เจี่ยนถงลงจากรถตามที่คิด แต่ คือโดนแบกหามลงจากรถ
“ฉันไม่ลงรถ!ปล่อยฉันนะ!ปล่อยสิ!”
ตัวของเธอครึ่งท่อนโดนเสิ่นซิวจิ่นแบกอยู่ เหลือเพียงมือสองข้าง เธอตะกายคว้ากำประตูรถไว้อย่างน่าสงสาร ขาทั้งสองเตะไปมาบนลำตัวของเขา ไหนๆด้านหลังก็ไม่มีตาอยู่แล้ว จะเตะโดนไม่โดนตานั่นเป็นไรไป ใครจะไปรู้
“หึ เมื่อกี้เธอเองไม่ใช่เหรอที่อยากลงรถ”
เจี่ยนถงนิ่ง แล้วกลับมาแช่มชื่นเหมือนเดิม“ก่อนตกนรก ให้ตายยังไงคุณก็ไม่ยอมขอฉันแต่งงานไม่ใช่เหรอ”เธอย้อนกลับ
“นั่นเป็นความผิดพลาด ตอนนี้ผมขอแก้ตัว”บนใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่ม เป็นประกาย ภายใต้แสงไฟ ยิ่งดูหล่อเข้ม
“เสิ่นซิวจิ่น”เธอยิ้ม“ตอนนี้ฉัน ก็อยากชดเชยความผิด”
สองคนต่อคำ แววตาชายหนุ่มเย็นชาเล็กน้อย ไม่สนใจคำพูดนี้ของเธอ พูดออกไปคำหนึ่ง“นับแต่วันนี้ คุณจะเป็นเมียของผมเสิ่นซิวจิ่น เป็นแม่ของลูกผม”
“เสิ่นซิวจิ่น คุณ……ทุเรศจริง!”เจี่ยนถงด่าออกไปอย่างดุดัน
ชายหนุ่มหนี่ตา แววตาประกายลึก “คุณกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายทุเรศคนนี้อยู่มะรอมมะร่อ!”
“ฉันไม่เซ็นหรอกนะ!”
“เสี่ยวถง คุณไร้เดียงสาอีกแล้วนะ”
ในเวลานี้ เจี่ยนถงยังไม่ทันเข้าใจอะไรเลย ความหมายของคำพูดของเสิ่นซิวจิ่น
ตรงเหลือเกิน……
นั่งอยู่ในสถานีตำรวจ ตรงหน้าโคมไฟดวงหนึ่ง
“ฉันไม่เซ็นหรอกนะ ”เธอตอบเสียงเรียบ กวาดข้าวของบนโต๊ะ
คนที่สำนักงาน ตอนมายังบ่นอยู่เลย ตอนนี้เส้นประสาทตึงเครียด ตึงจนพูดไม่ออก
แทบจะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง……นี่จะมาแต่งงานที่ไหน นี่มาคลุมถุงชนต่างหาก!
เขาทำงานที่นี่อย่างขยันขันแข็งมาเจ็ดแปดปี แต่ไม่เคยเจอการแต่งงานที่ชักดาบแบบนี้มาก่อน
เสิ่นซิวจิ่นปราดมองไปที่เจี่ยนถงอย่างเรียบง่าย จู่ๆยื่นมือออกไป จับมือเธอไว้
เจี่ยนถงตระหนก“คุณทำอะไรน่ะ!นี่มันผิดกฎหมายไม่รู้หรือไง!”
“คุณก็ไปฟ้องเอาสิ”เขาจับมือเธอ แล้วจับมือเธอเซ็นชื่อทีละตัว
ภายใต้ตัวอักษรสิบขีด คำว่า“เจี่ยน”ก็ปรากฏออกมา
“เสิ่นซิวจิ่น!นี่เรียกว่าการบังคับ!”
น้ำเสียงแหบพร่ากล่าวขึ้นอย่างร้อนรน เงยหน้าอย่างร้องขอความช่วยเหลือ พูดกับพนักงานที่อยู่ตรงหน้าว่า“ฉันไม่ยินยอมค่ะ กรุณาช่วยฉันด้วย”
พนักงานที่อยู่ตรงหน้ารีบหันหน้าไปอีกทาง“คุณนายครับ นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของคุณ พวกคุณไปตกลงกันให้ดีก่อนมั้ย ตกลงกันแล้วค่อย……”
“ฉันไม่ใช่ภรรยาเขาค่ะ!นี่ไม่ใช่เรื่องในครอบครัว!คุณก็เห็นแล้ว!คุณเห็นหมดทุกอย่างนี่!”ทำไมไม่พูดอะไรที่ยุติธรรมบ้างเล่า!
จู่ๆน้ำเสียงของเธอก็หยุดชะงัก เสียงใสกังวานอยู่ริมหู การเข้าใกล้ของเขา พ่นลมอุ่นๆอยู่ริมหูเธอ เธอสัมผัสได้ชัดเจน!
ริมฝีปากบางเฉียบแนบหน้าเธอ“ถึงบอกไงล่ะว่าคุณไร้เดียงสา ไร้เดียงสาเหมือนสามปีก่อนไม่มีผิด”
โครม!
จู่ๆหัวใจเจ็บแปล๊บ!
กัดฟันจนฟันสีขาวแทบจะแตก……ถึงบอกไงว่าคุณไร้เดียงสา ไร้เดียงสาเหมือนสามปีก่อนไม่มีผิด
เสิ่นซิวจิ่น คุณชนะแล้ว!
เดิมทีใช้กำลังทั้งหมดต้านแรงมือที่จับปากกาเอาไว้ จู่ๆเธอสลัดแรงออกทั้งหมด ปล่อยให้คนที่อยู่ด้านหลังจับมือเธอไว้ แล้วค่อยๆเขียนชื่อเธอทีละตัวๆ
“ยินดีกับทั้งสองท่าน”ข้างหู เป็นเสียงแสดงความยินดีของพนักงาน
เธอฟังแล้วรู้สึกเสียดหูไม่น้อย……ปล่อยให้ชายหนุ่มรับสมุดเล่มแดงไป แล้วปล่อยให้เขาจูงมือเธอเดินออกไป จู่ๆกลับรู้สึกคลื่นไส้ สะบัดมือเขาออก “เอาล่ะ คุณพอใจแล้วสินะ คุณชนะแล้วไง คุณทำแบบนี้แสดงถึงอะไรได้ แสดงว่าไม่ว่าจะขึ้นฟ้าลงดินคุณทำได้หมดสินะ คุณพิสูจน์ถึงเกียรติตัวเอง แล้วฉันล่ะ”
เธอชูหมัด หมัดหนึ่งๆกระหน่ำลงบนตัวเขา บ่าของเขา หน้าอกของเขา แขนของเขา ……ไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่รับหมัดที่กระหน่ำลงมาราวกับห่าฝน
เจี่ยนถงระบายอารมณ์ เธอต้องระบายออกมา!
เธอโกรธเขา ก็เลยกระหน่ำทุบเขาลงไปทีละหมัดๆ
เขาไม่ขยับกาย ปล่อยให้หญิงสาวขยับหมัดลงบนตัว
เจี่ยนถงทุบเอาๆ อาการระบายอารมณ์จึงค่อยๆผ่อนลง จนถึงสุดท้าย เป็นนานกว่าจะเห็นเธอทุบหมัดสุดท้ายลงมา “ไม่โทษคุณหรอก ”เธอค่อยๆเอ่ยปาก พูดออกมาสามคำ
เธอโทษตัวเองมากที่สุด!
โทษที่ตัวเองไร้ความสามารถ!
เธอโดนแบกเข้าไปในที่ทำการ ตอนที่ไป เธอรู้สึกตัวราวกับเป็นผู้กล้า ตอนที่เดินออกมา รู้สึกราวกับเหมือนมะเขือที่โดนทุบจนแบน
เมื่อกวาดตามองสมุดเล่มแดงที่อยู่ในมือของเสิ่นซิวจิ่น ริมฝีปากซีดขาว กัดจนมีเลือดซึม แล้วยิ้มเยอะตนเอง……ใช่ เธอมันไร้เดียงสาจริงๆนั่นแหละ
เวลาเลิกงาน สามารถเอาสมุดแดงมาได้ เธอไม่ยอมเซ็นชื่อ เขาก็ยังมีวิธีเป็นร้อยที่ทำให้เธอเซ็น
“เสิ่นซิวจิ่น คุณชนะแล้ว จริงสิ ระหว่างคุณกับฉัน แต่ไหนแต่ไรมา ฉันเป็นฝ่ายแพ้มาตลอดนี่นา”เธอแพ้ราบคาบเสมอมา!ในมือเธอ มีไออุ่นจากฝ่ามือของเสิ่นซิวจื่นถ่ายผ่านมา แต่หัวใจกลับเย็นวาบ
จากนั้น เขายื่นมือไปโอบหญิงสาวเข้ามาหาตัว หัวใจของชายหนุ่มปวดแปล๊บ แต่ก็พูดอย่างเผด็จการ“เสี่ยวถง ลืมเสียเถอะ กับผม……ใช้ชีวิตให้ดี”
คำพูดที่แสนจะเรียนง่ายและเป็นจริง ถ้าคนที่รู้จักเสิ่นซิวจิ่นยืนอยู่ข้างๆ จะไม่เชื่อกับหูแน่นอน คำพูดแบบนี้ จะออกมาจากปากของคนที่ทั้งทระนงและหยิ่งผยองอย่างเสิ่นซิวจิ่นได้อย่างไร
เจี่ยนถงตะลึง……ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า นัยน์ตาดำแสนทระนงคู่นั้นของเขา เป็นแววตาที่ตั้งแต่รู้จักเขามา ไม่เคยมีมาก่อน……เป็นแววตาวิงวอนงั้นหรือ
ไม่ไม่ไม่ เธอดูผิดแน่นอน!
เธอกะพริบตาโดยแรง ดูผิดหรือเปล่า
ราชสีห์ผู้ทระนงก้มหัวงั้นหรือ เพียงแค่วิงวอนเธองั้นหรือ
“ประธานเสิ่นจะให้ฉันลืมงั้นหรือคะ ลืมยังไงคะ!”
เขาพูดง่ายนี่“ลืม” แต่นั่นมันครึ่งค่อนชีวิตเธอเชียวนะ คำว่า“ลืม”……เสิ่นซิวจิ่น!คุณรังแกคนแบบนี้ได้ไง!
แววตาเธอแดงก่ำ ริมฝีปากซีดเม้มเข้าหากัน……ในเวลานี้ เธอนั่นแหละที่เป็นตัวตลก!
“คุณนายเสิ่นอะไรกัน ฉันไม่สนใจทั้งนั้นอ่ะ!แค่คุณนายเสิ่นคำเดียว จะให้ฉันลืมอดีตของตัวเองทั้งหมด”
ฮ่าๆ……ฮ่าๆๆๆ……
แค่“ลืม”คำเดียว จะลบความเป็นอยู่เยี่ยงนรกนี้ได้เหรอ
ยิ้มเม้มมุมปาก ยิ่งดูเฉิดฉาย เธอไม่รู้ ว่าจะแสดงสีหน้ายังไงดี ใช้คำพูดยังไงมาแสดงความโกรธเกลียดและความเจ็บปวดในใจ!
โกรธจนต้องยิ้มออกมา เจ็บปวดจนต้องหัวเราะออกมา!
“ประธานเสิ่น คุณมีความรู้กว้างขวาง มีความสามารถ”เธอเงยหน้า ยิ้มทั้งน้ำตา“มีปัญญาดีนี่!เขาจะลบความทรงจำของฉัน!ไม่เช่นนั้น ฉันจะลืมไม่ลง!และก็จะไม่มีวันลืม!”
ปล่อยให้น้ำตาร่วงพรั่งพรู รอยยิ้มของเธอ ทำให้ใจใครเจ็บปวด
ชายหนุ่มมองเธออย่างถนอม แววตาสีดำหากไม่คลาดเคลื่อนแม้เพียงน้อย เพียงแค่ไม่พูด หันไปเปิดประตูหลังของรถ แล้วดันเธอเข้าไป
“อ๊า!”
เธอร้องอย่างตกใจ ส่วนเขาก็กดเธอลงไป“บางที เราควรจะมีลูกด้วยกัน ”ถ้ามีลูก เธอก็จะปล่อยวางทุกเรื่องในอดีต แล้วใช้ชีวิตกับเขาไปอย่างสงบ
“เสิ่นซิวจิ่น คุณบ้าไปแล้ว!”หญิงสาวกรีดร้องแหบพร่า แล้วไหวไปตามแรงรถ
แครก~
เสียงแตกหักดังขึ้น!