พ่อบ้านของตระกูลเสิ่นคนนี้ ตำแหน่งสูงกว่าพ่อบ้านเซี่ยหลายขั้น เมื่อก่อนเขาติดตามอยู่ข้างกายท่านแก่เสิ่นด้วยความจงรักภักดี ทำตามที่ท่านแก่เสิ่นสั่งทุกอย่าง และยังเป็นคนใกล้ชิดที่ท่านแก่เสิ่นเชื่อใจที่สุด แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่าคุณท่านมีแผนการนี้ด้วย ใช้การเจ็บป่วย แล้วจัดการกับเจี่ยนถง……ในขณะนั้น เขารู้สึกหงุดหงิดในใจเมื่อคาดเดาอะไรบางอย่างได้
แต่ในเวลานี้ ไม่สามารถบอกสิ่งที่คาดเดาในใจกับเสิ่นซิวจิ่นที่อยู่ตรงหน้าได้
“คุณชาย บ่าวรับใช้คุณท่านมาทั้งชีวิต ตามหลักแล้ว ถ้าคุณท่านใช้สถานการณ์การเจ็บป่วย แล้วทำเรื่องลักพาตัวคุณ……คุณนายไปจริงๆ บ่าวก็ต้องรู้สิ” พ่อบ้านพูดเกลี้ยกล่อมด้วยเจตนาดี
“คุณชาย บ่าวขอสาบานกับคุณ ครั้งนี้คุณท่านไม่ได้ใช้สถานการณ์การเจ็บป่วยเพื่อทำอะไรกับคุณเจี่ยนจริงๆ”
เสิ่นซิวจิ่นมองพ่อบ้านเก่าที่อยู่ตรงหน้า สำหรับพ่อบ้านเก่าที่รับใช้อยู่ข้างกายคุณท่านมาโดยตลอด ก็สามารถพูดได้ว่า เห็นเสิ่นซิวจิ่นมาตั้งแต่เด็ก จากความเข้าใจของพ่อบ้านเก่าคนนี้ เสิ่นซิวจิ่นจะไม่คิดว่า พ่อบ้านเก่ากำลังโกหก
หึ…….ไม่เกี่ยวกับคุณปู่จริงๆเหรอ?
ดวงตาคู่นั้น เย็นชาและไม่แยแส ขนตายาวห้อยลงมาไตร่ตรองแล้ว ถ้าไม่ใช่คุณปู่……แล้วจะเป็นใคร?
กำหมัดแน่น……..ไม่ว่าจะเป็นใคร!
พ่อบ้านเก่าอยู่ตรงหน้าเสิ่นซิวจิ่น และในขณะนี้ ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยรอยย่น เต็มไปด้วยความสยองขวัญ
พ่อบ้านเก่าหายใจเข้าด้วยลมหายใจที่เย็น ……ในความทรงจำ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าในตอนนี้ ตัวเองก็ไม่ได้เห็นมานานแล้ว
“คุณชาย ท่านจะทำอะไร”
พ่อบ้านเก่าเดินเข้าไป ขวางเสิ่นซิวจิ่นที่หันหลังแล้วออกไป
“ถอยไป”
“คุณชาย อย่าหุนหันพลันแล่น” ไม่ได้นะ ต้องไม่ปล่อยให้คุณชายออกไปในอารมณ์เช่นนี้ มิเช่นนั้น คุณชายอาจจะทำอะไรลงไปบ้าง ไม่มีใครรู้ได้
พ่อบ้านเก่าวิตกกังวลมาก
“เหอ~คนที่หายตัวไปเป็นภรรยาของฉัน คุณจะให้ฉันใจเย็นลงได้อย่างไร คุณหลบไป คุณก็เป็นคนเก่าแก่ของตระกูลเสิ่น ฉันไม่อยากทำร้ายคุณ” ชายผู้นั้นสีหน้าเย็นชา เยือกเย็นด้วยวิญญาณร้าย ส่ายหน้าเล็กน้อย นัยน์ตาเย็นชาพ่อบ้านเก่าชะงักไปชั่วครู่
“เสิ่นเอ้อ ดึงเขาหลบไป”
เสิ่นเอ้อรีบเดินไปด้านหน้า พ่อบ้านเก่าขวางเสิ่นซิวจิ่นไว้ไม่ได้ และถูกเสิ่นเอ้อดึงออกได้อย่างง่ายดายเขาผ่านลมผ่านฝนมาหลายสิบปีแล้วเข้าใจดีว่าตอนนี้ต้องทำอะไร
จะให้คุณชายออกไปตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด………ดวงตาของพ่อบ้านเก่าเป็นประกาย และไม่ไล่ตามเสิ่นซิวจิ่นแล้ว ขยับเท้า วิ่งไปที่ประตูฉุกเฉินด้วยความเร็วราวกับบิน
“จับเขาไว้” เสิ่นซิวจิ่นตะโกนด้วยสีหน้าที่เย็นชา เสิ่นเอ้อเห็นและมือไวมาก คว้าพ่อบ้านเก่าจากด้านหลัง “ขอโทษด้วย กะทันหันเกินไป มืออาจจะหนักไป” เสิ่นเอ้อกล่าวกับพ่อบ้านเก่าด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก
เสิ่นซิวจิ่นเหลือบมองพ่อบ้านเก่า แล้วมองที่หน้าของเสิ่นเอ้อ “ดูเขาไปไว้” ดวงตาค่อยๆมองไปที่ประตูฉุกเฉิน ดวงตาสีเข้มหรี่ลง ริมฝีปากบางกล่าวออกมาว่า “ยังมี…….ประตูนั่น” เขายังไม่หายสงสัยชายชราที่นอนอยู่ในห้องหลังประตูบานนั้น
พ่อบ้านเก่าเข้าใจทันที เบิกตากว้าง “คุณชาย คุณอย่านะ” มองเขา แล้วก็มองไปที่ประตูที่คุณท่านอยู่…….นั่นไม่ใช่การติดคุกเหรอ?
เขาจ้องไปที่ด้านหลังที่จากไปอย่างเร่งรีบด้วยความตกใจไม่อยากเชื่อเลย
“เสิ่นเอ้อ คุณปล่อยมือ รีบไปขวางคุณชายไว้ คุณท่านไม่ยอมให้คุณชายทำอะไรที่มีผลต่อชื่อเสียงของตระกูลเสิ่นแน่นอน” พ่อบ้านเก่าเป็นกังวลมาก แต่เสิ่นเอ้อก็ไม่เคลื่อนไหวใดๆ พ่อบ้านเก่าตะโกนเสียงดังด้วยความกังวล “รีบไปสิ ทำไมคุณจับฉันไว้แน่นขนาดนี้”
“ขอโทษด้วย ถึงแม้ท่านจะเป็นผู้อาวุโสกว่า แต่ทุกคนก็ทำตามเจ้านายของตัวเอง” ในคำพูดหมายถึง เขาฟังแค่คำสั่งของเสิ่นซิวจิ่น
“คุณ นี่คุณกำลังทำร้ายคุณชายอยู่นะ!”
“Bossเขามีแผนการของเขา”
……
เสิ่นเอ้อจับตาดูท่านแก่เสิ่นกับคนข้างกายของคุณท่านอย่างใกล้ชิดโทรศัพท์ของพ่อบ้านเก่าตกลงพื้นโดย“ไม่ระวัง”
ทางด้านนี้ เสิ่นซิวจิ่นวิตกกังวลติดต่อคนที่เขารู้จักที่สามารถช่วยเขาได้ เพื่อไปตามหาเจี่ยนถง
ความจริงในใจก็เข้าใจดี ผู้หญิงคนนั้น น่าจะเกิดเรื่องกับเธอแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าทุกอย่างจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดังนั้นระหว่างทาง ระหว่างที่ติดต่อประสานให้ทุกคนช่วยตามหาคน อีกด้านหนึ่งโทรกลับไปที่บ้านทุกห้านาที เพื่อถามพ่อบ้านหวัง ผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านหรือยัง…….ถึงแม้จะรู้ว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นกลับถึงบ้านแล้ว พ่อบ้านหวังจะต้องรายงานกับตัวเองทันที
เปลือกตาซ้ายยิ่งสว่างยิ่งคม ความตื่นตระหนกในใจ เป็นความรู้สึกที่เขาเสิ่นซิวจิ่นอยู่มาถึงวัยนี้ ไม่เคยมีมาก่อน
ผู้ชายในรถ คิ้วถูกบิดเป็นเกลียว
รถของเขาวิ่งบนถนนราวกับบิน และทิศทางที่ไป ก็คือตระกูลเจี่ยน
หน้าประตูตระกูลเจี่ยนมีเสียงเบรกรถอย่างกะทันหันเสียงเครื่องยนต์ดัง และดังขึ้นอีกครั้ง
“เสียงเบิ้ลรถเสียงดัง”
เสียงนี้ ทำให้คุณหญิงเจี่ยนที่กำลังดื่มชาอยู่ใจสั่นกะทันหัน แก้วในมือ “เสียงแก้วแตก” ตกลงพื้น แตกเป็นเสี่ยงๆ
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
และเจี่ยนเจิ้นตงที่กำลังอยู่ระหว่างทางไปห้องหนังสือ ก็ถูกเสียงที่ดังนี้ ทำให้ตกใจอย่างแรง ลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ เดินไปตรงหน้าต่าง มองลงไปด้านล่าง……..วินาทีถัดมา ผิวหน้าตึง
รถของเสิ่นซิวจิ่น
ช่วงเวลานี้ ในใจของเจี่ยนเจิ้นตง มีการเดาไปต่างๆนานามากมาย………เขามาทำไม”
เสิ่นซิวจิ่นต้องอยู่ที่โรงพยาบาล ดูแลท่านแก่เสิ่นสิ
หรือว่าเขามาเพื่อ………
การเดาต่างๆนานา เขาไม่กล้าที่จะก้าวออกจากประตูห้องหนังสือด้วยความช้า รีบลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว
“เจี่ยนเจิ้นตงเจี่ยนถงอยู่ไหน”
เจี่ยนเจิ้นตงพูดอย่างแข็งๆ “เสี่ยวถงกลับไปแล้ว………..”
“ฉันไม่ได้มาเพื่อฟังเรื่องไร้สาระของคุณ”
“ฉัน…….ฉันไม่รู้จริงๆ เสี่ยวถงเธอไม่ได้กลับไปเหรอ แต่ว่าคุณซูเป็นคนไปส่งเสี่ยวถงด้วยตัวเองนะ ประธานเสิ่น เป็นไปได้ไหมว่าเด็กสาวสองคนห่วงเที่ยว ไปเดินช๊อปปิ้งอยู่ไหนหรือเปล่า”
……
ในตระกูลเจี่ยนเจี่ยนเจิ้นตงเหมือนศัตรูตัวฉกาจเจี่ยนถงในโกดังเก่าแห่งหนึ่ง ถูกปลุกด้วยน้ำเย็นหนึ่งกะละมัง
บนหัวมีตะเกียงหลอดไส้เก่าอยู่หนึ่งหลอด เป็นหลอดไฟแบบเก่าที่หลายคนใช้ในยุค80 และยุค90
ตื่นมาช้าๆ ตอนลืมตา ถูกแสงไฟหลอดเก่านี้ส่องตา เธอยกมือเพื่ออยากจะบังแสงไฟ แต่ขยับไม่ได้ หรี่ตามองไป เพิ่งรู้ว่าถูกมัดตัวติดกับเก้าอี้อยู่ มือถูกมัดอยู่หลังเก้าอี้
“คุณตื่นแล้วเหรอ”
มีเสียงดังขึ้นทันใด
เจี่ยนถงมองไป ตอนเห็นร่างคนคนนั้น ไม่รู้ว่าเป็นการยิ้มแบบเยาะเย้ย หรือเป็นการฝืนยิ้ม เธอหัวเราะเบาๆหนึ่งครั้ง
“คุณยังกล้าหัวเราะอีกเหรอ”
เผชิญหน้ากับคนร้ายที่ลักพาตัวปฏิกิริยาของเจี่ยนถงแต่มันเป็นความนิ่งที่คาดไม่ถึงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังโกรธ
และความยิ่งของเธอ กลับทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าอดไม่ไหว