“Boss ผมรู้สึกผิดที่คุณไว้วางใจ” ในห้องหนังสือที่มืดสลัว เสิ่นเอ้อรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก
เสิ่นซิวจิ่นสีหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์ใดออกมา “สืบไม่เจอเหรอ?”
เสิ่นเอ้อยิ่งก้มหัวต่ำลงไปอีก เขาตำหนิตัวเองในใจ “Boss เรื่องที่คุณสั่งกำชับ ผมทำมันไม่ได้ ทั้งหมดเพราะผมไม่มีความสามารถมากพอ ถ้าเปลี่ยนไปให้เสิ่นยีทำ คงจะสืบเจอตั้งนานแล้ว”
Bossสั่งเขาให้ไปสืบเรื่องเมื่อสามปีก่อนอย่างลับๆ ดูจากเวลาสามปีแล้ว เรื่องนี้จริงๆไม่ใช่จะสืบได้ง่ายๆ แต่ว่าเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เขายังสืบอะไรที่เป็นประโยชน์ไม่ได้เลยสักนิด
สืบไปสืบมา หลักฐานทั้งหมดที่สืบมานั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณเจี่ยนเลย
แต่…เขากับเสิ่นยี่ไม่เหมือนกัน ใจของเสิ่นยีนั้นคิดแล้วว่าคุณเจี่ยนมีความผิด แต่เขาเสิ่นเอ้อนั้นไม่เชื่อว่าคุณเจี่ยนจะเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่เริ่มแรก
ดังนั้นเมื่อรู้ว่าBossต้องการจะสืบเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาและเสิ่นอีเหมือนกัน และยังมีคนอื่นๆอีกไม่กี่คน ทั้งหมดคือคนที่Bossเลือกมาตั้งแต่ยังเด็ก ติดตามเคียงข้างBossมาตลอด เป็นธรรมดาและนับได้ว่าเป็นคนที่โตมาพร้อมกับคุณเจี่ยนตั้งแต่เด็ก
ตอนที่Bossสั่งให้เขาไปสืบเรื่องเมื่อสามปีก่อน เขานั้นเต็มไปด้วยความดีใจ แต่ว่าสืบมานานขนาดนี้แล้ว แต่สิ่งที่สืบค้นมาได้ กลับยิ่งยืนยันให้คุณเจี่ยนตกเป็นที่ต้องสงสัย
คำให้การของคุณเจี่ยนที่สืบมา เวลานี้ถูกวางไว้บนโต๊ะหนังสือของBoss ตอนที่เสิ่นเอ้อจัดทำเอกสารคำให้การชุดนี้ เขาก็ลังเลว่าจะนำเอกสารนี้ส่งให้Bossดีหรือไม่
เสิ่นซิวจิ่นหยิบรายงานขึ้นมา หลังจากเปิดดู นัยน์ตานั้นกวาดดูอย่างรวดเร็ว ภายในห้องหนังสือนั้นเงียบสงบ มีเพียงแค่เสียงเปิดแผ่นเอกสารเท่านั้นที่ดังขึ้น
“ข้อมูลทุกอย่างที่สืบค้นมาได้ อยู่ในนี้หมดแล้วเหรอ?” เขาวางเอกสารลง ใบหน้าอันหล่อเหลาด้านหนึ่งนั้นซ่อนอยู่ในเงามืด ส่วนอีกด้านนั้นโดนแสงไฟจากโคมไฟที่เปิดอยู่สาดส่องอยากที่จะคาดเดา
เสิ่นเอ้อพยักหน้าอย่างกดดัน “ครับ” เขาพูดพร้อมพยักหน้าอีกทันที พร้อมรีบพูด “แต่ว่าBoss ผมก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าคุณเจี่ยนเป็นคนแบบนั้น” แต่ว่า เอกสารชุดนี้ เขาทำเองกับมือ การสืบค้นทั้งหมดก็เป็นเขาที่ดำเนินการทั้งหมดเพราะงั้นเลยทำงานได้ช้า แม้แต่เสิ่นยีที่สนิทกับเขาขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาแอบสืบเรื่องนี้อย่างลับๆ
เขาเต็มใจที่จะเชื่อคุณเจี่ยน แต่ข้อมูลในเอกสารนี้กำลังหัวเราะเยาะ’ความเชื่อ’ของเขา!
ตึกตึก ตึกตึก…
นิ้วเรียวยาวของเสิ่นซิวจิ่นเคาะเบาๆอยู่บนโต๊ะอยู่อย่างนั้น หรี่ตาจ้องมองไปยังเอกสารที่เปิดแผ่ออกอยู่อย่างนั้นเงียบๆ มองอยู่นาน สายตานั้นจมอยู่กับความคิด
“Boss ผมมันไม่มีประโยชน์ สืบหามาได้แค่ข้อมูลพวกนี้” ข้อมูล”หลักฐาน”ในนี้ใกล้เคียงกัน ถูกทำขึ้นมาแนบเนียน ไม่ว่าจะเปลี่ยนใครมาดูเอกสารหลักฐานนี้อีกกี่ครั้ง ก็ต้องคิดว่าเจี่ยนถงมีความผิด
“ถ้าเป็นเสิ่นยี ถ้าหากว่าเป็นเขาล่ะก็ บางทีอาจจะสืบหาได้มากกว่านี้…”
เสิ่นเอ้อพูดอย่างละอายใจเป็นที่สุด โทษตัวเองที่ความสามารถเทียบกับเสิ่นยีไม่ได้ พูดยังไม่ทันจบก็ถูกชายที่อยู่หลังโต๊ะหนังสือ พูดตัดบทขึ้นมา
“เปลี่ยนให้เสื่นยีทำ ก็สืบหาไม่เจอเหมือนกัน”
นัยน์ตาดำสนิทของเสิ่นซิวจิ่น ปรากฏแววตาเคร่งขรึมออกมาแวบหนึ่ง “ฉันต้องการสืบเรื่องเมื่อสามปีก่อนสืบหาหลักฐานที่เป็นประโยชน์กับเธอ เหอะเหอะ…สุดท้ายแล้วก็สืบหามาได้แต่ข้อมูลหลักฐานที่ยิ่งมัดตัวเธอ ยิ่งยืนยันข้อกล่าวหาเธอ”
“Boss คุณเจี่ยนไม่มีทาง…”
“ใช่ เธอไม่มีทางทำ” เสิ่นซิวจิ่นลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที นิ้วมือสอดเข้าที่กระเป๋ากางเกง เดินไปที่หน้าต่างพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง หันหลังให้เสิ่นเอ้อ “อีกนิดเดียว ฉันก็จะเชื่อ’หลักฐาน’พวกนี้ ทำไมทำได้แนบเนียนขนาดนี้ วนไปวนมาให้คนผลัดตั้งคำถาม แต่เมื่อเห็นแล้วคำถามก็หมดไปทันที นี่ ยิ่งทำให้มีปัญหาหนักเข้าไปใหญ่”
“Boss…” ทันใดนั้นเสิ่นเอ้อก็เงยหน้าขึ้นมา ลืมตากว้างและสั่นด้วยความหวาดกลัว!
เขาติดตามเสิ่นซิวจิ่นมาตั้งนานขนาดนี้ เมื่อเสิ่นซิวจิ่นพูดประโยคนี้จบ เสิ่นเอ้อก็แทบจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง!
“ไม่มีทาง!”
ชายที่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ…หึหึ ขนาดเสิ่นเอ้อที่ติดตามข้างกายเขามายังเดาออกได้บ้างแล้ว ริมฝีปากบางของเขานั้นยกขึ้น แต่รอยยิ้มก็เยือกเย็นไม่สู้สายตา “คุณปู่นะ คุณปู่”