เสียงกรอบแกรบไม่ดังมาก มือของชายชราไม่ระวัง บังเอิญทำเครื่องประดับคริสทัลบนโต๊ะตกทันใดนั้นหัวใจเกือบจะทะลุออกมา แล้วหยิบขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เห็นว่ามันไม่ได้รับความเสียหายอะไร ก้อนหินก้อนใหญ่ในอกถึงได้วางลงอย่างโล่งใจ
ทำตัวเหมือนวัวสันหลังหวะมองไปทางประตู จากนั้นค่อย ๆ หายใจออกอย่างช้าๆ
มั่นใจแล้วว่าเวลานี้ไม่มีคนมาแน่นอน ปฏิกิริยาของชายชราดูรีบร้อนและตื่นตระหนกมาก แต่กลับลบร่องรอยของเขาในห้องนี้อย่างเงียบๆ
แฟ้มเอกสารบนโต๊ะ และแฟ้มเอกสารในมือของเขาเหมือนกันทุกประการ
แฟ้มเอกสารประเภทนี้ขายดีมาก และไม่มีความพิเศษอะไร ก็เหมือนแฟ้มเอกสารทั่วไป
ถึงอย่างนั้น ชายชราก็ยังไม่ค่อยไว้ใจจึงเปิดแฟ้มเอกสารที่อยู่!ในมือออก หยิบเอกสารด้านในออกมา แล้วหยิบเอกสารที่อยู่ในแฟ้มเอกสารบนโต๊ะออกมาด้วย แล้วสลับเอกสารทั้งสองฉบับ
“คุณเข้ามาทำอะไรในห้องหนังสือของBoss”
เสียงที่ตั้งคำถาม ดังขึ้นจากด้านหลังของชายชราชายชราที่กำลังสลับเอกสารทั้งสองฉบับ ตกใจมาก ทันใดนั้น เหงื่อเย็นเป็นหยดๆ
ไม่กล้าหันกลับไปมอง หันศีรษะและมองกลับไปทีละนิดอย่างช้าๆ………เป็นเสิ่นยี
“คุณ คุณไปโรงพยาบาลกับคุณชายไม่ใช่เหรอ”
เสิ่นยีขมวดคิ้ว “พ่อบ้านเซี่ย คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของฉัน คุณเข้ามาในห้องหนังสือของBossได้อย่างไร” คนที่ไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนกับBossคือเสิ่นเอ้อ ไม่ใช่เขา สองวันก่อนBossส่งให้เขาไปทำภารกิจอีกอย่าง
ในอดีตที่ผ่านมาBossจะให้เขากับเสิ่นเอ้อตามไปด้วยทุกที่ และไม่นานมานี้ Bossให้ความสำคัญกับเสิ่นเอ้อมากกว่า แม้แต่วันนี้ ท่านแก่เสิ่นเป็นลมอย่างกะทันหันในสถานการณ์ฉุกเฉิน คุณชายก็ให้เสิ่นเอ้อขับรถให้ และให้เขาอยู่ที่นี่ พูดว่าเฝ้าคฤหาสน์ในความเป็นจริง เสิ่นยีรู้สึกถึงความห่างเหินของBoss
ในใจหดหู่ เดินไปชั้นสอง คิดไม่ถึง ได้ยินเสียงมาจากในห้องหนังสือ เสียงไม่ดังมาก แต่กลับทำให้เขาเกิดความสงสัย
ในเวลานี้ ใครจะอยู่ในห้องหนังสือ คุณชายออกไปแล้วชัดๆ
แสงสว่างวาบขึ้นในหัวของเสิ่นยีสิ่งแรกที่นึกถึงก็คือ…….ผู้หญิงคนนั้น!
คุณชายไม่อยู่บ้าน ผู้หญิงคนนั้นเริ่มอวดดี
ความรังเกียจแวบเข้ามาในดวงตาของเสิ่นยี
ความรังเกียจนี้มาจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่ได้แสร้งทำออกมาได้ง่ายๆ
เมื่อนึกถึงเบื้องหลังของผู้หญิงคนนั้น เสิ่นยีรีบตามไปดูอย่างเงียบๆ เมื่อเขาตั้งใจฟัง ได้ยินเสียงเบาๆที่เขารู้สึกเมื่อครู่ เขาไม่ได้หูฝาด ยืนอยู่ตรงทางเดิน ได้ยินเสียงรื้อค้นเอกสารในห้องหนังสือ เสิ่นยีใจเต้นแรงมาก…….ในที่สุด ในที่สุดก็จับจุดอ่อนของผู้หญิงคนนี้ได้แล้ว
จับขโมยให้ได้คาหนังคาเขาเสิ่นยีบอกกับตัวเองว่าอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ตอนจับได้ ดูว่าผู้หญิงคนนี้จะเล่นลิ้นอย่างไร
และจะให้Bossได้เห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้ด้วย
ในห้องหนังสือมืดมาก ม่านหนาทึบเปิดแง้มเล็กน้อย ดูครั้งแรก เห็นแต่เงาหลังมืดๆ เสิ่นยีร้อนใจมาก………ในที่สุด ก็จับธาตุแท้ของคุณได้แล้ว
แต่วินาทีต่อมา เสิ่นยีตะลึง “คุณมาทำอะไรในห้องหนังสือของBoss” กลับกลายเป็นพ่อบ้านเซี่ย
ช็อกในใจ
พ่อบ้านเซี่ยไม่ตอบแต่ย้อนถาม และยังมีการกระทำแอบแฝงของพ่อบ้านเซี่ย ทำให้เสิ่นยีเริ่มสงสัย “นอกจากนี้ ในมือของคุณถืออะไรอยู่”
พ่อบ้านเซี่ยหน้าแก่ตึงเครียดมาก “ไม่มีอะไร”
เสิ่นยีไหวพริบและปฏิกิริยาเร็วมาก เอื้อมมือไปแย่งเอกสารในมือของพ่อบ้านเซี่ยมาทันที
“เสิ่นยี คุณห้ามดูนะ”
พ่อบ้านเซี่ยลดเสียงต่ำลงแล้วตะโกนบอกไป
ยิ่งทำให้เสิ่นยีสงสัย เหลือบมองเอกสาร และหลบห่างจากพ่อบ้านเซี่ยที่กำลังเอื้อมมือจะแย่งเอกสาร “นี่คืออะไร”
“ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วคุณแอบเข้ามาในห้องหนังสือของBossทำไม” เสิ่นยีไม่เชื่อ ตามหลักแล้ว เขาไม่ควรดูเอกสารนี้ แต่ ประการที่หนึ่งคือการกระทำของพ่อบ้านเซี่ยทำให้เขาสงสัย ประการที่สอง เขาก็อยากรู้อยากเห็น มันคืออะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้พ่อบ้านเซี่ยมีการกระทำที่เหมาะสมเช่นนี้
มือหนึ่งดันพ่อบ้านเซี่ยไว้ อีกมือถือเอกสารไว้ เขาไม่อยากจะดูอย่างละเอียด แค่อยากทำให้พ่อบ้านเซี่ยตกใจกลัว “ทำไมฉันถึงดูไม่ได้ หรือว่ามันเป็นสิ่งที่น่าละอาย คุณไม่บอกฉัน ฉันก็จะดูเอง”
ที่แท้ก็แค่ทำให้พ่อบ้านเซี่ยตกใจกลัว ไม่เคยคิด เหลือบไปมองเห็นตัวหนังสือสีดำหนึ่งแถวแวบมาที่หางตา
และไม่สนว่าพ่อบ้านเซี่ยก็อยู่ด้วย หยิบเอกสารมาอ่านผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น พุ่งเข้าหาเสิ่นยีอย่างแรง “ห้ามดู ห้ามดู”
พ่อบ้านเซี่ยตกใจ
เสิ่นยีดันมือเบาๆ ดันพ่อบ้านเซี่ยซวนเซไปข้างหลัง ล้มลงกับพื้น
“นี่คืออะไร พ่อบ้านเซี่ย สิ่งที่เขียนในนั้น เป็นเรื่องจริง?” เขาไม่อยากจะเชื่อเลย สายตาจ้องไปแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ จำได้ว่าเมื่อครู่เห็นเงาดำกำลังสลับเอกสารตอนเขาอยู่นอกประตู……ไม่ลังเล เสิ่นยีหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมา รีบเปิดออกแล้วดูอย่างรวดเร็ว
เอกสารทั้งสองฉบับ ทั้งสองฉบับมี “ข้อเท็จจริง” ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ฉบับไหนจริง ฉบับไหนปลอม……ความจริงก็ไม่ต้องถามแล้ว เสิ่นยีก็รู้อยู่ในใจ ถ้าฉบับในมือของพ่อบ้านเซี่ยเป็นฉบับปลอม พ่อบ้านเซี่ยจะทำตัวลับๆล่อๆเพื่อเข้ามาสลับเอกสารในห้องหนังสือของคุณชายทำไม
พ่อบ้านเซี่ยนั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้นทันใดนั้นก็ขยับตัว คุกเข่าตรงหน้าเสิ่นยี แล้วขยับเข้าไปจับกางเกงของเสิ่นยี แสดงความน่าสงสารที่บอกไม่ถูก
“อย่าบอกคุณชายได้ไหม”
เสิ่นยีตกใจมาก
“คุณก็ทำเหมือนไม่รู้เรื่องนี้ ฉันขอร้องคุณ …….ฉันก็ทำเพื่อเวยเหมิงเสิ่นยี คุณลองคิดดู เวยเหมิงเป็นคนใจดี อ่อนโยน ขี้กลัว แล้วเธอจะทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร
ทั้งหมดเป็นเพราะเจี่ยนถง
คุณคิดดู ข้างนอก เวยเหมิงเป็นผู้หญิงที่คุณชายให้ความสำคัญ เรื่องนี้ทุกคนในแวดวงต่างก็รู้กัน
แต่เจี่ยนถงในฐานะที่เป็นเพื่อนรักของเวยเหมิงผู้หญิงคนนั้นยังไม่ยอมเลิกรา พยายามเข้าใกล้คุณชาย
เวยเหมิงเธอไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ฉันเอง เป็นเพราะฉันไม่มีสถานะที่สูงส่งให้เวยเหมิง เธอเป็นเพียงลูกสาวของพ่อบ้าน แต่เจี่ยนถง เธอเป็นคุณหนูของตระกูลเจี่ยน เป็นหญิงสาวสรวงสวรรค์ในสายตาผู้คน เป็นผู้หญิงที่โดดเด่น และมุ่งไปหาคุณชายเพียงคนเดียว เริ่มการไล่ตามอย่างดุเดือด
เวยเหมิงเธอกลัว กลัวว่าสักวันหนึ่ง คุณชายจะถูกผู้หญิงอย่างเจี่ยนถงแย่งไป
เวยเหมิงก็กังวลมาก จึงได้ทำเรื่องผิดลงไป แต่เวยเหมิงก็เพราะว่าคืนนั้นผู้หญิงคนนั้นไปสาย จึงถูกทำลายโดยสัตว์เดรัจฉานพวกนั้น เวยเหมิงใช้ทั้งชีวิตของตัวเองเพื่อจ่ายไป
แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ
ยิ่งกว่านั้น ก็คือชีวิต นี่ยังไม่พอสำหรับการชดใช้เหรอ”
พ่อบ้านเซี่ยน้ำตาไหล “เสิ่นยีเวยเหมิงทำผิด แต่นั่นก็เป็นเพราะเจี่ยนถง ในวันนี้ คุณชายก็แต่งงานกับผู้หญฺงคนนั้นแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ได้แต่งงานกับคุณชายตามที่ต้องการแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นคิดอยู่ตลอดเวลาเหรอ
ทำไมต้องขุดเรื่องที่มันผ่านไปแล้วขึ้นมาอีก ทำไมต้องไปสืบหาเรื่องที่ผ่านไปหลายปีให้ถึงที่สุดด้วย
ผู้หญิงคนนั้นก็ได้เป็นคุณนายเสิ่นแล้ว………ส่วนเวยเหมิงก็เหลือเพียงเถ้ากระดูก……..ฉันก็มีลูกสาวเพียงคนเดียว ลูกสาวไปอยู่อีกโลกแล้ว ฉันแค่หวังว่าเธอจะเหลือชื่อที่สะอาดไว้บนโลกนี้ ขอให้เธออยู่ในใจของคุณชายเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนใจดีขี้อายและไร้เดียงสาอยู่เสมอ ……. เสิ่นยี ฉันขอร้องคุณ กราบคุณแล้ว ขอแค่คุณทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลย
ผู้หญิงคนนั้น เธอก็ได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้วไม่ใช่หรือ
เป็นแบบตอนนี้มันไม่ดีเหรอ สถานการณ์ที่มีความสุข และสิ่งเดียวที่ฉันเป็นห่วงก็คือ หลังจากที่เวยเหมิงเสียชีวิตจะไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำเธออีก
เสิ่นยีลุงเซี่ยรู้ว่าคุณ……ชอบเวยเหมิงมาตั้งแต่เด็ก คุณก็ไม่หวังว่าเวยเหมิงจะกลายเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายในสายตาของคนบนโลกนี้ ใช่ไหม
อีกอย่าง เวยเหมิงเธอก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ เธอไม่ได้เจตนาจะทำร้ายใคร
ผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เธอจะจงใจทำร้ายผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร”
เสิ่นยีตึงเครียด…… ตอนที่พ่อบ้านเซี่ยพูดว่า “คุณชอบเวยเหมิงตั้งแต่เด็ก” เขาก็รู้ การตัดสินใจของเขาแล้ว
“พ่อบ้านเซี่ย คุณตอบฉันมาก่อน…….ความจริงแล้ว คุณรู้มาตั้งนานแล้ว รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมด ใช่ไหม”
“ฉัน……เวยเหมิงเคยพูดกับฉันหนึ่งครั้ง ฉันคิดว่าเธอล้อเล่น เวยเหมิงบอกว่า เธอแค่ต้องการขู่เจี่ยนถงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน จะไม่ทำอะไรที่ร้ายแรงกับเจี่ยนถงอย่างแน่นอน…..หวังแค่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีหน้าไปยุ่งกับคุณชายอีก …….ฉัน ฉันก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องขำๆ เพราะเวยเหมิงเป็นคนขี้กลัวตั้งแต่เด็ก”
เสิ่นยีกำหมัดแน่น หลับตา โยนเอกสารในมือไปตรงหน้าพ่อบ้านเซี่ย “คุณจำไว้ ฉันไม่ได้ช่วยคุณปิดบัง ฉันไม่ได้ทำเพื่อช่วยคุณ ฉันทำเพื่อชื่อเสียงและความไร้เดียงสาของเวยเหมิง และความบริสุทธิ์ของเธอที่อยู่ในใจของคุณชาย วันนี้ฉันไม่เคยมาที่นี่ ไม่ได้เจอคุณ และยิ่งไปกว่านั้น ก็คือไม่ได้เห็นเอกสาร”
พูดจบ หันหลังแล้วเดินออกไป เดินไปถึงทางเดิน เมื่อแสงส่องลงมา เห็นเสิ่นยีริมฝีปากซีดและขมวดคิ้วด้วยความเสียใจ
ระหว่างเดินลงบันได ยังไม่ถึงชั้นล่าง ก็ได้ยินเสียงสนทนากัน
คือผู้หญิงคนนั้น
เสิ่นยีประมาทเลินเล่อ เหยียบพลาด แม้จะทรงตัวทันเวลาแต่ก็ได้ยินเสียงอึดอัดใจ
เขาเหลือบไปมอง ผู้หญิงคนนั้นหันหลังอยู่ และหันกลับมามองเขาพอดี……ใจเต้นแรง
มีความรู้สึกผิดที่พูดไม่ได้
จ้องกลับด้วยสายตาที่เย็นชามาก แสดงสีหน้าที่ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ออกมาบนใบหน้า
เสิ่นยีเห็นแค่ ผู้หญิงที่จ้องมองเขา ค่อยๆถอนสายตาของเธอลงสำหรับความเกลียดชังและความรังเกียจบนใบหน้าของเขาก็แค่เลื่อนผ่านไปช้าๆ อย่างไม่สนใจ
อาจจะเพราะ……ความหวาดระแวงในใจถูกทำลายอย่างกะทันหัน
กระดาษแผ่นนั้น คำพูดเหล่านั้น ทุกตัวอักษร การกล่าวหาและความรังเกียจที่เขามีต่อผู้หญิงคนนี้ไม่มีมูลเลย
คนที่รังเกียจมาก คนที่ดูถูก คนที่แอบเยาะเย้ยเป็นระยะๆด้วยเหตุผล ทันใดนั้น กระดาษขาวและตัวหนังสือสีดำก็บอกเขาว่า ความรังเกียจของคุณไม่สมเหตุสมผล
คนที่รังเกียจมาโดยตลอดทันใดนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะสนับสนุนให้เขาเกลียดเธออย่างอีก
เสิ่นยีแปลกใจมาก และรู้สึกเสียใจมาก สูดหายใจเข้าอย่างแรง “ฮึ”
แล้วเดินผ่านผู้ำหญิงคนนี้ไป แม้แต่ “คุณนาย” ก็ไม่เรียกสักคำ รีบวิ่งออกจากประตูไป…….เหมือนจะรังเกียจอันที่จริงแล้วเขารู้สึกผิดในใจ
“พ่อบ้านหวัง วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหญิงเจี่ยน ฉันจะกลับไปที่บ้านตระกูลเจี่ยน”