Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 215 เสิ่นซิวจิ่นผู้เลื่องลือพังทลายลงโดยสมบูรณ์

สิ่งที่อยู่ในแฟลชไดรฟ์ ถูกคัดลอกลงแล็ปท็อปในมือ ขณะที่ไป๋ยู่สิงกำลังจะเปิดไฟล์ ก็มีมือข้างหนึ่งวางไว้บนหลังมือของเขา “ฉันขอเตือน นายควรเตรียมใจไว้ก่อน”

ไป๋ยู่สิงตระหนกอยู่พักหนึ่ง สีหน้าของซีเฉิน ดูจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน……มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?

ไป๋ยู่สิงเปิดวิดีโอขึ้นมาดูอย่างไม่เชื่อ

ในตอนแรกยังไม่ค่อยมีอะไร น ทันใดนั้น ไป๋ยู่สิงก็เบิกตากว้าง แล้วอุทานขึ้นเสียงดัง “นี่มันอะไรกัน!” เขาชี้ไปที่วิดีโอที่กำลังเล่นอยู่

“นี่มันแค่เริ่มต้น” ซีเฉินกล่าวอย่างเย็นชา

ตอนเขาเห็นมันครั้งแรก ท่าทีของเขาก็เหมือนกับไป๋ยู่สิง คือรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่สุดท้าย เขาก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เหมือนที่ไป๋ยู่สิงกำลังเป็นอยู่

ไป๋ยู่สิงปิดปากเงียบ ภายในห้องที่เงียบสงบ ชายหนุ่มร่างใหญ่สองคนซึ่งไม่สามารถรู้เลยว่าพวกเขาอยู่ในอารมณ์ใด เมื่อดูจบเห็นได้ชัดว่าภาพถูกตัดออกไปหลายช็อต

ในที่สุด หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็มืดสนิท หัวใจของไป๋ยู่สิงเต้นรัว ข้างๆ มีบุหรี่ถูกยื่นมาให้เขาหนึ่งมวน “ยู่สิง บุหรี่”

ไป๋ยู่สิงเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่ที่ซีเฉินส่งให้ จุดไฟ แล้วดูดเข้าไปแรงๆ จากนั้นก็พ่นควันสีขาวออกมา สักพัก เขาก็เอนตัวลงพิงกับเบาะเก้าอี้ “ทำลายมันซะ”

มือของซีเฉินที่กำลังคีบบุหรี่อยู่สั่นไหว จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วบี้มันลงในที่เขี่ยบุหรี่

“ เกรงว่าจะไม่ได้”

“เขาจะเห็นมันไม่ได้ เข้าต้องเป็นบ้าแน่ๆ ” “เขา” ในที่นี้หมายถึงใคร ก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่าว่าแต่เสิ่นซิวจิ่นเลย ขนาดเขาที่เป็นคนนอก เมื่อเห็นภาพพวกนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจเลย

“นายคิดว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคำไหว้วานจากเขา ฉันจะเสียเวลาและกำลังคนมากมายขนาดนี้เพื่อตามหาภาพเหล่านี้ไหม? เหอะแล้วเจี่ยนถง…..มีความเกี่ยวข้องกับฉันไหมล่ะ?” ซีเฉินกล่าวเบาๆ “เมื่อสามปีก่อนตอนที่ฉันตามหาภาพพวกนี้ มันถูกทำลายทิ้งไปแล้ว นายคงไม่ได้คิดว่าพอของพวกนี้ถูกทำลายทิ้ง อาซิวก็จะไม่ไปตามหาหรอกใช่ไหม?”

“ตอนที่อาซิวมาหาฉัน เขากำชับให้ฉันช่วยเขาให้ได้ เขาบอกว่าเวลาของเขามีจำกัด เขาใช้เวลาอยู่กับการตามหาภรรยาที่มัวแต่เที่ยวเล่นไม่ยอมกลับบ้าน แต่ว่าบางเรื่อง ก็ไม่สามารถปล่อยผ่านได้ เขาต้องทำให้มันชัดเจน ยู่สิง นายเองก็รู้ ในพวกเราสามคน ฉันหวงเล่นที่สุด ถ้าต้องเปรียบเทียบกับพวกนาย อย่างอื่นฉันอาจสู้ไม่ได้ แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันสู้ได้ก็คือเรื่องทำอะไรลับๆ ล่อๆ ฉันคล่องมือที่สุดแล้ว ตอนที่อาซิวมาไหว้วานฉัน ฉันก็คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอก ก็แค่หาข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เรื่องทำนองนี้ ก็คงจะเหมือนกับครั้งก่อนๆ นั่นแหละมั้ง? แต่ฉันคิดไม่ถึงเลยว่า การตามหาในครั้งนี้ จะกินเวลาไปตั้งสามปี ปีแรกๆ ฉันแทบจะตามหาอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้เลย ยู่สิง นายรู้ไหมว่าทำไม?”

ซีเฉินไม่ได้พูดต่อ เขาหยิบบุหรี่อีกมวนจากในซองขึ้นมาสูบ จากนั้นเขาก็ก้มหน้ามองไป๋ยู่สิง “เพราะฉันไม่เคยเห็นอาซิวต้องมาก้มหัวขอร้องใครแบบนี้มาก่อน?”

เขาดีดเขม่าบุหรี่ “ปีแรกหาไม่เจอ อาซิวไม่เคยเร่ง อาซิวเคยพูดกับฉันว่า มันไม่ใช่ว่าจะตามหาเจอง่ายๆ ยู่สิง นายว่า ตอนที่อาซิวพูดประโยคนี้ เป็นเพราะว่าในใจของเขารู้ดีอยู่แล้วว่า คนที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังไม่ใช่คนที่สามารถรับมือได้ง่ายๆ หรือเปล่า ปีที่สอง ฉันก็ยังหาไม่เจอ ยิ่งไปกว่านั้นอาซิวกลับกล่าวคำขอร้องที่ออกมาจากใจจริงให้ฉันตามหาต่อไป ยู่สิง อาซิวไม่เคยยอมแพ้ แล้วฉันจะยอมแพ้ได้ยังไง”

เขาดึงแฟลชไดรฟ์ออกจากแล็ปท็อปของไป๋ยู่สิง “สิ่งนี้ฉันตามหามาตลอดสามปี ในเวลาสามปี มันไม่มีเบาะแสอะไรเลย เหมือนกับผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้ฉันหาเจอแล้ว…..พูดได้ไหม ว่าผู้หญิงคนนั้น ก็กำลังจะปรากฏตัวออกมาเหมือนกัน”

ไป๋ยู่สิงไม่อาจโต้เถียงอะไรกลับไปได้ สิ่งที่อยู่ในแฟลชไดรฟ์ สำหรับซีเฉินและเสิ่นซิวจิ่นแล้ว มันไม่ใช่แค่ภาพธรรมดาทั่วไป

เสิ่นซิวจิ่นตามหาผู้หญิงคนนั้นเป็นเวลาสามปี

ซีเฉินตามหาข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นเป็นเวลาสามปี

กับความทุ่มเทเหล่านี้ ทำไมไป๋ยู่สิงคนนี้ถึงพูดออกมาได้ง่ายๆ ว่า“ทำลายมันซะ”

“นายจะเอา……สิ่งนี้ไปให้อาซิวดูจริงๆ เหรอ?” ไป๋ยู่สิงเงยหน้ามองซีเฉิน เขาไม่อาจรู้ได้ว่าซีเฉินอยู่ในอารมณ์ใด แต่กระนั้นก็ยังเห็นซีเฉินพยักหน้า

เขายืนขึ้นในทันที “ได้ ฉันจะไปกับนาย” ไม่มีใครรู้หรอกว่า หลังจากที่อาซิวได้เห็นภาพพวกนี้ แล้วจะมีความคิดยังไง

ทั้งสองตรงไปที่คฤหาสน์ตระกูลเสิ่น

……

ณ ตระกูลเสิ่น

ในห้องหนังสือ

ภายในห้องมีชายหนุ่มสามคน สองคนเอามือกอดอกพิงโต๊ะหนังสือ อีกคนทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหล้า ดวงตาของเขาแดงเถือก นั่งอยู่หลังโต๊ะด้วยใบหน้าถมึงทึง พร้อมกับจ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะเขม็ง

กรอด……..

เสียงฟันขบกัดกันแน่น

อย่าว่าไป๋ยู่สิงกับซีเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ จะไม่สนใจอะไรเลยสองคนเฝ้ามองทุกการกระทำของคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะอยู่ตลอด แม้กระทั่งสีหน้าท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงออกมา

เสิ่นซิวจิ่นนั่งจ้องวิดีโอนั้นเป็นเวลานาน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเครียดคล้ำ ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นกลับซีดเผือด

นี่มัน…..อะไรกัน!

สิ่งที่เขาคิดคือ“ให้บทเรียนเล็กๆ น้อยๆ กับเธอ” แต่กลับกลายเป็นว่าเขาผลักให้อีกฝ่ายหายไปตลอดกาลเองกับมือ!

ในหูมีแต่เสียงแผ่วเบาของหญิงสาวที่พร่ำร้องว่า”เจ็บ” และ” หนาว”จนแทบจะไม่ได้ยิน ขณะที่คนอื่นๆ กลับก่นด่าเสียงดังพร้อมกับหัวเราะสะใจ

เวลาในวิดีโอมีจำกัด แต่แค่นี้ก็พอจะเห็นแล้วว่า มันน่ากลัวแค่ไหน!

มือของเขาสั่นเทา จนไม่สามารถจับเมาส์นานๆ ได้ เขากรอวิดีโอดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาของเขาแดงก่ำจนดูน่ากลัว

“ไม่ต้องดูแล้ว”ไป๋ยู่สิงทนดูไม่ไหว

แต่ดูเหมือนว่าเสิ่นซิวจิ่นแทบไม่ได้ยินเลย เขาดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำอีก

“ไม่ต้องดูมันแล้ว! เลิกทรมานตัวเองได้แล้ว!” ไป๋ยู่สิงตวาด

แต่อีกฝ่ายกลับยังคงกดปุ่มเล่นซ้ำอีกครั้ง

ใบหน้าของเสิ่นซิวจิ่นซีดเผือด ริมฝีปากปรากฏให้เห็นเป็นสีเทาเหมือนคนตาย สายตาเอาแต่จ้องหน้าจออย่างดื้อรั้น

ไป๋ยู่สิงทนไม่ไหวอีกต่อไป “ปัง”เสียงหมัดของเขากระแทกโต๊ะอย่างแรง แรงหมัดที่กระแทกโต๊ะทำให้ปากกาบนโต๊ะสะเทือน “อาซิว ไม่ต้องดูแล้ว! เธอหายไปตั้งสามปีแล้ว! สามปี นายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธออยู่ที่ไหน ต่อให้นายย้อนดูจนหน้าจอทะลุเป็นโพรง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก!”

ความตั้งใจเดิมของไป๋ยู่สิงคือไม่ต้องการให้เสิ่นซิวจิ่นดูต่อ แต่มันกลับตรงกันข้าม

คำพูดของไป๋ยู่สิง ทิ่มแทงบาดแผลความเจ็บปวดในหัวใจของเสิ่นซิวจิ่น!

สามปี! ผู้หญิงคนนั้นหายไปสามปี หายไปอย่างไม่มีร่องรอย!

เธอไม่ได้คิดถึงเขาแล้วจริงๆ เหรอ…… เสียงร้องที่หดหู่ของหญิงสาวในวิดีโอยังเอาแต่ดังก้องอยู่ในหูของเขา

ในที่สุด ก็พังทลาย! เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ทันใดนั้น เขาก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้า เพื่อกลั้นเสียงคำรามเอาไว้!

สีหน้าของไป๋ยู่สิงเปลี่ยนไป เขารีบหยิบยากล่อมประสาทออกมา เหตุผลที่เขาตามซีเฉินมา ก็เพราะกลัวว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้!

เข็มของไป๋ยู่สิงค้างเติ่งอยู่เหนือศีรษะของชายหนุ่มที่ทิ้งตัวซบบนโต๊ะหนังสือ ทันใดนั้น “ใช่…..ฉันเคยให้อะไรเธอบ้าง?”

อยู่กับฉันมีแต่ความทรงจำที่เจ็บปวด แล้วทำไมเธอต้องมาอยู่เคียงข้างฉันล่ะ? ฮ่าๆ ๆ ๆ ……. ”

“มันเป็นความผิดฉัน เป็นความผิดฉันเอง ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน……..” ชายหนุ่มพึมพำออกมาอย่างสติหลุด “ฉันผิด ฉันผิดทั้งหมด ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน ทั้งหมดเป็น……”

เขาดูเหมือนจะเสียสติไปแล้ว

สีหน้าของไป๋ยู่สิงเคร่งขรึม เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เข็มในมือของเขา พุ่งเข้าไปในผิวหนังของชายหนุ่มที่ซบหน้าอยู่บนโต๊ะทันที

“อื้อ………” ร่างของชายหนุ่มแข็งทื่อ หลังของเขาก็แข็งทื่อ จากนั้นไม่กี่วินาที ตัวของเขาก็อ่อนยวบ

นัยน์ตาของซีเฉินฉายแววสงสาร ดวงตาแดงก่ำ เขาหันหน้าหนีเพราะทนมองไม่ได้

“ฉันบอกแล้วว่า ให้ทำลายสิ่งนี้ไปซะ ตอนนี้นายพอใจหรือยัง?”ไป๋ยู่สิงโกรธแล้วพูดประชดซีเฉินอย่างเต็มที่ “บอกแล้วถ้าไม่ทำลายสิ่งนี้ มันก็จะทำลายอาซิว ตอนนี้นายพอใจหรือยัง?” ไป๋ยู่สิงมองมาด้วยสายตาเย็นชา “เสิ่นซิวจิ่นผู้เลื่องลือพังทลายลงโดยสมบูรณ์แล้วเห็นไหม!”

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset