เขาลากเธอออกจากห้องโถงสำนักงาน ลากเธอไปที่รถด้วยความเร็วสูง
“ปล่อยมือ ปล่อยมือ! นายทำให้ฉันเจ็บ!” หญิงสาวมือหนึ่งพยุงเอวด้านหลัง อีกมือพยายามที่จะถอดคีมหนีบเหล็กของชายหนุ่มออก
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเธอ ดันเธอเข้าไปในที่นั่งเบาะหลังอย่างดุเดือด ตัวเองก็ตามเข้าไปนั่ง เสิ่นเอ้อวิ่งเหยาะๆตามเข้ามาทันที นั่งลงตรงที่นั่งคนขับ
ฉากกั้นระหว่างที่นั่งเบาะหน้ากับเบาะหลัง ฉากกั้นยกขึ้นเครื่องกลส่งเสียง “วี้~” ฟังอยู่ในหูของเจี่ยนถง ในใจยุ่งเหยิง
ก็ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน แต่ตัวเองก็อยู่บนรถแล้ว เสิ่นซิวจิ่นคลายการควบคุมที่มีต่อเธอลง เธอตื่นตระหนกกับฉากกั้นที่กำลังดันขึ้น “เสิ่นเอ้อ เสิ่นเอ้อ นายเอาฉากกั้นลง นายจะเลื่อนแกกั้นขึ้นทำไม นายรีบเอาลง……”
เสิ่นเอ้อใบหน้าลำบากใจ เงยหน้าเหลือบมองหญิงสาวที่รูม่านตาหดตัวด้วยความประหม่า บนใบหน้านั้น ซีดเซียว คนที่ได้เห็นเป็นต้องใจอ่อน แต่…..เสิ่นเอ้อทำใจโหดร้าย เหลือบมองอย่างระมัดระวังไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลัง ทั่วร่างแผ่ซ่านความมืดมน “อะแฮ่ม……คุณเจี่ยน เรื่องนี้ผมทำไม่ได้ครับ” ในความหมายนี้คือ คุณขอร้องผิดคนแล้ว
“คุณเจี่ยน คุณรีบนั่งให้ดีๆเถอะครับ ฉากกั้นจะทำให้เจ็บ……”
พูดไม่ทันจบ เสิ่นเอ้อก็เห็นมือหนึ่งดึงเธอกลับไป แล้วฉากกั้น ไม่กี่วินาทีต่อมาก็แยกช่องว่างระหว่างด้านหน้าและด้านหลังโดยสมบูรณ์
เจี่ยนถงหดตัว ในใจไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร
กลัวแล้วจริงๆ กลัวเขาถึงขีดสุดแล้ว
“ทำไมถึงปิดบังฉัน มาทำบัตรประชาชนเสริม?” น้ำเสียงต่ำนิ่ง ค่อยๆดังขึ้นภายในรถที่เงียบสนิท ฟังดูรื่นหูมาก แต่ภายในหูของเจี่ยนถง ฟังดูแล้วราวกับเผชิญการสักถามของซาตาน
ถ้าไม่ระวัง ก็จะตอบคำผิด
“ฉัน…..ฉันไม่มีบัตรประชาชน ไม่สะดวกมากๆ ประธานเสิ่นก็ ก็รู้ว่าตอนนี้มีเรื่องมากมายที่ฉันต้องใช้บัตรประชาชน” ไม่ต้องให้ใครบอก ตัวเธอเองก็รู้ ว่าคำพูดโกหกของเธอมันงี่เง่าแค่ไหน
บนหน้าผาก ค่อยๆมีเหงื่อเย็นไหลออกมา ประหม่าจนลืมทุกอย่างไปหมดสิ้น
“ฉันจะฟังความจริง”
“ความ ความจริง…..นี่ก็คือความจริง…..” ประหม่าจนแทบจะกัดโดนลิ้น จนกระทั่งตอนนี้ เธอยังคงพยายามปิดบังเรื่องที่ผ่านมา
“หนึ่ง” น้ำเสียงที่เย็นชา ดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อเจี่ยนถงเงยหน้าขึ้น ก็มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ริมฝีปากเธอซีดขาว ขยับเปิดปิด “ฉันไม่ได้หลอกนาย…..”
“สอง”
“เป็นเรื่องจริง…..”
ชั่วพริบตาต่อมา เสียงที่พยายามแก้ตัวของเธอ ก็หยุดลงกะทันหัน!
เธอเห็นบนใบหน้าของเขา สายตาที่เยือกเย็นไปถึงกระดูก มองตรงมาที่ใบหน้าของเธอ
“จริงๆนะฉัน……”
เสียงที่เย็นชาขัดจังหวะคำแก้ตัวที่ตะกุกตะกักของเธอ “เธอลองพูดคำว่า “จริง” อีกครั้งสิ” ดวงตาสีเข้มเยือกเย็นเต็มไปด้วยหิมะ “นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย เจี่ยนถง”
ภายใต้การจ้องมองที่เยือกเย็น เธอไม่มีทางหนีรอดไปได้!
แต่ว่า เขามีสิทธิ์อะไรมาใช้สายตา “เธอทำเรื่องที่ผิด” แบบนี้มามองเธอ?
เธอทำเรื่องที่ผิดเหรอ?
เธอทำอะไรผิด?
“ฉันก็แค่อยากจะได้บัตรประชาชนของฉันคืน” ท่ามกลางความเงียบ เธอค่อยๆเอ่ยปาก น้ำเสียงแหบพร่า ซึ่งปกปิดเสียงสะอื้นได้เป็นอย่างดี ลดศีรษะลง หลับตา บังคับความแสบตาและความขมขื่นในปาก…..เสิ่นซิวจิ่น ฉันเพียงแค่อยากได้บัตรประชาชนของฉันคืน เอาคืนหลักฐานเพียงอย่างเดียวว่าฉันยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
นายเคยมีประสบการณ์อย่างนี้ไหม?
เมื่อโลกทั้งใบ เหลือเพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่านายเป็นใคร ความน่าเศร้าแบบนั้น? แต่เมื่อบัตรใบเดียวที่สามารถพิสูจน์ได้ว่านายเป็นใครไม่ได้อยู่กับตัวนาย ในตอนนั้น ไม่ใช่น่าเศร้า แต่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัย
ใช่ เธอยอมรับ เธอทำบัตรประชาชนใหม่เพราะมีวัตถุประสงค์อื่น
แต่นี่มันบัตรประชาชนของเธอนะ!
อำนาจพื้นฐานที่พลเมืองทั่วโลกต่างมี……ที่เธอต้องการก็แค่สิ่งนี้เท่านั้น!
โลภมากเกินไปเหรอ?
ทำผิดไปเหรอ?
จู่ๆก็มีแรงหนึ่งฉุดเธอไป เข้าไปในอ้อมแขนของชายหนุ่ม วินาทีต่อมา กรามก็ปวดขึ้น ถูกบังคับให้ยกคางสูง โต้ตอบไม่ได้ เงาดำเงาหนึ่งกดลงมา สัมผัสที่ร้อนผ่าวจากริมฝีปาก คอยเตือนเธอ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
“อุ๊บ”
ดิ้นรน ไร้ประโยชน์
ต่อต้าน ไร้ประโยชน์
ฉีกขาด ถูกแขนเหล็กนั้นควบคุมไว้อย่างดุเดือด
ปากนั้น กัดลงไปอย่างแรง ให้เขาได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของลิ้นที่ฉีกขาด
แต่เขาไม่เจ็บ แต่กรามของเธอกลับมีเสียง “กรอด” ดังสวนมา ตามด้วยเสียงกรอบของกระดูก ความเจ็บปวดเกิดขึ้นที่คาง แทบจะไม่ต่างจากการโดนมีดที่เอวด้านหลังในตอนนั้นเลย!
โฮ…..โฮ…..โฮ…..หอบหายใจเฮือกใหญ่ ความเจ็บนั้น เข้าไปในกระดูก แขนขาสี่ข้างล้วนเจ็บไปหมด…..เธอลืมตาทั้งสองข้าง เห็นด้วยตาตัวเองว่าคนคนนี้จูบตนอย่างลึกซึ้ง…..ในใจค่อยๆเข้าสู่ความเยือกเย็น เลือดก็ค่อยๆแข็งตัวเพราะมัน…..เขาทำมันได้ยังไง?
ด้านหนึ่งถอนคางของเธอ อีกด้านก็จูบอย่างลึกซึ้งเช่นนี้?
ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น ดวงตาเหยี่ยวปิดแน่น คิ้วเข้มหนาขมวดเบาๆ…..จูบตนอย่างใจจดใจจ่อขนาดนั้น…..เจี่ยนถงก็ลืมตาอยู่แบบนี้ มองดูใบหน้าตรงหน้าที่จูบตนอย่างใจจดใจจ่อ ในดวงตามีน้ำตาใสๆไหลลงมาช้าๆ
ใช่แล้ว คนคนนี้ ชอบกดขี่มาโดยตลอด เคยยอมรับการปฏิเสธไหม? …..ทำไมเธอถึงลืมความจริงที่เป็นเหมือนเหล็กนี้ไว้หลังสมองได้?
เจี่ยนถง เธอมันโง่จริงๆ
เป็นไงล่ะ เจ็บปวดหรือยัง
แต่ทำไมเขาถึงทำร้ายเธอไปด้วย พร้อมกับจูบเธออย่างใจจดใจจ่อแบบนี้ไปด้วยได้?
เขาทำได้ยังไง!?
คางถูกถอดออก เธอก็กลายเป็นตุ๊กตา ปล่อยให้เขาครอบครอง
ริมฝีปากที่เปียกชื้นและเร่าร้อนประกบกัน หมุนพลิกไป แต่เนื่องจากคางไม่สามารถกลืนน้ำลายได้ จึงไหลออกมาตามมุมปากของเธอ…..นี่มันจูบที่ลึกซึ้งตรงไหนกัน?
นี่มันเป็นการทรมานทั้งร่างกายและจิตใจชัดๆ!
น้ำตาไหลเข้าไปกลางปาก เธอได้ลิ้มรสเค็มของน้ำตา เธอได้ชิมมัน เขาเองก็ได้ชิมมัน แต่คนคนนี้ ไม่มีความคิดที่จะหยุดลงเลยแม้แต่น้อย
เธอหลับตาลง จะไม่ยอมหลั่งน้ำตาอีก…..เป็นอีกครั้ง หลังจากสามปีที่ห่างหายไปนาน ผู้ชายคนนี้ได้สอนเธออีกครั้ง—ว่าสำหรับเขาแล้ว น้ำตาของเธอมันไร้ค่า!
จูบนี้ สำหรับเจี่ยนถงแล้ว เป็นการทรมานทางร่างกายและจิตใจ
สำหรับเสิ่นซิวจิ่นแล้ว หรือจะเป็นการล้อเล่นกับจิตใจ?
ทันทีที่รู้ว่าเธอจะทำบัตรประชาชนใบใหม่ เขาก็บ้าคลั่ง!
ปิดบังเขาไปทำบัตรประชาชนใหม่ เธอคิดจะทำอะไร?
จุดประสงค์มันชัดเจนในตัวเอง!
แต่ว่า…..สายไปแล้ว ทุกอย่างมันสายไปแล้ว!
ขอโทษนะ เจี่ยนถง ฉัน…..หลงรักเธอแล้ว
ขอโทษนะ…..ไม่สามารถให้อิสระเธอได้แล้ว
ขอโทษนะ…..ที่ทำให้เธอเจ็บ แต่ถ้าทำเธอเจ็บแล้วสามารถทำให้เธอจดจำความเจ็บนี้ สามารถทำให้เธอ “กลัว” ถ้า “ความกลัว” กับ “หวาดกลัว” มันจะทำให้เธอไม่กล้ามีความคิดที่จะไปจากข้างกายฉันอีก งั้นเธอก็ “กลัว” ฉันเถอะ…..ขอโทษนะ สายไปแล้ว ทุกอย่างมันสายไปแล้ว ไม่สามารถปล่อยมือไปได้อีกแล้ว!
ในตอนที่รถหยุดนิ่ง มือของเขาก็ดันคางของเธอกลับเขาไปอีกครั้ง เสียง “กรอด” ดังขึ้นอีกครั้ง ฝีมือของเขาชำนาญมาก แต่สำหรับเจี่ยนถง ไม่อยากที่จะแบกรับความเจ็บนี้อีกเป็นครั้งที่สอง
“ชู่ว~ อย่าพึ่งพูด มันจะเจ็บ” น้ำเสียงอ่อนนุ่มดังอยู่ในหู “ขอแค่เธอเป็นเด็กดี ไม่คิดที่จะหนีอีก เจี่ยนถง…..เธออยากแต่งงานกับฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ ขอแค่เธอเป็นเด็กดี ชั่วชีวิตนี้ฉันจะปกป้องเธอเอง ดีไหม?”
ราวกับมีลมหนาวพัดผ่านมา หญิงสาวในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ตัวสั่นเทาเล็กน้อย คอที่เผยอยู่ด้านนอก ก็มีขนลุกชันขึ้น
นัยน์ตาที่สดใส เผยความกลัวที่หยั่งลึก…..กัดริมฝีปากล่างที่ซีดขาวอย่างรุนแรงได้ทันเวลา ถึงหยุดเสียงกรีดร้องจากความกลัวที่เกือบจะล้นออกมาจากคอ
แต่เธอไม่อาจควบคุมความเย็นที่พุ่งออกมาจากหัวใจได้ ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม!
วันนี้ ตอนที่เสิ่นซิวจิ่นพบว่าเธอคิดจะหนี ในตอนนี้ตระหนักได้ว่าตนได้หลงรักผู้หญิงในอ้อมแขนคนนี้โดยสมบูรณ์แล้ว ในตอนที่เขาตระหนักว่าไม่อาจจากไปไม่อาจปล่อยมือได้อีก…..นี่มันสำหรับความรู้สึกแล้ว ชายหนุ่มช่างซื่อบื้อราวกับเด็กอนุบาล ใช้วิธีที่โง่ที่สุดและผิดพลาดที่สุด เพื่อรั้งหญิงสาวที่ในอ้อมแขนไว้ ลิขิตว่าในอนาคต เขาจะต้องแบกรับหัวใจที่บอบช้ำอย่างที่มาก