไร เขาเลือกที่จะสวมแหวนช่วงชีวิต พร้อมกับเอฟเฟ็กที่เพิ่มขึ้นทันที
แหวนช่วงชีวิต : เพิ่มความสามารถในการรักษาขึ้น 5 เท่า, พลังป้องกัน 20 เท่า(หากใส่แหวนสองวงพร้อมกัน จะสามารถสร้างการป้องกันที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้)
เอฟเฟ็กของแหวนช่วงชีวิตทั้งเรียบง่ายและร้ายกาจ ไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถในการรักษาจนอยู่ในขั้นน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเพิ่มพลังป้องกันขึ้นอีกต่างหาก สามารถเรียกได้ว่าเป็นชุดเซ็ตแห่งการรักษาและการป้องกันได้อย่างเต็มปาก หากว่าสะสมได้ครบเซ็ตจริงๆ มันจะต้องเป็นชุดเซ็ตที่เหมาะจะเป็นโล่เนื้อไร้เทียมทานอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะโจมตีอะไรมาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ นี่จะเป็นตัวผลาญพลังของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี!
แต่ต่อให้จะสร้างความเสียหายได้ ตัวเขาก็สามารถแบกรับไหว ทำให้ไม่จำเป็นต้องกลัวใครหน้าไหนอย่างแน่นอน
หลังจากที่สวม เขาก็ทำการรักษาต่อในทันที ด้วยความเร็วในการรักษาที่เพิ่มขึ้น 5 เท่า ทำให้การรักษาในครั้งนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม เร็วจนพวกที่ดูอยู่ต้องแสดงสีหน้าตกใจออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังชีวิตที่เข้มข้นกว่าเดิม ทำให้พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนเป็นสมุนไพรวิญญาณกลับชาติมาเกิด ไม่อย่างนั้น จะมีพลังชีวิตเข้มข้นอย่างนี้ได้ยังไง?
“คะ ความเร็วในการรักษานี้มัน….” กระทั่งตัวจักรพรรดินียังต้องตกใจ เธอสัมผัสได้ว่าความเจ็บปวดที่มีอยู่ได้หายไปทีละน้อย จากที่เจ็บจนเกินจะทน
หากเป็นอย่างนี้ต่อไป อย่างมากก็ไม่เกิน 1-2 วัน เธอก็จะหายดีได้ในที่สุด! ความสามารถในการรักษานี้ ช่างน่าทึ่งไม่ต่างไปจากโอสถชั้นยอดอย่างแท้จริง
แต่แน่นอนว่าในความเป็นจริงแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้จากโอสถนั้นยังคงน่าทึ่งมากกว่า โดยเฉพาะโอสถชั้นสูง แล้วผ่านการกลั่นแบบ 5-6 กลั่นด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผลลัพธ์ของมันน่าทึ่งขึ้นไปอีก แต่ว่าผลของการรักษาของอี้เทียนหยุนก็น่าทึ่งเช่นกัน
เซ็ตช่วงชีวิตนั้นดีมาก แม้จะมีเพียงสองชิ้น แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่เทียบได้กับโอสถชั้นดี แต่หากให้เทียบกับโอสถชั้นยอดที่แท้จริง ก็ยังต่างกันมากอยู่
และในขณะที่พวกเขาคิดว่าอยากจะให้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไป ก็ได้มีองครักษ์พุ่งเข้ามาจากด้านนอก พร้อมกับพูดอย่างรีบร้อนว่า “แย่แล้ว มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว!”
“มันเรื่องอะไรกัน ไม่เห็นหรือว่าตอนนี้กำลังรักษาอยู่น่ะ!” ผู้อาวุโสป๋อพูดอย่างโมโห หากว่าส่งผลกระทบต่อการรักษาของอี้เทียนหยุน มันคงจะเป็นปัญหาแน่
“แต่สถานการณ์ตอนนี้เร่งด่วนมากจริงๆ เผ่าอสูรสีชาดไล่ตามมาทันแล้ว ตอนนี้กำลังปีนขึ้นหลังวาฬทะเล ตอนนี้วาฬทะเลถูกโจมตีแล้ว หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกมันจะต้องบุกเข้ามาข้างในแน่!” องครักษ์พูดอย่างรวดเร็ว
“อะไรนะ!?” ผู้อาวุโสป๋อและพวกจักรพรรดินีพากันตกใจ “วาฬทะเลเร็วขนาดนั้น แล้วพวกเขาไล่ตามมาทันได้ยังไง ยิ่งกว่านั้น เส้นทางที่พวกเราหลบหนีมาก็ลึกลับอย่างมาก ทำไมพวกเขาถึงได้ตามมาถูกล่ะ”
“พะ พวกมันส่งปรมาจารย์อสูรจุ้ยหยุนมา ทำให้สามารถจับตามาที่วาฬทะเลของพวกเราได้…..” องครักษ์คนนั้นตอบออกมา
“ปรมาจารย์อสูรจุ้ยหยุน ทำไมถึงส่งเขามาล่ะ!?” จักรพรรดินีลุกขึ้นนั่งอย่างรีบร้อน แต่ก็ไม่กระทบต่อการรักษาของอี้เทียนหยุน เขายังคงรักษาต่อไป ขณะเดียวกันก็ฟังพวกเขาคุยกันด้วย
“ปรมาจารย์อสูรจุ้ยหยุนอย่างงั้นเหรอ จบแล้ว….. ก่อนหน้านี้ก็ทำร้ายจักรพรรดินีจนบาดเจ็บสาหัส ดูเหมือนว่าครั้งนี้ก็คงต้องขัดขวางพวกเราเอาไว้ได้อย่างแน่นอน” สีหน้าของผู้อาวุโสป๋อเย็นชา
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกเราก็ทำได้เพียงทุ่มพลังทั้งหมดออกไปต้านรับเท่านั้น” จักรพรรดินียืนขึ้น จากนั้นก็มองไปที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดว่า “ขอบคุณสหายท่านนี้มากที่ช่วยรักษาข้า เจ้าจะถือเป็นสหายของเผ่าเงือกของเราตลอดกาล แต่ตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างเร่งด่วน ข้าจะให้หลานเอ๋อพาเจ้าออกไปจากที่นี่ หากชักช้าจะไม่ทันกาล!”
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ร้ายกาจมาก ไม่อย่างนั้น จักรพรรดินีที่ยังรักษาอาการบาดเจ็บไม่แล้วเสร็จคงจะไม่ออกไปสู่สนามรบด้วยตัวเอง
“แต่….” หลานชิงหลิงไม่เต็มใจที่จะจากไป
“รีบไปซะ แล้วก็เอาไข่มุกหยกวารีไปด้วย! หลานเอ๋อ เจ้าคือความหวังในอนาคตของเผ่าเงือกเรา เจ้าไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้!” จักรพรรดินีพูดอย่างรุนแรง พร้อมกับใช้สายตาที่มุ่งมั่นจับจ้องมาที่หลานชิงหลิง
หลานชิงหลิงกัดริมฝีปาก พร้อมกับดึงอี้เทียนหยุนวิ่งออกไปที่ข้างหลังห้องนอน ไม่รั้งอยู่ที่นี่ต่อ
“เผ่ามนุษย์คนนี้เชื่อถือได้อย่างมาก แต่น่าเสียดายที่พวกเราคงไม่มีโอกาสได้ตอบแทน…..” จักรพรรดินีส่ายหัว จากนั้นก็นำพวกเขาเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
“ใช่ น่าเสียดายจริงๆ ยากมากที่จะได้รู้จักเผ่ามนุษย์ที่เชื่อใจได้…..” ผู้อาวุโสป๋อก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ “ข้าอยากจะขออภัยเขา แต่ตอนนี้เกรงว่าคงจะไม่ใช่เวลา หวังว่าพวกเราจะสามารถมีชีวิตรอดจากสงครามครั้งนี้”
เขาเผยรอยยิ้มที่ไม่ยี่หระบนใบหน้า เตรียมที่จะต่อสู้คราวหนึ่ง เพียงแต่คราวนี้เกรงว่าจะเป็นสงครามแห่งชีวิตและความตาย
ขณะเดียวกัน หลานชิงหลิงที่ดึงอี้เทียนหยุนเข้ามาด้านในห้อง หลังจากที่ผ่านทางเดินยาว อย่างรวดเร็วก็มาถึงห้องที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง ในนี้มีไข่มุกหยกสีฟ้าขนาดเท่ากำปั้นลูกหนึ่งกำลังลอยอยู่ พร้อมกับปลดปล่อยแสงสีฟ้า ที่ยากจะจ้องมองด้วยตาเปล่า
“อุปกรณ์ระดับเทวะ?” เมื่ออี้เทียนหยุนมองไปที่ไข่มุกหยกวารีนี้ ก็พลันแสดงสีหน้าตกใจ คิดไม่ถึงว่าเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่ง จะมีอุปกรณ์ระดับเทวะอยู่!
