“ที่แท้นี่ก็เป็นสันดานที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ ฉันถึงว่าล่ะ ว่าทำไมตอนนั้นประธานเสิ่นถึงไม่สนใจเธอ ที่แท้ประธานเสิ่นของเราเห็นท่าแท้ของผู้หญิงคนนี้ตั้งนานแล้ว”
“โชคดีที่ตอนนั้น ประธานเสิ่นไม่ถูกผู้หญิงคนนี้หลอก แต่กลับเลือกเธอ โชคดีจริงๆ”
เจี่ยนถงช่วยคุณลุงวัยกลางคนนวดขาอยู่ จู่ๆรู้สึกแน่นหน้าอกแล้วยิ้มอย่างจนปัญญา……ที่แท้ ที่แท้
เป็นเพราะเธอมันสันดาน“ต่ำช้า”เพราะคนคนนั้นดูคนเก่ง?เลยเห็นท่าแท้ของเธอตั้งนานแล้ว?
ที่จริง……ที่จริง!
เธออยากจะหัวเราะ กลับสังเกตว่าทำยังไงก็ยิ่งไม่ออก
……
เซียวเหิงได้รับข้อความแปลกข้อความหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนในทันที ไม่นาน ก็รีบขับรถมาอย่างรวดเร็ว
งานเลี้ยงคึกคักมาก เขาไม่ทันได้เปลี่ยนชุด รีบหยุดงานในมือทุกอย่างแล้วเร่งรีบมาจากบริษัท
รูปร่างที่สูงใหญ่ หลังผ่านการทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน แถมทำงานล่วงเวลาเซียวเหิงในเวลานี้ดูมอมแมมไปเล็กน้อย ถ้าเป็นเวลาปกติจะไม่รู้สึกเท่าไหร่ แต่วันนี้ ในงานเลี้ยงที่เป็นทางการ ภายใต้ผู้คนที่แต่งตัวอย่างสวยหรูเต็มยศแล้ว รู้สึกแปลก……ต่างจากคนอื่น
เป็นเพราะออกมาอย่างเร่งรีบ แม้แต่เนคไทยังไม่ทันจะผูกดี ปล่อยหละหลวมอยู่ที่คอ มีคนเห็นเขาแล้วเดินเข้ามาทัก “ประธานเซียว วันนี้ว่างมางานเลี้ยงได้ยังไงครับ?”
สายตาของเซียวเหิงกลับมองหาผู้หญิงคนหนึ่งในงานเลี้ยงตลอด
“ประธานเซียวกำลังหาคนหรอครับ?”
เซียวเหิงอึ้ง แล้วรีบคว้าแขนคนคนนั้นเอาไว้ “ใช่ คุณเห็นเจี่ยน……”จู่ๆนึกขึ้นได้ ที่นี่จะมีใครรู้จักเจี่ยนถงได้ยังไง?เสียงได้หยุดลงทันที
“เจี่ยน?……เจี่ยนอะไรครับ?”
“ไม่มีอะไรครับ”
เซียวเหิงเดินจากไปโดยตรง
แล้วถูกคนข้างหลังจับแขนไว้อีก “รอก่อนครับ ประธานเซียว ถ้าคุณกำลังหาคนอยู่ละก็ ถ้าที่นี่หาไม่เจอ นั้นคุณสามารถไปที่ที่หนึ่งครับ”
“ที่ไหนครับ?”
“ชั้นสองสุดทางเดินครับ”ระหว่างที่คนคนนั้นพูด “ผมพาคุณไปเองครับ”
เซียวเหิงพูดขอบคุณคำหนึ่ง “นั้นต้องรบกวนประธานเจี่ยนแล้วครับ”
ตอนที่เจี่ยนโม่ป๋ายพาเซียวเหิงขึ้นไปชั้นสองนั้น ยังรู้สึกสงสัยมาตลอดทาง……หรือว่าเมื่อกี้เขาจะฟังผิด?อาจจะ……เซียวเหิงอาจจะไม่ได้พูดคำว่า“เจี่ยน”เลยด้วยซ้ำ
อาจเป็นเพราะตัวเองเซนซิทีฟต่อนามสกุลของตัวเองมากเกินไป
แต่ว่า เซียวเหิงถือว่าเป็นคนหน้าใหม่ของวงการธุรกิจที่กำลังรุ่ง เรื่องช่วยหาคนเป็นเรื่องง่ายๆ พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาไว้ ถือว่าไม่เสียหายอะไร
“ดูสิครับ ผมบอกแล้วไง ถ้าข้างล่างไม่เจอ น่าจะหาเจอได้ที่นี่แน่นอนครับ……ดูสิครับ ประธานเซียว ประตูยังเปิดอยู่เลย”
เซียวเหิงไม่ทันจะพูดอะไร เร่งรีบเดินไปทางห้องมุมสุด เป็นประตูคู่ ประตูอีกบานถูกเปิดไว้เป็นช่องเล็กๆ ระหว่างที่เซียวเหิงกำลังจะเปิดประตู จู่ๆสายตาก็ไปเห็นอะไรแล้วตกใจ!
เขา……หาเจี่ยนถงเจอแล้ว!
แต่!
เขาเห็นอะไรจากช่องเล็กนี้?
เจี่ยนโม่ป๋ายเดินไป“ประธานเซียวครับ ทำไมยังยืนอยู่……”ข้างนอก……
จู่ๆ!
ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกมือปิดปากตัวเองไว้อย่างแรง เจี่ยนโม่ป๋ายเงยหน้าขึ้นก็เห็นตาคู่นั้นของเซียวเหิงเต็มไปด้วยเส้นเลือดราวกับจะฆ่าคน
วินาทีต่อมา เขาก็มองตามสายตาของเซียวเหิงผ่านช่องประตูนั่น
เจี่ยนโม่ป๋ายตกใจจนลืมตาโตทันที !
เสี่ยวถง……
ทำไมถึง?
เธอ เธอ เธอ……กำลังทำอะไรอยู่!
ความอัปยศอดสูและความโกรธปะทุขึ้นมาจนยับยั้งไม่ไหว!
สีหน้าของเจี่ยนโม่ป๋ายอับอายจนไม่กล้าเงยหน้า!
เสี่ยวถง……เธอทำเรื่องต่ำช้าแบบนั้นได้ยังไง!
ในห้อง เซียวเหิงกับเจี่ยนโม่ป๋ายต่างก็เห็นคนที่คุ้นเคยคนนั้น เธอนั่งอยู่ที่พื้น ช่วยผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งนวดเท้าอยู่ด้วยท่าทางที่ต่ำต้อยสุดๆ!
สายตาของเซียวเหิงค่อยๆมองเห็นคนอื่นๆที่อยู่ข้างในอย่างชัดเจน ตอนที่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยหลายคนกำลังเยาะเย้ยเจี่ยนถงอย่างบ้าคลั่งนั้น จู่ๆ เขาก็ได้สติกลับมา แล้วเกิดโทสะอยากจะฆ่าคน——พวกสารเลวพวกนั้น!กล้ารังแกเจี่ยนถงงั้นหรอ!
ณ เวลานี้ เซียวเหิงใจร้อนจนอยากจะอัดคนพวกนั้นด้วยมือตัวเองให้น่วม ตอนที่เขายกมืออยากจะผลักประตูนี้ออกอย่างแรงนั้น วินาทีต่อมา มือกลับหยุดคาไว้บนอากาศ
“เจี่ยนถง ไม่นึกเลยว่าคุณหนูเจี่ยนที่เจิดจรัสในอดีต จะมีวันนี้ได้ เพื่อเงินแล้ว……ถึงขั้นเพื่อเงินที่เหม็นเน่าพวกนี้ ต่ำช้าได้ถึงเพียงนี้” เสียงเหยียดหยามดังขึ้นในห้อง
เจี่ยนถงทำเหมือนไม่ได้ยิน จุดจ่ออยู่กับการนวดเท้าให้กับชายวัยกลางคนคนนั้น……ไม่มีความจำเป็นต้องไปเถียงแก้ตัว ถ้าเธอบอกว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อเงินพวกนี้ มีคนยอมเชื่อมั้ย?
ถ้ามี นั้นก็คงไม่มีคนพูดแบบนี้แล้ว
แววตาเธอยิ่งดูเย็นชา……ไม่เป็นไร เธอพูดกับตัวเองแบบนั้น
คนที่ไม่สำคัญก็ปล่อยให้เขาพูดไป ไม่เป็นไร
อยากจะคิดยังไง กล่าวหาหรือใส่ร้ายเธอยังไง ก็ไม่เป็นไร……การใส่ร้ายที่ไร้ยางอายกว่านี้เธอยังเคยเจอมาแล้วเลยเมื่อสามปีก่อน ยังมีอะไรมาเทียบกับการกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีของเซี่ยเวยเหมิงได้อีก?
เว่ยซือซานสั่งเกตสถานการณ์ข้างนอกมาตลอดตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เห็นชัดว่าช่องประตูนั้นเธอตั้งใจเปิดเอาไว้เอง สายตาเหลือบไปเห็นผู้ชายที่อยู่ใต้แสงไฟ แล้วตาสว่างทันที ริมฝีปากแดงของเว่ยซือซานยิ้มขึ้น
“นี่ เจี่ยนถง ฉันนึกไม่ถึงเลยนะ ตอนนี้เธอจะกลายเป็นสารรูปนี้ได้ เป็นผู้หญิงที่นอนกับใครก็ได้
นึกถึงเจี่ยนถงในอดีต มีหน้ามีตาขนาดไหน?
แล้วดูสารรูปตอนนี้ของเธอสิ หึๆ คนละคนเลย
แต่ว่า เธอก็สมควรแล้ว ใครให้เธอเพื่อผู้ชายคนเดียว โดยที่ใจร้ายใจดำลงมือกับเพื่อสนิทที่โตมาด้วยการอย่างโหดเหี้ยมล่ะ พูดถึงคนอย่างเธอมันช่างใจร้ายใจอำมหิตจังเลยนะ
ฉันยอมแพ้เธอเลย จ้างนักเลงพวกนั้นมา วางแผนให้พวกเขาลุมข่มขืนเซี่ยเวยเหมิง……แต่เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่าเซี่ยเวยเหมิงจะทนความอัปยศนี้ไม่ไหวแล้วฆ่าตัวตาย
ถ้าเซี่ยเวยเหมิงไม่ตาย แผนการของเธอก็คงสำเร็จลุล่วงไปแล้ว เธอ……เธอนี่มันมีจิตใจที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็นเน่าจริงๆ!”
ประตูใหญ่ มือของเซียวเหิงคาอยู่กลางอากาศ สมองว่างเปล่า……เขาได้ยินอะไรมา?
เว่ยซือซาน ผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดอะไร?
ทำไมเขาถึงฟังไม่รู้เรื่องเลย?
เจี่ยนถง?
วางแผนให้ร้ายเพื่อนสนิทของตัวเอง?
ใช้เงินจ้างนักเลงพวกนั้นมา?
ลุมข่มขืนเพื่อนตัวเอง?
สุดท้าย ทำให้เพื่อนสนิทฆ่าตัวตาย?
ไม่ไม่ไม่!
เป็นไปไม่ได้!
นี่กับเจี่ยนถงที่เขารู้จัก คนละคนกันเลย!
“เจี่ยนถง เธอคงคิดไม่ถึงเลยสินะ ว่าเสิ่นซิวจิ่นที่เธอพร่ำเพ้ออยู่ทุกวี่ทุกวัน หลังจากเซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิต จะจับเธอเข้าคุกด้วยมือของเขาเอง?เจี่ยนถง เธอไม่เพียงแค่น่ารังเกียจ ยังน่าเวทนาอีกด้วย!วางแผนมาอย่างดี สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร!”
เว่ยซือซานตั้งใจขยับร่างไปอีกทาง ตั้งใจให้ธนบัตรที่บาดตากล่องนั้น สามารถถูกคนที่อยู่นอกประตูมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ริมฝีปากแดงยิ้ม “เธอในอดีต เห็นเงินทองเป็นเศษดิน แล้วเธอในตอนนี้ล่ะ?เพื่อเงินแค่นี้ สามารถลดตัวเพื่อเอาใจชายแก่หัวล้านคนหนึ่ง เจี่ยนถง ฉันดูถูกเธอมาก”
ลมหายใจของเซียวเหิงเต้นไม่เป็นจังหวะ
ไม่!
นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!
นี่ไม่ใช่เจี่ยนถงที่เขารู้จักเลยสักนิด!
แต่สายตาของเขากลับหยุดอยู่ที่ธนบัตรกล่องนั้นไม่ยอมขยับไปไหน!
เขาโกรธกัดฟันยื่นมือไปผลักประตูออกอย่างแรง!
เซียวเหิงยืนอยู่ที่ประตู “ผมไม่เชื่อ!”สายตาของเขาหยุดลงที่ตัวของเจี่ยนถงอย่างดื้อดึง!