เมื่อออกมาจากตงหวงก็ไปกินอาหารว่าง
ในตลาดกลางคืนเซียวเหิงจับมือของเธอเดินฝ่าฝูงชน
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือสายตาที่จับจ้องและชี้ไม้ชี้มือของคนรอบข้าง
“จะไปไหนอีกคะ?” ถนนเส้นนี้ไม่ใช่ทางกลับไปตงหวง
“ถึงแล้วเธอก็รู้เอง”
“ไม่ใช่ตกลงกันแล้วว่าไปกินมื้อดึกอย่างเดียวไง?”
“กินเสร็จก็ต้องเดินเล่นสิ” …คำพูดแบบนั้นใครเชื่อก็ไร้เดียงสาไปแล้ว
เจี่ยนถงประหม่าเล็กน้อยขณะที่รถขับขึ้นทางหลวงยกระดับ “จะไปไหนกันแน่?”
“ขับรถเล่น”
“…”
อย่างไรเสียเจี่ยนถงก็ดูออก เซียวเหิงไม่ได้อยากจะบอกเธอ เธอถามไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี
จึงหันหน้าไปมองทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่าง
“อือ ถึงแล้ว”
เจี่ยนถงเบิกโตตาตอนที่จอดรถ… “สวนสนุก?”
“ใช่ ฉันอยากเล่น เธอมาเป็นเพื่อนฉัน”
เซียวเหิงเอามือเท้าเอวแล้วพูดอย่างไม่ละอาย “ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งร่ำรวยเงินทองและหล่อเหลา มีความรู้และฉลาด แน่นอนว่าไม่มีทางจะเหมือนคนทั่วไปที่ต่อแถวตอนกลางวันเพื่อเล่นของพวกนี้ได้
หากไม่เหมาที่นี่ แล้วจะดึงเสน่ห์ของคุณชายออกมาได้ยังไง?”
เจี่ยนถง “หึ” ในใจ มองไปที่เซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกลอย่างไร้ชีวิตชีวา…ให้ตายสิ เธอคิดไม่ถึงว่าเซียวเหิงจะพูดคำพูดหน้าไม่อายแบบนี้ออกมาได้
ยิ่งกว่านั้น เรื่องรูปหล่อพ่อรวย เธอยอมรับ
ฉลาดรอบรู้…ก็คงใช่แหละ
แต่ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่จะมาเล่นสวนสนุกเหรอ?
อีกอย่าง…ใครก็ได้อธิบายให้เธอฟังที… “เหมากับเสน่ห์ มันเกี่ยวอะไรกัน?”
เจี่ยนถงถามความสงสัยในใจโดยไม่รู้ตัว
ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวเหิงมีรอยยิ้ม และในชั่วพริบตา เขาก็กลายเป็นคนไร้ยางอายอีกครั้ง “เธอเคยดูทีวีไหม? ในทีวีท่านประธานผู้สูงส่งเย็นชาเดินไปไหนก็มีบอดี้การ์ดคุ้มกัน จะทำอะไรก็ ‘ท่านประธานของเราเหมาที่นี่ไว้แล้ว ท่านประธานเราเคลียร์สถานที่แล้ว’ …ใช่ปะ? เคยไหม?
มี! ใช่!
มันก็มีแหละ! ใช่!
แล้วนางเอกทำยังไง?
สองมือกุมหน้าแดงๆ และมีสีหน้าชื่นชมพระเอก นี่มันเป็นเสน่ห์ของพระเอกที่แสดงออกอย่างชัดเจนไม่ใช่เหรอ?
ท่านประธานที่ไม่เหมาสถานที่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดี!”
“…” ถ้าหากเจี่ยนถงตอนนี้ยังเป็นเจี่ยนถงเมื่อสามปีก่อน เธอคงจะหัวเราะจนท้องขดท้องแข็ง
เซียวเหิงไปเอาความคิดบรรเจิดแบบนี้มาจากไหน หรือได้รับอิทธิพลมาจากละครเกาหลีกัน
“อะแฮ่ม” เจี่ยนถงยังคงกะพริบตา มองดูเซียวเหิงอย่างตกตะลึงเมื่ออีกฝ่ายทำตัวเหมือนปีศาจอีกครั้ง เขากำมือแน่น วางท่าทางที่ริมฝีปาก กระแอมสองครั้งแล้วพูดว่า “เจี่ยนถง เธอรออะไรอยู่?”
“อะไรนะ?”
เจี่ยนถงมีท่าทางพิศวงงงงวย
มีร่องรอยของความไม่พอใจระหว่างคิ้วของเซียวเหิงและมองไปที่เจี่ยนถง “ตาเธอแล้ว!”
“ฮะ?”
“จับแก้ม มองฉันอย่างชื่นชมไง? ความชื่นชมของเธอล่ะ? ทำตาแป๋วๆ ของเธอล่ะ?”
“…” แม่เจ้า ปัญญาอ่อนจากไหนเนี่ย!
แต่เธอไม่ใช่ไง
ดังนั้นเธอจึงได้แต่มองหน้าเซียวเหิงด้วยสีหน้าแปลกๆ… “ช่วงนี้คุณดูอะไรน่ะ?”
“เจี่ยนถง ฉันไม่สน เธอเร็วๆ สิ! จับแก้ม ต้องทำตัวเขินอาย! มองฉันด้วยความชื่นชม!”
“เจี่ยนถง ฉันคือพระเจ้า! พระเจ้าให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องทำ!”
“เจี่ยนถง เธอจะทำไม่ทำ…ไม่ทำชั้นจะฟ้องหัวหน้าเธอ”
“…” สุดท้าย ภายใต้คำขอที่รุนแรงของเซียวเหิง เจี่ยนถงยื่นมือออกมาอย่างไม่เต็มใจและจับหน้าฝืนยิ้ม(จับแก้มแดง) มองไปที่เขาอย่างชื่นชม(อย่างพูดไม่ออก) “แบบนี้ได้รึยัง?”
“เธอย่าขยับ ใช่ ค้างไว้ท่านั้น”
เพียงแวบเดียว เซียวเหิงใช้ความเร็วสูงสุดหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและเดินไปด้านหลังของเจี่ยนถง ใช้ไหล่โอบเจี่ยนถงไว้แล้ว “แชะ” แสงแฟลชสว่าง ภาพของทั้งสองคน เซียวเหิงกอดเจี่ยนถงและเจี่ยนถงปิดหน้าอย่างเขินอายถือกำเนิดขึ้น
“เสร็จแล้ว ไปเถอะ เราเข้าไปกัน” เซียวเหิงจูงมือเจี่ยนถงเดินเข้าไปในสวนสนุกอย่างมีความสุข
เจี่ยนถงสีหน้าไม่ค่อยดี… “คุณเซียว คุณกำลังละเมิดสิทธิ์ในการถ่ายภาพบุคคลของฉัน ฉันขอสั่งอย่างเด็ดขาดให้คุณลบออก”
“มีสิทธิ์อะไร?”
“นั่นมันรูปของฉัน ฉันไม่ได้ยินยอมให้คุณถ่าย”
“นี่คือภาพที่ฉันถ่ายด้วยทักษะของฉัน ทำไมต้องให้เธอยินยอมด้วย?”
เซียวเหิงในตอนนี้ทำให้เจี่ยนถงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน!
โลกนี้…ทำไมถึงได้มี…คนหน้าไม่อายแบบนี้!
“คุณจะลบไม่ลบ?”
“ไม่ลบ”
“แบบนี้ไม่ถูกนะ”
“คุณก็ไปฟ้องผมสิ”
เจี่ยนถงได้ยินผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าพูดจาฮึมฮัมแล้วก็รู้สึกเหมือนเอาหัวโขกฝ้ายในทันที
พลังของ “การต่อสู้” ทั่วร่างกายของเธอมันหายไปอย่างสมบูรณ์
สุดท้ายจึงได้ขู่ “งั้นคุณ…ห้าเอาไปให้บุคคลที่สามดู”
ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่มุมปาก “ได้ ฉันรับรองจะไม่ให้บุคคลที่สามดู”
เจี่ยนถงลืมไปแล้วว่าเธอโดนผู้ชายคนนี้หลอกให้ออกมาจากตงหวง และถูกผู้ชายคนนี้หลอกจากมื้อดึกให้มาสวนสนุก
เซียวเหิงอารมณ์ดี “รถบั๊ม เราไปเล่นรถบั๊ม”
“…ฉันไม่”
“แต่ฉันไม่ยอม อย่าคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแล้ว ฉันจะอ่อนข้อให้นะ”
“…ไม่ต้องมายอมให้ฉัน” ใครขอให้ออมมือกัน
……
“ตรงนั้น ม้าหมุน ไปๆ ๆ ไปนั่งม้าหมุน”
“นั่นมันของเล่น…” เด็กเล่นกัน…
“เธอคงไม่ใช่ไม่กล้านั่งหรอกนะ? แม้แต่ม้านั่งยังไม่กล้าเล่น ขายหน้าไหมเนี่ย เมื่อกี้ตอนเล่นรถบั๊ม ฉันก็ดูออก เธอแกล้งทำเป็นกล้า”
“เล่น ไปเล่นตอนนี้เลย” ใครกันไม่กล้าเล่นม้าหมุน?
……
“ตกปลา ตกปลาน้อย”
“ไม่…” ไป…
“รถบั๊มก็ไม่สนุก ม้าหมุนก็ไม่กล้านั่ง เธอคงแม้แต่ปลาตัวเล็กๆ ก็ตกไม่เป็นหรอกนะ?”
“คุณเซียว เรามาแข่งกัน ใครจะตกปลาได้มากกว่า”
……
“รถไฟเหาะ…รถไฟเหาะก็ได้ ไม่มีความหมายเลยสักนิด สู้ฉันขับรถบนทางยกระดับยังตื่นเต้นกว่า ไปๆ ๆ อันนี้ไม่เล่น”
“คุณเซียว คุณกลัวเหรอ?”
“ใครบอกว่าฉันกลัว? นี่มันไม่น่าสนใจ ของเด็กเล่น จะสนุกอะไร เราไม่เขาวงกตเถอะ?”
“ไปเถอะ อย่าไปมอง ฉันส่งเธอกลับหอ”
เซียวเหิงช่วยไม่ได้นอกจากพูดแล้วคว้ามือเจี่ยนถง แล้วเดินไปที่ Maserati ของเขา
“ไปส่งฉันที่ตงหวงก็ได้ค่ะ”
“กลับตงหวง? เธอดูก่อนว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
ด้วยคำเตือนนี้ เจี่ยนถงจึงได้รู้สึกว่านี่มันดึกมากแล้ว
เซียวเหิงไปส่งเจี่ยนถงที่ใต้หอ ดึงมือเจี่ยนถงและสัมผัสหน้าผากของเธอด้วยความอบอุ่น เพื่อไม่ให้ร้อนจัด เธอจึงรีบหลบ ผลักประตูรถแล้วรีบจากไป
เซียวเหิงยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างรถ
“เจี่ยนถง ครั้งหน้า เราไปนั่งชิงช้าสวรรค์กัน”
ข้างหลังผู้หญิงข้างหน้าสั่นเล็กน้อย…เขาเห็นแล้ว! เขาดวงตาของเธอปรารถนาที่จะนั่งชิงช้าสวรรค์ที่สวนสนุก
เจี่ยนถงไม่ได้หันไป ด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นเล็กน้อยในลำคอของเธอและในที่สุดก็ค่อย ๆ ถามความสงสัยในใจของเธออย่างช้าๆ
“คุณเซียว วันนี้เป็นคุณที่อยากจะไปสวนสนุก หรือคุณดูออกว่าฉันอยากจะไปสวนสนุก?” ถ้าหากเซียวเหิงเห็นเธอวันก่อนที่จ้องมองคู่รักที่ขี่จักรยาน เซียวเหิงเป็นคนที่กระตือรือร้นและฉลาดมาก บางที…เขาอาจจะเดาถูกแล้ว?
เสียงของเซียวเหิงประหลาดใจ “เธอหลงตัวเองไปแล้ว แน่นอนว่าเป็นฉันอยากจะไป”
เจี่ยนถงถอนหายใจและกล่าว “ขอบคุณ” และรีบขึ้นข้างบนอย่างไม่ลังเล
เซียวเหิงหายไปตรงบันไดตึก จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและคลิกที่อัลบั้ม และภาพทั้งหมดเป็นภาพรอยยิ้มร่าเริงของเจี่ยนถงและการเล่นอย่างมีความสุข
ริมฝีปากบางหงายขึ้นและดวงตากำลังยิ้ม…เธอสามารถยิ้มอย่างมีความสุข นี่สิดีที่สุด ฟ้าดินรู้ว่าเขารำคาญสวนสนุกที่สุด