เจี่ยนถงไม่รู้จริงหรอ ว่าทำไมวันนี้ตัวเองถึงไม่อยากให้ความร่วมมือกับการแสดงนี้ต่อหน้าคนพวกนี้?
ไม่ เธอรู้ดี
ความเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคเลวร้ายแค่ไหนในชีวิตก็ไม่มีวันลบเลือน และคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนี้ เมื่อสามปีก่อนอยู่ต่อหน้าเธอเคยเป็นยังไง?
ในใจเธอดูถูกคนพวกนี้มาก หลังจากผ่านมาสามปี เธอก็ไม่ยอมทนต่อสายตาดูถูกและเยาะเย้ยของพวกเขา
ถึงสุดท้ายจะน่าสังเวชเหมือนเช่นเคยก็แล้วยังไง?เธอทำแล้ว ท้ายที่สุดเธอก็สำเร็จ ไม่ได้ล้มหัวฟาดพื้นตามที่คนพวกนั้นหวังเอาไว้……แค่นี้ก็พอแล้ว
เห็นชัดว่าเป็นเพราะความเย่อหยิ่งในตัวทำให้เธอไม่ยอมร่วมมือกับการแสดงของคนพวกนี้ เธอรู้เหตุผลดี
เวลานี้ หลังเจี่ยนถงได้ยินคำพูดขี้โกงของเว่ยซือซาน เธอไม่ได้ไปถกเถียงกับเว่ยซือซาน ถามเธอว่าทำไมถึงพูดแล้วกลับคำและไม่ทำตามที่พูด
เธอเคยติดคุกมา เลยเรียนรู้ที่จะอ่อนน้อมถ่อมตน เธอเสียไตไปข้างหนึ่งก็จริง แต่เธอไม่ได้ขาดสมองไป……อำนาจการต่อรองอยู่ที่หล่อน หล่อนจะทำยังไงก็ได้
คุณคุยเหตุผลกับอเมริกา อเมริกาก็จะพูดเรื่องความเมตตากรุณากับคุณ พอคุณคุยเรื่องความเมตตากรุณากับอเมริกาแล้วเขากลับจะพูดเหตุผลมา……เรื่องเดียวกัน เธอพูดเหตุผลกับเว่ยซือซาน เว่ยซือซานก็จะคุยข้อตกลงกับเธอ พอเธอคุยข้อตกลงกับเว่ยซือซาน เว่ยซือซานก็จะพูดเหตุผลกับเธอต่อ ทั้งหมดทั้งมวล เป็นเพราะ……อำนาจการต่อรองอยู่ที่เว่ยซือซาน!
แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องคุยข้อตกลง
“คุณต้องการอะไรกันแน่ ถึงยอมลบคลิปนี้ออกและเอาข้อมูลสำรองให้ฉัน?”
เว่ยซือซานรู้สึกค่อยยังพอใจหน่อย……เจี่ยนถงเหมาะที่จะอ้อนวอนของร้องอย่างคนต่ำต้อย เธอมีสิทธิ์อะไรที่มาจ้องตัวเองด้วยสายตาไม่ยอมอ่อนข้อแบบนั้น?
“เธอเป็นแบบที่……เป็นอยู่ตอนนี้ก็ถูกแล้ว”จู่ๆเว่ยซือซานก็เอามือถือยื่นมาตรงหน้าของเจี่ยนถงอย่างไม่มีเหตุผล “เธออยากได้ข้อมูลสำรองในนี้งั้นหรอ ได้สิ เธอ……”จู่ๆเธอก็ชี้นิ้วไปที่ผู้ชายวัยกลางคนพุงใหญ่และหัวล้านที่นั่งอยู่บนโซฟา “ไปสิ ไปเอาใจเขา”
ไหล่ของเจี่ยนถงสั่นคลอนทีหนึ่ง……หันไปมองเว่ยซือซานอย่างช้าๆ ไม่กล้าเชื่อที่ตัวเองได้ยิน
และหลังจากนั้น ริมฝีปากแดงก็ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มดูยิ่งชัดขึ้น “ฉันได้ยินพวกเห้ออู่พูดว่าตอนนี้เธอทำงานด้าน‘บริการ’แถมได้ยินมาว่า……เธอร้อนเงินมาก?”
“จื่อๆๆ~พวกเรารู้จักการมาตั้งหลายปี อย่าว่าเพื่อนๆไม่อดหนุนเธอเลยนะ”มีคนหนึ่งดันกล่องมาตรงหน้าของเจี่ยนถง เสียงดังขึ้นทีหนึ่ง กล่องถูกเปิดออก มีธนบัตรสีแดงปรากฏออกมาอย่างน่าตกใจ……แดงจนกระแทกตา!
“เธอแค่โชว์‘ความสามารถ’ของเธอออกมาให้เพื่อนๆได้เปิดหูเปิดตากันหน่อย ดูสิว่าคุณหนูเจี่ยนในอดีต‘ระดับความสามารถในการบริการ’ถึงขั้นไหน”
เสียงที่แสบแก้วหูดังมาอยู่หูของเจี่ยนถง เธอก้มหน้าไว้ เล็บมือทิ่มจนถึงเนื้อข้างใน ใช้แรงทั้งหมดที่มียับยั้งความโกรธที่จะปะทุขึ้นมา……ในความโกรธยังมีความหมดหนทางอยู่ด้วย……ที่แท้ ไม่ว่าเธอจะพยายามปกป้องศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่อันน้อยนิดเท่าไหร่ สุดท้ายก็เปลี่ยนความจริงข้อหนึ่งไม่ได้——เธอเป็นเพียงแค่ตัวเลข“926”นักโทษคุมประพฤติ นอกจากนั้นไม่ใช่อะไรเลย!
“เจี่ยนถง เธออยากลืมนะ คลิปที่อยู่ในมือถือของฉันฉันสามารถโพสต์ได้ตลอดเวลา ถ้าฉันโพสต์ไปยังweibo momentsหรือแม้แต่instagramเธอว่ามันจะเป็นยังไงนะ?”
เจี่ยนถงกัดฟันอย่างแรง สีหน้าดูแย่มาก และมือสองข้างกำแน่นจนสั่น!
อยากจะขัดขืนให้ถึงที่สุด แต่พยายามขัดขืนเท่าไหร่!กลับสังเกตว่า สุดท้ายแล้วก็สูญเปล่า……ความรู้สึกที่จนปัญญาเช่นนี้ ทำให้คนสิ้นหวังสุดๆ!
จู่ๆก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรง……ในเมื่อต่อสู้ยังไงก็ไม่ได้ผลละก็……ความรู้สึกสิ้นหวังได้โผล่ขึ้นในใจและแทรกซึมเข้าไปในทั่วร่าง!
เธอหลับตาลง มือที่กำไว้จนแน่นได้คลายออกอย่างสิ้นหวัง
สายตาเธอหยุดลงที่หน้าของเว่ยซือซานอีกครั้ง แล้วพูดทีละถ้อยคำอย่างชัดเจน
“คุณเว่ย คุณแน่ใจว่าครั้งนี้ฉันทำตามที่คุณบอก แล้วคุณจะเอาข้อมูลสำรองทั้งหมดให้ฉัน และรับรองว่าจะไม่ให้คลิปนั้นรั่วไหลออกไปใช่มั้ย?”
ตอนที่เว่ยซือซานยังอยากจะแกล้งทำเป็นเล่นตัว อยากจะเยาะเย้ยเจี่ยงถงต่อ บอกกับเจี่ยวถงว่าหล่อนไม่มีสิทธิ์ต่อรองและไม่มีทางเลือก หล่อนต้องทำตามที่ตัวเองบอกเท่านั้น เธอเพิ่งจะทำเสียงหึ! แล้วกำลังจะพูดนั้น
“คุณเว่ย ทุกคนต่างก็มีความลับที่คนอื่นไม่รู้ ถ้าครั้งนี้ คุณเล่นตุกติกกับฉันอีกละก็ฉันรับรองได้เลย ว่าฉัน——เอา คุณ ตาย แน่!”
ฟืด~!
เว่ยซือซานกลับสูดหายใจเข้าทีหนึ่ง ตาคู่นั้นแทบจะละสายตาจากใบหน้าของผู้หญิงต่ำต้อยนั้นไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!
หัวใจของเว่ยซือซานเต้นแรงมาก ตกใจทำอะไรไม่ถูก……คนสารเลวอย่างเจี่ยนถง เธอพูดจริงทำจริง!
และนี่คือเว่ยซือซานอ่านจากสายตาที่ไม่ยอมแพ้ของเจี่ยนถง!
เว่ยซือซานถูกสายตาของเจี่ยนถงจ้องจนตกใจถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วรู้สึกเสียหน้าเลยรีบทำหน้าดุขึ้นมาเพื่อกู้หน้าตัวเองคืน
“หึ~เธอคิดว่าเธอเป็นใคร!เจี่ยนถง ฉันไม่ใช่เธอ ฉันไม่ได้ต่ำช้าเหมือนเธอหรอกนะ……ในเมื่อฉันพูดแล้ว ถ้าเธอแสดงให้พวกเราดู ทำให้เพื่อนๆฉันพอใจ แน่นอนว่าของที่เธออยากได้ ฉันต้องให้เธอแน่”
กล้าพูดเนอะว่าตัวเองเที่ยงตรง……ใครกันแน่ที่เมื่อกี้อยากจะกลับคำ?
สายตาของเจี่ยนถงส่อด้วยความประชดประชัน
เธอพยักหน้าอย่างเงียบๆโดยไม่มีอะไรจะพูด “ได้ค่ะ คุณเว่ยพูดแล้วต้องทำให้ได้นะคะ”เธอไม่อยากจะติดค้างชีวิตคนอีกหนึ่งชีวิต แต่ว่าเมื่อกี้ เธอมีความคิดที่จะเอาเว่ยซือซานให้ตายจริง!
เธอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าก็เผยให้เห็นรอยยิ้มเสแสร้งที่ฝึกฝนมานาน แล้วพูดกับผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“คุณผู้ชายคะ ฉันไม่ดื่มเหล้า ไม่ขายตัว อย่างอื่นทำได้หมดค่ะ”
คนรอบข้างต่างก็ตกใจ……ไม่มีใครในนี้กล้าเชื่อเลยว่าคุณหนูเจี่ยนที่หยิ่งยโสโอหังในอดีต จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้
นี่มัน……ต่ำช้าสิ้นดี!
ไม่รู้ว่าพวกเว่ยซือซาน ไปหานักแสดงแบบนี้มาจากที่ไหนกัน ผู้ชายวัยกลางคนที่อ้วนท้วนหัวล้านคนหนึ่ง ไหนจะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พอเห็นทั้งหมดในเมื่อกี้ เขาได้ตกใจจนอึ้งไปตั้งนานแล้ว
“นี่ นี่……”เขาตื่นเต้นจนพูดความจริงออกมาหมด “คุณเว่ยครับ ไหนคุณบอกว่าเป็นแค่ตัวแสดงประกอบไงครับ……แล้ว แล้วตากล้องอยู่ไหนละครับ?”
เห็นชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เกินกว่าที่ผู้ชายวัยกลางคนคนนี้จะรับได้ เขามองหน้าเว่ยซือซานอย่างลำบากใจ ทำน่าสงสาร “คุณเว่ย……นี่มันคือการข่มขู่คุณผู้หญิงคนนั้นชัดๆเลยนะครับ”
จู่ๆเว่ยซือซานก็ตะคอกขึ้นมา “นายหุบปากเลยนะ!รับของจากคนอื่นแล้วก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ‘ค่าตัว’ของนายไม่อยากได้แล้วหรอ?”
“นี่……”พอนึกถึงค่าตัวที่มากขนาดนั้น แทบจะเป็นเงินเดือนทั้งเดือนของเขาเลย คุณลงที่ถูกจ้างมาเป็นตัวประกอบ สีหน้าเต็มไปด้วยความลังเลและเสียดาย
เจี่ยนถงเข้าใจในทันที——ทั้งหมดของวันนี้คือเกม……เกมที่จัดขึ้นเพื่อเธอโดยเฉพาะ
พวกเธอ……ต้องการเหยียบย้ำเธอ ทำให้เธออับอาย เธอยิ้มมุมปากอย่างขมขื่นและแล้วพริบตาเดียวรอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอก็มีรอยยิ้มที่ฝึกฝนต่อหน้ากระจกมานับไม่ถ้วนอีกครั้ง “คุณผู้ชายคะ คิดเสร็จหรือยังคะ?คุณต้องการให้ฉันทำอะไรคะ?”
“เออ……เออ……”คุณลุงแปลกหน้าคนนี้ลังเลไม่รู้ควรทำยังไงจู่ๆคิดได้ก็พูด “ช่วงนี้เท้าผมปวดเมื่อยมาก คุณช่วยนวดให้ผมหน่อยแล้วกัน”
ทันใดนั้น รอบๆเงียบลงในทันที ตาแต่ละคู่จับจ้องอยู่ที่ตัวของเจี่ยนถง รอดูว่าเธอจะทำยังไงต่อ
เจี่ยนถงถึงจะก้มหน้าเอาไว้ แต่เธอก็สัมผัสถึงสายตาที่จับจ้องที่ตัวเธอ ใบหน้าเธอยังคงรอยยิ้มเอาไว้ เธอคุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วช่วยถอดรองเท้าของลุงที่นั่งอยู่บนโซฟาออกภายใต้สายตาของทุกคน แล้วเอาเท้าของเขาวางตากหัวเข่าของตัวเอง
บึม!
ทุกคนต่างโห่ร้องขึ้นมา!
“พระเจ้า!ฉันเห็นอะไรเนี่ย!”
“ต่ำช้า……จริงๆ!”