Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 21 เสิ่นซิวจิ่นนายฟังสิ

บทที่ 21 เสิ่นซิวจิ่นนายฟังสิ

เมื่อคนเราตกต่ำถึงขั้นสุดท้ายที่สุดแล้วก็หลงเหลือเพียงแค่ – ชีวิตที่มีลมหายใจ

หล่อนมองไปที่ฉินมู่มู่ ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ของวัยรุ่น ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน เป็นสิ่งที่หล่อนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตนี้

“เธอ! ทำไมเธอยังยิ้มออกอีก!” ฉินมู่มู่กระทืบเท้า: “เจี่ยนถง ฉันจะบอกเธอให้ เธอหาเงินได้เยอะก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น เพราะทุกคนต่างพากันดูถูกเธอ!” พวกนางแบบในแผนกประชาสัมพันธ์ พวกหล่อนขายตัวได้เงินก้อนใหญ่ ยังดูสูงส่งกว่าเธอ! เรื่องพวกนั้นที่เธอทำ เธอยังไม่รู้จักให้เกียรติตัวเอง ใครจะไปให้เกียรติเธอล่ะ?

หลังจากพูดจาต่อว่าเสร็จ ก็ไม่หันไปมองเจี่ยนถงอีกเลย! เจี่ยนถงยืนอยู่ตรงนั้นสักพักใหญ่ จึงจะกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง หน้าตาเต็มไปด้วยความอ่อนล้า ในหูของหล่อนยังคงกึกก้องไปด้วยคำพูดเหล่านั้นของฉินมู่มู่…ฉันเพียงแค่หาเงินค่าเทอมและค่าใช้จ่ายเลี้ยงตัวเอง ฉันไม่เหมือนเธอสักหน่อย ไม่ทำอะไรสักอย่าง

เจี่ยนถงยิ้ม…หล่อนทำไปเพียงแค่หาเงินเลี้ยงดูตัวเอง มีที่พักกันแดดกันฝน พอประทังชีวิต มีข้าวกิน ไม่ต้องไปเป็นขอทานข้างถนน ใครจะไปสนใจเงินนั่น?

ถ้าหล่อนรู้ว่า หากตอนนั้นที่อยู่ในห้องพิเศษ 606 และไปยุ่งเรื่องพวกนั้นของฉินมู่มู่ แล้วจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายมากมายในวันนี้ ถ้าให้หล่อนเลือกได้อีกครั้ง หล่อนคงจะ…

ครุ่นคิดไปมา นอนหลับไป

หลังจากนอนหลับไป และตื่นขึ้นมาอีกครั้ง กลับกลายเป็นว่าอยู่ที่โรงพยาบาล

“เธอตื่นแล้วเหรอ”

เจี่ยนถงลืมตาขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พี่เมิ่ง ที่นี่ที่ไหน?” เมื่อเปล่งเสียงพูดออกมา เจ็บคออย่างทุกข์ทรมาน

“โรงพยาบาล” ซูเมิ่งหั่นแอปเปิ้ลออกเป็นชิ้นเล็กๆ ใช้ไม้จิ้มฟันเสียบเข้าไปและป้อนเข้าปากของเจี่ยนถง: “กินอะไรสักหน่อยแล้วค่อยว่ากัน”

ความห่วงใยที่มาอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้เจี่ยนถงตั้งตัวรับไม่ทัน แต่ยังคงกินแอปเปิ้ลที่ซูเมิ่งป้อนให้อย่างโดยดี : “พี่เมิ่ง ฉันมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไรกัน?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ซูเมิ่งเริ่มโมโหขึ้นมาทันที

สีหน้านิ่งขรึม “เธอมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ยังไง? ฉันอยากจะถามเธอกลับมากกว่า เธอเป็นไข้มากี่วันแล้ว?” ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเมื่อคืนที่หล่อนเอะใจเห็นว่าเจี่ยนถงไม่มาทำงาน ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง จึงเดินทางมาที่บ้านของเจี่ยนถง เมื่อมาถึงเจี่ยนถงก็นอนไข้ขึ้นสูงอยู่ในห้องพักพนักงานโดยที่ไม่มีใครรู้

“เมื่อคืนฉันไม่เห็นเธออยู่ที่ตงหวง จึงมาหาเธอที่บ้าน ตัวเธอร้อนเหมือนไข่ต้มสุก ฉันรีบโทรหา120 ตอนที่มาถึงโรงพยาบาล เธอไข้สูงถึง42องศา ร่างกายก็ขาดน้ำ ขนาดหมอยังบอกเลยว่า ถ้ามาช้ากว่านี้ ก็คงไม่รอดแล้ว”

เมื่อพูดถึงตอนนี้ ซูเมิ่งยังรู้สึกหวาดผวา : “เธอเป็นไข้สูงแล้วบอกเพื่อนไม่ได้หรือไง? จะฝืนไปทำไม เกือบไม่มีชีวิตรอดแล้วไหมล่ะ!”

เจี่ยนถงฟังซูเมิ่งบ่นพึมพำ แม้ว่าซูเมิ่งจะดุมาก แต่เจี่ยนถงก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใย ที่มีทั้งความรู้สึกอบอุ่นและเจ็บปวด น้ำตาที่ไม่ได้ไหลรินออกมาหลายปี ตอนนี้กลับเอ่อล้นออกมา เพราะความห่วงใยเล็กๆน้อยๆที่ซูเมิ่งมีต่อหล่อน ที่เปรียบเสมือนหน้าต่างหนึ่งบานในชีวิตของหล่อน ส่องสว่างเข้ามา

แต่ทว่า หล่อนกลับรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้น…ถ้าไม่เคยมีมาก่อน ก็คงไม่เจ็บปวดกับสิ่งที่พรากจากไป

แต่เรื่องนี้ เจี่ยนถงเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง

“…ทำไมล่ะ?” ผ่านไปสักพักใหญ่ เจี่ยนถงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน สุดท้ายจึงรวบรวมความกล้าถามขึ้น

ทำไมเธอถึงดีกับฉันขนาดนี้

แอปเปิ้ลชิ้นหนึ่งถูกกลืนเข้าไปในปากของเจี่ยนถงอีกครั้ง ซูเมิ่งเหลือบมองเจี่ยนถงด้วยความรู้สึกสับสน : “บนโลกใบนี้ไม่มีใครดีกับเธอแล้ว ถ้าฉันทำตัวไม่ดีกับเธอด้วย ใครจะเป็นคนห่วงใยเธอล่ะ” เจี่ยนถงเป็นเหมือนที่เธอเคยเป็นมาก บางที สิ่งที่ซูเมิ่งพูดกับเธอเมื่อครู่ ก็คงเหมือนพูดกับตัวเองในอดีต

โลกนี้ช่างโหดร้ายกับเธอ ถ้าฉันไม่ดีกับเธออีก ใครจะคอยห่วงใยเธอ… สาวน้อยซื่อบื้อ

สงสารและห่วงใยเจี่ยนถง ขณะเดียวกันก็สงสารตัวเองในอดีต

พวกหล่อน เป็นคนประเภทเดียวกัน

ซูเมิ่งมองดูหญิงสาวบนเตียงคนไข้ พยายามอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ขนตากะพริบสั่นไปมา เผยให้เห็นถึงความรู้สึกภายในใจ

เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้ง เห้อ..เห้อสาวน้อยซื่อบื้อนี่นะ

“เจี่ยนถง ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม?”

“พี่เมิ่ง ถามมาสิ”

“ระหว่างเธอกับประธานเสิ่นเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” เสิ่นซิวจิ่นผู้ชายคนนั้นเป็นคนเลวทรามมากจริงๆ แต่ก็ไม่ควรทำกับผู้หญิงแบบนี้

“บอกไม่ได้เหรอ?” เมื่อซูเมิ่งเห็นสีหน้าของเจี่ยนถงที่นอนอยู่บนเตียงนิ่งไป “บอกไม่ได้ก็ช่างเถอะ”

“เมื่อสามปีก่อน ฉันฆ่าคนรักของเขา”

มือที่ซูเมิ่งถือไม้จิ้มฟันอยู่ หยุดชะงักไป จากนั้นก็หยิบแอปเปิ้ลที่เสียบไม้จิ้มฟันป้อนใส่ปากเจี่ยนถงอีกครั้ง : “ความเป็นจริงล่ะ? เธอไม่ได้เป็นคนฆ่าเขาจริงๆใช่ไหม?”

“เธอคงไม่ก่อเรื่องฆาตกรรมสยองขวัญอะไรแบบนี้ได้หรอก” ซูเมิ่งพูดด้วยความมั่นใจ: “ความจริงของเรื่องนี้คืออะไร?”

ทันใดนั้น ภายใต้ความรู้สึกตอกย้ำและละอายใจ ลำบากทุกข์ใจมาเนิ่นนาน ไม่เคยบ่น ไม่เคยเสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียว กลับไหลรินเสมือนสายฝน!

เสิ่นซิวจิ่น!เธอดูสิ! กระทั่งพี่เมิ่งที่รู้จักเธอไม่ถึงครึ่งปี ยังเข้าใจเธอขนาดนี้!

เสิ่นซิวจิ่น!พวกเรารู้จักกันมากว่าครึ่งชีวิตแล้วนะ!

เสิ่นซิวจิ่น!เธอฟังสิ! ในที่สุดก็มีคนเชื่อว่าฉันไม่ได้ฆ่าคน ไม่เคยทำเรื่องสกปรกโสมมแบบนี้!

“ฮือๆๆ~”

ซูเมิ่งวางไม้จิ้มฟันในมือลง หล่อนไม่ปลอบให้เจี่ยนถงหยุดร้องไห้ แต่กลับยื่นมือไปลูบผมบนหัวของหล่อนเบาๆ : “เด็กดี ไม่เป็นไรนะ ฉันเข้าใจดี ผู้หญิงซื่อบื้ออย่างเธอจะกล้าฆ่าคนได้ยังไง ไม่สิ ควรพูดว่า หญิงสาวซื่อบื้ออย่างเธอหยิ่งจนไม่มีทางลดตัวไปฆ่าใครได้ต่างหาก ”

พูดขึ้นต่อ : “ให้ฉันเดานะ สาวน้อยอย่างเธอ ตอนแรกคงรักประธานเสิ่นมาก แต่เธอคงไม่มีทางกำจัดคนรักของเขาทิ้งเพื่อครอบครองเขา เจี่ยนถง เธอหยิ่งผยองมาก เธอไม่มีทางลดตัวไปทำเรื่องแบบนี้แน่นอน”

น้ำตาของเจี่ยนถงไหลรินลงมาราวกับสายฝน! ความรู้สึกที่ไม่ได้ปล่อยวางมานานหลายปี มาวันนี้กลับได้ระบายทุกสิ่งทุกอย่างออกมา

บ่ายวันนี้ เจี่ยนถงร้องไห้ไม่หยุด

หล่อนพูดกับซูเมิ่งนับครั้งไม่ถ้วน : “ฉันไม่เคยทำ เขาไม่เชื่อ พวกเขาไม่มีใครเชื่อฉัน”

“เขาเกลียดฉัน ทุกคนบนโลกนี้รู้ดี ฉันคิดว่าหลังจากที่ออกมาจากคุก ฉันจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข”

“พี่เมิ่ง พวกเขาคอยด่าทอฉัน ทุกคนบนโลกด่าว่าฉัน พวกเขาว่าฉันชั่วร้าย ด่าว่าฉันต่ำช้าพี่เมิ่ง ฉันไม่สนใจ…และฉันก็ไม่สนใจเงินพวกนั้นด้วย”

“พวกเขาเหยียดหยามฉัน พวกเขาให้ฉันคลานลงไปบนพื้นและเดินทำท่าทางส่ายก้นเลียนแบบหมา พวกเขาใช้วาจาดูถูกด่าว่าฉัน ฉันไม่เสียใจ เรื่องแค่นี้จะไปถือสาอะไร”

ภายในคุก ฉันถูกจับเปลือยกายและทิ้งอยู่ในกรงขัง ถูกน้ำแรงดังสูงอัดไปทั้งตัว ในวันที่เย็นยะเยือกท่ามกลางฤดูหนาว ทรมานเจ็บปวดไปถึงกระดูก หากกล้าโวยวาย ก็จะถูกส่งกลับเข้าไปในห้องขัง และต้องโดนทรมานอีกครั้ง เรื่องที่ทรมานกว่านี้ ฉันผ่านมาหมดแล้ว นับประสาอะไรกับเรื่องพวกนี้

“พี่เมิ่ง หล่อนตายแล้ว หล่อนต้องตายเพราะช่วยฉัน ฮื่อๆๆ~ ฉันทำให้หล่อนต้องตาย ฉันติดหนี้บุญคุณหล่อนเยอะมาก ฉันตายไม่ได้ ฉันต้องมีชีวิตอยู่ต่อแทนหล่อน เพื่อสานฝันเอ๋อร์ไห่ให้เป็นจริง”

แต่ซูเมิ่ง ที่คอยอยู่ดูแลเจี่ยนถงหล่อนมาตลอด เมื่อได้ฟังเรื่องที่หล่อนเล่า สำหรับเจี่ยนถงแล้ว ความรู้สึกน้อยใจที่ถูกใส่ร้ายมานานหลายปี วันนี้ได้ระบายออกมาทั้งหมด ความลับที่เก็บอยู่ในใจ ก็ได้พูดระบายออกมา

ฝันเอ๋อร์ไห่คืออะไรเหรอ เด็กสาวคนนั้นคือใครอีก ซูเมิ่งไม่รู้ แต่กลับลองเดาขึ้นมา เด็กผู้หญิงคนนี้คงสำคัญกับเจี่ยนถงมากๆ

————

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset