เจี่ยนถงเตรียมใจเอาไว้แล้ว ว่าติงหน่วนคนนี้อาจจะยื่นข้อเสนอโลภมาก หรือไม่ก็ให้เธอไปบอกคุณหญิงเจี่ยนให้หยุด แต่อย่างเดียวที่เธอคิดไม่ถึง ก็คือการที่ติงหน่วนวางแผนมาอย่างนี้!
เธอไม่พูดอะไร ติงหน่วนกลับร้อนรน เอ่ยย้ำกับเจี่ยนถงอย่างรีบร้อนว่า “ฉันไม่ต้องการอะไร จริงๆนะ ฉันหวังแค่ว่าเสี่ยวโอวจะได้ปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นอย่างถูกทำนองคลองธรรม ฉันไม่ได้ต้องการเงินของตระกูลเจี่ยนสักนิด ขอแค่ เสี่ยวโอวได้เข้าตระกูล มันสำคัญกว่าสิ่งไหนๆแล้ว”
“คุณนายเสิ่น ถือซะว่าโปรดสัตว์คนเป็นแม่ที่เห็นแก่ตัวอย่างฉันเถอะนะ”
เมื่อเจี่ยนถงได้ยินติงหน่วนพูดออกมาอย่างจริงใจ ชั่วขณะนั้น เธอก็หมดคำพูดจะโต้แย้ง
แม้แต่เสิ่นซิวจิ่นเองก็ยังแปลกใจ
หลังจากที่เขาได้ฟังคำขอร้องของติงหน่วน เขาก็จ้องมองอีกฝ่ายอยู่นาน
จากนั้นก็ก้มมองใบหน้าไร้ความรู้สึกของหญิงสาวในอ้อมกอด แค่นี้ เขาก็รู้แล้วว่า เธอเองก็กำลังคิดเหมือนกัน
ตอนนี้เจี่ยนซื่อกรุ๊ปอยู่ในมือของเสี่ยวถง ส่วนเจี่ยนเจิ้นตงก็เกษียณอายุการทำงานแล้ว ถ้าให้ เจี่ยวสือโอวเข้ามาในตระกูล มันจะไม่ได้มีแค่ปัญหาเดียวแน่ ถ้าเกิดตระกูลเจี่ยนยอมรับตัวตนของเจี่ยวสือโอว ขึ้นมา แบบนั้น การเข้ามาบริหารเจี่ยนซื่อกรุ๊ป ก็จะเป็นไปอย่างถูกหลักทำนองคลองธรรม
แล้วยิ่งฐานะอย่างตระกูลเจี่ยน ก็ยิ่งหาคอนเนคชั่นในวงการนี้ได้ง่าย ถึงคนอื่นจะไม่เห็นแก่เจี่ยวสือโอว ก็ต้องเห็นแก่ตระกูลเจี่ยนบ้างล่ะ แล้วเสี่ยวถงก็ยังเป็นถึงภรรยาของเสิ่นซิวจิ่นอีก ในอนาคตเจี่ยวสือโอวคงได้ประโยชน์จากสถานะนี้มากมายแน่ๆ
และแน่นอน ว่าตราบใดที่มีสถานะเป็นลูกหลานของตระกูลเจี่ยนอย่างถูกกฎหมาย ในอนาคตถ้ามีการแบ่งมรดกเจี่ยวสือโอวก็จะได้รับไปไม่ส่วนใดก็ส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน
ถ้าหากเด็กคนนี้มักใหญ่ใฝ่สูง มีความคิดอยากจะครอบครองเจี่ยนซื่อกรุ๊ป ต่อให้เด็กคนนี้จะใช้วิธีตุกติกเพื่อแย่งชิงมา ก็ยังมีคำว่าลูกหลานตระกูลเจี่ยนคุ้มกะลาหัวเอาไว้อยู่ดี
เขาหันไปมองติงหน่วนอย่างพินิจอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้ไร้พิษสงเหมือนรูปลักษณ์ภายนอก แต่ความคิดกลับลุ่มลึกมาก
เมื่อติงหน่วนเห็นสีหน้าไร้ความรู้สึกของเจี่ยนถง ก็เริ่มหวั่นใจ เธอก้มหน้าลงอย่างทำอะไรไม่ถูก เอ่ยพูดติดๆขัดๆว่า “คุณนายเสิ่น เราสองคนแม่ลูกไม่ได้ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเจี่ยน แม้ว่าฉันจะทำผิด แต่ได้โปรดให้อภัยฉันเถอะ ฉันเองก็เป็นแม่คนหนึ่ง ฉันก็แค่อยากให้ลูกได้ยืนต่อหน้าผู้คนด้วยสถานะที่ถูกต้องตามกฎหมาย อยากให้เขาได้ลองใช้ชีวิตที่ไม่ต้องถูกคนอื่นด่าทอว่าเป็นลูกนอกสมรส ได้โปรด…….ตอบรับคำขอร้องของฉันเถอะนะ!”
ขณะที่เจี่ยนถงมองติงหน่วน ความคิดกลับล่องลอยไปไกล
เธอคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่าง
คิดถึงอดีต คิดถึงตอนเด็ก และยังคิดถึงเซี่ยเวยเหมิงที่ไม่ได้คิดถึงนานแล้ว
เธอคิดถึงคำสอนของคุณปู่ในตอนที่เธอยังเด็ก ไม่ว่าคุณปู่จะดีกับเธอแค่ไหน แต่เมื่อเธอเริ่มดีใจจนลืมตัว คุณปู่ก็มักจะกล่าวเตือนเธออย่างจริงจังเหมือนมีน้ำเย็นๆที่สาดเข้าใส่ “แกมีพี่ชาย ตระกูลเจี่ยนมีผู้ชายแค่คนเดียว”
ตอนแรกเธอไม่เข้าใจ ต่อมาเมื่อได้เรียนรู้เยอะ ดูเยอะ ฟังเยอะ เธอก็เข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ไม่กล้าดีใจจนลืมตัวอีก ต่อมา เธอก็แทบจะไม่เอ่ยถึงเจี่ยนซื่อกรุ๊ปอีกเลย
ตอนที่คุณปู่พาเธอไปงานเลี้ยงของราชินีประเทศหนึ่ง เธอก็เข้าใจในทันที ว่าคุณปู่อยากให้เธอโดดเด่นเจิดจรัสทุกที่ทุกเวลา เหมือนราชินีประเทศนั้น แต่ความสง่าและความงดงามของราชินีผู้นั้น ความจริงล้วนแล้วแต่อยู่ใต้เงื่อนไขทางการเมืองที่ไม่อาจแตะต้องได้
คุณปู่มอบกองทุนดวงหัวใจที่แทบจะเป็นสมบัติครึ่งหนึ่งของคุณปู่ให้กับเธอ ตอนนั้น เธอเลยได้รู้ว่า ยังไงเจี่ยนซื่อกรุ๊ปก็ต้องตกเป็นของพี่ชายเธออย่างเจี่ยนโม่ป๋าย
จู่ๆเธอก็อยากร้องไห้ ในใจรู้สึกวูบโหวงจนเจ็บปวด แต่เธอไม่กล้าร้อง เพราะถ้าเมื่อใดร้องออกมา เธอก็จะโกหกตัวเองต่อไปไม่ได้แล้ว
ถ้าเธอร้อง เธอก็ต้องยอมรับ——ว่าหลายสิบปีที่ผ่านมาเจี่ยนถงคนนี้ไม่เคยถูกรักเลย แม้แต่สักคนเดียวก็ไม่มี
ริมฝีปากซีดเซียวของเจี่ยนถง ฉีกยิ้มออกมาช้าๆ——ยังมีคุณปู่ที่รักเธอ ใช่ ใช่แล้ว
“คุณอยากให้ลูกชายของคุณเข้าตระกูล?” เธอหัวเราะเบาๆ สายตาที่มองมายังติงหน่วน ดูแปลกๆอย่างอธิบายไม่ถูก ไม่รู้ทำไมเมื่อได้สบตากับดวงตาคู่นั้น ติงหน่วนถึงได้ตัวสั่นระริก แต่ตอนนี้เธอไม่สนสิ่งใด รีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉัน ฉันหวังว่าเสี่ยวโอวจะได้กลับเข้าตระกูลเจี่ยน มีแค่ทางนี้ เสี่ยวโอวถึงจะสามารถยืนต่อหน้าผู้คนได้อย่างเปิดเผย”
“คุณรู้ไหม………..” นัยน์ตาของเจี่ยนถงเรียบนิ่ง สายตาที่จดจ้องมาที่ติงหน่วนดูแปลกๆชอบกล จากนั้นเธอก็พูดออกมาอย่างช้าๆ “ถ้าหากคุณปู่ยังอยู่ คุณจะมีจุดจบยังไง?”