“โอเค คุณแจ้งเลย ลองแจ้งตำรวจดูว่า ตำรวจเขาจะสนใจเรื่องระหว่างสามีภรรยาหรือไม่”เขาก็ถูกทำให้หงุดหงิดแล้ว มองดูหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ ในเมื่อระหว่างพวกเขา กลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เขาก็จะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ก็จะเอาเธอมามัดไว้ข้างกาย เขา……ขอเพียงได้เห็นหน้าเธอทุกวันก็พอแล้ว
เสิ่นซิวจิ่นที่ในใจคิดวกไปวนมา ไม่เคยคิดว่า ตอนที่ในใจเขากำลังคิดแบบนี้ เหลือเพียงการร้องขอความรักที่ต่ำต้อยเช่นนั้น
ลู่หมิงชูลุกขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วรีบคว้าฝ่ามือใหญ่ที่รั้งแขนของหญิงสาวไว้แน่นๆ และผลักชายหนุ่มอีกฝ่ายอย่างแรง “ปล่อยเธอ คุณนี่เห็นแก่ตัวสิ้นดีจริงๆ !คุณไม่ได้ยินหรือ! เสี่ยวถงเธอไม่อยากไปกับคุณ ไม่อยากใช้ชีวิตกับคุณ ไม่อยากจะเจอคุณอีก !ตื้อหน้าด้านๆเป็นสไตล์ของท่านประธานเสิ่นหรือ ? หา? ”
เสิ่นซิวจิ่นถูกผลักออกอย่างไม่ทันตั้งตัว ใครก็ไม่เคยคาดคิดว่า ชายหนุ่มที่ดุร้ายราวหมาป่าเมื่อสักครู่นี้ เพียงแค่การผลักนี้ ปรากฏว่า ล้มลงพื้นไปอย่างอ่อนแอ
อย่างไม่คาดคิด!
ซีเฉินสีหน้าคร่ำเครียด ก้าวเท้าพุ่งเข้าไป ประคองเสิ่นซิวจิ่นขึ้นมาจากพื้น “อาซิว แกไม่เป็นไรใช่ไหม ?”เรียกอยู่หลายคำ เห็นว่าไม่ปกติ สีหน้าซีเฉินเปลี่ยนไปทันที“อาซิว ?อาซิว? อาซิว??? ”
เพียงรู้สึกเปียกที่มือ ในใจซีเฉินมีความรู้สึกไม่ค่อยดี ค่อยๆดึงฝ่ามือที่รองท้ายทอยเสิ่นซิวจิ่น ออกมา เลือดสีแดงสดเต็มมือ เลือดเปียกโชกไหลลงมา “นี่……..คืออะไร?”
เขามองดูเลือดสดๆในมืออย่างเฉื่อยชาเล็กน้อย หัวสมอง เบลอไปชั่วขณะ
ลู่หมิงชูก็สังเกตเห็นถึงความไม่ค่อยปกติ กำลังจะเดินเข้าไป ลมพัดผ่านมา เสิ่นเอ้อวิ่งออกมาจากห้องโถง“Boss?Boss?”
และยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ถูกความโกลาหลทั้งหมดนี้ ทำให้หัวสมองเบลอไปหมด วินาทีที่เสิ่นซิวจิ่นล้มลง เธอคิดไม่ถึงจริงๆ และตอนที่เห็นเลือดเต็มมือซีเฉิน ม่านตาเธอมีประกายความไม่เข้าใจ มีประกายความเฉื่อยชา ประกายความไม่เชื่อ…….ผู้ชายคนนี้ จะล้มลงเพราะถูกผลักได้อย่างไร ?
เธอเบิกตากว้าง มองดูความโกลาหลตรงหน้า ในหัวสมองยังคงลังเลไม่ยอมเชื่อเขา“คุณเสิ่น อย่าเสแสร้งเลย ผลักแค่นี้ก็จะล้มลงไปได้หรือ ? อย่าล้อเล่นเลย ” เธอไม่เชื่อเขา คนที่เมื่อกี้ดุร้ายราวหมาป่า แค่แรงผลักหยิบตาจะล้มลงได้อย่างไร ?
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเธอ เธอมองไปที่ชายหนุ่มที่ถูกซีเฉินกับเสิ่นเอ้อล้อมไว้ ในสายตามีความถูกดูและเกลียดชัง
ซีเฉินได้ยินคำพูดของเธอ หันไปมองดูเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ“อาซิวได้รับบาดเจ็บแล้ว คุณยังพูดอย่างสบายใจอยู่ตรงนั้นได้อีก! ”
เขาไม่อยากจะเชื่อว่า คำพูดที่ไร้หัวใจแบบนั้น จะออกมาจากปากของเจี่ยนถง และอีกฝ่าย ยังเป็นอาซิวด้วย!
เมื่อหญิงสาวฟังคำพูดซีเฉินแล้ว ก็ไม่ได้สนใจ เพียงแต่ว่าในสายตาหมดความอดทนมากขึ้น เธอจ้องมองไปที่ชายหนุ่มตรงพี้น แล้วกล่าวเรียบๆว่า “คราวนี้คุณเสิ่นได้เปลี่ยนเล่ห์กลใหม่อีกแล้วหรือ?ฮ่าฮ่า ก็ไม่รู้ว่า คุณเสิ่นเริ่มฝึกนิสัยอันธพาลแบบนี้ตอนไหนกัน แต่ว่า ฉันไม่เชื่ออยู่แล้ว ดังนั้น…….ทำไมจะต้องทำแบบนั้นด้วย? ทำไมจะต้องพยายามแกล้งตายด้วย?”
ซีเฉินหายใจแรงๆ จ้องมองด้วยสายตาขุ่นเคือง“เจี่ยนถง!ที่คุณพูดมานี้เป็นคำที่คนเขาพูดกันหรือ!คุณว่านี่เป็นการเสแสร้งหรือ?”
ความเป็นทาสของเขาดุเดือด ชี้ไปที่เลือดสีแดงสด แล้วกล่าวอย่างขุ่นเคืองกับหญิงสาวตรงหน้า
“ลำบากคุณเสิ่นแล้วที่แสดงได้สมจริงขนาดนี้ ไม่ลังเลที่จะเอาหัวโขกไปที่พื้นซีเมนต์จริงๆ จนเลือดไหลออกมา”คำพูดของเธอยิ่งพูดยิ่งใจดำ จนทำให้คนเกลียด
ซีเฉินกัดฟันแน่น ยกมือขึ้นอย่างแรงๆ แล้วชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า โกรธจนสั่นไปทั้งตัว “คุณตาบอดหรือไง คุณว่าเสแสร้ง คุณลองเสแสร้งให้ผมดู อาซิวหมดสติไปจริงๆ คุณรีบไปเอากล่องปฐมพยาบาลมาเลย ผมจะห้ามเลือดให้เขาด่วนสุด จากนั้นรีบส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล”
แต่เมื่อเห็นคนไม่ขยับ ซีเฉินลุกขึ้นมาทันที ก้าวเท้าใหญ่ไปทางจาวจาว ตะโกนด้วยสีหน้าโกรธเคือง “กล่องปฐมพยาบาล !”
จาวจาวตกใจกับสภาพซีเฉินแบบนี้ หลังจากผ่านไปสามวินาที น้ำตาไหลออกมาจากตาพรากๆ “ฉัน ฉันจะไปเอา”
เจี่ยนถงหน้าบูดบึ้ง ตอนที่ซีเฉินหันหน้ามา ใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มของเธอบึ้งตึง “เดี๋ยวห้ามเลือดแล้ว เชิญคุณซีพาเพื่อนของคุณคนนั้นไปจากMemory House ที่นี่ ไม่ต้อนรับพวกคุณ”
“นี่คุณ!”ซีเฉินมองดูหญิงสาวตรงหน้าเหมือนคนแปลกหน้า“คุณเปลี่ยนไป จนผมไม่รู้จักอีกแล้ว เจี่ยนถง ”
อาจจะเป็นเพราะคำนี้ กระตุ้นหญิงสาวตรงข้าม เดิมทีแม้ใบหน้าบูดบึ้ง แต่ยังคงความสงบนิ่ง จู่ๆม่านตาราวน้ำนิ่งนั้นเป็นประกายแหลมคม
“คุณจะให้ฉันทำอย่างไร?
คุณจะให้ฉันทำอย่างไร!
ฉันยังจะทำอะไรได้?
เล่ห์เหลี่ยมของคุณเสิ่น อย่างแล้วอย่างเล่า ฉันกลัวแล้ว หนีแล้ว หลบแล้ว!
แต่เขา!”
ทันใดนั้นเธอยกมือขึ้น ชี้ไปที่ชายหนุ่มที่เสิ่นเอ้อดูแลอยู่ เมื่อสายตาสัมผัสกับเลือดสดสีแดง ชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกเจ็บที่หัวใจ เจ็บกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บอีก
กัดฟันแน่น…….เจี่ยนถงนะเจี่ยนถง แกยังอยากจะติดกับดักอีกหรือ? เล่ห์เหลี่ยมของเขายังเผชิญไม่พออีกหรือ?
แกยังจะกลับไปซ้ำรอยเดิมอีกหรือ!
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถึงระงับความเจ็บของความเก็บกดในใจลง บอกตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า คนคนนั้น แกไม่รักแล้ว
เมื่อค่อยๆหยุดปลายนิ้วที่สั่นเทาได้แล้ว ก็เอาความโหดร้ายที่สุดในชีวิตออกมา “แต่ว่าเขา! ยังไม่ยอมปล่อยฉันไป!
วิธีการหลายปีก่อนนั้น ใช้กับฉันไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะแสร้งตาย แสร้งอ่อนแอ แสร้งหมดสติ แสร้งบาดเจ็บหรือ?
คุณอย่าบอกฉันนะว่า คุณไม่รู้ความสุดยอดของคุณเสิ่น โตขนาดนี้ ฉันยังไม่เคยเห็นใครสามารถแค่ผลัก จนทำให้คุณเสิ่นล้มลง หัวสมองโขกพื้นได้ ”
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่เชื่อ แล้วเหลือบมองอย่างเรียบๆ
“นี่น่ากลัวว่า จะเป็นเล่ห์เหลี่ยมใหม่ของประธานเสิ่นคนนี้อีกล่ะซิ?
ซีเฉิน คุณเป็นฉัน……คุณจะทำอย่างไร!
ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวที่ไม่สิ้นสุดกับภายใต้ความเกลียดชังของเขาหรือ!
ฉันไม่เอาแล้ว!
ฉันกลัวแล้ว!
ฉันเสียใจไม่ได้หรือ?
ไม่ได้หรือ!
หรือว่าฉันไม่มีสิทธิ์เสียใจแล้วหรือ!”
จาวจาวถือกระเป๋าปฐมพยาบาลวิ่งมาอย่างเร่งรีบ แต่ฝีเท้าหยุดลงตรงบันไดอย่างกะทันหัน
เธอหยุดชะงักไป กะพริบตาปริบๆ ในสายตาคู่โตไร้เดียงสานั้น เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว มองดูเถ้าแก่เนี้ยของเธอ สายตานั้นช่างแปลกมาก
หลังจากนั้น หลายปีต่อมา จาวจาวจึงเข้าใจว่า ที่จริง ในสามปีนั้น เถ้าแก่เนี้ยที่สงบนิ่งแต่ในใจไม่สงบ ทุกวันจะเอาเก้าอี้นอนที่ทำจากต้นไผ่ตัวหนึ่งวางตรงระเบียงใต้ชายคา นอนอาบแดดทั้งวัน เถ้าแก่เนี้ยที่ฟังเสียงลมดูทะเลชมดอกไม้ ในใจเก็บซ่อนสิ่งที่สามารถจะทำให้ทะเลสาบเอ๋อร์ไห่เกิดเป็นพายุ เพียงแต่ คนที่สามารถจุดระเบิดพายุนี้ได้ ปรากฏตัวในวันที่อากาศแจ่มใสสามปีต่อจากนั้น ดังนั้น…….พายุ จึงได้ระเบิดในวันนั้น
เพราะว่าเป็นคนที่เฉพาะเจาะจง ดังนั้น พายุได้ระเบิดแล้ว หน้ากากบนใบหน้าที่สงบของเถ้าแก่เนี้ยที่สงบนิ่งได้แตกหักออกแล้ว
และเวลานี้ จาวจาวมองดูเถ้าแก่เนี้ยที่ดูแปลกไปมาก แล้วกะพริบตาปริบๆ หัวใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ……..“เถ้าแก่เนี้ย กล่อง กล่องปฐมพยาบาล”
ซีเฉินเหลือบมองเจี่ยนถงที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่ง ไม่ได้ตอบเธอก่อน แต่เอื้อมมือหยิบกล่องปฐมพยาบาลจากมือจาวจาวที่อยู่ข้างๆมา
เสิ่นเอ้อถอดเสื้อตัวเองออกมาห้ามเลือด แต่ก็สู้ผ้าก๊อซทางการแพทย์ไม่ได้ ซีเฉินห้ามเลือดให้เสิ่นซิวจิ่นอย่างคล่องมือ เห็นได้ชัดว่า เมื่อก่อนหลังจากได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ เรื่องแบบนี้ตัวเองทำมาไม่น้อย
ฝีมือระดับมืออาชีพและประณีต ห้ามเลือดให้เสิ่นซิวจิ่นชั่วคราวแล้ว“จับมือ ” กระซิบเสียงเบากับเสิ่นเอ้อที่อยู่ข้างๆ
ทั้งสอง คนละข้าง หิ้วแขนของชายหนุ่มที่อยู่ตรงกลางขึ้นมา พิงอยู่บนไหล่ตัวเอง แล้วลุกขึ้นทันที เขากล่าวด้วยสีหน้าไม่แสดงอาการใดๆ“เสิ่นเอ้อ เราไปเถอะ ”
เดินไปสองก้าว จู่ๆก็หยุดลง หันหลังให้หญิงสาวที่อยู่ข้างหลัง แล้วซีเฉินก็กล่าวเสียงเรียบๆว่า
เจี่ยนถง คุณได้ข้อสรุปจากการพิจารณาจากตรงไหนว่า ถูกคนผลักแล้วจะไม่ล้มลง? และยิ่งหัวสมองจะไม่กระแทกกับพื้น ?ดังนั้นเขาแสร้งตาย แสร้งหมดสติ แสร้งบาดเจ็บ? คุณได้ข้อสรุปแบบนี้มาจากไหน ?หรือเพียงเพราะว่า เขาเป็นเสิ่นซิวจิ่น ถูกไหม ?”
เขากับเสิ่นเอ้อยกขาขึ้นก้าวเดินไปทางข้างนอก เดินไปพูดไป “เสิ่นซิวจิ่นก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ได้รับบาดเจ็บ สับสน และสำนึกผิดกับอดีต เสิ่นซิวจิ่นก็ไม่ได้เป็นทุกอย่าง ”
หญิงสาวที่ยืนดูแผ่นข้างหลังโซซัดโซเซของทั้งสาม ใบหน้าขาวผ่อง อ้าปากหลายครั้ง แต่ในที่สุด ก็ไม่มีคำพูดสักคำหลุดจากริมฝีปากซีดเซียว
ลู่หมิงชูกำหมัดแน่น……….เขาไม่อยากยอมรับเรื่องจริงเรื่องหนึ่ง…….เขาแพ้แล้ว
แต่ ทำไม!
เปลวไฟ ได้ปิดบังดวงตาคู่นั้นไว้