“หลังจากนี้ เธอต้องอยู่ที่นี่” เสิ่นซิวจิ่นพาเจี่ยนถงมาอยู่ที่ตงหวงชั้น 28 และพูดขึ้นอีกว่า “ฉันช่วยจัดการลาออกจากฝ่ายนั้นให้เธอแล้ว หลังจากเข้ามาในบริษัทเสิ่นซื่อกรุ๊ป ต่อไปเธอต้องเข้ามาอยู่ข้างๆ ฉัน”
“งานที่ฉันทำอยู่ก็ดีอยู่แล้ว!” เธอมองด้วยสายตาไม่พอใจ เขามีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจให้เธอ?
“งั้นเหรอ?งานที่เอาแต่ยิ้มให้คน เธอคิดว่าดีงั้นเหรอ?เจี่ยนถง ถึงเธอยินยอมทำ แต่ฉันไม่ยอมให้เธอทำต่อไปหรอก”
เจี่ยนถงอยากจะหัวเราะ……รีบไปทำไม?ตอนนั้นใครกันล่ะที่บอกให้เธอไปทำงานประชาสัมพันธ์?
ช่าง……น่าขำจริงๆ !
“ประธานเสิ่น ตอนนั้นคุณไม่ได้พูดแบบนั้น?เป็นคุณเองนะที่ส่งให้ฉันไปอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หรือว่าคุณลืมไปแล้วเหรอ?” เจี่ยนถงกัดฟันพูด “ตอนนั้นคุณให้ฉันไปทำ แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่ยอมให้ทำแล้วล่ะ?”
เสิ่นซิวจิ่นใช้สายตาซับซ้อนมองมาที่เจี่ยนถง “เธออยากรู้งั้นเหรอ?” เจี่ยนถงไม่ตอบ เสิ่นซิวจิ่นจึงพูดขึ้นเสียงเรียบ “หลังจากนี้เธอก็จะรู้เอง”
“เจี่ยนถง ตอนที่เธอทำงานนี้ เธอมีความสุขไหม?”
มีความสุขไหมเหรอ……เธอชะงักไปชั่วขณะ
เสิ่นซิวจิ่นพูดจบ ก็หันหลังเดินออกไปทันที ทิ้งไว้แค่เจี่ยนถงคนเดียว……ผู้ชายคนนี้ นานวันเข้าก็ยิ่งเข้าใจยากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่ามีอย่างหนึ่ง ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
เขาคิดอยากทำอะไรก็จะทำ เขาได้ตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องเป็นแบบนั้น!
และที่เกลียดที่สุด ก็คือเขาที่เป็นแบบนี้……ก็เหมือนตอนนั้นที่เขาบอกว่าเธอมีความผิด เธอก็ต้องมีความผิด!
แต่จนถึงทุกวันนี้ เธอก็ยังไม่สามารถขัดขืนเขาได้!
“ตกลงว่า……จะให้ฉันทำอะไร!”
ตลอดบ่ายวันนี้ เขาทำงานในห้องหนังสือ แต่เจี่ยนถงกลับนั่งเหม่อลอยที่ห้องรับแขก……สำหรับอนาคตจะเป็นยังไง เธอเองก็ได้ตัดสินใจได้แล้ว
ยังไงก็ต้อง……หนี!
ในสมองตอนนี้ได้เริ่มคิดแผนการไว้แล้ว
เสิ่นซิวจิ่นคนนี้ การกระทำของเขาในตอนนี้ยิ่งนานวันยิ่งเกินไปแล้ว ถึงเธอดูไม่ออกแต่กลับรู้สึกได้ถึงอันตราย และเธอเองก็เริ่มเสียดายเวลา ต้องคิดวางแผนให้ดีๆ
ตอนเย็น หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เขาก็เข้าไปในห้องหนังสืออีกครั้ง จนถึงสามทุ่ม ถึงออกมาจากห้องนั้น
พอเห็นเจี่ยนถงนั่งอยู่ห้องรับแขก เขาก็พูดขึ้นเสียงใส “เธอไปนอนในห้องนอน ฉันจะนอนที่โซฟา”
เจี่ยนถงลุกขึ้นมาอย่างเงียบๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องนอน……เขาเป็นแบบนี้อีกแล้ว มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกกลัว
เช้าวันต่อมา
เจี่ยนถงถูกทิ้งชุดเอาไว้ให้อีกครั้ง และก็เป็นหน้าประตูทางเข้าของบริษัทเสิ่นซื่อ เธอต้องเลือกอีกครั้ง “เดินเข้ามา ไปประชุมกับฉัน เธอหันหลังกลับ เพื่อจะกลับไปที่คอนโด”
แต่ตอนที่เจี่ยนถงหันหลังจะเดินออกไป เสิ่นซิวจิ่นกลับยื่นมือออกไป แล้วออกแรงนิดหน่อย ก็สามารถดึงเธอเข้ามาในบริษัทได้แล้ว
“ประธานเสิ่น คุณบอกว่าให้ฉันเป็นคนเลือกเอง!”
“ฉันพูดแล้ว” เขาพูดออกมาแบบไม่สนใจ
“งั้นคุณก็กลับคำพูดตัวเอง” เธอพูดพร้อมกดเสียงลง
“ตอนนี้เธอสามารถสะบัดมือฉัน แล้วหันหลังกลับไปได้ มันก็เหมือนกัน”
จะเหมือนกันได้ไง!ตอนนี้เธอถูกเขาลากเข้ามาแล้ว มีสายตาหลายคู่มองมาที่เธอ และโดยเฉพาะถูก “เขา” ลากเข้ามาด้วย!
ถ้าหากว่าตอนนี้เธอสะบัดเขาออก แล้ววิ่งหนีออกไปคนเดียว……เธอก็ไม่กล้า ดูจากสายตาหลายคู่นั้น คงมองตั้งแต่ตรงนี้จนถึงถนนแน่
เธอจึงก้มหน้าลงอีกครั้ง แล้วเดินตามหลังเขา เธอครุ่นคิด ขอเพียงเข้าไปในลิฟต์ สายตาสอดรู้สอดเห็นพวกนั้นก็จะไม่มีแล้ว
“ถึงอย่างไรเธอก็ต้องเผชิญ เจี่ยนถง เงยหน้าขึ้น ยืดหลังตรง มันน่ากลัวขนาดนั้นเหรอ?”
“?”
น่ากลัว น่ากลัวอยู่แล้ว!
มือของเสิ่นซิวจิ่น ไหลลงมาที่หลังของเจี่ยนถง เขาออกแรงเล็กน้อย แล้วดันไปด้านหน้า หลังของเจี่ยนถงที่ถูกดันก็ยืดตรงขึ้น จังหวะที่เธอกำลังจะพูด ก็ได้ยินเสียงเขาพูดเสียงสั่ง “เดิน”
รับรู้ทันที เธอทำตามคำสั่งเขา ตั้งแต่ต้นจนจบ ฝ่ามือที่อยู่ด้านหลัง ไม่ยอมเอาออกไปไหนเลย
เขาและเธอเดินกันแบบนี้ ผ่านห้องโถงใหญ่ ในสายตาของคนอื่นนั้น ก็ดูเหมือนจะหวานกันมาก จนเดินเข้ามาในลิฟต์ของประธานกรรมการ
จังหวะที่ประตูลิฟต์ปิดลง เจี่ยนถงมองเห็นสายตาที่ไม่อยากเชื่อพวกนั้น มองมาที่เธอ เธอก็รู้สึกกังวลอีกครั้ง เหมือนกับข้อกังขาตกลงมาอยู่ที่เธอ……ถ้าหาก ถูกจำได้ขึ้นมา……
ตือดึ้ง
ลิฟต์หยุดลง และตอนที่ประตูเปิดออก ใจที่คัดค้าน ก็ยังถูกเสิ่นซิวจิ่นที่อยู่ด้านหลัง กดหลังไว้อยู่ เธอเดินหลังตรงออกมาจากลิฟต์
เขาเดินกดหลังเธอมาจนถึงห้องทำงานประธานกรรมการ ในตอนที่เดินเข้ามาถึง เจี่ยนถงก็ถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ที่นี่ไม่มีสายตาสอดรู้สอดเห็นของพวกนั้น จึงทำเธอรู้สึกสบายใจขึ้น
“ตรงนั้นมีหนังสือ เธอไปดูเอาเอง ฉันจะไปเข้าประชุม”
เจี่ยนถงมีท่าทีงุนงง พลางมองเสิ่นซิวจิ่นที่พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทำงานทันที แล้วปล่อยให้เธออยู่ที่นี่คนเดียว
เธอหันไปมองรอบๆ การตกแต่งที่นี่กับเมื่อสามปีก่อน ไม่ได้ดูแตกต่างกันมาก เป็นความชอบในแบบของผู้ชายคนนั้น
ผ่านมาสองคืนติด การนอนในห้องนอนของเขา ทำให้เธอหลับไม่ลงมาสองคืนแล้ว เธอจึงเดินมานั่งที่โซฟา ผ่านไปไม่นาน ก็หลับไป พร้อมกับเอนตัวลงนอนที่โซฟา
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ประตูเปิดออกแบบไม่มีเสียงเลย
เขายืนอยู่ที่ประตู ก็พลางมองเห็นเธอนอนเอนตัวอยู่ที่โซฟา เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็เดินมายืนอยู่ด้านหน้าโซฟา พร้อมกับจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าสักพักหนึ่ง เหมือนเธอจะหนาว จึงทำให้เธอหลับไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แล้วขยุกขยิกไปมา
นิ้วมือเรียวยาว กำลังปลดเสื้อคลุม แล้วห่มให้เธอ ตอนที่เข้าไปใกล้ๆ ได้ยินเสียงละเมอดังขึ้นหนึ่งครั้ง
“อาลู่……”
มือที่ถือเสื้ออยู่ชะงักไปเล็กน้อย พร้อมขมวดคิ้ว แล้วแสดงสีหน้าเยือกเย็นออกมา
ยังนึกถึงลู่เชนอยู่อีก……ช่างดูรักกันลึกซึ้งจริงๆ เลยนะ
เขาไม่ได้ล้อเล่น ริมฝีปากเขาสบถสองสามครั้ง
แล้วเรื่องของเซียวเหิงมันเกิดอะไรขึ้น?
ความสัมพันธ์ระหว่างลู่เชนกับเซียวเหิงคืออะไร เสิ่นซิวจิ่นรู้ดี
สายตาเขาดูซับซ้อน พร้อมกับถามหยั่งเชิง “อะลู่คือ……ลู่เชนเหรอ?”
“อาลู่……ขอโทษ……”
และแน่นอนว่า เจี่ยนถงที่นอนหลับอยู่ ไม่มีทางจะตอบเสิ่นซิวจิ่นได้
เขาขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นเสิ่นซิวจิ่นก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องทันที พอเดินออกมาข้างๆ ห้องประชุมเล็ก เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปหาลู่เชน “ฉันเอง เสิ่นซิวจิ่น”
ลู่เชนที่กำลังวุ่นอยู่ก็พลันแสดงความตกใจออกมาทันที “ประธานเสิ่นถ้าไม่มีธุระอะไรคงไม่โทรมา เชิญพูดมาได้เลย” เขาเองก็ไม่พูดมากความ แล้วถามออกไปตรงๆ ทันที
เสิ่นซิวจิ่นก็ยิ่งพูดตรง “คุณกับเจี่ยนถิงเป็นอะไรกัน?”
พอได้ยินประโยคนี้ ที่จริงก็รู้สึกงุนงง
ขนาดคนหนักแน่นอย่างลู่เชน ยังอึ้งไปชั่วขณะ แล้วถึงพูดขึ้น “เคยมีคุยกันระยะหนึ่ง”
ในใจก็พลันฉุกคิดว่าทำไมเสิ่นซิวจิ่นถึงถามเขาแบบนี้
หลังจากนั้น กลับได้ยินเสียงเขาพูดขึ้น “เคยคุยกันของประธานลู่ ดูแล้วค่อนข้างลึกซึ้งเลยทีเดียว จนเจี่ยนถิงเอาเก็บไปฝันแล้วพูดชื่อ ‘อะลู่’ ออกมา”
“เฮอะ!แฮ่กแฮ่กแฮ่กแฮ่ก……” ลู่เชนที่กำลังกินน้ำอยู่ถึงกับสำลักออกมา แล้วรีบพูดขึ้น “ประธานเสิ่น คำพูดพวกนี้ อย่าได้พูดซี้ซั้วเชียวนะ คุณหนูเจี่ยนเป็นคนที่เซียวเหิงชอบ ไม่ควรเล่นกับคนของเพื่อนนะ คนอย่างลู่เชนยังไม่ได้ตีท้ายครัวครอบครัวพี่น้องหรอกนะ”