Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 173 อันธพาลพวกนั้นปรากฏตัวแล้ว

เท้ายื่นออกไปลอยค้างเหนือขั้นบันได พ่อบ้านชรายืนอยู่ข้างล่าง จดจ้องมาที่หญิงสาวบนบันไดนิ่งๆ แม้วินาทีแรกจะแอบตกใจที่เธอไม่ได้สวมใส่ชุดสีขาว แต่แล้วยังไง ขอแค่ผู้หญิงคนนี้รู้สึกทุกข์ทรมานก็พอแล้ว

ตอนนี้ ในใจของผู้หญิงคนนี้ต้องกำลังทุกข์ทรมานแน่ๆ ท่าทางแบบนั้น คงจะกำลังกระโดดลงมาสินะ?

กระโดดลงมาสิ!

คนอย่างเธอ ควรตายไปตั้งนานแล้ว

สามปีก่อน ถ้าผู้หญิงคนนี้แบกรับทุกอย่างแทนเวยหมิง แบบนั้น…..เวยหมิงก็คงไม่ตาย

ดวงตาของพ่อบ้านอาบไปด้วยยาพิษ จดจ้องเจี่ยนถงที่ยืนอยู่บนบันได…..กระโดดลงมาสิ! เร็วเข้า!

เจี่ยนถงเห็นทุกความร้ายกาจในแววตาของพ่อบ้านชราที่ยืนเฝ้าอยู่ข้างบันได

ริมฝีปากที่บรรจงเติมแต่งสีแดงกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเท้าซ้ายเหยียบลงบนขั้นบันไดอย่างมมั่นคง ดวงตาของพ่อบ้านชราทอแววผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

พ่อบ้านเซี่ย ฉันไม่ได้คิดสั้นขนาดจะกระโดดลงไปหรอกนะ ผิดหวังล่ะสิ?

เธอหัวเราะเบาๆ ทว่าหัวใจกลับเจ็บปวด

เมื่อเธอยังเป็นเด็ก คนแก่ข้างล่างเคยลูบหัวเธออย่างเอ็นดู คอยเป็นห่วงไม่ให้เธอกับเซี่ยเวยหมิงออกไปเล่นไกลๆ

เธอเดินลงบันไดทีละก้าวอย่างมั่นคง ชุดสีดำที่ใส่อยู่ยิ่งขับให้เธอดูผอม เธอเดินผ่านพ่อบ้านไป ไม่แม้แต่จะแหล่ตามองเขาเลยสักนิด

เหมือนที่เธอพูดเอาไว้เมื่อสามปีก่อน…..ไม่สิ ตอนนี้ต้องบอกว่าสี่ปีก่อน

“ความเกลียดชังของคุณ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”

สี่ปีก่อนเป็นยังไง วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น

เซิ่นซิวจิ่นเดินออกมาจากมุมเลี้ยว เมื่อเห็นเจี่ยนถง ก็เลิกคิ้วขึ้น

“ปากแดงเกินไป” ยื่นมือออกไปลูบบนริมฝีปากของเธอ แล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆให้สีลิปสติกจางลง “แค่นี้พอ”

เขาเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้ง “แป้งหนาเกิน” พูดพร้อมกับเกร็งหน้า แล้วเอ่ยเรียกช่างแต่งหน้าให้มาหา “แต่งหน้ายังไง? ทำไมเข้มขนาดนี้?”

ตอนอยู่ในห้องนอนช่างแต่งหน้ายอมเสี่ยงแต่งหน้าให้เจี่ยนถงหนาๆ เพราะเธอรับเงินจากพ่อบ้านมาแล้ว ที่แต่งให้แบบนี้ แน่นอนว่าทำไปเพราะมีจุดประสงค์ไม่ดี

ในตอนนี้ เธอกำลังนั่งคุกเข่าตัวสั่นเทิ้ม “ประ ประธานเสิ่น ฉัน….เดี๋ยวฉันแต่งหน้าให้คุณเจี่ยนใหม่ค่ะ”

“คุณนาย เรียกว่าคุณนายเสิ่น”

“คะ?”

“เธอกำลังจะเป็นภรรยาของผม” เสิ่นซิวจิ่นกวาดสายตาเย็นชามองช่างแต่งหน้า “คุณคิดว่าคุณควรเรียกคนที่กำลังจะแต่งงานกับผมว่ายังไง?”

สีหน้าของช่างแต่งหน้าซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อผุดขึ้นมา จนเครื่องสำอางที่แต่งมาอย่างดีเริ่มเลอะเป็นคาบ

ด้านหลังสุด ยังมีใครอีกคนหนึ่งรีบเงยหน้าขึ้นมาทันที นิ่งอึ้งจนลืมว่าชายหญิงคู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากตรงหน้า ชั่วครู่ต่อมา ก็รีบก้มหน้าลง

ความเกลียดชังและเจ็บปวดในแววตา ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

ก่อนเดินออกไป เสิ่นซิวจิ่นก็ไม่ลืมหันมาพูดกับพ่อบ้านว่า “พ่อบ้านเซี่ย เรื่องที่ผมพูดกับคุณในห้องทำงานครั้งก่อน”

เมื่อเขาพูดออกมา ไหล่ของพ่อบ้านเซี่ยก็กระตุกไหว

“เดิมทีมีการคัดเลือกคนเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังเป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลเสิ่น ด้านคุณปู่ก็คงไม่อยากให้คุณออกทั้งอย่างนี้ ถ้าเป็นพ่อบ้านของตระกูลเสิ่นแล้วก็ต้องเป็นไปตลอด จนกว่าจะถึงวัยเกษียณ แบบนี้พ่อบ้านเซี่ยก็จะได้แก่อย่างสมเกียรติ คุณปู่บอกว่า อย่างน้อยก็เห็นแก่มิตรภาพอันเก่าแก่ ตามกฎของคนรุ่นก่อนๆ ครึ่งปีหลังจากนี้ พ่อบ้านเซี่ยก็จะเกษียณแล้ว ถ้าเกษียณออกไปอย่างปกติ ตามกฎของตระกูลเสิ่น พ่อบ้านเซี่ยก็จะมีบั้นปลายชีวิตอย่างสมเกียรติ”

ขณะที่พูดอยู่จู่ๆก็เปลี่ยนถ้อยคำ

“แน่นอนว่าผมต้องไว้หน้าคุณปู่อยู่แล้ว และผมก็พยายามทะนุถนอมความสัมพันธ์ฉันท์เจ้านายลูกน้องตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมากับพ่อบ้านเซี่ยเสมอ มิตรไมตรีเก่าๆผมก็คำนึงถึงอยู่ตลอด พ่อบ้านเซี่ยต่างหากที่ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”

พ่อบ้านเซี่ยหนังตากระตุก…..ผู้ชายตรงหน้ากำลังกล่าวเตือนเขาว่า เพราะมิตรไมตรีเก่าๆ ผมจะยอมปล่อยให้คุณอยู่จนถึงวันเกษียณ แต่คุณก็ต้องรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มกำลังเตือนไม่ให้เขายุ่งกับผู้หญิงต่ำต้อยอย่างเจี่ยนถง!

ในใจขอพ่อบ้านเซี่ยโกรธเกลียดแทบตาย แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกไป เขารู้ดี ในตอนนี้เวลานี้ ถ้าหลุดท่าทีทางสีหน้า การกระทำ หรือความเกลียดที่มีอยู่ในใจออกไป ถ้าเป็นอย่างนั้นต่อให้เขาอธิบายออกไปเท่าไหร่ ผู้กุมอำนาจตระกูลเสิ่นคนนี้ก็พร้อมที่จะขับไล่เขาออกไปทันที

“ผมเข้าใจที่คุณชายพูดแล้วครับ” พ่อบ้านชราเอ่ยพูดเสียงหนักแน่น “ไม่ว่าอดีตเคยเกิดอะไรขึ้น มันก็เป็นแค่อดีต”

เสิ่นซิวจิ่นพยักหน้า จากนั้นนก็หันหลังเดินนำเจี่ยนถงขึ้นไปขึ้นรถ

เรื่องในตอนนั้น มีลายมือของคุณปู่ คุณปู่ต้องการใช้หลักฐานไร้ช่องโหว่พวกนั้นมายืนยันกับเขา ว่าตอนนั้นเขาไม่ได้ผิด เจี่ยนถงต่างหากที่ทำผิด

แต่สิ่งที่คุณปู่ไม่รู้ก็คือ จากความสัมพันธ์หลานปู่ตลอดหลายปีมานี้ มันทำให้เขารู้จักนิสัยของคุณปู่เป็นอย่างดี “หลักฐาน”ที่ไร้ช่องโหว่มากเกินไปไม่สามารถยืนยันกับเขาได้ว่าเจี่ยนถงมีความผิด แต่กลับทำให้เขาได้เห็นลายมือของคุณปู่

ถ้าเจี่ยนถงผิดจริงๆ แล้วทำไมคุณปู่ต้องลงทุนสร้าง “หลักฐาน” ขึ้นมาด้วย?

ในเมื่อตอนนั้นเขาผิดจริงๆ เขาก็จะชดใช้ให้เธอทั้งชีวิต แต่เจี่ยนถงไม่มีความจำเป็นต้องรับความเกลียดชังและความเคียดแค้นเหล่านั้นของพ่อบ้านเซี่ยไว้ด้วยซ้ำ

และวันนี้ ช่างแต่งหน้าไม่มีทางเสียมาตรฐาน ด้วยการแต่งหน้าเข้มๆให้เจี่ยนถงอย่างนี้แน่ คนที่คิดละครตบตาเด็กขึ้นมาแบบนี้ นอกจากพ่อบ้านชราแล้ว เสิ่นซิวจิ่นก็คิดเป็นใครไม่ได้อีก

ถ้าเธอไม่ได้ผิด ก็ไม่สมควรมารับความโกรธเกลียดและปองร้ายจากพ่อบ้านเซี่ยอีก เหมือน…….เรื่องสารเลวพวกนั้นที่เขาเคยทำ

ภายใต้แสงไฟโออ่า รถจอดลงตรงหน้าประตู เสิ่นยีกับเสิ่นเอ้อนั่งข้างหน้า เมื่อเสิ่นยีเปิดประตู เสิ่นเอ้อก็ลงไปก่อน แล้วมาเปิดประตูให้เสิ่นซิวจิ่นที่เบาะหลัง ในตอนที่กำลังจะเดินอ้อมไปเปิดประตูให้เจี่ยนถง ก็มีมือข้างหนึ่งจับแขนเขาเอาไว้ “เดี๋ยวฉันเอง”

เสิ่นเอ้อชะงัก แล้วก้าวถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง

เสิ่นซิวจิ่นเดินอ้อมมาอีกด้าน เปิดประตูรถออก จากนั้นก็ยื่นมือไปให้เธอที่นั่งอยู่ในรถ

ตลอดทาง ภายในหัวของเจี่ยนถงวุ่นวายสับสนไปหมด

แต่สุดท้ายก็ยอมใช้ชีวิตเหมือนท่อนไม้ ทำไมต้องไปนึกถึงความเจ็บปวดนั่นด้วย

มือของเขา ยื่นมาตรงหน้าเธอ เธอมองอยู่สักพัก จากนั้นก็ผลักมันออก แล้วลงจากรถเอง

แต่มือนั้นก็ยื่นเข้ามาหาอีกครั้ง “จับเอาไว้” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ดังเข้ามาในหู

เจี่ยนถงนิ่ง สัญชาตญาณเริ่มตื่นตัว แต่ก็ยังยับยั้งมันเอาไว้ในใจได้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับมือของเขาไว้…..อย่างที่เขาต้องการ

หลายปีที่ผ่านมาในอดีต เธอเคยไล่ตามเขา ขอจับจูงมือเขาอย่างหน้าด้านๆ แต่ก็มักจะถูกเขาผลักไสอย่างไร้ความปรานี แต่กระนั้นก็ยังยิ้มหน้าระรื่นเข้าไปจับมือเขาใหม่อยู่ดี ตอนนั้น แม้ว่าจะถูกผลักไสครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่เคยเต็มใจจับมือเธอเลย แต่ในตอนนั้น เธอรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเรามันใกล้กันที่สุดแล้ว

ในตอนนี้ มือที่กำลังกุมกันอยู่ กลับรู้สึกถึงแค่ความเจ็บปวดที่ฝังลึก

บริเวณที่มือทั้งสองกำลังประสานกันอยู่ มันร้อนผ่าวจนเธออยากสะบัดออก

เบื้องหน้าเอาแต่ปรากฏภาพที่เธอไล่ตามความรักอย่างไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจในอดีตและภาพน่าอดสูในคุกตลอดสามปีนั้น

มือนี้ เป็นเหมือนของร้อนที่อยากสะบัดทิ้ง

คฤหาสน์ตระกูลเสิ่น

กริ๊งๆๆ…….

เสียงมือถือดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

เมื่อมือเหี่ยวย่นหยิบขึ้นมาดู ก็รีบกดปุ่มรับสายในทันที

“ลู่หมิงชู! นายคิดได้แล้วใช่ไหม? นายยอมช่วยฉันแล้วใช่ไหม? ลู่หมิงชู ฉันบอกนายแล้วว่า ว่ามันจะมีประโยชน์กับนาย! นายไม่ต้องคิดถึงเรื่องแม่ของ……..”

“หุบปาก!” เสียงปลายสายดังขึ้นมาอย่างแข็งกร้าว นัยน์ตาของลู่หมิงชูเยือกเย็นไปทั้งแถบ “ตาแก่เซี่ย ถ้าคุณกล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว ผมรับประกันว่าคุณไม่มีชีวิตได้เห็นแสงตะวันพรุ่งนี้แน่ เชื่อไหม?”

“ลู่หมิงชู! นายไม่ต้องมาขู่ฉัน! เป้าหมายของเราก็เหมือนกันไม่ใช่หรือไง” พ่อบ้านเซี่ยเดือดเร้าๆกับคำว่า “ภรรยาที่กำลังจะแต่งงานกัน” ของเสิ่นซิวจิ่นจนไม่เป็นอันทำอะไร

“เหอะๆ ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะช่วยคุณ” ลู่หมิงชูหัวเราะเสียงเย็น แน่นอนว่าเขาไม่ได้สำนึกผิดอะไรหรอกที่ทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความผิดจนมีสภาพน่าสังเวชขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่มีทางไปดึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาจากนรก แล้วเผาให้มอดไหม้จนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้าอีกหรอก

“ฟังเอาไว้นะ คนพวกนั้นปรากฏตัวที่เมืองSแล้ว”

พ่อบ้านเซี่ยเบิกตากว้าง ดวงตาฝ้าฟางหดเล็กลง “นายพูดอะไร?”

“พวกอันธพาลในตอนนั้นไง คนของผมเห็นอยู่ในซอยบนถนนน่ะ ตอนนั้นฟ้ามืด เลยเห็นไม่ค่อยชัด คนของผมเองก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เลยมาบอกผม เมื่อกี้ผมเพิ่งไปดูกล้องวงจรปิดมา ……พ่อบ้านเซี่ย อย่าหาว่าผมไม่เตือนคุณเลยนะ ถ้าให้เจ้านายของคุณหาคนพวกนั้นเจอก่อน และถ้าหากความจริงทุกอย่างในตอนนั้นถูกเปิดเผยออกมา คุณก็ลองนึกถึงผลที่จะตามมาก็แล้วกัน”

“คนที่กลัวความจริงถูกเปิดเผยไม่ได้มีแค่ฉันหรอก ลู่หมิงชูนายก็ด้วย……”

“เหอะๆ ผมไม่กลัว ตาแก่ไม่ยอมให้เกิดศึกภายในหรอก”

“นายจะทำตัวเป็นคนนอกไม่ได้นะ ตอนนั้น……”

“ติ๊ด!”

พ่อบ้านเซี่ยเบิกตากว้าง จ้องมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ……. ลู่หมิงชูเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง?

ขณะนั้นเอง!

พ่อบ้านเซี่ยก็ปาแจกันโบราณทิ้งอย่างฉุนเฉียว “ลู่หมิงชู!ถ้าตอนนั้นไม่ใช่เพราะว่าแกสอดมือเข้ามา ลูกสาวของฉันก็คงไม่มีจุดจบอย่างนี้!”

ตอนนี้ลู่หมิงชูคิดที่จะผลักทุกอย่างให้พ้นตัวงั้นเหรอ?

ไม่มีทางซะหรอก!

แล้วก็ ถ้าคนพวกนั้น มาปรากฏตัวที่เมืองS อีกครั้งล่ะก็ ไม่ช้าก็เร็ว…..ยังไงคุณชายก็ต้องเจอตัวพวกนั้นแน่ๆ

ถ้า ถ้าหากความจริงในตอนนั้นถูกปอกเปลือกออกมาทีละนิด…..แล้วเวยหมิงล่ะ? เวยหมิงจะทำยังไง?!

เขากำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น โกรธจัดจนตัวสั่นเทิ้ม

พ่อบ้านเซี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กดโทรหาเจ้าตระกูลใหญ่ แล้วนำเรื่องราวทั้งหมดมาเล่าให้อีกฝ่ายฟังอีกครั้งอย่างลนลาน

เจ้าตระกูลใหญ่ถือสายเงียบอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดว่า “ฉันจะตามหาคนพวกนั้นเอง แต่ว่า ฉันต้องการให้แกช่วยฉันอีกเรื่อง”

“ท่านสั่งมาได้เลยครับ”

หลังจากเจ้าตระกูลใหญ่ออกคำสั่งรวบรัดกับพ่อบ้านเซี่ย เสียงแก่ชราก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “เข้าใจใช่ไหม?”

ทางด้านพ่อบ้านเซี่ยพลันกำหมัดแน่น “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะทำตามที่คุณท่านสั่งให้สำเร็จ”

ส่วนผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความผิด ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอ…….เวยหมิงก็คงไม่ตาย!

คิดได้ดังนี้ พ่อบ้านเซี่ยก็กดวางสาย ดวงตาฝ้าฟางทอประกายมาดร้าย

แผนของเจ้าตระกูลใหญ่ บังเอิญเหมือนแผนที่เขาคิดไว้พอดีเลย

แบบนี้ ตระกูลเสิ่นก็จะไม่มีทางขัดแย้งกันเอง ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน

ณ งานเลี้ยง

“คนนั้น?”

“เธอมาอยู่กับประธานเสิ่นได้ไง?”

“เธอ? ใครเหรอ?”

“นี่แกไม่รู้จักเหรอ? แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก คนอย่างนั้น ถ้าไม่ใช่คนรุ่นเดียวกัน ก็แทบจะไม่รู้จักเลย”

เมื่อเสิ่นซิวจิ่นพาเจี่ยนถงเดินเข้ามาในงานเลี้ยง ชั่วขณะนั้น ทุกคนก็พากันเงียบสนิท แต่ไม่นาน ก็เริ่มมีเสียงถกเถียงกันขึ้นมา

ไป๋ยู่สิงกับซีเฉินมองหน้ากัน แล้วเดินเข้ามาหา

“คุณเจี่ยน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผอมลงหรือเปล่า?” ไป๋ยู่สิงยังคงอคติกับเจี่ยนถงเหมือนเดิม เขาเคยพยายามทำให้เสิ่นซิวจิ่นเลิกยุ่งกับเจี่ยนถง แต่คนนามสกุลเสิ่น แต่ไหนแต่ไรก็หัวแข็งมาตลอด ถ้าได้ตัดสินใจอะไรแล้ว ก็ค่อนข้างเปลี่ยนใจยาก

พอนึกถึงเจี่ยนถงทีไร ก็รู้สึกรำคาญทุกที แน่นอนว่าถ้าเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยง

แต่พอเห็นเจี่ยนถง เขากลับหลุดท่าทียั่วโมโหออกมาซะอย่างนั้น

ด้านซีเฉิน ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรกับเจี่ยนถงขนาดนั้น

“เจี่ยนถง เมื่อก่อนคุณไม่ได้ผอมขนาดนี้นี่ ทำไมล่ะ เสิ่นซิวจิ่นไม่ให้คุณกินข้าวเหรอ” ซีเฉินเอ่ยหยอกล้อ

ไป๋ยู่สิงเบ้ปาก แล้วหันไปดื่มเหล้าคนเดียว

เจี่ยนถงมองไป๋มู่สิงนิ่งๆ เสียงคุยซุบซิบรอบๆดังมาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะ ตอนนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา “คุณเจี่ยน ไม่เจอกันนานเลยสบายดีไหม”

เสียงนี้คุ้นหูมาก จนหนังตากระตุก

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง

“คุณคาย์อัน สวัสดี”

คาย์อันก็ยังเป็นคาย์อัน ผู้ชายที่ดูร้ายๆที่มีใบหน้าสวยงามกว่าผู้หญิง แต่ไม่มีความอ่อนหวานเหมือนผู้หญิงเลยสักนิด

คาย์อันมองหญิงสาวที่ถูกชายหนุ่มจูงมือเดินเข้ามาในงานจากที่ไกลๆ วินาทีนั้น ความรู้สึกจี๊ดๆก็ตีรวนเข้ามาในหัวใจ

เขาแยกไม่ออกว่าความรู้สึกนี้มีสาเหตุมาจากอะไร เขารู้สึกแค่ว่า สองมือที่กำลังกอบกุมกันอยู่นั้น มันช่างเป็นอะไรที่ขัดตาเอามากๆ

ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามาหาอย่างอดใจไม่ไหว

เจี่ยนถงไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ จึงพูดออกมาว่า “ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะ”

คาย์อันมองหญิงสาวตรงหน้า เธอยังผอมและยังคงมีท่าทีเหมือนแบกอะไรหนักๆไว้เหมือนเดิม อีกทั้งยังทำให้เขาอยากเอาชนะเหมือนเดิม!

ทั้งๆที่เขาเคยเอาชนะเธอได้ตั้งนานแล้ว!

ความรู้สึกอึดอัดและสับสนตีรวนอยู่ภายในใจ

เจี่ยนถงพูดพร้อมกับดึงมือออกมา ในตอนที่กำลังจะเดินออกไป จู่ๆฝ่ามือของเขาก็กระชับมือของเธอแน่น เธอเงยหน้าขึ้นไปมองนัยน์ตาดำขลับของเสิ่นซิวจิ่น “ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ” เธอมุ่นคิ้ว

“อืม รีบกลับมาล่ะ” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปหาเธอ เจี่ยนถงเอนหลบตามสัญชาตญาณ “อยู่นิ่งๆ” เสียงทุ้มลึกออกคำสั่ง นิ้วมือเรียวยาวเกี่ยวผมบริเวณขมับของเธอทัดหูให้อย่างแผ่วเบา จากนั้นเสียงอ่อนโยนก็ดังมาจากลำคอว่า “ผมยุ่งน่ะ”

เหตุการณ์ทุกอย่าง เกิดขึ้นในวินาทีที่เสิ่นซิวจิ่นช่วยจัดผมให้เธอ!

นัยน์ตาของคาย์อันวูบไหว โทสะพวยพุ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด!

“เขาให้คุณเท่าไหร่?” คนที่สามารถทัดผมและจัดผมให้เธอได้ ไม่ใช่ว่ามีแค่เขาที่ทำได้เหรอ?

ขาของเจี่ยนถงสั่นเทา ลมหายใจพลันหอบถี่

ขณะเดียวกัน ก็มีคนที่ไวกว่า

ขยับเข้ามาขวางทางคาย์อันเอาไว้อย่างแนนเนียน “พ่อแม่ไม่เคยสอนเหรอ ว่าให้แปรงฟันก่อนออกจากบ้าน?” ดวงตาเยือกเย็นแข็งกร้าวทอแววมาแล้วจ้องมองมาที่คาย์อัน

“นายก็ไปถามพ่อแม่ฉันสิ ไม่ใช่มาถามฉัน”

คาย์อันตอบกลับอย่างไม่ยอมถอย

ไป๋ยู่สิงกับซีเฉินใจกระตุก….จากนั้นก็กวาดตามองรอบๆ

ความผิดปกติตรงนี้ เริ่มดึงดูดความสนใจของผู้คนแล้ว

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset