คุณหญิงเจี่ยนโบกแท็กซี่ โชเฟอร์ถามเธอว่าจะไปไหน ผู้คนของเมืองนี้ กระตือรือร้นและร่าเริง ฟังสำเนียงภาษาจีนที่ไม่ได้มาตรฐาน คุณหญิงเจี่ยนที่จู้จี้จุกจิกจนเคยตัว แต่เวลานี้ไม่มีอารมณ์จู้จี้จุกจิก
กำลังจะตอบคำถามโชเฟอร์ มือถือก็สั่นขึ้นมา กำมือถือแน่นอย่างประหม่า จ้องมองชื่อของคนโทรมาอยู่ครู่หนึ่ง
คุณหญิงเจี่ยนลังเล ถ้าไม่รับ เธอยังสามารถยืดเวลาออกไปได้บ้าง เมื่อรับโทรศัพท์นี้แล้ว เธอก็จะไม่มีทางปฏิเสธได้อีกแล้ว
เสียงโทรเข้ามือถือดังอยู่เนิ่นนานในที่สุดก็ดับลง ยังไม่ทันที่คุณหญิงเจี่ยนจะได้หายใจ เสียงโทรศัพท์ราวเสียงปีศาจก็ดังขึ้นอีกครั้ง
จนปัญญา จึงกดปุ่มรับสาย “โม่ป๋าย”
“แม่ ท่านลงเครื่องแล้วหรือยัง ?”
เจี่ยนโม่ป๋ายในโทรศัพท์ไล่ถามอย่างกังวล “แม่ ท่านไปหาน้องสาวโดยตรง ที่โฮมสเตย์ที่ชื่อ ‘Memory House’ที่ผมเคยบอกก่อนหน้านั้น ”
ทางโทรศัพท์ปลายสาย เจี่ยนโม่ป๋ายคะยั้นคะยอให้คุณหญิงเจี่ยนไปหาเจี่ยนถง ข้อมูล‘Memory House’นี้ เห็นมาจากในกลุ่มวีแชต มีคนคนหนึ่งที่แต่ก่อนเคยดื่มเหล้าด้วยกัน พูดในกลุ่มว่าเหมือนเคยเห็นผู้หญิงในรูปถ่ายคนนั้นที่บนแพลตฟอร์มหนึ่ง
จึงพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดทีละขั้นตอน แล้วติดตามเบาะแส และเสียแรงไปอย่างมาก จึงได้ข่าวนี้มา
เขาไม่อยากรอตาย……เจี่ยนโม่ป๋ายกำมือถือไว้แน่น คะยั้นคะยอคุณหญิงเจี่ยนไม่หยุด “ แม่ ท่านบอกกับเสี่ยวถง ขอให้เธอช่วยผม ไม่อย่างนั้น พี่ชายของเธอก็จะต้องตาย แม้ว่าเสี่ยวถงดูไปแล้วแข็งแกร่ง ที่จริงเธอเป็นคนใจอ่อนมาก เธอจะไม่ยอมมองดูพี่ชายแท้ๆของเธอตายไปอย่างแน่นอน ”
ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดของคุณหญิงเจี่ยน ยิ่งแดงก่ำขึ้นอีก
รู้สึกเพียงขื่นขมมาก ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยเสียงสะอื้นที่ยากจะอธิบาย
“โม่ป๋าย แม่รู้แล้ว แกจะต้องรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยดีๆ แม่จะพูดกับเสี่ยวถงเอง จะไปขอร้องให้เสี่ยวถงช่วยแก”
เมื่อตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง คุณหญิงเจี่ยนล้มพับลงบนเก้าอี้เบาะหลัง “ Memory House ไปMemory House”
“โฮมสเตย์หรือ?”
“อืม”
เงียบตลอดทาง ถึงแม้ว่าวิวทิวทัศน์ในเมืองนี้จะสวยแค่ไหน ก็ไม่สามารถเข้าไปในใจที่อ่อนล้าวิตกกังวลของคุณหญิงเจี่ยนได้อีกแล้ว
หมัดที่กำแน่น วางอยู่บนหัวเข่า สั่นสะท้านเล็กน้อย !
เหลือบมองหน้าจอมือถือที่ยังสว่างอยู่ เป็นรูปถ่ายที่เธอถ่ายคู่กับเจี่ยนเจิ้นตง สนิทสนมและหวานชื่น
แต่ว่า……เวลานี้ช่างบาดตาไร้ที่เปรียบ!
เมื่อนึกถึงเจี่ยนเจิ้นตง สีหน้าคุณหญิงเจี่ยนซีดเซียวขึ้นมาทันที
หลังจากเดินทางมายาวนาน รถยิ่งไปยิ่งทุรกันดาร “มาผิดทางหรือเปล่า?”
โชเฟอร์หยุดรถลง “ที่นี่ครับ ไม่ผิด”แล้วก็เปิดกระจกรถลง ชี้ไปที่ไม่ไกลออกไป “โน่น Memory House ก็คือร้านนั้นครับ”
เมื่อจ่ายค่ารถแล้ว คุณหญิงเจี่ยนก็เดินไปทางMemory House ยืนอยู่ตรงประตูMemory House ในใจตุ้มๆต่อมๆ อยากจะถอยกลับไปอยู่หลายครั้ง แต่เมื่อนึกถึงเจี่ยนโม่ป๋ายที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย และเจี่ยนเจิ้นตงแบไต๋กับเธอแล้ว ในใจของเธอมีความลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ถูกครอบงำด้วยความเกลียดแล้ว
ผลักประตูเข้าไป
ที่เคาน์เตอร์หน้า มีน้ำเสียงเรียบๆกล่าวขึ้นพร้อมกัน“ยินดีต้อนรับ…….”หญิงสาวเคาน์เตอร์หน้าเงยหน้าขึ้น สีหน้าอ่อนโยนก็หายไป ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น แล้วน้ำเสียงก็หยุดชะงักไป
คุณหญิงเจี่ยนผลักประตูเข้ามา เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็อึ้งไปทันที
“เสี่ยวถง……”
เกือบจะพร้อมกับขณะที่คุณหญิงเจี่ยนเรียกออกมา หญิงสาวที่ทำงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ไม่พูดสักคำ ก็หันหลังเดินจากไป
คุณหญิงเจี่ยนเดินตามขึ้นไป เอื้อมมือไปคว้าแขนของเจี่ยนถงไว้ “เสี่ยวถง !”
“เสี่ยวถง”หนึ่งเสียง ร่างกายเจี่ยนถงแข็งไปครึ่งซีก เธอก้มหน้า……เสี่ยวถง?เสี่ยวถง?
“คุณเรียกใครหรือ?เสี่ยวถงหรือ?เสี่ยวถงตายไปแล้ว?คุณหญิงเจี่ยน คุณกำลังเรียกใครหรือ?”หันหัวกลับมาอย่างกะทันหัน สายตาแดงก่ำ จ้องมองหญิงวัยกลางคน เธอรู้ว่า วันนี้เธอ ใจร้อนมาก
แต่ว่า……ทำไม่ได้!ทนไม่ได้!
“เสี่ยวถง ฉันเป็นแม่ของหนู หนูอย่าเรียกฉันว่าคุณหญิงเจี่ยน”น้ำตาของหญิงสาวไหลลงมาดังสายฝน ความเกลียดชังในตา ไม่สามารถจะเพิ่มพูนได้อีกแล้ว คำพูดสามารถทำร้ายคนได้ เพราะว่ามันโหดร้ายเกินไป
“แม่ของฉันหรือ?”เจี่ยนถงอยากจะหัวเราะ เธออยากจะหัวเราะอย่างอวดดี แต่มีคุณหญิงเจี่ยนร้องไห้ดั่งสายฝนไปแล้วคนหนึ่ง บนโลกใบนี้ ไม่เคยขาดน้ำตาของเจี่ยนถงอยู่แล้ว
ดังนั้น อย่าร้องเลย ไม่มีประโยชน์…….เธอบอกกับตัวเองเช่นนี้
“ปล่อยมือเถอะ คุณหญิงเจี่ยน นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเรียกคุณว่าคุณหญิงเจี่ยน และก็จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอยู่ด้วย”
จ้องมองหญิงสาวตรงหน้า เธอกล่าวอย่างสงบว่า“ฉันไม่มีแม่แล้ว ไม่ได้มีมานานแล้ว”
ความเจ็บปวดของคุณหญิงเจี่ยนในทันใดนั้นไม่อาจจะเพิ่มได้อีกแล้ว วันนี้เธอ ได้รับรู้ถึงความเจ็บเหมือนดาบหมื่นเล่มทิ่มแทงใจแล้ว มือที่คว้าแขนเจี่ยนถงไว้นั้น คลายลงอย่างหมดแรง
ทันทีที่อิสระ เจี่ยนถงก็หันหลังจากไป
จนกระทั่งเจี่ยนถงเดินออกไปไกลเกินสองเมตรแล้ว คุณหญิงเจี่ยนถึงรู้สึกตัว ก้าวเท้าใหญ่ตามขึ้นไป แล้วจับมือเจี่ยนถงไว้แน่นๆอีกครั้ง กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“เสี่ยงถง! โม่ป๋ายเขา พี่ชายหนูเขา เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว!”
แวบหนึ่งนั้น เจี่ยนถงเหมือนตัวเองหูฝาดไป หลังจากได้ยินข่าวร้ายแล้ว หยุดอยู่ตรงนั้นไม่ขยับเลย
“เจี่ยนโม่ป๋าย…..เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือ?”ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอถามขึ้น
คุณหญิงเจี่ยนพยักหน้าสะอื้น
“อืม………” หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง “โรคเม็ดเลือดขาวไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่หาย เงินของตระกูลเจี่ยน พอจะรักษาเขาแล้ว ”
“เสี่ยวถง หนูทำไม ทำไม……..”ทำไมถึงพูดเช่นนี้?โม่ป๋ายเป็นพี่ชายหนูนะ!
คุณหญิงเจี่ยนไม่ร้องไห้แล้ว กะพริบตา มองดูใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้าอย่างแปลกหน้าไม่มีที่เปรียบ
“คุณหญิงเจี่ยน ลูกชายของท่านป่วย ก็ต้องรักษาดีๆ มาจับฉันไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ฉันไม่ใช่หมอ”
“ฉันรู้ แต่ว่า แต่คุณหมอบอกว่า พี่ชายของหนูจะต้องถ่ายเปลี่ยนไขกระดูกสันหลัง ฉันกับพ่อของเขาเข้ากับเขาไม่ได้”ขณะที่พูด คุณหญิงเจี่ยนจ้องมองดูหญิงสาวตรงหน้าอย่างลำบากใจ
มองดูสีหน้าคุณหญิงเจี่ยนแล้ว เจี่ยนถงก็เข้าใจทันที………เธอค่อยๆก้มหน้าลง ผมสยายลงมา ยื่นมือข้างที่ยังว่างอยู่ออกมา ค่อยๆกุมขมับที่ก้มต่ำไว้ คุณหญิงเจี่ยนเห็นสีหน้าไม่ค่อยชัดเจน แต่มองเห็นไหล่ของหญิงสาวตรงหน้าขยับ ยิ่งอยู่ยิ่งรุนแรงขึ้น
“เสี่ยวถง หนูอย่าร้องไห้ หนูช่วยพี่ชายเขาได้ เพียงแต่หนู………”
ร้องไห้หรือ?………ผู้หญิงที่ก้มหน้าเอาผมปิดเกือบครึ่งหน้า ดวงตาใต้ฝ่ามือ เผยให้เห็นการประชดเบาๆ“คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณหญิงเจี่ยน ”เธอเงยหน้าขึ้น ใช้มือหนีบผมไว้ข้างหูแล้ว เผยให้เห็นใบหน้าที่ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว เธอกล่าว ต่อหน้าคุณหญิงเจี่ยนที่อยู่ในอาการตกตะลึง
“ทำไมฉันจะต้องร้องไห้ด้วย?”
ทำไมจะต้องร้อง? เธอไม่ได้ร้องไห้ เธอฉีกยิ้มออกมาเล็กน้อย“ฉันเพียงแต่ หัวเราะตัวเองเท่านั้นเอง”เธอหัวเราะความไร้เดียงสาของตัวเอง ยังคาดหวังอะไรอีก
การมาถึงของหญิงสาวตรงหน้าคนนี้ แม้ว่าเธอจะหน้าตาบึ้งตึง แต่วินาทีที่เห็นเธอ ในใจยังคงมีความอบอุ่นและดีใจ ถึงแม้จะเป็นเพียงวินาทีนั้น……..เธอคิดว่า เธอไม่ได้ถูก“พ่อแม่”ของตัวเองทอดทิ้ง เธอคิดว่า หญิงสาวที่เธอเรียก“แม่”มาครึ่งค่อนชีวิต……คิดถึงเธอแล้ว
“เสี่ยวถง หนูอย่าทำอย่างนี้เลย หนู หนูช่วยพี่ชายหนูด้วย แม่ขอร้องหนูล่ะ!”
จนกระทั่งเมื่อได้ยินคำร้องขอของคุณหญิงเจี่ยน จนกระทั่งหญิงสาวตรงหน้าพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว เจี่ยนถงเธอ ลบความไร้เดียงสาในใจไปอย่างสิ้นเชิง
มองดูคุณหญิงเจี่ยนอย่างเฉยเมย
“อยากจะช่วยแต่ทำไม่ได้”
พูดจบ สะบัดมือของคุณหญิงเจี่ยนออก คนข้างหลังร้องไห้เรียก“เสี่ยวถง !นั่นมันพี่ชายหนู !พี่ชายแท้ๆของหนู หนูไม่ช่วยเขา เขาก็จะต้องตาย!”
“ฉันคิดว่า มีอยู่เรื่องหนึ่ง ฉันควรจะบอกคุณหญิงเจี่ยน ฉัน ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของคุณ”