“หญิงสารเลว แกยังกล้าหัวเราะ!แกยังกล้าหัวเราะ!ไอ้ฆาตกร หญิงสารเลวที่จิตใจชั่วร้าย”
น้ำเสียงนั้นยิ่งโกรธและตะโกนด่าว่า “ตอนนั้นถ้าไม่ใช่คุณเวยเหมิงของฉันจะตายตั้งแต่อายุยังน้อยได้อย่างไร
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เวยเหมิงจะมัวหมองเพราะเดรัจฉานพวกนั้นได้อย่างไร ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ เพราะผู้หญิงที่จิตใจชั่วร้ายอย่างคุณ”
เจี่ยนถงถูกมัดนั่งอยู่บนเก้าอี้ขาหักครึ่งตัว จ้องมองชายชราตรงหน้าที่กำลังต่อว่าโดยไม่พูดอะไร
“เสียดายที่เวยเหมิงยังเป็นเพื่อนรักกับคุณ เสียดายที่เวยเหมิงคิดว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แล้วคุณล่ะ คุณทำอะไรบ้าง ฮะ!”
ความโกรธของชายชราต่อว่าและเขย่าตัวของเจี่ยนถงที่ถูกมัดบนเก้าอี้ นัยน์ตาแก่ๆเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เจี่ยนถงทนฟังชายชราด่าว่าสาปแช่ง จนกระทั่งชายชราพูดออกมาว่า “เวยเหมิงคิดว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด” ……..จึงทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“หลายปีที่ผ่านมา ฉันก็คิดอย่างนั้นมาโดยตลอด เซี่ยเวยเหมิงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน เซี่ยเวยเหมิงให้ฉันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ” สายตาที่โกรธของชายชราจ้องไปที่ผู้หญิงที่ถูกมัดไว้บนเก้าอี้ที่กำลังหัวเราะอย่างไม่มีเสียง เขารู้สึกเหมือนถูกวางยาพิษ
ความมืดมิดแผ่ซ่าน……..”ผลัวะ”
“แกยังกล้าหัวเราะ แกยังมีหน้ามาหัวเราะ”
การตบครั้งนี้ ทำให้หน้าของเจี่ยนถงเบี้ยวไปครึ่งหน้าและคอของเธอบิดตาม ครึ่งหนึ่งพิงเก้าอี้ เธอไม่ได้ขยับ แค่ตัวเอนเอียงไปทางเก้าอี้ ถึงแม้ว่ามุมปากเจ็บเพราะโดนตบ ดูเหมือนเธอจะไม่ทันสังเกตเปิดปากพูดเบาๆว่า
“พ่อบ้านเซี่ย คุณคิดว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ หรือว่าคุณคิดว่า ระยะเวลาสามปีในคุก ยังไม่เพียงพอสำหรับให้ฉันเข้าใจในเรื่องนั้นเหรอ” หัวของเธอค่อยๆหันกลับมาด้านหน้า ทันใดนั้นสายตาก็จ้องมองใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวของชายชราที่อยู่ข้างหน้า
“ใครกันแน่ ที่วางแผนทำร้ายใคร ใครกันแน่ ที่มีเจตนาที่ไม่ดี แล้วใครกันแน่ ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว”
เธอพูดอย่างช้าๆ ทีละคำ พูดอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่ามุมปากจะแตกเพราะถูกตบ แต่พยายามพูดให้ชัดเจน และชัดเจนทุกถ้อยคำ
มีเพียงชัดเจนทุกถ้อยคำ บัญชีเก่าระหว่างเธอกับเซี่ยเวยเหมิง จึงจะคิดกันได้อย่างชัดเจน ……..นี่ก็เช่นกัน หลังผ่านไปหลายปี ข้อกล่าวหาของเธอต่ออาชญากรรมของเซี่ยเวยเหมิง
จะไม่ชัดเจน……..ได้อย่างไร
จากคนที่ไม่เคยขาดสิ่งใดตอนยืนอยู่บนยอดพิรามิดตกลงไปในบ่อโคลน ถึงได้เข้าใจ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนอื่นอาจไม่สนใจ แต่ตัวเองกลับแคร์มันมาก ถึงได้เข้าใจ นั่นคือสิ่งที่ตัวเองพยายามยืนหยัด และแคร์
“คุณ……” ในใจของพ่อบ้านเซี่ยมีเสียงสะอึก “กึกๆ” ใจเต้นแรงไปชั่วขณะ มองคนที่ถูกมัดบนเก้าอี้ ในสายตาแก่ๆ แววตาแห่งความสงสัยก็บังเกิด……..เธอ รู้แล้วเหรอ?
ไม่!
เป็นไปได้อย่างไร
ถ้าเธอรู้แล้ว ทำไมตอนออกจากคุกมาไม่รีบมาตามหาที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่น?
ถ้าเธอรู้อะไรบางอย่างจริงๆแล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่นสำหรับเขาที่ปฏิบัติต่อเธออย่างดุดันและรุนแรงเหล่านั้น เธอจะไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลยเหรอ?
ไม่มีทางที่เธอจะรู้
ถ้า ถ้าเธอรู้จริงๆ ทำไมเธอยังสามารถทำเหมือนไม่แคร์อะไร และไม่พูดอะไรเลย
เจี่ยนถงดูเหมือนจะไม่เห็นความตกใจของชายชราที่อยู่ตรงหน้า หรือจะบอกว่า เธอไม่สนใจว่าชายชราจะตกใจหรือเป็นอะไร เธอไม่สนใจว่าคนคนนี้จะคิดอะไร เพียงแค่พูดคำต่อคำ พลางมองดูหลอดไฟที่อยู่เหนือศีรษะ เหมือนกำลังรำลึกความหลัง
“พ่อบ้านเซี่ย คุณจำได้ไหม เมื่อตอนเด็กๆ ฉันกับเวยเหมิงนั่งเล่นด้วยกันที่สวนดอกไม้ใน พวกเราสองคนนั่งหลังพิงหลังอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในสวน แม้ว่าจะไม่ได้พูดคุยกัน ทั้งสองคนต่างถือหนังสือคนละเล่ม ก็สามารถนั่งอยู่ด้วยกันได้เป็นวัน
ตอนคุณปู่ของฉันยังมีชีวิตอยู่เข้มงวดกับฉันมาก สิ่งที่ต้องเรียน มากกว่าคนในวัยเดียวกัน จะเที่ยงคืนแล้วก็ยังเรียนอยู่เป็นเช่นนี้ประจำ จริงๆแล้ว เวลาพักผ่อนมีจำกัดมากแต่เมื่อมีเวลาว่าง ฉันก็จะไปที่คฤหาสน์ของตระกูลเสิ่นเสิ่นซิวจิ่นไม่ค่อยสนใจฉัน ในหลายๆครั้ง กลับเป็นเวยเหมิงที่ใช้เวลาอยู่กับฉันมากกว่า”
“คุณว่าสิ่งเหล่านี้มันหมายความว่าอย่างไร” พ่อบ้านเซี่ยสีหน้าสงสัยและตื่นตัว “คุณคงไม่คิดว่าการใช้ความสัมพันธ์ในตอนนี้จะช่วยอะไรได้ใช่ไหม”
สายตาของเจี่ยนถง ในที่สุดก็เปลี่ยนจากหลอดไฟไปที่พ่อบ้านเก่า นั่งจ้องหลอดไฟเป็นเวลานาน จู่ๆก็มองไปที่พ่อบ้านเซี่ย จริงๆแล้วก็มองเห็นได้ไม่ชัดเจน แต่……นี่ เป็นความตั้งใจของเธอ——ใครอยากเห็นหน้าชายชราที่น่ารังเกียจตรงหน้าอย่างชัดเจนล่ะ
“ฉันหมายถึง พวกเราที่โตด้วยกันมาเช่นนี้ ฉันไม่คิดว่า เวยเหมิงจะเป็นคนที่สามารถฆ่าตัวตายได้”
“เวยเหมิงฆ่าตัวตาย นั่นไม่ใช่เพราะถูกคุณทำร้ายและเหยียบย่ำทำลายเธอไม่ใช่เหรอ”
พ่อบ้านเซี่ยกัดทั้งสองด้านของกระดูกขากรรไกรของใบหน้าอย่างแน่น
เจี่ยนถงหัวเราะเบาๆ ส่ายหน้า แค่รู้สึกว่ามันไร้สาระ “ฉันรู้ทุกอย่าง เหตุการณ์ในคืนนั้น ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ
ใครเป็นคนทำร้ายใคร ฉันรู้ทุกอย่าง พ่อบ้านเซี่ย…….คุณสามารถบอกฉันได้ไหม เวยเหมิงตายอย่างไรกันแน่”
“คุณ……คุณ…….พูดเรื่องไร้สาระอะไร ถ้าคุณไม่ได้ทำ แล้วใครทำ คุณนั่นล่ะเป็นคนทำให้เวยเหมิงต้องตาย”
เธอรู้สึกปวดตาเล็กน้อย บางทีน่าจะเกี่ยวกับ……. ที่เธอจ้องมองหลอดอยู่ตลอด
“พ่อบ้านเซี่ย ตอนนี้ฉัน ถูกมัดไว้ ฉันคือปลาส่วนคุณเป็นมีด และคุณน่าจะไม่อยากให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปใช่หรือไม่” มิฉะนั้น ถ้าเกิดเรื่องกับเธอ คนคนนั้นไม่ช้าก็เร็วจะต้องสืบมาถึงตัวพ่อบ้านเซี่ยแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น พ่อบ้านเซี่ยคงจะไม่มีทางรอดแล้วมั่ง
เธอมองชายชราคนนั้นที่อยู่ตรงหน้า “ลุงเซี่ย” ไม่ง่ายเลย ผ่านมาหลายปี เธอเรียก “ลุงเซี่ย” อีกครั้ง
เธอบอกว่า “ลุงเซี่ย ในเมื่อคุณก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว และคุณก็คงไม่ปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อเช่นกัน ในเมื่อพวกเรากำลังจะตายแล้ว
คุณก็บอกฉันเถอะ เวยเหมิงตายยังไงกันแน่” เธอเชื่อว่า เวยเหมิงจะไม่มีทางฆ่าตัวตาย
คนที่อดทนมาตั้งหลายปี แสดงละครต่อหน้าทุกคน คนที่วางแผนทำร้ายคนอื่นแม้จะต้องตาย แล้วจะฆ่าตัวตายง่าย ๆ ได้อย่างไร
“เวยเหมิงฆ่าตัวตาย เพราะถูกคุณทำร้ายจนต้องฆ่าตัวตาย” หน้าแก่ๆของพ่อบ้านเซี่ย จู่ๆก็หน้าดำคล้ำ
“เซี่ยเวยเหมิงไม่มีทางฆ่าตัวตาย”
“เธอฆ่าตัวตาย!”
“เธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย!”
“ใช่ เธอฆ่าตัวตาย!”
“เป็นไปไม่ได้”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ เธอฆ่าตัวตาย ”
ทั้งสองคนต่างไม่ยอม เจี่ยนถงยืนกรานว่าเซี่ยเวยเหมิงไม่มีทางฆ่าตัวตาย
และพ่อบ้านเซี่ยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห
“เธอไม่ใช่!”
“เธอไม่ได้ฆ่าตัวตายแล้วจะทำไม” พ่อบ้านเซี่ยตะโกนออกมาด้วยความโมโห ตาแดง แก้มสองข้างบุ๋มไปแล้ว หน้าแดงผิดปกติ
ตะโกนสุดเสียง “ถึงแม้จะบอกคุณว่า ฉันเป็นคนลงมือฆ่าเธอเองแล้วจะทำไม”
บูม!
ข้างหูเหมือนเสียงฟ้าผ่า เหมือนเวลาหยุดเดินอย่างกะทันหัน
แต่เสียงของพ่อบ้านเซี่ยจู่ๆก็หยุดอย่างกะทันหันเช่นกัน
หน้าแก่ของพ่อบ้านเซี่ยแดง ขาว ม่วงสลับกัน คาดเดาไม่ได้เหมือนจานสี
“คุณเป็นคน……..ฆ่า……..เซี่ยเวยเหมิง?” เจี่ยนถงตกใจ ไม่อยากเชื่อเลย “ทำ ทำ…….ไม”
เธอไม่เข้าใจ ชายชราที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่พ่อบังเกิดเกล้าของเซี่ยเวยเหมิงเหรอ
เขาทำไมถึงฆ่าลูกสาวของตัวเองได้ลง