เธอโตมากับคุณปู่ แต่เจี่ยนโม่ป๋ายชอบอยู่กับพ่อแม่มากกว่า
มีครั้งหนึ่งคุณปู่พูดเล่นว่า มอบหมายภารกิจเล็กๆให้พวกเธอสองคน ใครสามารถเอาปากกาหมึกซึมของลุงถังที่เขารักมากและติดตัวตลอดเวลามาได้ คนนั้นก็จะเป็นที่หนึ่ง ปี่เซียะหยกในห้องหนังสือของคุณปู่ก็จะเป็นของคนนั้น
หลังจากนั้นเธอก็ได้ที่หนึ่ง ตอนได้ปี่เซียะหยกชิ้นนั้น ดีใจมาก เธอเกิดในครอบครัวแบบนั้นปี่เซียะหยก เธอเห็นมาไม่น้อยตั้งแต่เด็ก แต่ปี่เซียะหยกของคุณปู่ชิ้นนั้น ไม่เหมือนชิ้นอื่นๆ สีใสมาก ถือปี่เซียะหยกหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ มีความโปร่งใส เด็กผู้หญิงชอบของแวววาว เมื่อตอนเด็กๆเธอก็ไม่ต่างกัน
เจี่ยนโม่ป๋ายเห็น ก็อยากจะแย่ง เธอไม่ให้ ผลักเจี่ยนโม่ป๋ายหนึ่งที แต่ก็ไม่ได้ออกแรงมาก แต่ผลักเจี่ยนโม่ป๋ายล้มลงกับพื้น
ป้าจางที่ดูแลเจี่ยนโม่ป๋ายเห็นพอดี ณ ตอนนั้นโกรธมากจึงพูดกับเธอที่ยังเด็กว่า
ลูกที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีใครสั่งสอน ยังจะผลักคุณชายล้มลงกับพื้นอีก
เธอถึงกับตะลึง……..ไม่มีพ่อไม่มีแม่
ตอนนั้นโต้กลับป้าจาง “ฉันมีพ่อมีแม่ ทำไมคุณถึงว่าฉันไม่มีพ่อไม่มีแม่”
ป้าจางก็ตะลึงสักครู่ เบ้ปากแล้วพูดว่า “คุณโตมากับคุณท่านไม่ใช่เหรอ ไม่เห็นคุณใกล้ชิดกับคุณนายหรือคุณท่านเลย….. เป็นเพราะป้าจางเห็นคุณชายล้ม ก็ตกใจ จึงพูดผิดไป เสี่ยวถง คุณอย่าไปฟ้องคุณท่านนะ ได้ไหม ป้าจางพูดผิดไป ต้องขอโทษคุณด้วย”
ตอนนั้นยังเด็ก ก็เลยเชื่อที่ป้าจางพูด
และในขณะนี้ เพราะคำพูดของพ่อบ้านเซี่ย “ลูกสาวของฉันมีไฝที่ฝ่าเท้าขวา” เจี่ยนถงรู้สึกเจ็บที่เท้าขวาเหมือนโดนไฟเผา เจ็บปวดเหลือทน
“คุณก็ คุณก็เพราะไฝที่ใต้เท้าเม็ดเดียว ก็มั่นใจว่านั่นไม่ใช่ลูกสาวของคุณ?นอกจากไฝดำนั่น ยังมีหลักฐานอะไรที่สามารถยืนยันว่าเซี่ยเวยเหมิงไม่ใช่ลูกสาวของคุณไหม”
แค่ไฝที่เท้า ยังไม่สามารถยืนยันความคิดในใจเธอได้…….บนโลกนี้ คนที่มีไฝที่ใต้เท้า ไม่ใช่แค่คนเดียว
พ่อบ้านเซี่ยอ้าปากกำลังจะพูด ทันใดนั้น จู่ๆก็มีเสียงเคลื่อนไหวดังขึ้น
“ใคร” พ่อบ้านเซี่ยเกรงไปทั้งตัว มองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ตาขุ่นมัวหมุดไปมา ค่อยๆดูไปตามรอบๆ แม้จะไม่มีเบาะแสใดๆก็ตาม แต่เสียงการเคลื่อนไหว ก็ทำให้พ่อบ้านเซี่ยมีความกดดัน
กลัวว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไป พ่อบ้านเซี่ยสีหน้าเปลี่ยน “พูดมากอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ……….ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ คุณก็อย่าคิดจะมีชีวิตอยู่ต่อเลย และ……ไปชดใช้ให้เวยเหมิงไป”
ขณะที่พ่อบ้านเซี่ยพูด ก็เผยความโหดร้ายออกมา
มีดพกหนึ่งเล่ม ที่ปลายแหลมคมใกล้เข้ามา
“หยุดนะ”
ซูเมิ่งเห็นว่าซ่อนตัวต่อไปไม่ได้แล้ว แค่คิดไม่ถึง ไอ้เฒ่านี่ช่างระแวดระวังมาก แค่เคลื่อนไหวเล็กน้อย ก็ระวังตัวทันที พร้อมลงมือโดยไม่ลังเล
มือของเธออยู่ด้านหลัง แอบส่งตำแหน่งที่อยู่ไปที่โทรศัพท์ของเสิ่นซิวจิ่น
แล้วรีบโยนทิ้งที่มุมด้านข้าง……ถ้าไอ้เฒ่าคนนี้เห็นโทรศัพท์ เช่นนั้นแล้วตำแหน่งที่อยู่ที่เธอส่งให้เสิ่นซิวจิ่น ก็จะถูกจับได้
“พี่เมิ่ง” เจี่ยนถงตะโกนบอก “คุณรีบหนีไป”
“อย่าพูดโง่ๆ” ซูเมิ่งส่ายหัว “ถ้าฉันหนีไปตอนนี้ ก็หนีไม่พ้นการลงโทษของBoss”
“ขอโทษ…….ที่ฉันเป็นคนทำให้คุณต้องเดือดร้อน”
“คนโง่ ฉันตามมาเอง ถ้าฉันคิดจะหนี ก็คงจะไม่มาแล้ว”
“คุณเป็นซูเมิ่งที่อยู่ข้างกายของคุณชายคนนั้นเหรอ” พ่อบ้านเซี่ยตะโกนพูด “เดิมทีไม่มีเรื่องเกี่ยวกับคุณเลย แต่คุณมารนหาที่ตายเพราะผู้หญิงเลวคนนี้ เช่นนั้นก็อย่าโทษฉันที่ต้องลงมือกับคุณด้วย”
“เหอๆ พูดได้ดีมาก ความจริงเป็นเพราะฉันได้ยินเรื่องชั่วๆของคุณทั้งหมดแล้ว คุณกลัวว่าฉันจะพูดออกไปก็เลยจะฆ่าปิดปากฉันใช่หรือไม่”
หน้าแก่ของพ่อบ้านเซี่ยแดง พูดออกไปอย่างโหดร้าย “อย่างไรก็ตามวันนี้พวกคุณก็ต้องตามฉันลงไป ได้ยินแล้วจะทำไม”
“เสียสติ ความแค้นของครอบครัวพวกคุณ กลับเอาคนอื่นมาเกี่ยวโยงด้วย ยังจะโยนความผิดให้คนอื่น
บอกว่าเซี่ยเวยเหมิงไม่ใช่ลูกสาวของคุณ ฉันยังไม่อยากจะเชื่อ
ตอนนั้นเธออยากจะทำร้ายเสี่ยวถงให้อับอาย แต่ตัวเองตกเป็นเหยื่อแทน วันนี้คุณก็จะโยนเรื่องอื้อฉาวที่ตัวเองฆ่าลูกสาว ให้กับเสี่ยวถง……… ฉันว่าพวกคุณไม่ใช่พ่อลูกกัน แต่ยิ่งกว่าพ่อลูกกันอีก เห็นแต่ตัวและเลือดเย็นเหมือนกัน”
“หุบปาก”
“ทำไมฉันต้องหุบปาก คุณมีสิทธิ์ทำ แต่ฉันไม่มีสิทธิ์พูดเหรอ อนุญาตผู้ว่าฯวางเพลิง แต่ห้ามประชาชนจุดตะเกียง เหอๆ”
คำพูดของซูเมิ่งต่อว่าพ่อบ้านเซี่ยอย่างรุนแรง เจี่ยนถงค่อยๆสงบลง ……..จ้องมองซูเมิ่งที่กำลังต่อว่าพ่อบ้านเซี่ยอย่างต่อเนื่อง——พี่เมิ่งจงใจถ่วงเวลา!
สายตาของเธอมองไปที่ประตูเหล็กบานใหญ่……..
……
ในรถ โทรศัพท์ของเสิ่นซิวจิ่นมีข้อความของซูเมิ่งส่งเข้ามา เปิดอย่างเร่งรีบ ตำแหน่งที่อยู่เด้งขึ้นมาทันที ใจเต้นแรงขึ้นมาทันใด ความรู้สึกแย่ๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ส่งมาคือตำแหน่งที่อยู่ นอกจากนี้ก็ไม่มีตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียว………. ผู้หญิงสองคนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดี
รถแล่นไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบ ขอแค่รีบๆ ไปให้ถึงที่หมาย
ที่นั่นเป็นโกดังเก่า ห่างจากทางแยกเมือง-ชนบท ไม่ใกล้ไม่ไกล
ในโกดัง ซูเมิ่งยั่วโมโหพ่อบ้านเซี่ยจนสำลัก ทั้งสองโต้เถียงกัน สลับไปมา เสียงเบรกรถกะทันหันนอกโกดัง ดังมาก คนที่อยู่ด้านใน ก็ยังได้ยินเสียงยางรถถูกับพื้นอย่างรุนแรง
ฝีปากสีแดงสดของซูเมิ่งริมค่อย ๆ ยกขึ้นเล็กน้อย มองไปที่พ่อบ้านเซี่ย และหันตัวกลับมาพอดี เดินไปที่มุมห้องอย่างช้าๆ ก้มลงอย่างสง่างาม แล้วเก็บอะไรบางอย่างขึ้นมาจากพื้น
พ่อบ้านเซี่ยจ้องมอง “คุณทำอะไรกับโทรศัพท์ของคุณ”
“คุณดูไม่ออกเหรอ ว่าทำอะไร ในใจคุณก็เดาออกแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เมื่อครู่คุณ……..ตั้งใจถ่วงเวลาเหรอ?”
“เหอๆ”
พ่อบ้านเซี่ยมารู้ตัวอีกที สุดท้ายก็เข้าใจ เมื่อครู่ซูเมิ่งตั้งใจถ่วงเวลาไว้
เขาไม่มีเวลาพูดอะไรมากกับซูเมิ่งอีกแล้ว ในมือถือมีด พุ่งไปที่เจี่ยนถงที่ถูกมัดติดกับเก้าอี้ขาเบี้ยวที่อยู่ข้างๆ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยเกลียดชัง ดุว่าอย่างแรง “แม้ฉันตายก็จะไม่ยอมให้คุณมีชีวิตที่ดี นางสารเลว”
ซูเมิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปมาก ไม่คิดว่า เสิ่นซิวจิ่นจะอยู่ด้านนอกแล้ว พ่อบ้านเซี่ยยังไม่ยอมหยุดอีก………เขากำลังจะให้ตายหรือพินาศไปด้วยกัน
ไม่คิดมาก การกระทำนำสมองไปก่อน ขาของเธอ เมื่อเห็นพ่อบ้านเซี่ยพุ่งไปในวินาทีนั้น และรีบขยับเท้าพุ่งไปในทิศทางเดียวกัน “
อย่าแตะต้องเธอ!”
หน้าสวยๆที่ซูเมิ่งแต่งมาเลอะไปหมด แต่ก็ไม่มีเวลาสนใจอะไรอีกแล้ว ในหัวคิดเพียงว่าจะไม่ยอมให้มีดคมเล่มนั้นแทงเข้าไปในร่างของเจี่ยนถงเด็ดขาด
มือของเธอ เร็วราวสายฟ้า คว้าแขนของพ่อบ้านเซี่ยที่ถือมีดจากด้านหลัง “อย่าทำผิดซ้ำๆอีก”
“ไสหัวไป” ซูเมิ่งจับแขนของพ่อบ้านเซี่ยไว้อย่างแน่น ยกเท้าเตะท้องของซูเมิ่งที่อยู่ด้านหลัง “โอ้”
จุกท้อง ซูเมิ่งลืมตาโต ปวดจนมือที่จับแขนของพ่อบ้านเซี่ย มีเส้นเลือดโผล่ออกมาเป็นเส้นๆ
หายใจหอบอย่างหนัก…….โอ้~โอ้~โอ้~ จับแขนของพ่อบ้านเซี่ยอย่างแน่นไม่ยอมปล่อย
พ่อบ้านเซี่ยกังวล อยากจะซ้ำไปที่ท้องของซูเมิ่งอีกสองครั้ง เจี่ยนถงใจเต้นเร็ว ภายใต้ความกังวล เอนตัวไปในข้างที่ขาเก้าอี้เอียงและล้มลง “ปัง” ดังขึ้น ทั้งคนและเก้าอี้ล้มลง ขวางอยู่ตรงหน้าของซูเมิ่ง ขาทั้งสองข้างของพ่อบ้านเซี่ย เตะเข้าที่ไหล่ของเจี่ยนถงอย่างแรง
”เสี่ยวถง คุณ……” ซูเมิ่งตะลึง “โง่ไหมเนี่ย”
“พี่เมิ่ง คนที่โง่ที่สุดคือคุณ” เจี่ยนถงพูด “เดิมทีคุณกับฉันเป็นแค่คนแปลกหน้า ต่อมาฉันก็เป็นลูกจ้างของคุณ คุณเป็นเจ้านายของฉัน มีเจ้านายคนไหนบ้างที่ยอมโดนเตะเพราะลูกจ้าง”
“ดี พวกคุณเป็นพี่น้องที่รักกัน เช่นนั้นฉันจะส่งพวกคุณลงไปพร้อมกัน จะได้เป็นเพื่อนกัน” ตะโกนเสียงดัง ปลายมีดฉายแสงเย็นเฉียบแทงเจี่ยนถงที่คออย่างไร้ความปรานี
ทั้งๆ ที่เตรียมใจไว้แล้ว แต่เจี่ยนถงกับซูเมิ่ง ก็หลับตาด้วยความตกใจ ในวินาทีที่มีดแทงลงมาที่คอ พวกเธอก็หลับตา
ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก………
ของเหลวอุ่นๆ……หยดลงบนหน้าของเจี่ยนถงทีละหยด เธอไม่รู้สึกเจ็บที่คอ ลืมตาขึ้นอย่างไม่เข้าใจ……..
วินาทีถัดไป
เสียง “แตกร้าว” เธออยากกัดฟันให้หักมาก
“กำมีดในมือ……..ไม่เจ็บเหรอ” เจี่ยนถงจ้องเขม็งไปที่ฝ่ามือที่จับใบมีดคมด้วยมือเปล่า เลือดหยดบนใบหน้าของเธอ
เสิ่นซิวจิ่นสีหน้าเย็นชามาก เม้มปากไว้แน่น จ้องมองเจี่ยนถงอยู่สักพัก จนมั่นใจว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเองปลอดภัยแล้วจริงๆ ถึงไว้โล่งอก
หันกลับมา พ่อบ้านเซี่ยที่สายตาเย็นชาสีหน้าซีด พ่อบ้านเซี่ยยังไม่ทันอ้าปากตะโกนด่า หน้าแก่ๆก็ซีดเซียว กล่าวด้วยริมฝีปากที่ซีด
“ฉันจะแก้แค้นให้เวยเหมิง ในเมื่อเวยเหมิงเสียชีวิตเพราะเธอ แล้วทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่ต่อไป” พ่อบ้านเก่าตะโกนอย่างหวาดระแวง จ้องมองเจี่ยนถงอย่างเกลียดชัง
ซูเมิ่งไม่อยากจะเชื่อ จนถึงตอนนี้แล้ว ยังมีคนไร้ยางอายขนาดนี้ด้วยเหรอ
“เห็นได้ชัดๆว่าการตายของเซี่ยเวยเหมิงไม่ได้………”
ซูเมิ่งยังพูดไม่จบ พ่อบ้านเซี่ยตะโกนดังขึ้น “คุณชาย ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต เวยเหมิงตายอย่างน่าสงสาร ฉันคนผมขาวส่งศพคนผมดำ เจ็บปวดในใจ คุณชาย คุณเคยพูดว่า จะทวงความยุติธรรมให้เวยเหมิง สิ่งที่คุณชายเคยพูดไว้ตอนนั้น คุณชายกล้าลืมมันเหรอ พ่อแก่ๆอย่างฉัน ไม่กล้าลืม คุณชายลงมือไม่ได้ เดี๋ยวฉันลงมือเอง”
ซูเมิ่งโกรธมาก ไม่อยากจะเชื่อ ทำไมถึงมีคนที่ไร้เหตุผลเช่นนี้
คนคนชรากลายเป็นคนเลว หรือคนเลวชราลงแล้ว
เธออ้าปากตั้งใจจะพูดในสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านี้ออกมา เจี่ยนถงรีบส่ายหัวให้เธอ เธอไม่เข้าใจ แต่ก็เลือกที่จะปิดปากชั่วคราว
“เสิ่นซิวจิ่น ถ้าฉันบอกกับคุณว่า การที่เซี่ยเวยเหมิงถูกทำร้าย นั่นเป็นเพราะเธอหาเรื่องใส่ตัวเอง และที่เธอเสียชีวิต เป็นเพราะ…….”เจี่ยนถงเงยหน้าขึ้นทันที มองไปที่เสิ่นซิวจิ่น
“หุบปาก” เธอยังพูดไม่จบ พ่อบ้านเซี่ยตะโกนด่า “คุณยังมีหน้าพูดอีก”
“คุณหุบปาก” เสิ่นซิวจิ่นหยุดพ่อบ้านเซี่ยด้วยสีหน้าที่เย็นชา แล้วมองไปที่เจี่ยนถง “คุณพูดต่อ”
“ฉันไม่ได้ส่งคนไปทำร้ายเซี่ยเวยเหมิง ที่เธอเสียชีวิต นั่นเป็นเพราะพ่อบ้านเซี่ยอุดจมูกเธอจนเสียชีวิต” ขณะที่เธอพูด เงยหน้าขึ้นถามเสิ่นซิวจิ่นอย่างจริงจัง “คุณเชื่อที่ฉันพูดไหม คุณเชื่อไหมว่าฉันเป็นผู้บริสุทธิ์”
สายตาของเธอ มองไปที่มือเปื้อนเลือดของเสิ่นซิวจิ่น…….