“พ่อบ้านเซี่ย ตามผมมา”
พ่อบ้านเซี่ยกำลังจะปิดประตูคฤหาสน์ ด้านหลัง ก็มีเสียงทุ้มต่ำลอดตามมา พ่อบ้านเซี่ยพยุงที่จับประตู เขาสั่นเล็กน้อย ยังไม่ทันได้หันตัวกลับไป เงาดำนั้นก็มาปรากฏตัวตรงหน้า ข้ามประตูใหญ่ไป เดินออกนอกห้องไป
พ่อบ้านเซี่ยรีบเดินตามไปเงียบๆ คอยก้มๆมองๆอยู่ข้างหลัง อย่างไรเสียเงาสูงโปร่งด้านหน้าก็อยู่ห่างตัวเองเพียงเมตรเดียว
นายหนึ่งบ่าวหนึ่ง สองคนเดินผ่านระเบียงยาวไป เดินอ้อมคฤหาสน์ แล้วไปที่สวนด้านหลังคฤหาสน์
ยิ่งเดิน ทางยิ่งลึก
ทางยิ่งลึก ต้นไม้สองข้างทางถนนป่าไม้ก็ยิ่งมาก ยามกลางคืนยิ่งดูอึมครึม
แล้วยิ่งตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว
วังเวงเงียบสงัด ต้นไม้ใบหญ้าโรยรา
พรึ่บพรับ~
ไม่รู้ว่านกป่าที่ไหนบินผ่าน มันเริงร่าท่ามกลางไม้แห้ง
พรึบพรั่บ~
มืดวังเวง
แกร๊ก~
พ่อบ้านเซี่ยรู้สึกใจหวิว เขาพยายามปั้นหน้าให้เรียบสงบ กลางดึกของฤดูหนาว กลับมีเม็ดเหงื่อผุดพรายอยู่บนใบหน้า
เขารักษาความนิ่งไม่ได้อีกต่อไป“คุณชายครับ จะไปไหน เข้าไปอีกก็เป็นบ่อแล้วนะครับ”สวนดอกไม้ในสวนหลังบ้านตระกูลเสิ่น มีบ่อที่ไม่ลึกไม่ตื้นอยู่บ่อหนึ่ง ในตอนกลางวันดูเขียวใส ดูรื่นรมย์
แต่ในยามกลางคืนอึมครึมมาก
จู่ๆในใจพ่อบ้านเซี่ย ก็สั่นผวาขึ้นมา ไม่ยอมเดินขึ้นหน้า
คนที่อยู่ด้านหน้า หันกลับมา ในตอนที่หันกลับมา เท้าบังเอิญไปเหยียบกิ่งไม้เข้า แกรก
“ลุงเซี่ย ”
เสิ่นซิวจิ่นเปิดปากพูด แต่ก็ไม่เหมือนยามที่เรียกพ่อบ้านเซี่ยตอนปกติ แต่เป็นการเรียกว่าลุงเซี่ยแบบที่ไม่ได้เรียกมานาน
พ่อบ้านเซี่ยหยุดชะงักพลัน หลังจากนี้สามวินาที ก็โบกมือขึ้น พูดอย่างนอบน้อม“แหม มิได้ครับ มิได้ครับ!”
แววตาสีดำทั้งสองข้างของเสิ่นซิวจิ่น ยาวหากหลุบลง บดบังอารมณ์ในแววตาสีดำ แล้วเปิดปากพูดอย่างอ่อนโยน
“ลุงเซี่ยมาเป็นพ่อบ้านผมอย่างเป็นทางการ น่าจะสิบกว่าปีแล้วสินะ”
น้ำเสียงเขาอ่อนโยน
พ่อบ้านเซี่ยพยักหน้าพินอบพิเทา“ก็หลายปีแล้วครับ คุณชายยังจำได้หรือ บ่าวปลื้มใจจริง”
“อืม~ลุงเซี่ยอยู่กับผมเป็นสิบปีแล้วสินะ ผมมีคำถามหนึ่ง ผมกับคุณปู่สองคน อยากให้คุณช่วยทำอะไรให้เรื่องหนึ่ง สองเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ตรงข้ามกันพอดีลุงเซี่ย จะเลือกทางไหน”พูดพลาง ขนตายาวกะพริบขึ้น แววตาดำลุ่มลึก ประจันหน้าชายชรา
โครม!
ในใจพ่อบ้านเซี่ยระเบิดขึ้น!
นี่หมายความว่าไง
ทำไมคุณชายถามอะไรแปลกๆ
ในใจเขาสับสน พ่อบ้านชราตอบไม่ออก
แววตาดำเสิ่นซิวจิ่นหรี่ขึ้น
สูดลมหายใจลึก ตัดสินใจ“ลุงเซี่ย อีกครึ่งปี ตามกฎบ้านตระกูลเสิ่น ก็น่าจะเกษียณแล้ว นับแต่พรุ่งนี้จะมีคนมาทำงานแทน แต่เห็นแก่หน้าที่ทำงานมานาน อีกครึ่งปีที่เหลือ ก็อยู่พักผ่อนในบ้านสวนนี้แล้วกัน เรื่องอื่นทุกเรื่อง จะมีคนมาทำแทนเอง”
สีหน้าของพ่อบ้าน สีหน้าซีดเผือด!
“คุณชายครับ!ผมทำอะไรผิดครับ ผม……ไม่ยอม!”
เสิ่นซิวจิ่นควักบุหรี่ออกมาจากอกเสื้อ จุดไฟ สูบไปคำหนึ่ง มองท้องฟ้า ในแววตาผิดหวังและเจ็บปวด เขากลืนบุหรี่ลงคอแล้วพ่น แล้วก็พ่นออกมา แววตากวาดไปรอบๆ“ลุงเซี่ย คุณเกลียดเจี่ยนถง ใช่มั้ย”
“ผม……!”ผมเกลียด!”
แต่สองคำนี้ต่อหน้าเสิ่นซิวจิ่น พ่อบ้านเซี่ยกลับพูดไม่ออก ก็เพราะไม่มีวิธีพูดออกมาน่ะสิ!
“ถ้าผมบอกคุณ คือผมกำลังตรวจสอบการตายของเหวยเหมิง ตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในคืนนั้น ถ้าผมพูดไป ผมเชื่อว่าเรื่องนี้เจี่ยนถงไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย ลุงเซี่ย คุณมีความเห็นว่าไง”
“เป็นไปไม่ได้!”สีหน้าพ่อบ้านเซี่ยเปลี่ยนกะทันหัน แววตามีความเคียดแค้นชิงชัง“เป็นไปไม่ได้!เธอจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร!ถ้าไม่มีเธอ เวยเหมิงก็จะไม่ตาย!”
แววตาที่เย็นชา คอยเฝ้าสังเกตอากัปกิริยาของพ่อบ้านเซี่ยทุกอากัปกิริยา และทุกการแสดงออกของสีหน้า เมื่อเห็นสีหน้าอันเจ้าเล่ห์ของพ่อบ้านเซี่ย แม้ว่าความเจ้าเล่ห์จะผ่านแว๊บไป เสิ่นซิวจิ่นก็จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้“ดูสิ คุณเกลียดชังเจี่ยนถงขนาดนี้ ผมจะมอบบ้านให้ดูแลได้อย่างไรล่ะ เกิดคุณไปจับผิดเธอ”
แม้ว่าพ่อบ้านเซี่ยจะเกลียดเจี่ยนถง แต่เสิ่นซิวจิ่นกลับเป็นเพราะปฏิกิริยาของพ่อบ้านเซี่ย รู้สึกโล่งใจออกมา……อย่างน้อย ดูจากสภาพการณ์ตรงหน้า พ่อบ้านเซี่ยอาจจะแอบรายงานคุณปู่เรื่องเมื่อสี่ห้าปีก่อนก็ได้ และเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอื่นๆอะไร
“ดึกแล้ว ลุงเซี่ยกลับไปนอนเถอะ”เสิ่นซิวจิ่นชี้นิ้ว ดับขี้บุหรี่ ยกเท้าแล้วก้าวขาไป
ก่อนไป แววตากวาดไปยังบ่อน้ำเล็กที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ถ้าหากว่าพ่อบ้านเซี่ยรู้เรื่องที่คุณปู่ลงมือทำร้ายเจี่ยนถงเมื่อสามสี่ปีก่อน เวลานี้ ศพคงจะอยู่ในบ่อน้ำเล็กนั่นแล้ว
พ่อบ้านเซี่ยมองดูประกายขี้บุหรี่ที่ค่อยๆมอดลงบนพื้น มันยังไม่ดับ ยังเป็นประกายสีแดง กลางคืนทำให้ดูประหลาดตานัก
แล้วเงยหน้าแลมองเงาหลังที่ไปไกล
พิษที่รุมเลื้อยในใจ ได้แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ครอบคลุมไปทุกอณูกระดูก แผ่ซ่านไปทั่วทุกอวัยวะ ทุกอณูในร่างกายกำลังร่ำร้องถึงความเคียดแค้นชิงชัง
“ไม่ยุติธรรมเลย สำหรับยัยหนูเวยเหมิง ไม่ยุติธรรมสักนิด”ในป่ามีชายผอมกรัง ยืนอยู่ตรงกลาง ปากแหลมบางสั่นเทา ก้มหน้าบ่นพึมพำไปทางบุหรี่ พูดเองคนเดียว
……
“แกรก~”ประตูค่อยๆเปิดออก
เขาไม่ได้พูดอะไร เดินตรงเข้าไปในห้องนอน ปลดกระดุมเสื้อโดยที่ไม่พูดอะไร ปลดเสื้อชั้นบนออกทีละตัว เผยให้เห็นรูปร่างกำยำ โดยไม่ทันได้ดูคนที่อยู่บนเตียง เปิดประตูห้องน้ำออก เดินเข้าไป
เจี่ยนถงที่อยู่บนเตียง แววตาเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง จนกระทั่งประตูห้องน้ำได้ปิดลง จึงค่อยๆหันกลับมอง
จากนั้น เขาค่อยๆเดินไปทางขอบเตียง ค่อยๆเอียงตัว ค่อยๆขดตัว แล้วค่อยๆหลับตาลง
เวลามีไม่มาก มีเสียงลอดผ่านมา จู่ๆรู้สึกหนักอึ้งที่ปลายเตียง
เสียงตุ๊บดังขึ้น!เธอขดตัวลงกับหมัดที่หน้าอก แล้วบีบเขม็งโดยไม่รู้ตัว
ไอร้อนเข้ามาใกล้ รอบเอวรู้สึกมีมือหนักๆทับไว้ แล้วดึงเธอไปที่เตียงอย่างเผด็จการ
แขนของเธอแข็งทื่อขึ้นมา กรุ๊บกรั๊บๆ เสียงฟันบนล่างขบกันตลอด
ได้ไม่ได้……อย่าไปแตะต้องเธออีกเลย!
แต่ละนาที แต่ละวินาที ล้วนยากลำบาก!
ตกลงเป็นความรักหรือความเกลียดชัง ความรักและความเกลียดผสมผสาน คอยทรมานใจเธอ……เสิ่นซิวจิ่น อย่าเข้ามาอีกจะได้มั้ย
“ต่อไปจะไม่มีใครทำร้ายคุณได้อีกแล้ว”ข้างหู มีสุ้มเสียงทุ้มต่ำ แหบพร่าเล็กน้อย
คุณปู่ก็ไม่ได้……เสิ่นซิวจิ่นพูดในใจ
เขารู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไร แต่ก็บอกกับเธอไม่ได้ เรื่องเกี่ยวพันไปถึงคุณปู่เขา ดุเด็ดขนาดนี้เชียวหรือ ปู่ของเขาเป็นคนวางแผน ส่วนเขาเป็นคนส่งเธอลงนรกด้วยตนเองงั้นหรือ
นั่นเป็นปู่ของเขา ถ้าปีนั้นปู่ของเขาเป็นคนวางแผนทุกอย่าง ทำให้เธอต้องเป็นแพะรับบาป ระหว่างเธอกับเขา ก็คงไม่มีที่ให้กลับตัวอีกแล้ว!
เขากอดเธอไว้แนบแน่น มองหญิงสาวที่ผมปรกลงเกือบเต็มหน้า ในใจคิดอุทานว่า“ถ้าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ตระกูลเสิ่นของเรา ติดค้างคุณไว้มากเหลือเกิน”