บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเจี่ยนโม่ป๋ายมีสีแดงปรากฏขึ้นคำพูดของเจี่ยนถง ไม่ใช่แค่สะกิดใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้นคือทำให้เขารู้สึกเสียหน้าต่อหน้าผู้คนมาก
ตามที่เธอพูด แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่ท่านแก่เจี่ยนให้ติดตามอยู่ข้างกายและได้รับการสอนจากท่านด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เธอมี ตัวเองก็มีเช่นกัน แต่ในที่สุด ตอนที่ท่านแก่เจี่ยนยังมีชีวิตอยู่ เกือบทุกคนหายใจเข้าออกก็เป็นตระกูลเจี่ยน และคนแรกที่นึกถึงก็จะเป็นเจี่ยนถง คนต่อมาถึงจะเป็นตัวเอง
ใบหน้าของเจี่ยนเจิ้นตงดูไม่ดีเลย เจี่ยนเจิ้นตงเสียหน้า ตัวเองก็เสียตามไปด้วย ดวงตามืดครึ้ม ตะโกนใส่เจี่ยนถงว่า
“พอได้แล้ว วันนี้ที่นี่ไม่ต้อนรับแก เมื่อสามปีก่อน ภายในคืนเดียวคุณทำให้ตระกูลเจี่ยน กลายเป็นตัวตลกของหาดเซี่ยงไฮ้ยังไม่พออีกเหรอ คืนนี้แกยังจะมาก่อความวุ่นวายที่นี่อีก
แกมีเจตนาอะไรกันแน่!
ตระกูลเจี่ยนให้กําเนิดแกและเลี้ยงดูแกไม่ได้ละเลยคุณเลย เมื่อสามปีก่อน แกเป็นคนทำผิดเอง ความผิดของแกมันเกินไปจริงๆ หลังจากนั้น คนของตระกูลเจี่ยนทุกคนเมื่อออกไปข้างนอก ก็มักจะถูกผู้คนจ้องมองและชี้หน้าด่าทอ คนนั้นก็คือเจี่ยนเจิ้นตง ที่มีลูกสาวเป็นฆาตกร
พี่ชายของแกไปร่วมงานเลี้ยง ก็มักจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะ
คุณแม่ของแกยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนๆ
เดรัจฉาน
แกทำให้พวกเราเสียใจที่สุด”
เจี่ยนถงเลือดไหลย้อนกลับทั่วร่างกาย
ฉันทำให้พวกคุณเสียใจเหรอ
ความผิดของฉันร้ายแรงมากเหรอ
ฉันเป็นฆาตกรเหรอ
ในเวลาที่ไม่มีใครเชื่อเธอ เสิ่นซิวจิ่นก็สามารถไม่เชื่อเธอได้ แต่ในฐานะที่เป็นคนในครอบครัวของเธอพ่อ แม่ พี่ชายทุกคนก็ไม่เชื่อเธอ
ไม่อยากจะเชื่อ หรือว่าไม่คิดที่จะเชื่อ
เธอยอมรับ เสิ่นซิวจิ่นมีความกดดันของตระกูลเสิ่นครอบครัวที่อยู่ตรงหน้าเธอสามารถไม่สนใจเธอได้ แต่ถ้ามีใจ ทำไมไม่ยอมเจอเธอแม้แต่ครั้งสุดท้าย แม้แต่จะถามความจริงกับลูกสาวแท้ๆของตัวเองกับปากก็ยังไม่เต็มใจ
ในอกมีความอัดอั้นตันใจ เธอพยายามมองอย่างไม่กะพริบตาแม้แต่ครั้งเดียว เธอกลัวว่าหลังจากกะพริบตา ก็จะไม่สามารถควบคุมน้ำตาได้ ทําไม… มีข้อแก้ตัวมากมายเช่นนั้น
“อยากได้ ‘กองทุนดวงหัวใจ’ก็พูดกับฉันตรงๆ ฉันก็จะให้แน่นอน” ผู้หญิงคนนั้น ยังมีเงาเจี่ยนถงเมื่อสามผีก่อน แต่แตกต่างกันไปมาก มีความขมขื่นแผ่ซ่านไปทั่ว เธอยังคงขยับมุมปากของเธอ ฉีกรอยยิ้มออกมา เธอต้องการรอยยิ้มที่อบอุ่น แต่ความขมขื่นในใจถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ
เธอมองคนสามคนที่อยู่ตรงนั้น ริมฝีปากขยับ “เพราะพวกเราเป็น ครอบครัวกัน” น้ำตา ก็ไม่สามารถควบคุมได้ รีบก้มหน้าลง เอามือเช็ดอย่างเร่งรีบ แต่ลืมไปว่า วันนี้บนหน้าของเธอมีเครื่องสำอางเพราะเธอแต่งหน้ามา ทันใดนั้น เครื่องสำอางก็เลอะเต็มหน้า
เธอแค่คิดว่าถ้าเธอเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วเงยหน้าขึ้นมา คนอื่นๆก็จะดูไม่ออก
จะรู้ได้อย่างไรกลับทำให้ตัวเองเงอะงะ ใบหน้าเลอะเครื่องสำอางไปหมด มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะดูไม่ออก
แค่ในเวลานี้ ก็ไม่มีใครจะไปเตือนเธอเรื่องนี้โดยเฉพาะ
คนธรรมดาใบหน้าเลอะเครื่องสำอาง เดินไปบนถนน ก็จะดึงดูดสายตาของผู้คน ยิ่งไปกว่านั้นนี่คือวงการของคนที่เสแสร้งและไม่แยแสที่สุด พวกผู้ชายก็ยังโอเค แต่พวกคุณหนูสาวๆ ต่างพากันจ้องมองเจี่ยนถงราวกับว่ากำลังดูละครอยู่
เสิ่นซิวจิ่นหรี่ตาลง กำลังจะยกขาก้าวออกไป ก็ต้องหยุดลง
“แกไม่จำเป็นต้องให้ ‘กองทุนดวงหัวใจ’ตอนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณแล้ว” ปฏิกิริยาที่น่าเกลียดก็ปรากฏออกมา เจี่ยนเจิ้นตงประกาศอย่างเสียงดัง
“ตอนนี้‘กองทุนดวงหัวใจ’ได้เป็นของท่านแก่เห้อแล้ว”
“ฉันไม่เห็นด้วย” เจี่ยนถงตําหนิอย่างโกรธ “มันเป็นน้ำพักน้ำแรงของคุณปู่กับฉัน”
“แกยังกล้าพูดถึงคุณพ่อ คุณพ่อต้องอับอายเพราะแก ตระกูลเจี่ยนของพวกเราก็ต้องอับอายเพราะแก ตระกูลเจี่ยนของพวกเราไม่มีฆาตกรที่ชั่วร้ายอย่างแก”
ฆาตกรที่ชั่วร้าย
เจี่ยนถงกัดริมฝีปากอย่างแรง หัวใจถูกทุบด้วยค้อนยักษ์ อย่างไรก็ตาม น่าจะชินตั้งนานแล้วถึงจะถูก แต่วันนี้ จิตใจยังคงผันผวน
“ฆาตกร ฆาตกร พูดซ้ำๆว่าฆาตกร คุณเห็นกับตาเหรอว่าฉันฆ่าคน” เธอถามด้วยเสียงเบา ประโยคนี้แอบซ่อนอยู่ในใจมานานมากแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน อยากพูดออกมา แต่ก็รู้ดีว่า พูดออกมาก็คงไม่มีใครเชื่อ และเธอก็หาพวกอันธพาลที่ก่ออาชญากรรมในตอนนั้นไม่เจอด้วย ไม่พบหลักฐานใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อเธอเลย ได้แต่หุบปากด้วยความสิ้นหวัง และแบกรับความผิดทุกอย่าง
ในขณะที่เธอถามประโยคนี้ เสียงเบามาก เหมือนปฏิกิริยาตอนที่เธอพูด เมฆก็จางลมก็เบาแปลกๆเล็กน้อย
คนนอกเห็นแค่ท่าทางสงบของเธอ ไม่สามารถเจาะเข้าไปชั้นผิวหนังนั้นได้ เห็นวิญญาณกำลังร้องไห้
อีกด้านหนึ่ง เสิ่นซิวจิ่นเหมือนนกกระเรียนในฝูงไก่ผู้ชายที่พราวสุดๆหายใจติดขัด แต่ไม่ได้ห้ามหรือดุว่าอะไร
เจี่ยนเจิ้นตงก็ชะงักเช่นกัน ต้องบอกว่า จิ้งจอกเฒ่าในทางการค้าตอบสนองเร็วมาก “เมื่อสามปีที่แล้วโทรศัพท์และข้อความทางโทรศัพท์อยู่ที่นั่น อยากให้คนอื่นเห็นกับตาอีกเหรอ”
แน่นนอน ถ้าเจี่ยนถงไม่ใช่คู่กรณี เช่นนั้นแล้ว บทสนทนาในข้อความ ยังมีสายเรียกเข้าทั้งหมดที่โทรหาเธอ ถ้าเธอยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์จริง เกรงว่าจะสงสัยเธอด้วย
ในโลกนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรจะบังเอิญขนาดนี้……..ขำตัวเอง ผิดแล้ว ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นเพราะคนวางแผนขโมยไก่ไม่ได้เสียข้าวสารอีกกำมือ นับตัวเองเข้าไปด้วย แต่เธอเจี่ยนถงกลับตกเป็นเหยื่อของความผิดพลาดของแผนการครั้งนี้
และคนที่รู้ความจริง นอกจากตัวเอง ก็คือเซี่ยเวยเหมิงที่เสียชีวิตไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีพวกอันธพาลสองสามคนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังเกิดเรื่อง
เว้นแต่จะหาพวกอันธพาลเหล่านั้นกลับมาได้ ไม่อย่างนั้นเธอคงจะไม่สามารถล้างความผิดนี้ได้
ที่บังเอิญก็คือ คนอื่นๆในตระกูลเจี่ยนในตอนนั้น ก็กำลังจับตามอง‘กองทุนดวงหัวใจ’ที่อยู่ในมือเธอ เวลานี้พอเคาะนิดเดียวก็เข้าจังหวะพอดีเลย ถ้าตอนนั้นคนทั้งตระกูลเจี่ยนร่วมกัน ให้เสิ่นซิวจิ่นลงมือกับเธอช้าลงอีกนิด เช่นนั้น บางทีเธออาจจะมีเวลา ค้นหาหลักฐานที่เป็นประโยชน์กับตัวเองได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปสามปี เบาะแสที่มีอยู่ในตอนนั้น ก็คงจะถูกกำจัดไปอย่างไร้ร่องรอยนานแล้ว
ดังนั้น…….ตั้งแต่ถูกส่งไปที่นั่น เธอก็เข้าใจแล้ว แม้ออกจากคุก ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอีกต่อไปเพราะไม่มีทางจะหาเบาะแสที่เหลืออยู่ในปีนั้นได้อีกแล้ว
หลังจากออกจากคุก ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปที่เกิดเหตุเลย…….ทุกครั้งที่มีวันหยุด รอบบาร์“เย่สื้อ” เธอเคยไปที่นั่นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆที่ทุกครั้งที่เธอไป ‘เย่สื้อ’ก็ปิดไปตั้งนานแล้ว ได้รื้อถอนอาคารเก่า กลายเป็นร้านกาแฟไปแล้ว
เธอพูดไม่ออก กัดฟันด้วยความโกรธ ให้ข้อกล่าวหาและสายตาเหล่านี้จ้องมอง ท่องจำข้อกล่าวหาว่าเป็น‘ฆาตกร’นี้ให้ขึ้นใจ
เจี่ยนเจิ้นตงแสดงความขอโทษต่อทุกคนในงาน “ขอโทษจริงๆ ที่งานเลี้ยงวันนี้ต้องถูกรบกวน ฉันขอกราบขอโทษทุกท่าน” ขณะพูดก็ยกแก้วขึ้น “ฉันขอปรับตัวเอง” ด้วยการดื่มหมดแก้ว
มีการแสดงความยินดีกับท่านแก่เห้ออีกครั้ง
ท่านแก่เห้อหัวเราะเสียงดัง ดูภูมิใจมาก
สีหน้าของเจี่ยนถงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
“เห้อเฟิงเป่ย คุณเอาของของคุณปู่ฉันไป ไม่กลัวว่าคืนนี้คุณปู่ของฉันจะมาหาคุณเหรอ”
เห้ออู่ที่อยู่ข้างๆท่านแก่เห้อได้ยิน โกรธเคืองมาก “นางตัวแสบ คุณกล้าแช่งคุณปู่ของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉัน……..”
เห้ออู่พุ่งไปตรงหน้าของเจี่ยนถง ทุกคนตาโตจ้องมอง ฉากนองเลือดกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว
ร่างร่างหนึ่งยืนขวางอยู่ตรงหน้าเจี่ยนถง “คุณต้องการอะไร”
เห้ออู่หยุดเดิน ตะลึงสักครู่ คนรอบข้างก็ตะลึงไปด้วย……วันนี้เพราะเป็นงานการประมูล ‘กองทุนดวงหัวใจ’เสิ่นซิวจิ่นพาเจี่ยนถงมาด้วย ทุกคนต่างคิดไปในทางเดียวกันว่าเสิ่นซิวจิ่นทำเช่นนี้เพื่อให้เจี่ยนถงอับอาย จึงได้พาเจี่ยนถงมาด้วย
ไม่……..ไม่…….มันไม่ถูกต้อง
ทุกคนตะลึงสักครู่ มองไป ชายผู้นั้นหน้าตาหล่อเหลาและเย็นชามาก ไม่มีร่องรอยของความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว โอบไหล่เจี่ยนถงไว้ ดวงตานกฟีนิกซ์หรี่ลง “เห้ออู่ เธอสาปแช่งเห้อเฟิงเป่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วคุณจะทำไม”
แล้วคุณจะทำไม
กำเริบเสิบสานมาก