Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 219 เถ้าแก่เนี้ยครับ ผมชอบคุณ

“คุณสวยมาก”

ทันทีที่พูดคำนั้นพูดออกมาเธอก็หยุดชะงักลง

มือนั้นยังคงกุมมือเขาไว้

ความรู้สึกสบายผ่อนคลายในใจของลู่หมิงชูกำลังจินตนาการไปว่า นวดสิ นวดอีกสักหน่อยสิ มือของเธอเหมือนมีพลังไฟฟ้าที่แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย อย่าให้พูดว่ามันสบายแค่ไหน มันสบายยิ่งกว่านวดแผนไทยอีกด้วยซ้ำ

“ฉันได้ยินไม่ชัด คุณลู่……เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ?”

ลู่หมิงชูหรี่ตาอย่างสบายใจ “คุณสวยมากจริงๆ”

ใบหน้าของหญิงสาวค่อยๆเยือกเย็นลง ดวงตาของเธอแผ่รังสีความเย็นออกมา“ลงจากรถ”

“อะไรนะ?”

หญิงสาวทำเป็นเมินเฉยไม่ได้ยิน เธอเอื้อมมือข้ามร่างกายของเขาไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งคนขับดังแกร๊ก และพูดเบาๆว่า “ลงไปจากรถ”

ลู่หมิงชูไม่เข้าใจจริงๆ ผู้หญิงทุกคนน่าจะมีความสุขเมื่อได้ยินคำชมแบบนี้ไม่ใช่หรือไง?

หรืออย่างน้อยก็น่าจะเขินบ้าง?

นี่มัน……

“จะลงไปไหม?”

ลู่หมิงชูส่ายหัวอย่างแรง……ลงจากรถ? จะบ้าหรือไง?

หญิงสาวไม่ได้โต้เถียงกับเขา “ตกลง ถ้าคุณไม่ลง ฉันจะลงเอง”

ลู่หมิงชูมองดูหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เธอดึงประตูรถลงทำท่าจะลงจากรถ…… “นี่คุณ! จะลงจากรถจริงๆเหรอ?” เขาคว้าข้อมือของหญิงสาวแล้วดึงเธอเข้าไปในรถ

เมื่อสบตากับเจ้าหล่อน……จึงได้รู้ว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น!

“ปล่อยมือค่ะคุณลู่” ดวงตาของหญิงสาวจ้องไปที่ใบหน้าของลู่หมิงชูอย่างไร้อารมณ์

ลู่หมิงชูรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในหัวใจเนื่องจากแววตาอันเฉยเมยของเธอ จู่ๆ เขาก็โมโหขึ้นมาอย่างไม่สนใจความเจ็บปวด แทนที่จะปล่อย เขากลับดึงแรงขึ้น

ยังไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวถูกดึงโดยแรงเข้าไปทางลู่หมิงชู เธอเงยหน้าขึ้นและพบว่าหน้าอกอันแน่นที่กำลังกระเพื่อมนั้นอยู่ตรงหน้าเธอ

“เถ้าแก่เนี้ย คุณโกรธอะไรกัน?

ผมไม่เข้าใจจริงๆ ผมก็แค่คิดว่าคุณดูดีมากเท่านั้น

จู่ๆ ทำไมคุณถึงโมโหขึ้นมาแบบไร้เหตุผลล่ะ?”

“คุณลู่ต่างหากที่ไม่มีเหตุผล” หญิงสาวโต้กลับ “คุณลู่ชอบมีความรู้สึกคลุมเครือและเล่นกับผู้หญิงทุกคนที่พบงั้นเหรอคะ?

เรื่องก่อนหน้านี้ฉันก็อุตส่าห์ลืมมันไปแล้ว แต่พฤติกรรมของคุณตอนนี้มันคืออะไร?”

เขาต่างหากที่แปลก

เธอสวยงั้นเหรอ?

สวยตรงไหนกัน?

รูปร่างหน้าตาของเธอเองเป็นอย่างไร เธอไม่รู้หรือไง?

ในตอนนั้นที่เธอตัดผมหน้าม้าเพื่อนำมาใช้ปกปิดรอยแผลเป็นบนหน้าผาก หลังจากเปิดMemory Houseแล้ว เธอก็ได้รวบผมม้านี้ไปมัดรวมกันด้านหลัง รอยแผลเป็นยาวขนาดนั้น……สวยเหรอ?

ผู้ชายคนนี้ถ้าไม่ใช่เพลย์บอย ก็คงมีนิสัยชอบความสัมพันธ์คลุมเครือกับผู้หญิง

หรือไม่ก็แค่เล่นกับเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนเธอก็ไม่ชอบ เธอไม่ชอบมันมากๆ

“ใครบอกครับ? ใครบอกว่าผมชอบทำตัวคลุมเครือกับผู้หญิง?” ผู้หญิงคนนี้ในใจของเธอมีเพียงไอ้คนชั่วแซ่เฉินนั่นหรือไง? ผู้ชายคนอื่นๆชมเธอ ก็จะกลายเป็นไอ้บ้าโรคจิตอย่างนั้นเหรอ?

เขาเพียงรู้สึกจริงๆว่าตัวเธอในเมื่อสักครู่สวยมากๆ!

เขาคิดไม่ถึงว่าจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้เลย

“ถ้าพฤติกรรมของผมทำให้คุณรู้สึกคลุมเครือ เถ้าแก่เนี้ย คุณฟังผมให้ดี” ลู่หมิงชูดึงตัวหญิงสาวที่พยายามจะผละออกเมื่อครู่เข้ามา

“เถ้าแก่เนี้ย ผมชอบคุณ คุณไม่รู้หรือไง?”

“……” ผ่านไปครู่หนึ่ง หญิงสาวไม่พูดและไม่ขยับเขยื้อนใดๆ

“ผมแค่อยากอยู่ใกล้คนที่ผมชอบ ผมคิดว่าคุณสวย มันผิดหรือไง?” ลู่หมิงชูรู้สึกหึง แต่เขาก็ไม่สามารถพูดชื่อเขาคนนั้นออกมาต่อหน้าผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาได้

เมื่อมองลงไปยังหญิงสาวผู้เฉยเมยตรงหน้าเขา หัวใจของเขาก็เริ่มวิตกกังวล……เขาสารภาพรักออกไปแล้ว เขาลู่หมิงชูผู้เพิ่งเคยสารภาพรักเป็นครั้งแรกในชีวิต เขาโตมาจนป่านนี้เพิ่งจะสารภาพกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก แต่ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนไม่แยแส…… หรือว่า ความรักของเธอนั้นได้หายไปพร้อมกับผู้ชายคนนั้นไปหมดแล้ว?

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าทำไมในใจถึงเจ็บปวดแบบนี้

“คุณลู่ ถึงจะล้อเล่นก็ต้องมีขีดจำกัด” หญิงสาวถอนหายใจแล้วพูดออกมา

“ใครล้อเล่นกับคุณ!” ลู่หมิงชูไม่สนใจ เขากอดผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาด้วยมือทั้งสองและจูบเธอเข้าอย่างแรง หลังจากที่เขาจูบลงไปนั้น สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล ริมฝีปากชาเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต แต่วินาทีถัดมา……

“โอ๊ย!!!”

ลู่หมิงชูผู้น่าสงสารร้องด้วยความเจ็บปวดและปล่อยมือในทันใด จากนั้นเขาก็ถูกใครบางคนผลักเข้าอย่างแรงทั้งๆที่ยังไม่ทันตั้งตัว เขาถูกผลักลงจากที่นั่งคนขับและตกลงไปบนพื้นหินนั้นดัง “ตุ๊บ!”

ตอนที่นั่งอยู่บนพื้น ลู่หมิงชูยังไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่ผู้หญิงในรถด้วยอาการสั่นเทา…… เธอ! เธอ! เธอมันช่างโหดร้าย!

ทั้งกัดเขาและผลักเขาออกจากรถ

หญิงสาวเยาะเย้ยเขาอย่างเย็นชา ถือโอกาสที่เขายังไม่ทันตั้งตัว หญิงสาวก็ปิดประตูและล็อกประตูรถทันที

“เฮ้ๆๆ!”

คนในรถลดกระจกลงเล็กน้อยแล้วเยาะเย้ยว่า “ดูเหมือนคุณลู่จะมีแรงเยอะทีเดียวนะคะ ถ้าอย่างนั้นก็เดินกลับแล้วกัน!”

เธอส่งยิ้มอย่างสะใจแล้วหน้าต่างรถก็ถูกเลื่อนขึ้นอีกครั้งต่อหน้าลู่หมิงชู ดวงตาของเขาเบิกกว้างมองดูเธอขับรถออกไป

เมื่อปฏิกิริยาตอบสนองเขาก็รีบวิ่งไล่ตามรถไป “เฮ้! นี่เถ้าแก่เนี้ย! เถ้าแก่เนี้ย คุณเอาแบบนี้จริงๆเหรอ? รอผมด้วย รอก่อน!”

“เถ้าแก่เนี้ย ขาคุณขับได้เหรอ?”

“เถ้าแก่เนี้ย หยุดก่อน……”

ลู่หมิงชูผู้น่าสงสารก้าวขาของเขาเพื่อไล่ตามรถไป เนื่องจากรถคันข้างหน้าไม่ได้ขับเร็ว แต่มันก็ยากพอที่ลู่หมิงชูจะไล่ตาม

หญิงสาวเหลือบมองที่ขาของเธอแล้วลังเล จู่ๆ เธอก็เหยียบคันเร่งอย่างแรง รถแล่นออกไปไกลทำให้สลัดลู่หมิงชูทิ้งไปได้ รถคันนั้นก็หายวับไปตรงหัวมุมถนน

ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา คลิกแอปสำหรับหาคนช่วยขับรถและเรียกคนขับรถมาคนหนึ่ง

เธอนั่งรออยู่ในรถ ไม่นานนักก็มีคนมาเคาะกระจก “คุณครับ คุณเรียกคนขับมาหรือเปล่า?”

“ใช่ค่ะ ฉันจะไปที่เอ๋อร์ไห่ ขึ้นมาสิคะ” เธอเปิดประตู จากนั้นคนขับรถที่เรียกมาก็กำลังจะก้าวเข้าไปในรถ แต่กลับถูกใครบางคนเบียดตัวเข้ามา

ลู่หมิงชูหอบเหนื่อยอ้าปากค้าง เขาจ้องเขม็งมาทางเธออย่างโกรธเคือง “คุณนี่ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักอันตรายเอาเสียเลย? ขาคนขับแทนเหรอ?

คุณไม่เคยดูข่าวหรือไง ที่มีคนขับรถก่อการร้ายน่ะ?

คุณไม่ขอดูแม้กระทั่งใบขับขี่ก็ให้เขาขึ้นรถมาได้ คุณคิดว่าชีวิตคุณมันถูกและไร้ค่าขนาดไหนกัน?”

แม้คนกล่าวจะไม่ได้ตั้งใจ แต่คนฟังนั้นให้ความใส่ใจ

หญิงสาวมองไปที่ชายตรงหน้าเธอ

ดวงตาของเธอเคลื่อนจากใบหน้าไปที่ผมซึ่งมีเหงื่อหยดลงมา คอของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ…… “คุณ……คุณไม่ได้วิ่งตามมาตลอดทางใช่ไหม?”

ผู้ชายคนนั้นมองเธอ “ไร้สาระ” จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไปหยิบกระเป๋าเงินออกเมื่อก้มลงมองก็พบว่ากระเป๋าเงินว่างเปล่า อืม เงินของเขาถูกใช้ซื้อชุดชงชาไปหมดแล้วนี่

แต่เขาก็ถอดนาฬิกาบนข้อมือออกอย่างเรียบร้อยด้วยท่าทางไม่เสียดาย ก่อนจะโยนไปให้คนขับรถที่เรียกมา “รับไว้เถอะครับ ค่าเสียเวลา คุณไม่จำเป็นต้องขับรถให้เธอหรอก”

เขาขึ้นรถทันทีหลังจากพูดจบ โดยไม่ลืมที่จะปิดประตู

“เถ้าแก่เนี้ยครับ” เขาหันหัวมาอย่างน่าสงสาร “เถ้าแก่เนี้ย ผมผิดไปแล้ว”

หญิงสาวมองมาที่เขา ครุ่นคิดและพยักหน้า “รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้วค่ะ”

“ครับผม”

ใช่แล้ว เขาผิดเอง ผิดที่ใจร้อนจนเกินไป เขาน่าจะค่อยเป็นค่อยไปเสียก่อน

“ปากมีเอาไว้กินข้าว อย่าใช้มันพูดจาไร้สาระให้มากนัก แล้วก็อย่ามาเล่นตลกกับฉันแบบนี้อีก มันไม่ตลกเลย” หญิงสาวพูดย้ำอีกครั้ง

“ครับๆ ไม่ตลก ไม่ตลก” เขาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ทำท่าทางยอมรับความผิดของตน

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องตลก เขาไม่ได้เล่าเรื่องตลกให้เธอฟังสักหน่อย

เมื่อหญิงสาวเห็นเขาสารภาพผิดอย่างจริงใจจากใจจริง……เฮ้อ ลืมมันไปเถอะ ก็แค่แขกที่มาพัก ไม่ต่างกับนักเดินทางที่เคยมาอาศัยอยู่ในMemory Houseพวกเขามาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพียงสั้นๆแล้วท้ายที่สุดก็จากไป

หลังจากออกจากMemory Houseไปแล้ว พวกเขายังจะจำกันได้อีกเหรอ?

ใครจะไปสนใจว่าเคยทำอะไรไว้ เคยพูดอะไรบ้าง แล้วใครจะไปใส่ใจกัน?

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset