เซียวเหิงหัวเราะเบาๆ“ของคุณหรือ ท่านประธานเสิ่นหมายถึง? ”
“รู้อยู่แก่ใจ จะพูดออกมาทำไม”
“หากท่านประธานเสิ่นหมายถึงเสี่ยวถงล่ะก็ ” รอยยิ้มที่ริมฝีปากของเซียวเหิงจางหายไป “ท่านประธานเสิ่น เสี่ยวถงเธอเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจ ไม่ใช่สิ่งของของใคร”
บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเสิ่นซิวจิ่นไม่มีอารมณ์ใดๆ ดวงตาคู่นั้นจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย
“ผมเคยเตือนคุณแล้วนะ สิ่งของของผม ถึงแม้ผมจะไม่เอาแล้ว ก็ห้ามคนอื่นมาเก็บไป”
บนใบหน้าเซียวเหิงมีประกายเฉียบคมแวบผ่าน“เจี่ยนถงเธอเป็นคนที่มีชีวิต เธอมีความคิดเป็นของตัวเอง และเธอก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ครองเอง เสิ่นซิวจิ่น คุณควบคุมมากเกินไปหรือเปล่า ”
“ใช่ บางทีท่านประธานเสิ่นกับเสี่ยวถงอาจจะเคยมีอดีตที่ไม่สามารถบอกใครได้ แต่ว่าอดีตก็คืออดีต เสิ่นซิวจิ่น ในเมื่อคุณก็พูดเอง คุณไม่เอาเธอเองแล้วทำไมถึงไม่ยอมปล่อยมือ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเย็นชาในดวงตาคู่ลึกของเสิ่นซิวจิ่นก็หายวับไป…..เธอเคยพูดอะไรกับเซียวเหิงหรือ
“แม้ว่าพวกคุณจะเคยมีอะไรกันมาก่อน มันก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอะไร เสิ่นซิวจิ่น หากคุณไม่ตาบอด ก็จะมองเห็นว่า ผมสามารถทำให้ใบหน้าเธอมีรอยยิ้มได้ ”เซียวเหิงไม่ยอมอ่อนข้อ“เสิ่นซิงจิ่น คุณสามารถทำได้ไหม”
ซูเมิ่งรู้สึกได้ว่า ร่างกายของBOSSที่อยู่ข้างๆแข็งทื่อ แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่เธออยู่ใกล้ชิดกับเขา จึงมองเห็นอย่างชัดเจน
ทันใดนั้น เสิ่นซิวจิ่นหรี่ตา “คุณรู้จักเธอดีไหม ”
“ก็กำลังอยู่ระหว่างทำความรู้จักอยู่ไม่ใช่หรือ” เซียวเหิงตอบพึมพำ
“ถ้าอย่างนั้นคุณรู้จักอดีตของเธอ ว่าเธอเป็นใครหรือเปล่า”
“เธอเป็นใครนั้น ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ เจี่ยนถงเธอเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง”
เซียวเหิงเลิกคิ้วขึ้นทันที “ไม่ใช่ว่าท่านประธานเสิ่นก็ตกหลุมรักเสี่ยวถงเข้าแล้วหรือ มิฉะนั้น จะมาขวางทางผมทำไมในเวลานี้ ท่านประธานเสิ่น หากคุณตกหลุมรักเจี่ยนถงแล้ว เรามาแข่งขันกันแบบยุติธรรมไหม ”
เมื่อเสิ่นซิวจิ่นได้ยินเช่นนั้น รู้สึกอายจนโกรธ“ผมตกหลุมรักเธอหรือ” เขายิ้มเยาะเย้ย“ผมเสิ่นซิวจิ่นจะตกหลุมรักใคร ก็จะไม่รักเธอ ” ผู้หญิงหลายใจคนนี้ ไหนจะอะลู่ เวลานี้ก็ไปเกาะแกะกับคุณชายรูปหล่อร่ำรวยอย่างเซียวเหิงคนนี้อีก
เสิ่นซิวจิ่นผู้ทะนงและเย็นชา จะไปตกหลุมรักผู้หญิงหลายใจที่เห็นแก่เงินได้อย่างไร
เวลานี้เสิ่นซิวจิ่นรู้สึกอายจนโกรธ เขาก็ไม่ได้คิดว่า เบื้องหลังอารมณ์ที่ผิดปกติของเขาทั้งหมดนี้ จริงหรือที่เขาไม่เคยตกหลุมรักเจี่ยนถงตาที่เขาพูด
เขาทะนงเกินไป ความทะนงสูงส่งจนไม่สามารถเผชิญความจริงที่ตัวเองตกหลุมรักเจี่ยนถงได้ ความทะนงสูงส่งทำให้เขาปฏิเสธใจตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า
เกี่ยวกับพฤติกรรมอารมณ์แปรปรวนเล็กน้อยของเสิ่นซิวจิ่นนี้ หว่างคิ้วของเซียวเหิงมีประกายความประหลาดใจเล็กน้อย เสิ่นซิวจิ่นในตอนนี้กับคนที่เขารู้จักคนนั้น คนที่มักมีเหตุมีผล เย็นชา และเฉยชาอยู่ตลอดเวลา เขาเหมือนหุ่นยนต์เสิ่นซิวจิ่นที่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก เป็นคนคนเดียวกันจริงหรือ
เซียวเหิงมองไปที่เสิ่นซิวจิ่นที่สีหน้าอารมณ์แปรปรวนอยู่อีกฝั่งหนึ่งเป็นเวลาประมาณสามสิบวินาทีเต็มๆ แล้วความประหลาดใจในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป เขาเข้าใจแล้ว และพริบตาเดียวก็หายวับไป
กระตุกยิ้มที่มุมปาก ……ในเมื่อคนแซ่เสิ่นพูดว่าชาตินี้เขาจะไม่มีวันตกหลุมรักเจี่ยนถง ถ้าอย่างนั้นก็ทำตามความต้องการของคนแซ่เสิ่นซะ และตัวเองก็ไม่มีหน้าที่ที่จะไปเตือนคู่แข่งใช่ไหม
แม้แต่ซูเมิ่งกับเสิ่นยี ก็ไม่ใช่คนโง่ ต่างสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาดของBossใหญ่ของพวกเขาแล้ว
เซียวเหิงหัวเราะเบาๆ“ถ้าอย่างนั้นผมเข้าใจประธานเสิ่นผิดไปแล้ว แต่ว่าเจี่ยนถงถูกสเปคผมมาก ใครๆต่างพูดว่าผมเซียวเหิง เป็นผู้ชายหลายใจแท้จริง ผมก็ไม่ปฏิเสธ แต่สำหรับเจี่ยนถง ผมอยากจะจริงๆจังๆกับเธอ”
เซียวเหิงกล่าวเบาๆพร้อมรอยยิ้ม เมื่อเอ่ยถึงเจี่ยนถง มีประกายรอยยิ้มในดวงตาโดยไม่รู้ตัว ความอ่อนโยนและอ่อนหวานนั้น ราวกับสามารถทะลุออกมานอกหน้าต่าง ผ่านกระจกรถ จนล้นเข้าไปในรถเบนท์ลี่ย์ของเสิ่นซิวจิ่น
ไม่รู้ว่าทำไม ในใจเสิ่นซิวจิ่นมีความขุ่นเคือง ไม่เต็มใจ แม้กระทั่งยังมีความไม่พอใจ….แต่อารมณ์นี้ สำหรับเขาแล้ว รู้สึกแปลกมาก
ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถเบนท์ลี่ย์ เผยรอยยิ้มจางๆออกมาจากริมฝีปากบางๆแต่รอยยิ้มนั้น กลับดูไม่ดีเท่าดวงตา ของเขาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“ถ้าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมเซียวเหิงก็ยังยืนยันว่าเป็นเธอ”
บนใบหน้าดั่งหยกของเสิ่นซิวจิ่น ค่อยๆปรากฏให้เห็นถึงการเสียดสี กระตุกปากบางแล้วกล่าวว่า“คุณชายเซียวผู้มั่นคงรัก ต้องการจะบอกผมว่า ความรักของคุณกับผู้หญิงคนนั้นมั่นคงกว่าเงินทองหรือ ไม่ว่าจะประสบพบเจออะไร คุณก็จะไม่ปล่อยทิ้งผู้หญิงคนนั้น จะไม่จากไม่ทิ้งเธอไปใช่ไหม ”
น้ำเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น“เอาล่ะ ผมไม่อยากทำให้คู่รักแตกแยกกัน แต่ผมจะดูว่า คุณชายเซียวจะมีความสามารถแค่ไหน”
เซียวเหิงตอบกลับไปว่า“ภูเขากับสายน้ำมาบรรจบกัน เรามารอดูกัน”
“เสิ่นยี ออกรถ” เสิ่นซิวจิ่นออกคำสั่งเรียบๆ แล้วกระจกรถเบาะหลังรถเบนท์ลี่ย์ค่อยๆเลื่อนขึ้น รถเบนท์ลี่ย์ลายดำตีโค้งสวยหรู กลับรถตรงหน้าเซียวเหิงแล้วจากไป
ในรถเบนท์ลี่ย์ ซูเมิ่งไม่กล้าหายใจแรง เพราะกลัวจะไปกระตุกต่อมขุ่นเคืองของBossใหญ่ที่อยู่ข้างๆในขณะนี้
ร่างกายสูงยาวของเสิ่นซิวจิ่น เอนหลังพิงเก้าอี้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น มือที่ห้อยอยู่บนต้นขา กำแน่นแล้วแน่นอีก
ทำได้ดีมาก เจี่ยนถง
คุณทำได้ดีจริงๆ
ก่อนนั้นมีลู่เชน หายใจเข้าหายใจออกมีแต่“อะลู่ อะลู่” แล้วตอนนี้ ไปคบหากับเซียวเหิงอีกแล้วหรือ
เซียวเหิงบอกว่าเขาตกหลุมรักเธอเข้าแล้วหรือ
เป็นไปได้อย่างไร
เขาจะตกหลุมรักหญิงหลายใจที่สำส่อนเห็นแก่เงินได้อย่างไร
จนถึงตอนนี้ เสิ่นซิวจิ่นได้รับรู้ชัดเจนอีกครั้งว่า เจี่ยนถงไม่ใช่เจี่ยนถงคนเดิมคนนั้นอีกแล้ว
เจี่ยนถงในตอนนั้น ไม่แยแสในการจะไปทำให้ใครพอใจ รวมทั้งผู้ชายด้วย แต่เจี่ยนถงในวันนี้ คบผู้ชายคนแล้วคนเล่า
ใบหน้าหล่อเหลาของเสิ่นซิวจิ่นในตอนนี้ เปลี่ยนเป็นสีดำ ซูเมิ่งออกห่างจากเขาไปไกลๆ พยายามไม่ออกเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชายที่กำลังจะระเบิดออกมาคนนี้
“เสิ่นยี ที่ดินผืนนั้นบนฉินหวงเต่า ฉันจำได้ว่าพรุ่งนี้จะเปิดประมูลใช่ไหม ”
เสิ่นยีที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับตอบว่า“ใช่ครับ Boss แต่ว่าเสิ่นซื่อกรุ๊ปของเราไม่มีแผนจะเข้าร่วมประมูล”
“ตอนนี้มีแล้ว ” ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังรถเปล่งประกายกลิ่นความเย็นชาทั่วทั้งตัว“ประมูลมาให้ได้”
“อันนี้…Boss ถึงแม้จะเป็นการประมูล แต่ว่าครั้งนี้ตระกูลเซียวได้เข้าร่วมประมูลด้วย ไม่มีใครพูดต่อหน้า แต่ล้วนรู้กันส่วนตัวว่า การประมูลครั้งนี้ ตระกูลเซียวจะต้องชนะ พูดได้ว่าแทบจะอยู่ในกำมือของตระกูลเซียวแล้ว ”
ซูเมิ่งอดไม่ได้ที่จะกลอกตาใส่……เสิ่นยี คุณใช้สมองหมูของคุณคิดใคร่ครวญก่อนไหม ถ้าไม่ใช่ของตระกูลเซียว ไม่แน่ว่าBossอาจจะไม่ร่วมประมูลก็ได้
“เพราะฉะนั้นถึงต้องประมูลมาให้ได้”
ทันใดนั้นเสิ่นยีก็ถึงบางอ้อ
แล้วก็รู้สึกเสียใจที่ตัวเองปากไวกว่าหัวสมอง Bossตั้งใจจะโจมตีคนของตระกูลเซียวนี่เอง
แต่ว่า……เพื่อผู้หญิงคนนั้นหรือ
เหลือบมองผ่านกระจกมองหลังอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง จากในกระจกมองหลังเห็นสีหน้าของBossที่นั่งอยู่เบาะหลังรถแล้ว เสิ่นยีตกใจจนมือที่วางอยู่บนพวงมาลัยรถสั่น
สีหน้าของ….. Boss น่ากลัวมาก
ซูเมิ่งกลั้นใจถามว่า“Boss…….ในเมื่อเจี่ยนถงเธอไม่สำคัญกับท่านแล้ว ถ้าอย่างนั้นทำไม……..ยังจะลงมือกับตระกูลเซียว”
ในความคิดของซูเมิ่ง เบื้องหลังวิธีการทั้งหมดนี้ของเสิ่นซิวจิ่น ล้วนกำลังบีบบังคับเซียวเหิง
“เซียวเหิงเพิกเฉยต่อคำเตือนของฉัน ของของฉัน ฉันไม่เอาแล้ว ก็ห้ามใครมาเก็บไป”น้ำเสียงเย็นชาของผู้ชายค่อยๆดังขึ้น“คนหนึ่งหนุ่มเพลย์บอย คนหนึ่งนักโทษปฏิวัติแรงงาน ต่อหน้าฉัน จะมาแสดงอะไรว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ ว่าความรักมั่นคงกว่าเงินทองหรือ ฉันจะดูว่า เขาจะเลือกอย่างไร ”