“เจี่ยนถง แกนี่ก็ตลกจริงๆ แกยังคิดว่าแกเป็นคุณหนูเจี่ยนในตอนอยู่เหรอ แกถามอะไรฉันก็ต้องตอบแก ฮ่าๆ”
คำพูดของเว่ยซือซานเหมือนอยู่ตรงหู เจี่ยนถงไม่มีคำไหนมาเถียงได้–นี่คือความจริง
เธอลงจากรถตามเว่ยซือซานคนกลุ่มนี้ จู่ๆ กลับหยุดก้าวเท้าลง
“ทำไมไม่เดินต่อแล้วล่ะ” เว่ยซือซานหันหัวไปมองผู้หญิงที่หยุดลงข้างหลัง คิ้วตาละเอียดอ่อนของเธอขมวดขึ้นมา…ยังคงไม่ชิมกับเห็นเจี่ยนถงที่เป็นสภาพแบบนี้ แต่พอคิดอีกอย่างแล้ว…ก็ใช่สิ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คุณหนูของตระกูลเจี่ยนอย่างตอนนั้นแล้ว ตอนนี้ก็แค่คนชั้นต่ำที่ขายตัวในตงหวงแค่นั้นเอง
หัวเราะเยาะเบาๆ เว่ยซือซานเก็บสายตาที่ตกอยู่ตรงเจี่ยนถงกลับมา…เจี่ยนถงในตอนนี้ ไม่คุ้มพอที่จะให้เธอให้เกียรติแล้ว ผู้หญิงที่ขี้หวาดกลัว ใช้ชีวิตอย่างกับหนูที่อยู่ในท่อระบายน้ำมืดๆ คนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้ ไม่มีวันกลับไปเป็นเจี่ยนถงในตอนนั้นอีกแล้ว
วันหลัง ก็จะไม่มีคนเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเธออีกแล้ว
“ที่นี่…จัดงานเลี้ยงอยู่” เจี่ยนถงพูด
เว่ยซือซานฟังอยู่ จู่ๆ หัวเราะขึ้นมา “เฮ้ย เจี่ยนถง แกยังจะใสซื่อคิดว่าวันนี้พวกเราจะจัดงานเลี้ยงรับขวัญให้แกอยู่จริงๆ เหรอ งานเลี้ยงมันแปลกตรงไหน” วินาทีที่แล้วยังยิ้มพูดอยู่ วินาทีต่อไปก็เปลี่ยนสีหน้าแล้ว “ตกลงแกจะเข้าไปหรือไม่เข้าไป”
เธอพูดอยู่ มือหนึ่งจับมือถือของเธอเล่นต่อหน้าเจี่ยนถงอย่างจงใจ
สื่อความหมายโดยที่ไม่ต้องพูดออกมา ถ้าแกไม่ไป ฉันก็จะโมโหแล้ว ถ้าฉันโมโห คลิปเหล่านี้ของแกก็จะถูกฉันปล่อยออกไปหมด
หน้าใบนั้นของเจี่ยนถงเมื่ออยู่ภายใต้เสาไฟถนนแล้วซีดขาวราวกับผี เธอหายใจเข้าลึกๆ “เข้า” คำที่เกือบจะโผล่ออกมาจากฟันกรามหลัง “ฉันเข้า!”
“ยังจำที่นี่ได้ไหม” เว่ยซือซานหัวเราะขบขำจู่ๆ ก็เข้ามาใกล้เจี่ยนถง “ฉันยังจำได้อยู่นะ คืนที่แกอายุเข้าสิบแปดปี อยู่ตรงนี้ ตะโกนออกไปประโยคหนึ่งดังๆ ต่อหน้าคุณชายและคุณหนูไฮโซที่มีหน้ามีตาของเมือง Sเกือบทุกคน เจี่ยนถง ประโยคนั้นคืออะไรนะ
อุ๊ย คนมีอายุแล้วความจำก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไหนๆ วันนี้แกก็กลับเยี่ยมเยือนที่เก่าแล้ว หรือว่าตะโกนอีกรอบสิ”
เจี่ยนถง สีหน้าซีดขาว ที่นี่…ที่นี่มีความทรงจำที่เธอเคยคิดว่าภาคภูมิใจที่สุด วันนี้ กลับกลายเป็นที่เก่าที่เสียหน้าที่สุด
ในคืนนั้น สิ่งที่เธอตะโกนออกมาดังๆ ต่อหน้าทุกคนคือ เสิ่นซิวจิ่น ฉันรักคุณ ฉันจะทำให้คุณก็รักฉันเหมือนกันแน่นอน!
ตอนนั้นอายุน้อยทำตัวเป็นจุดสนใจ ตอนนั้นเธอเย่อหยิ่งสุดๆ ตอนนั้นเธอยกคางขึ้นมาเล็กน้อย มองเขาที่โดดเด่นเหนือผู้อื่นในผู้คน ตอนนั้น เขาไม่พูดสักคำ หันหลังจากไป แต่เธอยังคงมั่นใจมาก เย่อหยิ่งจนไม่ยอมก้มหัวลง
“ดูหน้าตาน่าสงสารนี้สิ…ช่างเถอะ ไม่ให้แกตะโกนล่ะ” เว่ยซือซานพิจารณาแทนเจี่ยนถงอย่างใจดีและเห็นใจ “ไปเถอะๆ ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว” เธออยากจะรีบจัดการเรื่องที่ตกลงกับชายปิศาจคนนั้นให้เร็วที่สุด…พอคิดถึงหน้าปีศาจและรูปร่างเรียวยาวแข็งแรงของคนนั้น เว่ยซือซานหัวใจเต้นแรงขึ้นมา
ที่นี่คือคลับเฮาส์แห่งหนึ่ง มีคนจัดปาร์ตี้ที่นี่บ่อยๆ เจี่ยนถงพยายามก้มหัวให้ต่ำลง อยากจะเอาหน้าซ่อนไว้แทบตาย ไม่กล้าให้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงนี้เห็น…เธอไม่กล้าคิดเลย ถ้ามีคนเห็นตัวเองจริงๆ จะต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง
ยังดีที่ว่าเหมือนเว่ยซือซานก็ไม่ได้อยากให้คนอื่นเห็นตัวเองเหมือนกัน เจี่ยนถงก็ซ่อนอยู่ในท่ามกลางฝูงคุณหนู ก้มหัวลงต่ำๆ เดินไปตามเว่ยซือซาน เดินผ่านผู้คน บางครั้งชนโดนเสื้อของใครบางคน เจี่ยนถงรีบกล่าวคำว่า “ขอโทษ” จากนั้นก็ยกเท้าเดินตามเว่ยซือซานต่อ ไม่กล้ายกหัวขึ้นมาแม้แต่สักนิดเลย
ฝีเท้าของเว่ยซือซานเร่งรีบมาก เจี่ยนถงตามอย่างลำบาก ผู้คนรอบๆ น้อยลงเรื่อยๆ ยิ่งเดิน คนก็ยิ่งน้อย สุดท้ายรอบข้างเงียบเหงา เธอถึงเหลือบมองแวบหนึ่งอย่างระมัดระวัง จึงสังเกตเห็นเว่ยซือซานเดินไปสุดทางของระเบียงชั้นสองโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว
ประตูบานเลื่อนอันมีสองห่วงที่สร้างด้วยโลหะ แค่เห็นก็รู้สึกหนักมาก เว่ยซือซานหยุดลงตรงหน้าประตูใหญ่อย่างกะทันหัน มุมปากแสยะยิ้มออกมา “เจี่ยนถง ถึงแล้วนะ”
เงยหัวขึ้นมาอย่างนิ่งเงียบ ดูประตูใหญ่อันหนักหน่วงที่อยู่ต่อหน้าบานนี้ ในใจเจี่ยนถง ชัดเจนแล้ว วันนี้นี่…ไม่ใช่งานเลี้ยงรับขวัญ นี่คือ…งานเลี้ยงหลุมพราง!
สายตาของเธอตกอยู่ที่บนหน้าของเว่ยซือซานอย่างสงบ ในตาของเธอสงบลงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อารมณ์หวาดกลัวเหล่านั้นเมื่อก่อนหน้านี้มิอาจหาได้ในตาของเธออีกแล้ว
เมื่อแน่ใจสุดๆ แล้ว นางเอกของ “งานเลี้ยงหลุมพราง” ในวันนี้ก็คือตัวเอง เจี่ยนถง กลับกลายเป็นสงบลงมา…เมื่อลิขิตไว้แล้วว่าหนีไม่พ้น สิ่งที่เธอเรียนรู้ได้ในสามปีนั้นก็คือ…ร่วมมือกับการแสดงฉากนี้
“ตาคู่นี้ของแกนี่มันน่าเกลียดจริงๆ เลย!” เว่ยซือซานถูกดวงตาอันสงบนิ่งสุดๆ ของเจี่ยนถงคู่นั้นมองอยู่ ไม่รู้ทำไม รู้สึกโกรธเนื่องจากความละอายและขุ่นเคือง จ้องไปที่คนข้างๆ “พวกแกหูหนวกหรือไง โยนเธอเข้าไปข้างในสิ” บนใบหน้าอันงดงามของเว่ยซือซานในตอนนี้ ยังมีความโกรธแค้นอย่างไร้คำพูด…อธิบายไม่ถูก ทำไมอยู่ๆ ถึงมีไฟแค้นรุกไปถึงใจ เธอก็คือเกลียดสายตาที่คนชั้นต่ำที่มีนามสกูลเจี่ยนมองเธอแบบนั้น!
คนชั้นต่ำที่ขายตัวคนหนึ่ง เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นคุณหนูตระกูลเจี่ยนที่โด่งดังในหาดเซี่ยงไฮ้คนนั้นอยู่อีกเหรอ
สองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ ดึงประตูใหญ่อันหนักหน่วงที่อยู่ตรงหน้าเจี่ยนถงบานนี้ออกมาคนละข้างตามคำพูดของเธอ เมื่อเจี่ยนถงยังไม่ทันได้คิดอะไรเลย อยู่ๆ กลับถูกคนผลักหลังแรงๆ “เข้าไปเลย~”
พูดจบ เจี่ยนถงก็ถูกผลักเข้าไปในประตูใหญ่บานนั้นแล้ว ฝีเท้าเรือนเซอีกด้วย ยืนไม่นิ่งจนแทบจะล้มลงไปกับพื้นแล้ว
เธอรู้ดี เธอควรแสดงละครตาม เธอรู้ดี เธอควรล้มลงไปแบบนี้เลย…มีแต่แบบนี้ ถึงสามารถทำให้พวกเขาดีใจได้
แต่!
ไม่!
ก็คือไม่!
เธอรู้ดี จิตใจของคนสามารถดีมาก จิตใจของคนก็สามารถมืดมนมากเช่นกัน
เธอรู้ดี สิ่งที่พวกเขาอยากเห็นคืออะไร–การเสียหน้าของเธอ การตะลีตะลานของเธอ…แต่ไม่!
อยู่ๆ ในใจแน่นอกขึ้นมา ในตามีความแข็งแกร่ง…ไม่! ห้ามล้มลงไปอย่างตะลีตะลานเด็ดขาด! อย่าถามเธอว่าทำไมวันนี้ยืนหยัดแบบนี้ เธอไม่รู้! ก็แค่…อยู่ๆ ก็ไม่อยากยอม!
อันที่จริงฝีเท้าเรือนเซตั้งหลายก้าว
หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว…ใครๆ ก็ดูออกกัน เมื่อก้าวที่สี่ ผู้หญิงคนนั้นที่เรือนเซยืนไม่นิ่งควรที่จะเดินเซจนล้มลงไปกินขี้หมา
แต่!
สี่ก้าว ห้าก้าว หกก้าว…เธอไม่มีตรงไหนที่สามารถประคองไว้ได้ ไม่มีที่เท้าแขนทำให้เธอไม่ล้ม เธอก็คือไม่อยากล้มลงไปแบบนี้ต่อหน้าคนพวกนี้ ก็คือไม่!
สิ่งเดียวที่ทำได้ ก็คือเรือนเซไปเรื่อยๆ ทีละก้าว สองก้าว แค่ไม่ทำให้ล้มลง เธอก็จะก้าวเท้าออกไปอย่างยืนกราน แค่ขยับอยู่ตลอด ก็สามารถทำให้ไม่ล้มลงชั่วคราวกระมัง…เธอคิดอยู่แบบนี้ และทำอยู่แบบนี้
แต่รู้ดีว่าผลที่ทำแบบนี้ ถึงแม้จะทำให้เธอยังไม่ล้มลง แต่กลับทำให้ขาที่บาดเจ็บข้างนั้นเจ็บปวดไม่หยุด!
ผู้หญิงที่ควรเรือนเซล้มลงไปตั้งนานแล้ว กลับเดินเซอีกตั้งระยะหนึ่งภายใต้สายตาการจ้องมองของทุกคน ในที่สุด…มือจับตรงขอบโต๊ะกาแฟได้แล้ว ในที่สุดก็ไม่ได้ล้มลงอย่างเสียหน้า…แต่ก็ ไม่ได้ดูดี
ขณะนี้ บนหน้าผากของเธอมีเหงื่อเย็นไหลออกมาเป็นเส้นๆ แต่ เธอยิ้มแล้ว…ถึงจะต่ำต้อย แล้วทำไม
เธอหันหน้าไปมองเว่ยซือซานที่อยู่ข้างหลัง ในตามีแสงสว่าง…เธอทำได้แล้ว! อย่างน้อยครั้งนี้ ก็ไม่ได้ล้มลงอย่างตะลีตะลานตามความ ต้องการของพวกเขา
เจี่ยนถงในขณะนี้ เหมือนทำให้เว่ยซือซานเห็นผู้หญิงที่เย่อหยิ่งสุดๆ ในตอนนั้นอีกแล้ว
ไม่!
เจี่ยนถงไม่เหมาะ!
บนใบหน้าอันละเอียดอ่อนของเว่ยซือซาน มีความเยือกเย็นค่อยๆ ลอยขึ้นมา
เจี่ยนถงบอกว่า “ฉันมาที่นี่กับแกแล้ว ตอนนี้แก ลบสิ่งที่อยู่ในมือถือออก เอาเอกสารสำรองให้ฉันได้หรือยัง”
อยู่ๆ เว่ยซือซานก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา ริมฝีปากคายสามคำออกมาอ่อน “ฉัน ไม่ ให้” เธอพูดออกมาทีละคำๆ ออกเสียงชัดเจนสุดๆ