Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 130 เปลี่ยนแปลง

เมื่อสายตาปะทะกับการ์ดแม่เหล็ก ไหล่ของเจี่ยนถงสั่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ…

เขาเดาความคิดของเธอได้นานแล้ว!

ผมข้างหน้าของเสิ่นซิวจิ่นเปียก น้ำหยดลงมาตามผมของเขา เขาเดินเข้ามาหาเจี่ยนถง

ไม่มีทางหนีแล้ว เธอกลืนน้ำลายลงคอ ตอนนี้เธอเครียดมาก

“ประธานเสิ่น ฉันผิดไปแล้ว ขอโทษ!” แววตาของเธอเป็นประกายแวบหนึ่ง เธอพูดพลางจะคุกเข่าลงตรงหน้าชายคนนั้น

มีมือหนึ่งพุ่งลงมาช้อนแขนเธอเอาไว้ เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้น เธอเห็นใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ ใบหน้านั้นก้มลงมองเธอแบบจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ประธานเสิ่น…ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว”

“ห๊ะ? สำนึกผิดแล้วเหรอ” ชายหนุ่มก้มหน้าลงถามแบบจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “งั้นรู้ไหมว่าทำอะไรผิด”

เสิ่นซิวจิ่นหมายความว่าอะไรกันแน่ เจี่ยนถงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ฉันควรเชื่อฟังคำพูดของประธานเสิ่น…” ตอนที่เธอกำลังพูดออกมา เธอไม่คิดว่าแววตาหงุดหงิดของเธอจะถูกผู้ชายคนหน้าเห็นอย่างชัดเจน

เธอพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมา จู่ๆ เจี่ยนถงรู้สึกเหมือนตัวเธอลอยได้ “ประธานเสิ่น!” เมื่อตัวเธอลอยขึ้นอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยจนหน้าซีดเผือดและอุทานออกมา

ยังไม่ทันได้คิดว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรเธอ วินาทีต่อมา เธอถูกอุ้มมาที่เตียง เมื่อเธอนั่งบนฟูก “ชู่วว” สัญญาณบอกให้เงียบดังขึ้นบนหัวของเธอ ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น ก็มีเงาสีดำเคลื่อนตัวเข้ามา เขาเอื้อมมือออกไปหาเธอ เธอคิดว่าเธอจะถูกตี

“อย่าตีฉัน!”

ราวกับแทบจะไม่ได้คิด เมื่อเธอเห็นมือของเขาเอื้อมเข้ามา เธอรีบร้องออกมาตามสัญชาตญาณ จู่ๆ เธอก็กลัวจนตัวสั่น

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเตียง เขาหรี่ตาลงมองมือตัวเองและมองผู้หญิงที่ตกใจจนเอามือกุมเอาตัวเอง เขาค้นพบอย่างลึกซึ้งว่าพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ในตอนนี้เป็นการตอบสนองทางระบบประสาททั้งหมด ซึ่งเป็นพฤติกรรมการป้องกันที่เธอสร้างขึ้นโดยสัญชาตญาณ

ภายในแววตาลุ่มลึก ความเย็นชายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เขาแค่ยื่นมือออกมาอย่างกะทันหัน อย่างมากคนทั่วไปก็แค่หลบ แต่คนที่ทำถึงขนาดเอามือกุมหัวตัวเองตามสัญชาตญาณ แถมยังพูดออกมาว่า “อย่าตีฉัน” ความอาฆาตค่อยๆ เกิดขึ้นจากตัวของเสิ่นซิวจิ่น

เจี่ยนถงกัดฟันแน่น มือทั้งสองข้างของเธออยู่บนหัว การป้องกันตัวของเธอดีกว่าพวกที่เคยได้รับการฝึกฝนมาอีก ถ้าให้คะแนน เธอคงจะได้คะแนนเต็ม

เธอก้มหัวลงจนติดหน้าอก เธอหลับตาปี๋จนขนตาสั่น เธอรอความเจ็บปวดที่กำลังลงมา ราวกับนักโทษรอการประหาร จู่ๆ ก็มีฝ่ามือวางลงบนศีรษะของเธอ เปลือกตาของเธอสั่นและกัดปากแน่น มันมาถึงแล้วเหรอ

มันไม่ใช่เสียงของหมัด แต่เป็นเสียงของไดร์เป่าผมที่ดังขึ้นข้างหู

หลังจากนั้น เธอก็อึ้งไป

จู่ๆ เธอรู้สึกว่ามันไร้สาระ เขาไม่ได้จะตีเธอ เขาเป่าผมให้เธออย่างนั้นเหรอ

เสิ่นซิวจิ่นเป่าผมให้เจี่ยนถงอย่างนั้นเหรอ

นี่มันเป็นเรื่องน่าขำมากเลยนะ!

เธอไม่กล้าพูดอะไร และแอบเหลือบมองไปข้างหลัง เสื้อคลุมสีขาวสะบัดไปมา และมีสัมผัสเกิดขึ้นบนศีรษะของเธอ เธอยังรู้สึกถึงความอ่อนโยนของนิ้วที่สัมผัสกับศีรษะของเธอ แต่นี่มันเป็นไปได้ยังไง

“อย่าขยับ” น้ำเสียงสั่งดังขึ้นอย่างราบเรียบ เจี่ยนถงนั่งเกร็งเข้าไปอีก เธอไม่กล้าขยับไปไหนแม้แต่น้อย

มีเพียงเสียงของไดร์เป่าผมดังขึ้นเบาๆ เมื่อลุกขึ้นมาก็เห็นผู้หญิงที่อยู่บนเตียงมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวงเหมือนนกตัวน้อย เขาเดินออกไปต่อหน้าต่อตาของผู้หญิงคนนั้น

เจี่ยนถงเบิกตาโตและจ้องเขาเขม็ง เธอเข้าใจว่าเขาจะไปปิดประตู จากนั้นก็… “ใช่สิ เสื้อของเธอโดนน้ำ แล้วมาเปื้อนเตียงของฉัน เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ”

จากนั้น…ก็เดินออกไปงั้นเหรอ

ปัง

เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ เจี่ยนถงแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด เขาเดินออกจากห้องนอนไปแล้ว

แต่ไม่รอให้เธอได้โล่งอก ประตูถูกผลักเข้ามาอีกครั้ง จู่ๆ เธอก็ตกใจขึ้นมาอีก

แต่ชายคนนั้นกลับหยิบผ้าห่มออกมาจากตู้ข้างๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนโดยไม่พูดอะไรสักคำ

หมายความว่าเขาไม่นอนในห้องนอนอย่างนั้นเหรอ

คืนนี้เจี่ยนถงนอนลืมตาจนถึงเช้า เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นการเป่าผมให้เธอ หรือการเอาผ้าห่มออกไปนอนข้างนอก เธอดูไม่ออกว่าเขาต้องการทำอะไร

หลายครั้งที่เธอคิดจะผลักประตูออกไปดูที่ห้องรับแขก เขาใจดีสละเตียงให้เธอนอนแล้วตัวเองไปนอนโซฟาอย่างนั้นเหรอ

สุดท้ายเธอจึงหัวเราะออกมาเบาๆ หวังจะเห็นความใจดีของคนคนนั้นเหรอ รอให้แม่หมูปีนต้นไม้ได้ยังจะดีกว่า

เธอนอนลืมตาจนเช้า เธอรู้ว่าเมื่อถึงตอนเช้า เธอจะกลับไปเป็นแบบเดิมใช้ชีวิตอย่างสงบ

แต่เธอคิดไม่ถึงว่าตอนที่ประตูถูกผลักเข้ามา โลกของเธอไม่สามารถกลับไปในวันที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขได้อีกแล้ว

“แต่งตัวซะ” เสื้อผ้าชุดหนึ่งถูกโยนให้เธอ เขากำลังจัดการกับแขนเสื้อเชิ้ตของตัวเอง “อีกเดี๋ยวไปบริษัทกับฉัน”

“บริษัท…เปิดตอนกลางคืนไม่ใช่เหรอ”

ทันใดนั้น!

สายตาอันเย็นชาก็มองมาที่เธอ “ใครบอกเธอว่าจะไปที่นั่น”

น้ำเสียงราบเรียบฟังดูไม่ช้าไม่เร็วดังขึ้น “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนเช้ามีประชุม”

เหมือนขาของเจี่ยนถงมีรากงอกออกมา เธอยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

“ยืนทำอะไรอยู่ล่ะ” เสียงชายหนุ่มดังขึ้น

เจี่ยนถงเริ่มหงุดหงิดใจ “ประธานเสิ่น คุณเป็นบอสใหญ่ แต่ฉันทำงานในตงหวง ฉันเป็นพนักงานในตงหวง ไม่ใช่พนักงานในบริษัทอื่น” เธอหงุดหงิดกับเสื้อผ้าที่อยู่ในมือ ไม่รู้เธอไปเอาความกล้ามาจากไหน จู่ๆ เธอก็ปล่อยเสื้อผ้าให้หล่นลงพื้น

เสิ่นซิวจิ่นปรายตามอง เขาเลิกคิ้วขึ้น “เก็บขึ้นมา” น้ำเสียงราบเรียบ แต่ฟังแล้วไม่สามารถขัดขืนได้

เจี่ยนถงยืนอยู่ที่เดิม เธอถูมือที่อยู่ข้างหลังไปมาและไม่ขยับไปไหน

“เจี่ยนถง เก็บขึ้นมา” เขาพูดเป็นครั้งที่สอง แววตาของเขาลุ่มลึก และดูก้าวร้าวเป็นอย่างมาก

เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ “ฉันเป็นพนักงานของตงหวง ฉันทำงานแผนกประชาสัมพันธ์ที่ตงหวง ฉันไม่ใช่พนักงานของบริษัทเสิ่นซื่อกรุ๊ป” คำพูดของเธอแฝงไปด้วยความแน่วแน่ว่าจะไม่ไปบริษัทเสิ่นซื่อกรุ๊ปกับเขา

เสิ่นซิวจิ่นก้าวเข้ามาหาเธอ เจี่ยนถงอยากถอยหนี แต่เหมือนเท้าของเธอมีรากงอก เสิ่นซิวจิ่นเดินมาตรงหน้าของเธอ เขาสบตาเธอ ในขณะที่เธอกำลังมองอยู่ เขาก็ก้มลงไปหยิบเสื้อผ้าแล้วยื่นให้เธออีกครั้ง

“เจี่ยนถง เธอทำของหล่น ฉันเลยเอามันกลับมาให้เธอ” สายตาของเขาจ้องไปยังผู้หญิงตรงหน้า “ไปเปลี่ยน”

ตอนนี้เจี่ยนถงไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเมื่อครู่ แต่ต่อจากนี้สักวันหนึ่ง เธอจะเข้าใจคำพูดของเสิ่นซิวจิ่นเมื่อครู่

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset