เซียวเหิงทำหน้าช็อก “……..” หลังจากอึ้งอยู่สักพัก จู่ๆก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “เจี่ยนถง ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอเป็นคนเห็นแก่เงิน ไม่อย่างนั้น ทำไมตอนนั้นเธอถึงพูดแบบนั้นกับฉันล่ะ เธอบอกฉันว่าเกลียดคนแบบไหนก็อย่าเป็นคนแบบนั้น…..เจี่ยนถง ฉันไม่เชื่อว่าเธอเป็นคนเห็นแก่เงินจริงๆหรอก ฉันรู้ว่าการกระทำเหล่านั้นมันทำร้ายเธอ แต่…….”
“ไม่มีแต่ คุณชายเซียว คนเข้าใจต้องพูดให้รู้เรื่อง เอางี้ ฉันจะพูดให้คุณเข้าใจชัดๆอีกครั้งแล้วกัน อยากให้ฉันไปกับคุณงั้นเหรอ? ได้สิ แต่ต้องรอให้ถึงวันที่คุณเอาชนะเสิ่นซิวจิ่นได้ก่อนนะ…..”
เธอหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยื่นมือออกไป “คุณมีบุหรี่ไหม?”
เซียวเหิงไม่รู้ ว่าทำไมจู่ๆเธอถึงถามออกมาอย่างนี้ เขาจึงพยักหน้า “มี……”
เจี่ยนถงยื่นมืออยู่อย่างนั้น “ขอมวนหนึ่งสิ”
“เธอจะเอาไปทำอะไร?” แม้ว่าเซียวเหิงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังส่งบุหรี่ไปให้เธออยู่ดี
ในตอนที่เซียวเหิงหยิบซองบุหรี่ออกมา เขาก็คลำหาไฟแช็กออกมาด้วย เมื่อเจี่ยนถงรับเอาบุหรี่มา เธอก็หยิบไฟแช็กขึ้นมา จากนั้นก็ แกร็ก!
เซียวเหิงตกใจ “นี่เธอทำอะไร!” เขาเอื้อมมือไปแย่งกลับมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เจี่ยนถงเอนหลบเล็กน้อย จากนั้นก็สูบบุหรี่เข้าไป แล้วพ่นควันสีขาวออกมา “คุณชายเซียว คุณดูสิ คุณคิดว่าคุณรู้จักฉันดีเท่าไหร่? คุณรู้จักผู้หญิงอย่างเจี่ยนถงมากแค่ไหนกัน? ถึงได้เอาบอกให้ฉันไปกับคุณอยู่ได้? ขนาดเรื่องที่ฉันสูบบุหรี่คุณยังไม่รู้เลย….คุณคิดไปเองคนเดียวว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าคุณตรงนี้ไม่ใช่คนเห็นแก่เงินงั้นสินะ?”
เจี่ยนถงกวาดสายตามองเซียวเหิงที่กำลังตกตะลึงอย่างเหยียดหยาม ควันสีขาวที่ลอยอยู่ในอากาศไม่อาจปกปิดแววตาดูแคลนคู่นั้นได้ ซ้ำยังทำให้เห็นชัดเจน……ว่าเจี่ยนถงในตอนนี้ คือผู้หญิงหิวเงินที่ตกสามีรวยๆได้และกำลังดูถูกชายหนุ่มตรงหน้า
“คุณไปได้แล้ว” ดวงตาของเธอเย็นชา ซ้ำยังพูดออกมาอย่างดูถูก จากนั้นก็เคาะบุหรี่ในมือด้วยการกระทำเก้ๆกังๆ จนหัวบุหรี่เกือบหล่นลงบนพื้น แต่ในเวลานี้ความสนใจทั้งหมดของเซียวเหิงกลับจดจ่ออยู่บนใบหน้าของเจี่ยนถง
เซียวเหิงคิดไม่ถึงเลยว่า จะได้มาเห็นภาพนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เจี่ยนถงสูบบุหรี่ได้ แต่เป็นสีหน้าและพฤติกรรมของผู้หญิงที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ในตอนนี้ต่างหาก มันช่างเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่รักแค่เงินของเขา เวลาออกไปเที่ยวด้วยกันก็เอาแต่มองเหยียดขอทานข้างถนน
เธอในตอนนี้ เหมือนกับผู้หญิงที่รังเกียจคนจนชอบคนรวยพวกนั้นมากๆ!
เซียวเหิงสติหลุดลอยกับภาพเบื้องหน้า แต่วินาทีต่อมาความแน่วแน่เมื่อเห็นเธอหันหลังเดินออกไปก็พลันถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง “อย่าเพิ่งไป! ฉันไม่เชื่อ! เจี่ยนถง เธออย่าคิดที่จะหลอกฉันเลย”
ยื่นเธอออกไปฉุดเธอเอาไว้ เซียวเหิงโน้มหน้าเข้าไปกดจูบลงบนริมฝีปากคู่นั้นอย่างอดรนทนรอไม่ไหว ทันทีที่สัมผัสริมฝีปากคู่นั้น…..ก็เหมือนกับได้สัมผัสความโล่งใจไม่เคยมีมานาน
เจี่ยนถงตกใจ จึงยกเท้าขึ้นถีบ
“ปล่อย….อื้อ!”
“เจี่ยนถง ฉันไม่ปล่อยเธอหรอก คราวนี้ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปแน่ เราต้องได้อยู่ด้วยกัน ต่อให้คนนามสกุลเสิ่นจะขัดขวาง หรือต่อให้ต้องกลายเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก……” เซียวเหิงที่กำลังถูกอารมณ์กัดกร่อน ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีหมัดแหลมๆพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
“ผลั้วะ!
“นายไม่ต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกหรอก เป็นศัตรูกับฉันก็พอ!” เสียงถมึงทึงมาพร้อมกับเสียงหมัดหนักๆ
ไป๋ยู่สิงดึงซีเฉินที่กำลังจะเข้าไปช่วยเอาไว้ “ไม่ต้อง!”
เขาเข้าใจเป็นอย่างดี “มาเห็นภาพนี้ อาซิวไม่โกรธเป็นบ้าสิแปลก!”
ศีรษะของเซียวเหิงมีเลือดไหลออกมา เจี่ยนถงตกใจเบิกตากว้าง จากนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีค่ะ 120ใช่ไหมคะ…..”
ยังไม่ทันได้พูดจบ โทรศัพท์ในมือก็ตกลงบนพื้น
เจี่ยนถงมองโทรศัพท์ที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น “ประธานเสิ่น คุณทำอะไรเนี่ย!”
มือที่วางอยู่ข้างลำตัวของเสิ่นซิวจิ่นกำแน่น “ผมทำอะไรงั้นเหรอ? คุณถามผม ว่าผมทำอะไรงั้นเหรอ? เสี่ยวถง…..เสียงของชายหนุ่มอ่อนโยนเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูอ่อนโยนผิดปกติ ดวงตาสีดำอันตรายจ้องมองมาที่เจี่ยนถงอย่างเย็นยะเยือก “คุณทำอะไรมาล่ะ? แล้วเมื่อกี้กำลังจะทำอะไร?…..ทำไม? อยากหนีไปกับเซียวเหิงมากงั้นสิ?”
เจี่ยนถงหน้าซีด “ไร้สาระ!” เธอพยายามฝืนไม่ให้น้ำตาไหล จากนั้นก็หันมามองเซียวเหิง กัดฟันแล้วพูดว่า “คุณชายเซียว!”
เธอไม่อยากอธิบายด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ยอมแบกรับข้อกังขาของผู้ชายคนนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าหรอกนะ!
และเรื่องจริงเป็นยังไง เซียวเหิงเองก็รู้
ในตอนที่ได้ยินน้ำเสียงที่สื่ออะไรบางอย่างของเจี่ยนถง ในใจของเขาก็สั่นไหว แววตาเป็นประกายวาวโรจน์ แม้ว่าจะลังเลนิดหน่อย แต่กลับไม่สามารถห้ามความอยากเอาชนะในใจของเขาเอาไว้ได้ “เสิ่นซิวจิ่น เสี่ยวถงกลัวนาย แต่ฉันไม่กลัวหรอกนะ ไม่ว่าเมื่อก่อนพวกนายจะมีความสัมพันธ์ยังไงกัน นั่นมันก็เป็นแค่เรื่องในอดีต ก็แค่การเล่นพ่อแม่ลูกในตอนเด็ก เสิ่นซิวจิ่น นายไม่ได้ชอบเสี่ยวถง แต่กลับไม่ยอมปล่อยเธอไป นายมันเห็นแก่ตัว!”
เมื่อเซียวเหิงพูดออกมา ใบหน้าของเจี่ยนถงก็ซีดจนแทบไร้สีเลือด เธอจ้องเซียวเหิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เสิ่นซิวจิ่นโกรธจนแทบบ้า คำพูดของเซียวเหิง เป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดี ความหึงหวงที่ใกล้จะมอดไหม้ ตอนนี้คำพูดของเซียวเหิง กลับยิ่งไปกระตุ้นผู้ชายคนนี้
ไป๋ยู่สิงรำพึงในใจ “จบกัน อาซิวใกล้จะเสียสติแล้ว!”
ดวงตาลุ่มลึกของเสิ่นซิวจิ่น จดจ้องผู้หญิงคนนั้นเขม็ง…..เธอยังจะมองเซียวเหิงอยู่อีกเหรอ? มีอะไรให้มองนักหนา?
เซียวเหิงหล่อกว่าเขางั้นเหรอ?
เสิ่นซิวจิ่นจ้องริมฝีปากบวมแดงของเจี่ยนถง ใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ เปียกไปถึงไรผม…..นี่จูบกันนานจนผมยุ่งเลยเหรอ?
เมื่อคิดได้แบบนี้ หัวใจของเขาก็หึงหวงจนแทบบ้า ดวงตาที่อาบไปด้วยาพิษ จ้องมองเจี่ยนถงแน่นิ่ง “เจี่ยนถง คุณมันแน่!” คิดจะไปจากเขา อย่าหวังเลยว่าชาตินี้จะสมหวัง!
เจี่ยนถงมองเสิ่นซิวจิ่น จู่ๆก็ยิ้มออกมา “คุณนี่ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ เสิ่นซิวจิ่นที่เป็นความภาคภูมิใจของตระกูลเสิ่น จะเปลี่ยนไปได้ยังไงเนอะ?” เธอยิ้มออกมาอย่างยอมแพ้
เขาจะเปลี่ยนไปได้ยังไง? สิ่งที่เขามีให้เธอแต่ไหนแต่ไรก็มีแต่ข้อกังขากับความไม่เชื่อใจอยู่แล้วนี่
ความเจ็บปวดมันกดทับจนเธอหายใจไม่ออก
ไม่เป็นไรนะเจี่ยนถง….. เธอกระตุกยิ้ม “แล้วยังไง ประธานเสิ่นยอมให้ไปไหมล่ะ?”
ยอมรับแล้ว!เธอยอมรับแล้ว! ทุกส่วนในร่างกายของเสิ่นซิวจิ่นรู้สึกเจ็บแปล็บ ความเย็นชาในดวงตาทอแววเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ “เสี่ยวถง ทำไมไร้เดียงสาขนาดนั้นล่ะ ถึงยังไง……ก็เคยเข้าคุกมาแล้วตั้งสามปีไม่ใช่เหรอ”
เขายิ้มพร้อมกับมองมาที่เขา มองข้ามความเจ็บปวดที่เกาะกินหัวใจ หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “บทเรียนที่ประธานเสิ่นให้มานะ ตลอดชีวิตของเจี่ยนถงคนนี้ ไม่มีทางลืมมันได้ลงหรอก คุณ…..สบายใจได้”
เซียวเหิงจับมือของเจี่ยนถงเอาไว้ “วันนี้ฉันจะพาเสี่ยวถงไปให้ได้!” เขาจ้องมองเสิ่นซิวจิ่นอย่างดุร้าย
“งั้นก็ลองดูสิ กับคนที่ฉันไม่อนุญาตให้ไปไหน นายจะพาเธอไปได้ง่ายๆหรือเปล่า”
เสิ่นซิวจิ่นจ้องมองมือของเซียวเหิงที่กุมมือของเจี่ยนถงเขม็ง รู้สึขัดหูขัดตาเป็นอย่างมาก
เขาเดินก้าวยาวๆเข้าไป พร้อมกับซัดหมัดเข้าไปอย่างเต็มกำลัง
ทั้งสองคนเปิดศึกกัน เสิ่นซิวจิ่นจับเจี่ยนถงเอาไว้ แล้วตะโกนขึ้นมาว่า “ไป๋ยู่สิง ซีเฉิน รุม!”
“รุมอะไรล่ะ นี่มันหมาหมู่ชัดๆเลยนะ!” ซีเฉินสบถออกมาพร้อมกับมองเสิ่นซิวจิ่นอย่างดูถูก แต่ทว่าคนที่พร้อมปะทะก่อนใครเพื่อนกลับเป็นเขา
ไป๋ยู่สิงกุมหน้าผาก…..ซีเฉินนี่ช่าง อาศัยความชลมุนสนองความต้องการของตัวเองจริงๆ
ในเมื่อซีเฉินลงสนามไปแล้ว เขาเองก็ไม่มีเหตุผลให้ลังเลอีกต่อไป
ทั้งสองเข้าล้อมเซียวเหิงเอาไว้ ส่วนเสิ่นซิวจิ่นลากเจี่ยนถงออกมาจากตรงนั้น เขาก้มลงแบกเจี่ยนถงขึ้นบ่าอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “ฝากพวกนายด้วยนะ”
ไป๋ยู่สิงหันมองคนที่กำลังเดินออกไป “แม่ง! อาซิวไอ้เชี่ย!”
เมื่อเซียวเหิงเห็นเจี่ยนถงกำลังจะถูกเอาตัวไป ก็รีบฟาดหมดออกไป “ถอยไป เป็นหมาอย่ามาขวางทาง!”
ด้านเจี่ยนถง ก็ถูกเสิ่นซิวิ่วยัดเข้ามาในรถ
“ไปไหน?” เจี่ยนถงเห็นเส้นทางนี่แปลกๆ จึงรีบเอ่ยถามขึ้นมา
“สำนักพลเรือน!”
เธอเริ่มลนลาน “เขาเลิกงานกันหมดแล้ว!”
ชายหนุ่มหัวเราะออกมา “คุณนี่มันซื่อจริงๆ”
เมื่อเธอเข้าใจความหมายของเขา ก็ยิ่งลนลานกว่าเดิม ยื่นมือออกไปจับประตูรถ “เปิดประตู ฉันจะลง!”