“ฉัน…….”เธออยากถามว่า เธอทำอะไรผิดใช่ไหม เข้าใจผิดหรือเปล่า เสียงแหบแห้งพึมพำกับตัวเอง แต่ตกเป็นเป้าสายตาของคนที่มีใจ แล้วก็ได้ข้อสรุปอย่างอื่นเพิ่มอีก
ลู่หมิงชูเดินเข้าไป “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่คิดว่าแค่ผลักไปครั้งเดียวจะทำให้เรื่องร้ายแรงได้ขนาดนี้”มีร่องรอยความรู้สึกผิดบนใบหน้าของเขา ไม่มากไม่น้อย พอดิบพอดี หญิงสาวหันไปมอง อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัว “ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง กำหมัดแล้วก็คลายออก ไม่เกี่ยวกับเขาหรือ ?เกี่ยวกับเขา และจำเป็นต้องเกี่ยวกับเขา
จู่ๆ ปากก็ร้องออกมาตามที่หัวใจคิด “อ้า~”หนึ่งเสียง สีหน้ามีความเจ็บปวดเล็กน้อย
“คุณ……..คุณลู่เป็นอะไรคะ?”
“ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มที่สีหน้าเจ็บปวด เอามือข้างหนึ่งกดตรงเอวไว้อย่างละอายใจ ทนเก็บความเจ็บปวดไว้ แล้วส่ายหัวให้หญิงสาวอย่างละอายใจ“ผมไม่เป็นไร ”
“คุณอย่าขยับ”หญิงสาวหันไปทางข้างหลังของเขา เลิกชายเสื้อขึ้น ม่านตาของเธอหดตัว คิ้วขมวดเข้าหากัน……รอยแดงลึกขนาดนี้ เริ่มจะห้อเลือดแล้ว เผยให้เห็นรอยเขียวช้ำ เธอเม้นริมฝีปาก “เมื่อกี้ถูกเขาชนจนได้รับบาดเจ็บ ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่”
แต่“หลักฐาน”อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าลู่หมิงชูจะปฏิเสธอย่างไร ก็ไม่อาจทำให้หญิงสาวเชื่อ
ยิ่งลู่หมิงชูปฏิเสธ หญิงสาวก็ยิ่งไม่เชื่อคำพูดของเขา
“คุณลู่ คุณไม่ต้องพูดแล้ว”มองดูอาการบาดเจ็บตรงหน้า อย่างไรเธอก็ไม่เชื่อว่า คนที่สามารถทำให้คนบาดเจ็บได้เช่นเสิ่นซิวจิ่น แค่ถูกคนผลัก จากสัตว์ดุร้ายในป่ากลายเป็นกระต่ายที่อ่อนแอได้
เธอนั่งลง หยิบยาหม่องออกจากกล่องปฐมพยาบาลที่อยู่ข้างๆ “อาการบาดเจ็บนี้ยังสามารถนวดคลายออกได้ พรุ่งนี้ก็จะกลายเป็นรอยเขียวช้ำ”
อธิบายไปพร้อมกับได้ลงมือแล้ว วินาทีที่เอายาหม่องทาไปบนหลัง ชายหนุ่มที่หันหลังให้หญิงสาว ค่อยๆกระตุกริมฝีปากขึ้น
“คุณลู่ ขอโทษด้วยนะ”
จู่ๆมีเสียงขอโทษแว่วมาจากหญิงสาวที่อยู่ข้างหลัง ทำให้ชายหนุ่มที่กระตุกยิ้มอยู่มุมปาก เยือกเย็นไปอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง น้ำเสียงกระซิบที่เย็นชาไร้อารมณ์ ส่งออกมาจาหัวสมองส่วนลึกสุด
“ทำไม ต้องขอโทษด้วย?”
น้ำเสียงที่สงบแฝงไปด้วยความเร้นลับก่อนพายุฝนจะมา
หญิงสาวเก็บงานสุดท้ายเสร็จแล้ว วางมือลง แล้วเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอย่างไม่รีบไม่ร้อนใส่ในกล่องปฐมพยาบาล
“ทำไมไม่ตอบ?”ชายหนุ่มที่ก้มหัวอยู่ พยายามเก็บซ่อนอารมณ์อย่างที่สุด แต่ในน้ำเสียงแหบแห้งนั้น แฝงไปด้วยความเร่งร้อน“เข้าใจแล้ว~คุณกำลังขอโทษแทนเขา”
ไม่ได้ยินเสียงของหญิงสาวคนนั้น เขาเกลียดความเงียบของผู้หญิงคนนี้มาก !
ความเงียบของเธอ ทำให้เขาอยากจะฉีกความสงบนิ่งของเธอด้วยมือ ดูว่าข้างในความสงบนิ่งนี้มีอะไร !
“เจี่ยนถง คุณไม่พูดไม่เป็นไร ผมพูดแทนคุณเอง”ชายหนุ่มยังคงก้มหน้า หันหลังให้หญิงสาว“คุณขอโทษผม คุณทำอะไรผิด ถึงต้องขอโทษผม?
คุณกำลังขอโทษแทนเขา ใช่ไหม ?
แต่คุณ ขอโทษแทนเขาในฐานะอะไร !
ภรรยาหรือ?คนรักหรือ?หรือว่าคู่หมั้นคู่หมายหรือ?แต่ว่า……คุณใช่ไหม !”
ความอิจฉาริษยาทำให้คนกลายเป็นคนพูดไม่เลือกใช่ไหม ลู่หมิงชูไม่รู้คำตอบของปัญหานี้ แต่เขารู้ว่า ตอนนี้เขาอิจฉาริษยามากแน่ๆเลย ถึงพูดไร้สาระเช่นนี้
อย่างที่เขารู้ แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับ แต่ในกายของเขายังคงมีเลือดของตระกูลเสิ่นไหลอยู่ เช่นเดียวกับเสิ่นซิวจิ่น ช่างทิ่มแทงใจ
ก็เหมือนรู้ทั้งรู้ว่าประโยคนั้น“ภรรยาหรือ ?คนรักหรือ? หรือว่าคู่หมั้นคู่หมายหรือ ?แต่ว่า…..คุณใช่ไหม!”จะไปทิ่มแทงบาดแผลในวันเก่าๆของเธอ แต่เขา ยังคงควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำอย่างนั้นไปแล้ว !
หญิงสาวหายใจชะงักไป ละเลยความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจ“ฉันไม่ได้ขอโทษแทนเขา คุณได้รับบาดเจ็บในMemory Houseของฉัน ที่จริงเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็ไม่เกี่ยวกับคุณอยู่แล้ว คุณเป็นคนนอก แต่ดึงคุณเข้ามาเกี่ยวข้อง ดึงคนบริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
คนที่ทำร้ายคุณแม้จะไม่ใช่ฉัน แต่ฉันก็มีความรับผิดชอบด้วย
ฉันขอโทษคุณแทนฉันในนามเถ้าแก่ที่ไร้ความสามารถ ไม่ได้ปกป้องดูแลความปลอดภัยของลูกค้าในโฮมสเตย์ ขอโทษค่ะ”
พูดจบก็หันหลัง และเดินอ้อมไปทางจาวจาว “ จาวจาว ความตกใจและอาการบาดเจ็บที่คุณลู่ได้รับในครั้งนี้ อีกสักครู่คุณชดใช้ให้คุณลู่ตามที่คุณลู่เห็นสมควร ควรจะชดใช้เท่าไหร่ก็ชดใช้เท่านั้น ”
แล้วกล่าวอีกว่า“คุณลู่ ฉันขอตัวก่อน”
ลู่หมิงชูเหมือนกับเอาท่อนไม้ตีไปที่สำลีนุ่ม ทำอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
กัดฟันแน่นๆ หันหัวกลับไปอย่างดุเดือด ตะโกนไล่หลังคนในห้องโถง
“คุณรู้ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย คุณเอาชนะเขาไม่ได้ เป็นไง ตอนนี้ไปกับผม ยังทันอยู่นะ!”
เงาหลังนั้นหยุดลง แล้วจู่ๆก็หันหลัง เผยรอยยิ้มที่เจิดจ้า เป็นรอยยิ้มที่บาดตาไร้ที่เปรียบ ไปยังลู่หมิงชูที่ยืนตรงนอกประตู“ไม่ล่ะ นี่เป็นเรื่องของฉันกับเขา”
ชายหนุ่มนอกประตู เบิกตากว้าง รูม่านตาหดลง…….ผู้หญิงคนนั้น เมืองที่ถูกปิดล้อมเข้าไปไม่ได้