เจี่ยนถงคิดว่ากินข้าวแล้วก็จบ
แต่เห็นชัดๆ ว่ามีบางคนไม่ได้คิดแบบนั้น
เจี่ยนถงหมดหนทางในแววตา “คุณเซียว บะหมี่เนื้อก็กินแล้ว” แถมยังกินตั้งสามชาม!
“อะฮะ บะหมี่เนื้ออร่อยดี”
“…” พวกเขากำลังคุยกันเรื่องบะหมี่เนื้อเหรอ?
“คุณเซียว คุณไม่ต้องตามติดฉันแล้วได้ไหมคะ?” คนคนนี้ยังกับตังเม
“คุณเซียว ฉันบอกคุณแล้วถ้าคุณมีเงิน เอาเงินไปที่ตงหวง ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง คุณอยากจะทำอะไรก็ได้”
มุมปากของเซียวเหิงมีรอยยิ้มที่ชั่วร้ายแล้ว “อ้อ” เบาๆ “อะไรก็ได้เหรอ?”
คนบางคนเริ่มขุดหลุมพรางแล้ว
“ใช่ คุณมีเงิน เอาเงินไปที่ตงหวง คุณคือลูกค้า ลูกค้าคือพระเจ้า”
“อ้อ…” เขาลากเสียงยาว ฟังดูลึกซึ้ง มีเพียงเจี่ยนถงที่ฟังไม่ออก “เธอพูดเองนะ คืนนี้เจอกัน”
พูดจบก็หันหลังแล้วขี่จักรยานออกไป
เจี่ยนถงหัวหมุนไปหมดและไม่เข้าใจคนอย่างเซียวเหิง แต่ในที่สุดเธอก็โล่งอก…ในที่สุดเขาก็ไปเสียที
หากยังมาป้วนเปี้ยนที่ใต้หอเธอละก็…เจี่ยนถงมองไปที่สายตาของผู้คนรอบข้างที่มองเธออย่างระมัดระวัง
“หนู ผู้ชายคนเมื่อกี้น่ะ เป็นพี่ชายหนูเหรอ?” ป้าคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
“…ไม่ใช่ค่ะ”
“อ้อ งั้นก็เป็นเพื่อนร่วมงาน?”
เจี่ยนถงส่ายหน้า
“โธ่เอ๊ย ไม่ว่าจะเป็นใคร หนูจ๊ะ หลานสาวฉันลูกพี่สะใภ้คนที่สามน่ะ ปีนี้เพิ่งจะเรียนจบยังไม่มีแฟนพอดี สาวน้อย เธอช่วยพูดหน่อยสิ”
ป้าคนนี้คว้าแขนเธอด้วยความจริงใจแบบนี้ เจี่ยนถงรู้สึกเกินรับไหวเล็กน้อย และมองไปที่ป้าคนนั้นอย่างลำบากใจ…เธอไม่สามารถจะบอกคุณป้าคนนี้ได้ว่าเซียวเหิงคือ “ลูกค้า” ของเราหรอกนะ?
“อุ๊ยตาย ต้าเฟิ่งจ๊ะ จู่ ๆ เธอก็ปรี่เข้าไปถามเด็กสาวที่อยู่ในตึกแบบนี้ ผู้ชายคนนั้นก็ต้องเป็นแฟนของสาวน้อยคนนี้แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหม?”
“ไปๆ เป็นไปไม่ได้นะ ฉันดูผู้ชายคนนั้น ฐานะไม่เลวเลย กับแม่สาวน้อยคนนี้…ตายแล้ว แม่สาวน้อยจ๊ะ ฉันไม่ได้ว่าเธอไม่เหมาะกับผู้ชายคนนี้นะ ก็แค่ ก็แค่…ตายละ! ไม่พูดแล้ว! แม่สาวน้อยเธออย่าโกรธฉันเลยนะ”
เจี่ยนถงพยักหน้าอย่างงุนงง สีหน้าลำบากใจเล็กน้อยและรีบเดินขึ้นตึก
แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงของป้าๆ กลุ่มนั้นพูดคุยกันตามหลังเธอมา
“ต้าเฟิ่ง เธอพูดถึงแม่หนูคนนั้นแบบนั้น ไม่กลัวจะทำให้เธอเสียหายเหรอ”
“นี่ ก็ฉันพูดตรงๆ ฉันตรงไปตรงมา พวกเธอไม่ใช่ไม่รู้ เดิมที เด็กคนนี้ดูแล้วไม่เหมาะกับผู้ชายคนนี้เลย ดูห่างกันคนละชั้นเลย
จะพูดไป แม่สาวเนี่ย พวกเธอไม่รู้อะไร ฉันอยู่ห้องถัดไปจากเธอ แม่หนูเนี่ยไม่รู้ทำงานที่ไหน กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ…”
เจี่ยนถงเร่งฝีเท้าอย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อกลับถึงห้อง หน้าของเธอก็ซีดเผือด
ป้าๆ พวกนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ แต่เจี่ยนถงกลับฟังและจำฝังใจแล้ว
เธอไม่สามารถจะตอบรับความรู้สึกของเซียวเหิงได้ สายตาของเขาเวลาที่มองตนเอง ทั้งจริงจังและมุ่งมั่นแบบนั้น แต่ยิ่งเป็นแบบนั้น เธอยิ่งรู้สึกว่าตนเองสกปรก
เธอเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า เอามือวางบนอ่าง มองดูตัวเองในกระจก เจิมผมที่หน้าผาก ดูแผลเป็นอย่างระมัดระวัง ดูแล้ว สายตาเธอเลื่อนผ่านรอยแผลเป็นลงไป เห็นใบหน้าที่ซีดเผือด
มือของเธอค่อย ๆ สัมผัสหลังส่วนล่างของเธอ…สัมผัสที่ว่างเปล่า เตือนสติเธอว่า ตนเองไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบและปกติธรรมดา
รอบตัวเงียบสงัด เงียบจนเธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้น มือของเธอเคลื่อนขึ้นไปที่หัวใจของตนเอง
หัวใจห้องซ้ายกำลังเต้นระรัว…นอกจากหัวใจที่กำลังเต้นอยู่แล้ว เธอยังมีอะไร!
แววตามุ่งมั่น และยิ่งมุ่งมั่น ไม่คู่ควรก็คือไม่คู่ควรตลอดไป
……
แต่เหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ได้จบอยู่ที่เจี่ยนถงพูดอะไรแล้วก็จบ
เมื่อค่ำคืนมาถึง ภายใต้แสงไฟหลากสีสัน มีคนจำนวนเท่าใดที่มีวิญญาณที่ตายแล้วกำลังมองหาสิ่งที่เรียกว่า “วิญญาณ” และ “ความสุข” ในมุมต่างๆ ใต้แสงไฟของเมือง
“เจี่ยนถง 602 มีแขกเรียก” พนักงานต้อนรับคนหนึ่งเคาะประตูห้องพักผ่อนและบอกเจี่ยนถง
เจี่ยนถงรีบลุกขึ้นและเดินตามพนักงานต้อนรับไปจนถึงชั้นหก
“คุณผู้ชาย เจี่ยนถงมาแล้ว”
พนักงานต้อนรับเคาะประตูและยืนอยู่ที่หน้าห้องรับรอง
เมื่อยื่นมือออกไปก็ค้างอยู่ในอากาศ ประตู ถูกเปิดออกจากด้านใน เจี่ยนถงหยุดนิ่งไปในตอนนั้น
เซียวเหิงยืนอยู่ตรงกลางประตูพร้อมรอยยิ้มเจิดจรัส ฟันขาว โดยเฉพาะดวงตาเป็นประกายนั้น “เจี่ยนถง ลูกค้าเธอมาแล้ว”
เจี่ยนถงปวดหัว และรู้สึกคายไม่เข้าคายไม่ออก…เขาพูดจริงทำจริงเสียด้วย
และวางมือลงและเดินเข้าไปในห้องรับรอง “อยู่ในห้องรับรองจะมีความหมายอะไร” ยังไม่ทันเข้าห้องก็ถูกเซียวเหิงดึงมือไว้ “ไป ฉันพาเธอออกไปเที่ยวข้างนอก”
“…ฉันทำงานอยู่นะคะคุณเซียว”
“ฉันเป็นลูกค้าของเธอ ไม่ใช่ว่า ลูกค้ามีอำนาจสูงสุด ลูกค้าคือพระเจ้าเหรอ? ไม่ใช่ว่า คืนนี้หอบเงินมาตงหวงแล้ว เธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหัวเหรอ?” ริมฝีปากบางของเซียวเหิงแย้มยิ้มร้ายออกมา ทันใดนั้นก็เขยิบตัวผมดำเข้มของเขาเขยิบเข้ามาใกล้หูของเธอ ริมฝีปากบางของเขาเกือบจะแนบชิดกับหูของเจี่ยนถงและพูดออกมาพร้อมเสน่ห์ร้าย
“ไหนบอกว่าอยากทำอะไรก็ได้ไม่ใช่เหรอ?”
แววตาของเขายิ้มร้าย จงใจเขยิบเข้าไปใกล้ข้างหูของเธอและปล่อยลมร้อน
“อ้อ…หรือว่าเธอจงใจจะหลอกฉัน? เจี่ยนถง เธอนี่ใจร้ายนะ”
หูของเจี่ยนถงไวต่อความรู้สึกมันจึงแดงขึ้นมาในทันที เธอหลบอย่างเร็ว แต่เอวของเธอก็ถูกแขนแกร่งเกี่ยวขวางไว้ตลอด เซียวเหิงเขยิบหน้าอกเข้าไปใกล้ ริมฝีปากบางขยับไปมาที่ข้างหูเธออย่างคลุมเครือ
“ไปเถอะ เราไปเที่ยวกัน ห้องนี่อุดอู้จะตาย ถ้าเธอไม่ไปจะถือว่าไม่เคารพต่อพระเจ้าคนนี้ ถ้าเธอไม่ไป…พรุ่งนี้ฉันจะไปรอเธอที่ใต้หอ”
ยังจะทำ…แบบนี้อีกเหรอ?
เจี่ยนถงสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา!
กัดฟันเล็กน้อย “คุณเซียว ฉันทำงานอยู่!” เธอจงใจกัดฟันเน้นเสียง! เตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้!
“ฉันรู้ ฉันรู้กฎของตงหวงดีกว่าเธออีก ถ้าฉันพาเธอออกไป ก็จดไว้แล้วคิดค่าใช้จ่ายตามชั่วโมง หากยังไม่ได้ ฉันช่วยเธอลางานได้ เธอว่าไง?”
เขาหยิบเงินออกมาปึกหนึ่ง “ปัก” วางไว้ตรงหน้าเจี่ยนถง “เธอก็ถือเสียว่าทำงานสิ เห็นแก่เงินที่อยู่ตรงหน้า ฉันรับรองว่าแค่จะพาเธอออกไปกินของว่างรอบดึก ลุงหูบอกว่าถ้าไม่พาแฟนตัวเล็กของฉันไปด้วย เขาจะไม่ทำให้กิน…เจี่ยนถง เจี่ยนถง เจี่ยนถง…”
“คุณไม่ต้องเรียกแล้ว” เรียกจนเธอวุ่นวายใจ
“ได้สิ เธอก็ไปกินของว่างกันฉันสิ”
เจี่ยนถงมองไปที่เซียวเหิงดูเหมือนเขาจะตัดสินใจแน่วแน่ จนเธอปวดขมับและใช้มือนวด “แค่กินของว่างใช่ไหม?”
“ใช่ แค่กินของว่าง” มิน่า…
“ก็…ได้”