เธอรอคอยความเชื่อใจจากเขามานานมากแล้ว นานจนเธอสิ้นหวัง เสิ่นซิวจิ่นมีเวลาตั้งนาน นายไม่ยอมเชื่อ ในเมื่อไม่ยอมเชื่อใจ ก็ไม่ต้องมาเชื่อใจกันอีก!
ตอนที่จิตใจเธอแห้งเหี่ยว เขากลับมาบอกว่าเชื่อใจเธอ
“นี่ก็ดึกแล้ว ประธานเสิ่นกลับไปนอนเถอะค่ะ” เจี่ยนถงเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวที่หันหลังให้เขาอยู่ข้างเตียง เขารู้สึกเหม่อ ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร…..เหมือนหัวใจของเขาถูกขุดออกมา
เธอไม่สนใจภาพลักษณ์ของเธอในสายตาของเขาอีกแล้ว
ไม่สนใจว่าเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่ออีกแล้ว
เขายืนหลังตรงสง่าผ่าเผยอยู่ข้างเตียง แต่ทว่าแววตาของเขากลับสับสน……เขากำลังคิดว่าหลายปีมานี้ ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป
เธออยู่ข้างกายของเขาชัดๆ แต่ทำไมกลับรู้สึกว่ามันห่างไกลจนสุดขอบฟ้า
เมื่อหลายปีก่อน เธอข้ามน้ำข้ามทะเลไปอเมริกาเพื่อที่จะเจอหน้าเขา ระยะทางไกลแค่ไหนก็มิอาจกีดกั้นความรู้สึกของเธอ เธอเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ดังนั้น……เพราะเขาหรือที่เป็นคนเผาผลาญเธอจนหมดสิ้น
ทำไมตอนนี้ แค่เตียงนี้ กลับทำให้เขารู้สึกห่างไกลเหมือนคนแปลกหน้าที่รู้จักกันดี
ความกลุ้มใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าเฉยเมยของเสิ่นซิวจิ่น
เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เขาสามารถหันไปเจอได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าเขาจะอยู่ไกลแค่ไหนหรืออยู่ที่ไหน แค่เขาหันหลังกลับมาก็เจอเธออยู่ข้างหลังเขาเสมอ จู่ๆ จะมีวันที่เขาหันหลังกลับมาแล้วไม่เจอเธอที่คุ้นเคยอีกแล้ว
เพราะเขา…..อวดดีเกินไปงั้นเหรอ?
เพราะเขา……ไร้ความรู้สึกเกินไปงั้นเหรอ?
เพราะเขา…..ทำลายความรักครั้งสุดท้ายของผู้หญิงคนนี้งั้นเหรอ?
ทั้งสองคน คนหนึ่งนอนหันหลังให้คนข้างหลัง ดูเหมือนเธอเฉยเมยไม่รู้สึกอะไร แต่บนใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เธอร้องจนไม่เหลือความเป็นตัวเอง
ยังไงก็ตาม เจี่ยนถงก็ยังเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง เธอยังอ่อนแอต่อหน้าเขา
ส่วนอีกคนเอาแต่ยืนเหม่อมองแผ่นหลังของผู้หญิงบนเตียง คนที่เย็นชา ไม่รู้จักความรักมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กลับรู้สึกสับสนขึ้นในใจ
จู่ๆ ที่นอนก็ยวบลง
เจี่ยนถงรับรู้ได้ถึงความร้อนข้างหลัง เธอรีบยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา เธอไม่มีวันให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอ!
แต่ก็ไม่เร็วเท่าชายหนุ่ม จู่ๆ ชายหนุ่มก็พลิกตัวขึ้นคร่อมตัวเธออย่างรวดเร็ว เมื่อมองลงไปยังหญิงสาวที่อยู่ใต้ตัวผู้หญิงคนนั้นยกแขนขึ้นปิดใบหน้าของเธอเอาไว้อย่างมิดชิด
เขารู้สึกสงสัยจึงยื่นมือออกมาขยับแขนของเธอ
“อย่า”
เธอปฏิเสธ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความพยายามของเขาได้……เธอปิดหน้า เพราะไม่อยากเห็นเขาอย่างนั้นเหรอ
ความเจ็บปวดที่เห็นได้น้อยนักฉายออกมาทางแววตาของเสิ่นซิวจิ่น เขาพยายามดึงแขนของเธอออก แต่วันนี้เจี่ยนถงดื้อมาก เธอไม่ยอมเอามือที่ปิดหน้าออก เสิ่นซิวจิ่นบุ่มบ่าม จู่ๆ เขาจับข้อมือทั้งสองข้างของเจี่ยนถงอย่างเอาแต่ใจ เขาใช้แรงโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้มือของเธอขยับออกจากใบหน้า เขาแผดเสียงออกมาว่า “มอง……” หน้า……
ในที่สุดเขาก็ขยับมือเธอออกได้ แต่เขาก็อึ้งไป
แววตาของเขาจริงจัง คนที่โดนเขาจ้องอย่างเจี่ยนถงต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“เธอ……” เขาเอาแต่มองผู้หญิงที่โดนคร่อมอยู่ใต้ตัว มองขนตาอันเปียกชื้นของเธอ ขอบตาที่ยังเปียกชื้น เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่มีเหตุผล และแอบดีใจเล็กน้อย “เธอร้องไห้……” เธอร้องไห้ นั่นแสดงว่าภายใต้ความเฉยชาและไร้ความรู้สึกที่เธอแกล้งแสดงออกมา แท้ที่จริงแล้วในใจลึกๆ ของเธอยังแคร์เขาอยู่อย่างนั้นเหรอ
เจี่ยนถงกัดปาก “ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย”
ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะนาย
เธออยากบอกประโยคนี้กับเขา
แต่ทว่าตอนนี้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม จู่ๆ เขาก็ก้มลงมาจูบเธออย่างรวดเร็ว “เสี่ยวถง”
เขาก้มลงมาจูบเธออีกครั้งเหมือนยังไม่หนำใจ “เสี่ยวถง”
เขาเรียกเสี่ยวถงทุกครั้งที่จูบ
เจี่ยนถงสับสนไปหมด……ควรเชื่อเขาไหม
จะเชื่อเขาได้ไหม
ไม่!
เคยให้โอกาสไปหลายครั้ง ความเชื่อใจของเธอ กลับได้มาซึ่งความผิดหวังเสมอ
เธอยื่นมือออกมาผลักคนบนตัว “ประธานเสิ่น อยากทำเหรอ”
ใบหน้ามีความสุขของเสิ่นซิวจิ่นชะงักไป เขามองผู้หญิงใต้ตัวอย่างไม่อยากจะเชื่อ……เธอพูดอะไรออกมา
“ประธานเสิ่นน่าจะรู้ว่าฉันเคยเข้าคุก เป็นคนร้ายที่เคยทำผิด ซึ่งจุดนี้มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
ความสัมพันธ์ของฉันกับประธานเสิ่นเหมือนหญิงบริการกับแขกผู้มีพระคุณ”
เธอเป็นฝ่ายยื่นมือมาดึงผ้าห่มออก และดึงชุดคลุมนอนของตัวเองออก
แขนข้างหนึ่งของเธอเลื้อยไปบนลำคอของเสิ่นซิวจิ่นเหมือนงู ตอนนี้เจี่ยนถงสวยหยาดเยิ้มกว่าปกติ
แต่ทว่าเสิ่นซิวจิ่นที่คร่อมอยู่บนตัวเธอ กลับลุกขึ้นมา เพื่อหลบแขนที่มาเกี่ยวคอของเขา
เจี่ยนถงราวกับงู เธอนั่งและเอามือค้ำบนเตียง เธอเลื้อยเข้ามาเหมือนเงาและหัวเราะเบาๆ ว่า “ประธานเสิ่น ไม่อยากเหรอคะ”
เสิ่นซิวจิ่นมองเจี่ยนถงที่ออดอ้อนเหมือนคนแปลกหน้า เขามองเธออย่างพูดไม่ออก ในใจของเขารู้สึกเจ็บปวด
เจี่ยนถงกัดฟัน คนที่ไวต่อความรู้สึกอย่างเธอ……รับรู้ถึงความเจ็บปวดในดวงตาของเขาอย่างชัดเจน……แต่ทำไม ในแววตาของเขาต้องเจ็บปวดด้วย
เพราะเธออย่างนั้นเหรอ
ไม่ ไม่ ไม่
คนร้ายที่ค่อยๆ บีบบังคับให้เธออยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนแบบนี้ ก็คือประธานเสิ่นที่กำลังมองเธออย่างเจ็บปวดอยู่ตรงหน้า!
แล้วความเจ็บปวดนั่นมันคืออะไร
เรื่องของเขาสิ เจี่ยนถงพึมพำกับตัวเอง
“ประธานเสิ่น……” เธอทำตัวเหมือนงูที่เลื้อยเข้าไป แขนอันเนียนนุ่มทั้งสองข้างเกี่ยวลำคอของชายหนุ่มเอาไว้ เธอคุกเข่าลงบนเตียงและใช้สองแขนเกี่ยวคอของเขา เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ประธานเสิ่น……คุณคือแหล่งเงินของฉัน แถมฉันยังเป็นหนี้คุณหลายร้อยล้าน การที่คุณนอนลงบนเตียง เป็นการบอกโดยนัยว่าประธานเสิ่นต้องการไม่ใช่เหรอ”
ตอนนี้เธอบีบบังคับเอาจิตวิญญาณของตัวเองออกไป ทิ้งความละอายในสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่เหลืออยู่ไม่มาก เธอยั่วยวนผู้ชายตรงหน้าเหมือนนางปีศาจ พลางพยายามพูดล้างสมองของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร จะต้องไม่เป็นไร
ในสายตาของเขา ฉันมันต่ำตมจนเหมือนโคลนตม ยังจะแคร์อะไรอีก ขอแค่เขาต้องการ ฉันก็สามารถเป็นผู้หญิงต่ำตมได้มากกว่านี้อีก ติดคุกก็เคยมาแล้ว จะกลัวอะไรอีก พยายามอย่าทำให้สถานการณ์มันแย่ไปกว่านี้
หรือว่า……หรือว่าเขาคิดว่าเธอต่ำตม จนทำให้หมดความน่าสนใจ
งั้นก็ดีสิ งั้นก็ทำเรื่องน่าอับอายออกมา ใครก็อย่าก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอก็แสดงอย่างสุดความสามารถ แก้มของเธอแดงระเรื่อและพูดด้วยเสียงกระเส่า เธอแทบอยากจะบีบคอให้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ประธานเสิ่น ไม่อยากจริงเหรอ”
เธอรู้ดีว่าการกระทำของเธอในตอนนี้ มันด้อยค่าเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าในสายตาของผู้ชายคนนี้……ไม่สิ! ในสายตาของคนที่เห็นเธอในตอนนี้ เจี่ยนถงคือสินค้าที่สามารถประเมินค่าได้ด้วยเงิน
เธอรู้ดีทุกอย่าง!
แล้วมันจะทำไมล่ะ
กลับกัน เธอไม่แคร์
นิ้วมือของเธอวาดไปที่ลำคอของเขาอย่างยั่วยวน เสิ่นซิวจิ่นหรี่ดวงตาดำขลับลง ดวงตาของเขาเข้าใจอย่างชัดเจน เขาหลุบตาลงมองผู้หญิงตรงหน้า สายตาของเขามองออกทุกอย่าง
เขาไม่หลบเหมือนก่อนหน้านี้ จู่ๆ เขาก็ยื่นฝ่ามือเรียวออกมาจับมือที่กำลังพาดผ่านไหปลาร้าของเขา “ใครสอนเธอทำแบบนี้”
เสียงทุ้มฟังดูเหมือนหยกตกลงไปในจาน เขาพูดออกมาเบาๆ ว่า “หืม?” แค่พยางค์เดียวก็ดูเหมือนอันตรายมาก มันเหนือกว่าการยั่วยวนของเจี่ยนถงเมื่อสักครู่ ถ้าให้พูดเรื่องการยั่วยวน เสิ่นซิวจิ่นคือผู้มีฝีมือที่แท้จริง
สีหน้าของเจี่ยนถงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ประธานเสิ่น คุณ……ลืมแล้วเหรอว่าฉันทำอะไร เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องให้ใครมาสอนเหรอ ถ้าจะให้พูดว่าใครสอนจริงๆ งั้น……ก็น่าจะเป็นพวกผู้ชายที่เข้าออกตงหวงละมั้ง”
เสิ่นซิวจิ่นกำมือของเจี่ยนถงเอาไว้แน่น เขาลูบฝ่ามือที่เล่นสักพัก จากนั้นจึงพูดเนิบๆ ว่า “เธอน่าจะเข้าใจผิดนะ ฉันหมายถึงการกระทำและเทคนิคของเธอมันเก้ๆ กังๆ
ถ้าเธอบอกว่าผู้ชายที่เข้าออกตงหวงเป็นคนสอนเธอ งั้นคงบอกได้แค่ว่า เขาไม่ได้เรื่อง”
สีหน้าของเจี่ยนถงสลดลงทันที……เสิ่นซิวจิ่นพูดอะไรลามกแบบนี้เป็นด้วยเหรอ
“เธอรู้ไหมอะไรเรียกว่ายั่วยวน” ชายหนุ่มพูดอย่างสง่างามพลางเล่นกับมือของเธอ “มาสิ” จู่ๆ เขาก็ยื่นมือออกมารวบตัวเธอ เจี่ยนถงรู้สึกสับสนไปหมด เมื่อเธอตั้งสติได้ ตัวของเธอก็อยู่ในอกของเขาแล้ว “มาสิ เดี๋ยวฉันสอนเธอเอง”