บทที่ 10 หลบหนี โดนจับ
ฝั่งตรงข้ามชุมชน มีตู้เอทีเอ็ม เธอเสียบบัตรธนาคารเข้าไปในตู้เอทีเอ็ม ดูจำนวนเงินฝากที่แสดงบนหน้าจอของเครื่อง เจี่ยนถงกัดฟันแน่น ถอนเงินออกมาสองพันหยวนอย่างเด็ดเดี่ยว
เอาเงินไว้ เธอเรียกแท็กซี่มา “ไป……” หลังจากขึ้นรถ ถึงได้พบว่า เธออยากจะหลบหนีอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ได้คิดถึงสถานีที่ที่จะหนีไป
“จะไปไหน?” คนขับแท็กซี่เร่งอย่างไม่สบอารมณ์
จะไปที่ไหน…… เจี่ยนถง นิ่งอึ้งอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็พบว่า โลกนี้ใหญ่มากขนาดนี้ แต่เธอไม่มีที่ไปเลย
“จะไปไม่ไป? ไม่ไปก็ลงจากรถ ฉันยังต้องไปรับงานต่อ” คนขับขมวดคิ้ว จ้องเขม็ง เจี่ยนถงอย่างน่ารังเกียจ…… เฮงซวย ออกจากบ้านไม่ได้ดูฤกษ์ให้ดี วิ่งเที่ยวแรกในวันนี้ ก็เจอตัวซวย
“……ขอโทษที ฉันยังคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหน” เจี่ยนถงพูดอย่างช้าๆ เผชิญกับคนขับแท็กซี่ที่อารมณ์ร้อน พูดจาก้าวร้าว เธอไม่ได้ตอบโต้ แม้กระทั่งยังขอโทษอย่างต่ำต้อย ซึ่งนี่ทำให้เธอดูขี้ขลาดอ่อนแอมาก
ม้าดีโดนคนขี่ คนดีโดนคนแกล้ง คำพูดของบรรพบุรุษ มักถูกเสมอ เมื่อคนขับแท็กซี่เห็นว่าเธอขี้ขลาดอ่อนแอขนาดนี้ ก็ยิ่งมีไฟโทสะ ระบายไฟโกรธ ที่แพ้เสียเงินจากการเล่นไพ่นกกระจอกในวันนี้ ลงที่เธอทั้งหมด
ดังนั้น เจี่ยนถงจึงถูกคนขับรถชี้จมูกด่าอย่างเมามัน “เธอยังคิดไม่ออก ก็มาเรียกแท็กซี่ของฉัน เธอตั้งใจกลั่นแกล้งฉันใช่ไหม พ่อแม่ของเธอสอนเธอมายังไง ไม่มีใจคุณธรรมเลย! ลงจากรถไป ลงจากรถตอนนี้เลย อย่าทำให้ฉันเสียเวลาไปทำมาหากิน เฮงซวย ทำไมวันนี้ถึงได้เจอตัวซวยอย่างเธอ”
เจี่ยนถงโดนด่าเละ ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกเลย แต่…… ภัยพิบัติในคุกสามปี เปลี่ยนเธอจนไม่มีอารมณ์แล้ว
หลับตาลง อีกครั้ง เธอเงยหน้าขึ้น ขอโทษอย่างเชื่องช้า “ขอโทษ ฉันจะลงจากรถตอนนี้เลย” ที่จริง เธอแค่อยากให้คนขับแท็กซี่ให้เวลาเธอสักหนึ่งหรือสองนาที คิดดูว่า เธอควรไปที่ไหนเท่านั้น
คิดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายไม่อยากจะสนใจเธอมากนัก
คนขับรถกลับตะลึงไปชั่วขณะ ขับรถมาสิบกว่าปี ไม่เคยเจอคนขี้ขลาดอ่อนแอไม่มีอารมณ์แบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่า เจี่ยนถงเปิดประตูรถช้าหน่อย ทันใดนั้นคนขับก็ยกมือขึ้นไปทางเจี่ยนถง……
“อ๊ะ! อย่าตีฉัน!”
คนขับตกตะลึง มองไปที่ผู้หญิงเบาะนั่งข้างคนขับ ยกมือขึ้นคลุมหัวไว้ ตะโกนร้องอย่างตื่นตระหนก “อ๊ะ! อย่าตีฉัน!” ด่าไปคำหนึ่ง “ เธอเป็นบ้าหรือไง ฉันแค่เปิดประตูเท่านั้น! เฮงซวย ทำไมวันนี้ถึงได้เจอกับผู้หญิงบ้า”
ขณะที่พูด ก็ยื่นมือออกไป ไปเปิดประตูรถ “รีบไปให้พ้น!” อาจจะเป็นเพราะว่าแพ้เงินแล้วไม่สบายใจ อาจจะเป็นเพราะว่า เจี่ยนถงรังแกได้ง่ายมาก รังแกเธอจะไม่โดนเอาคืนแน่นอนคนขับรถคนนี้ ยิ่งไม่เกรงใจ เจี่ยนถงมากขึ้น แม้กระทั่งประโยคอย่าง “รีบไปให้พ้น” ก็สามารถพูดออกมาได้
เจี่ยนถงเดินไม่เร็ว ลงจากรถอย่างเชื่องช้า ก็โดนคนขับรถตะโกนด่าทออีก “อืดอาดยืดยาด เร็วๆหน่อย เธอคงจะไม่ใช่ง่อยใช่ไหม?”
หัวใจของเจี่ยนถงสะเทือน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างจริงจัง มองไปที่คนขับคนนั้น แล้วพูดแก้ไข “ฉันแค่เคลื่อนไหวช้า ไม่ใช่คนง่อย”
คนขับชะงัก “เธอเป็นบ้าหรือเปล่า?” ด่าเสร็จก็ขับไล่ “รีบไปเร็ว วันนี้ได้เจอเธอ ซวยมากจริงๆเลย มิน่าล่ะ วันนี้ฉันถึงเจอแต่เรื่องแย่ๆ เล่นไพ่นิดหน่อย ก็ยังเสียมากขนาดนี้”
นี่มันอยากจะกล่าวโทษให้ ก็ย่อมหาข้ออ้างได้เสมอ
“นี่ เอามา” คนขับคว้าข้อมือของ เจี่ยนถงไว้ในทันใด มืออีกข้างหนึ่ง ก็ยื่นไปทาง เจี่ยนถง เจี่ยนถงสีหน้ามึนงง “เอาอะไร?”
“เงินไง”
“แต่ว่าคุณลุง สุดท้ายฉันก็ไม่ได้นั่งแท็กซี่ของคุณนะ” เจี่ยนถงยิ่งไม่เข้าใจ
คนขับชำเลืองมองอย่างดูถูก ไม่มีความอดทนมาก “รถฉันเคยโดยเธอนั่งแล้วใช่ไหม? เธอว่าเธอเฮงซวยขนาดนี้ ฉันขับรถกลับมา ก็ต้องล้างรถสักหน่อยใช่ไหม? ล้างรถไม่เสียเงินหรือไง?”
“……”
เมื่อคนขับเห็นว่า เจี่ยนถงไม่ขยับ ขมวดคิ้วแล้วพูดเร่ง “เร็วเข้า อืดอาดยืดยาดน่ารำคาญ!”
“แต่ว่าฉัน……”
“ฉัน ฉัน อะไรกัน หนึ่งร้อยหยวน เอามา”
เจี่ยนถงได้ยิน หน้าถอดสีทันที……หนึ่งร้อยหยวน นายปล้นเงินเหรอ เธออยากจะตอบโต้คนขับแบบนี้ อยากมากเหลือเกิน!
แต่ว่า ชีวิตในคุกสามปี ได้ขัดเกลาอารมณ์ของเธอโดยไม่เหลือความกล้าเลยสักนิด ความทะนงตัวที่เธอเคยเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจี่ยน ศักดิ์ศรีที่เคยเป็นของเจี่ยนถง ได้มลายสูญสิ้นตั้งนานแล้ว
ทันใดนั้น ก็มีไฟรถกะพริบอยู่ไม่ไกลจากทางซ้าย เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้นมองโดยอัตโนมัติ Audi A6 สีดำสี่คันมุ่งหน้ามาที่นี่ทั้งหมด
ป้ายทะเบียนมีความน่าสนใจมาก รถยนต์ทั้งสี่คัน เลขท้ายตั้งแต่ “1” ถึง “4” เรียงตามลำดับไฟถนนได้ส่องแสงผ่านแวบเดียว ที่กระจกหน้ารถของรถคันที่นำหน้า เจี่ยนถงหรี่ตามอง มองเห็นใบหน้าของคนที่อยู่ในตำแหน่งคนขับ ของรถคันหนึ่งอย่างคลุมเครือ…… เสิ่นยี นั่นคือ เสิ่นยี ลูกน้องของ เสิ่นซิวจิ่นที่ตัวอยู่ติดกันตลอด!
ทันใดนั้น ความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
“นี่ จ่ายเงิน……เอ๊ะ? ทำไมเธอนั่งเข้ามาแล้ว? ฉันบอกให้เธอจ่ายเงิน”
“ลุง! เร็วเข้า! รีบขับรถ ฉัน ฉันฉันจะให้เงินคุณ!” กระวนกระวาย เจี่ยนถงหยิบเงินใบสีแดงหลายใบ ออกจากกระเป๋าเสื้อโค้ต ยื่นให้คนขับแท็กซี่อย่างตื่นตระหนก เร่งคนขับด้วยความอ้อนวอน “ขอร้องล่ะลุง รีบขับรถ! เร็ว!”
“เธอเล่นบทอะไรกัน……” คนขับยังพูดไม่จบ ก็เห็นตรงหน้ามีเงินเพิ่มขึ้นอีกก้อนใหญ่ เจี่ยนถงมือสั่นเทา หยิบเงินทั้งหมดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “ลุง ฉันให้ลุงทั้งหมดเลย ขอร้องลุง รีบขับรถเร็วเข้า!”
ขณะที่เธอพูด ก็หันกลับไปมองด้วยความตื่นตระหนก…… ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว……
“เร็วเข้า! เร็วเข้า! รังเกียจว่าเงินมันน้อยใช่ไหม ฉันมี ฉันยังมี! อยู่ในบัตรธนาคาร! ลุงขับรถเร็วๆ ถึงที่ปลอดภัย ฉันก็ไปกดให้ลุง” เธอกระวนกระวายจนพูดไม่ได้ความแล้ว แววตาตื่นตระหนก ใบหน้าซีดเซียว ราวกับเจอผี
สายตาของคนขับแท็กซี่ที่มอง เจี่ยนถง ก็เหมือน……ไม่สิ ก็คือมองคนบ้าคนหนึ่ง แต่เมื่อสายตาจับจ้องบนธนบัตรในมือของ เจี่ยนถงจำนวนมาก ขับก็เบะปากเล็กน้อย…… เห็นแก่หน้าของเงิน
คนขับคว้าธนบัตรในมือของเจี่ยนถงเข้ามา “นั่งให้ดี”
กุญแจสตาร์ทรถ เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น รถแท็กซี่ก็เริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้า เจี่ยนถง เมื่อเห็นเช่นนี้ กำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่……
“เอี้ยด~” ล้อรถแท็กซี่เสียดสีกับพื้น ดังเข้ามาจากด้านนอก จากนั้นคนขับแท็กซี่ข้างๆ เจี่ยนถง อุทานว่า “ระยำ” “เจอผีแล้วจริงๆ วันนี้ไม่มีสักเรื่องที่ราบรื่นเลย นี่ คนพวกนี้มาหาเธอใช่ไหม? เธอขโมยหรือปล้นของอะไรคนอื่น โดนคนไล่ตามแบบนี้?”
คนขับมองไปที่เบาะนั่งข้างผู้โดยสารอย่างรำคาญ ทันใดนั้นก็หยุดพูด คำพูดที่มาถึงปาก กลืนเข้าไปทั้งหมด ผู้หญิงที่นั่งข้างคนขับคนนี้ ปากสั่นสะท้าน ขดตัวเองเป็นก้อน มองไปข้างหน้าด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง
สายตานั้น น่ากลัวยิ่งกว่าเจอกับความตายเสียอีก
จากนั้น หญิงสาวคนนี้ก็ขยับตัว หลังจากที่ปิดหน้าต่างทุกบานด้วยความประหม่าอย่างรวดเร็ว ก็ขดตัวเองเป็นก้อนทันที ราวกับว่าอย่างนี้ ก็สามารถหลบหนีจากคนเหล่านั้นได้
“นี่ โง่หรือเปล่า……”
คนขับอยากที่จะเยาะเย้ยเสียหน่อย ประตูรถแท็กซี่ข้าง เจี่ยนถง ก็ถูกคนเคาะจากด้านนอก “คุณเจี่ยน เชิญคุณลงจากรถ” เจี่ยนถงสีหน้าขาวซีด เธอเพียงแค่ฝังหน้าของตัวเองให้ลึกกว่าเดิม แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ได้เห็น
……………