Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 272 ไม่ควรใจอ่อน

ฝนตกหนัก ลมพัดหนาวมาก คนคนนี้บอกว่า เขาไม่หนาว

“ตามฉันไปขึ้นรถ” เธอไม่พูดอธิบาย ออกมาจากอ้อมแขนของคนคนนั้น

เดินกะเผลกไปหารถที่อยู่ไม่ไกล ตั้งแต่เธอลงจากรถ เดินไปหาเขา ระหว่างทางเท้าหนักเป็นพันกิโลกรัม แต่ระหว่างขากลับ รู้สึกเบาขึ้นมาก

เจี่ยนถงเปิดประตูรถเบาะหลัง

“ไม่”

คนคนนั้นพูด “ฉันไม่” เขาดูดื้อรั้นเหมือนตะปู ยืนอยู่ข้างประตูรถ ปฏิเสธที่จะก้าวขึ้นรถ

“ทำไม ไม่ล่?ะ”

“ฉันไม่อยากนั่งตรงนี้” คนคนนั้นเหมือนเด็ก ยืนยัน “ฉันไม่นั่งตรงนี้ ฉันจะนั่งตรงโน้น” เขาชี้ไป ตรงเบาะนั่งข้างคนขับ

เจี่ยนถงตะลึง มองผู้ชายที่อยู่ข้างๆอย่างมึนงง “เพียงเพื่อสิ่งนี้?” จึงไม่ยอมขึ้นรถ เพื่ออยากนั่งเบาะข้างคนขับ?

คนคนนี้กลายเป็นคนทึ่มไปแล้ว เธอจะไปเปรียบเทียบกับเขาตอนปกติได้อย่างไร แล้วยังจะตามจังหวะเขาไม่ทัน?

“เพื่อจะได้ใกล้ชิดพี่สาวอีกนิด” คนคนนั้นสีหน้าจริงจังมาก เมื่อเขาใช้แววตาแบบเด็กที่ไร้เดียงสา กล่าวอย่างแน่วแน่ ใจของเจี่ยนถง สั่นอย่างควบคุมไม่ได้

ไม่ได้พูดอะไร ท่ามกลางฝนตกหนัก เธออ้อมไปเบาะข้างคนขับ “มาสิ” ปิดประตูรถ เงยหน้าขึ้นอย่างไร้ความรู้สึก กวักมือเรียกผู้ชายที่ยังอยู่อีกฟากหนึ่งของรถ

เวลาต่อมาเปลือกตาของเธอกระตุกอีกครั้งใบหน้าดื้อรั้นของชายคนนั้นที่ไม่ยอมอ่อนลงทันใดนั้นก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นวิ่งไปหาเธออย่างมีความสุขทันใดนั้นก็ยื่นศีรษะไปที่แก้มของเธอหอมแก้มเธอหนึ่งที “พี่สาว ใจดีจังเลย”

เจี่ยนถงเริ่มแยกไม่ออก เกิดอะไรขึ้นกับคนคนนี้กันแน่

ลืมทุกอย่างจริงๆเหรอ แม้แต่นิสัยก็เปลี่ยนไปด้วย?

เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ด็อกเตอร์รุเตรบอกแล้วว่า IQ ของเขา เป็นIQของเด็กอายุแปดขวบ

เอื้อมมือไปลูบหน้า ดูเหมือนว่าจะมีร่องรอยของอุณหภูมิเหลืออยู่เล็กน้อย

เธอเม้มปาก เดินอ้อมไปที่เบาะคนขับอย่างเงียบๆเปิดประตูแล้วก็ปิด

สตาร์ทรถ เหยียบคันเร่ง รถขับออกไปช้าๆ

“รู้จักเบอร์โทรศัพท์ของพี่ยู่สิงไหม?” เธอโยนโทรศัพท์ของเธอไป “ใช้เป็นไหม?ค้นหาเบอร์ของพี่ยู่สิง โทรไปหาเขา รายงานความปลอดภัย”

คนคนนั้นพูดขึ้นทันทีว่า “เป็น” รับโทรศัพท์ที่เจี่ยนถงโยนมาให้ ถือโทรศัพท์ไว้ ผ่านไปไม่นานก็เริ่มลังเล

เจี่ยนถงเหลือบมองอย่างสงสัย

คนคนนั้นถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ถามอย่างระมัดระวัง “ขอรัหส……..”

เจี่ยนถงมือจับพวงมาลัย ตะลึงเล็กน้อย นิ่งไปสักครู่ บอกหมายเลขไปหนึ่งชุดอย่างช้าๆ “0926”

926ชื่อของเธอในสามปีนั้น

ต่อสายของไป๋ยู่สิงติดแล้ว เจี่ยนถงใส่หูฟังบลูทูธในหู

“เจอแล้ว เขาอยู่กับฉัน”

คนในโทรศัพท์ ถามคำถามเป็นชุด

“เขามาหาฉันที่นี่ ฉันเจอเขาที่นอกคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น”

ไป๋ยู่สิงพูดอะไรอีกเล็กน้อย แล้วก็วางสายไป

ขับรถไปที่หมู่บ้านดอกสวนช้างเผือก ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้ว รถขับเข้าไปในโรงรถใต้ดินของหมู่บ้านดอกสวนช้างเผือก เธอพาคนคนนี้มาด้วย ขึ้นลิฟต์ในโรงจอดรถใต้ดินตรงไปยังที่พัก

อสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ เป็นของเสิ่นซิวจิ่นสถานที่ค่อนข้างกว้างขวางแต่การออกแบบของห้องนี้สำหรับคนโสดหรือคู่หนุ่มสาว

หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องรับแขก ครัวเป็นแบบครัวเปิด ห้องน้ำ แม้แต่ห้องหนังสือก็ยังเป็นแบบเปิดอยู่ข้างห้องรับแขก

“ไปอาบน้ำ” เธอเปิดหาในลังและตู้เสื้อ สุดท้ายก็ได้เสื้อตัวใหญ่มาหนึ่งตัว ถ้าเธอสวมใส่ก็จะยาวประมาณเหนือเข่า และไม่รู้ว่าเขาจะสวมใส่สบายหรือไม่ แต่นี่เป็นเพียงตัวเดียวที่เธอสามารถหาได้จากที่นี่ ที่เขาสามารถสวมใส่มันได้

หยิบผ้าขนหนู แล้วให้เขาพร้อมกัน

หลังจากให้อุปกรณ์อาบน้ำกับเขา เจี่ยนถงก็ไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมทำอาหาร

สักพัก เหลือบไปมอง คนคนนั้นยังยืนอยู่กับที่ไม่ขยับตัวเลย “ทำไมยังไม่เข้าไปอาบน้ำ?”

“ฉัน…….” คนคนนั้นมองเธอด้วยสายตาที่น่าสงสาร “พี่สาว พี่ไม่ช่วยอาบน้ำให้อาซิวเหรอ?”

“ทำไมฉันต้องช่วยอาบน้ำให้คุณด้วย?” หลังจากที่เธอได้ยินประโยคนั้นของเขา ก็ถามกลับทันที

“เสิ่นเอ้อช่วยอาซิวอาบน้ำทุกครั้งเลยนะ”

“……….”

เธอมองคนคนนั้นที่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูเธอโดยไม่กะพริบตา……….ก็ต้องเป็นไปตามแช่นนั้นใช่ไหม?

อึ้งไปสักพัก

ด้วยสีหน้าที่เย็นชา “อาบเอง ที่นี่ไม่มีเสิ่นเอ้อ ถ้าอยากจะมีคนอาบน้ำให้ ก็ต้องรีบกลับไปที่บ้านหลังนั้นเร็ว”

ทำไมเธอต้องช่วยเขาอาบน้ำ?

อย่าคิดว่าเขามาตามหาเธอด้วยความลำบาก ก็จะทำให้เธอลืมเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดได้

อย่าคิดว่ารองเท้าของเขาเดินจนพังแล้ว เธอก็จะเปลี่ยนมุมมองใหม่

ไม่มีทาง!

ในดวงตาของคนคนนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง ก้มหน้าลง ผ่านไปสักพัก พูดอย่างน่ารัก “อาซิวอาบเอง”

ในห้องรับแขกเงียบลง เหลือเพียงเจี่ยนถงคนเดียว

พิงอยู่ที่อ่างล้างจานในครัว เธอมองจากประตูห้องน้ำย้อนกลับมาด้วยอารมณ์เสีย…….เธอเป็นอะไรไป!

ท้องไส้ปั่นป่วนมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองหรือเพราะคนคนนั้น

เธอโกรธตัวเองเมื่อครู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเสิ่น เพราะการกระทำของคนคนนั้น ทำให้ใจอ่อน

เจี่ยนถง คุณมันไม่ได้เรื่อง!

อย่าลืมสิ ต้องจำไว้

จำความเจ็บปวดนั้นไว้ ต้องจำไว้ไม่มีวันลืม

อย่าลืมสิ่งที่ผ่านมา ลืมสิ่งที่ผ่าน เท่ากับทรยศตัวเอง

ใช่ ใช่ เธอไม่ได้ใจอ่อน เพียงแค่วันนี้เธอเหนื่อยมาก เพราะความเสียใจที่ได้รับที่โรงพยาบาลในวันนี้

เสียงน้ำร้อนเดือดพล่านบนเตาแก๊สเจี่ยนถงตั้งสติได้ นวดระหว่างคิ้วเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าระหว่างคิ้ว ทำให้ผ่อนคลายไปได้บ้าง

เธอเพิ่งจะเอาหมี่ออกจากหม้อ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก

หันหลังไป ชายคนนั้นถูกห่อด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่อย่างงุ่มง่าม ยืนอยู่ตรงประตู เมื่อเห็นกล้ามเนื้อมัดเล็กบนร่างกายนั้น เธอตะลึงไปสักครู่…….

“ทำไมเร็วขนาดนี้?”

“พี่สาวก็ตากฝนเหมือนกัน อาซิวก็ดูแลแต่ตัวเองอาบอยู่คนเดียว”

แววตาคู่นั้น ละอายใจต่อเธอ

แววตาที่ไร้เดียงสา…….

เธอพยายามทำให้จิตใจมั่นคง จงใจทำสีหน้าเย็นชา “มีแค่หมี่ ถ้าไม่กิน ก็ต้องทนหิว ถ้าจะต้องการให้คนป้อน ก็กลับไปหาเสิ่นเอ้อ”

พูดจบ เดินตรงไปที่ห้องน้ำโดยไม่พูดอะไร “ปัง” เสียงปิดประตู

เธอออกแรงปิดประตูอย่างแรง ราวกับว่าถ้าเสียงประตูยิ่งดัง ใจของเธอก็จะยิ่งแข็ง

พรุ่งนี้มีนัดประชุมกับฝ่าย ข เจี่ยนถงอาบอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้วรีบเช็ดให้แห้ง แล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอน

ตอนออกมา คนคนนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร หมี่หนึ่งถ้วยทานจนเกลี้ยงเลย เห็นเธอออกมา เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขทันที โบกมือให้เธอ

“พี่สาว มากินหมี่เร็ว”

เธอเพียงแค่เหลือบมอง แล้วทำเป็นไม่สนใจเขา เดินเข้าไป ทานแค่ไม่กี่คำ วางตะเกียบลง แล้วก็กลับไปที่ห้องนอน หอบผ้าห่มบางออกมาจากในตู้ โยนผ้าห่มไปที่โซฟา พูดเบาๆ “คืนนี้คุณนอนตรงนี้”

“อาซิวอยากนอนบนเตียง”

“อยากนอนบนเตียง?” เจี่ยนถงที่เดินไปถึงหน้าประตูห้องนอน ทันใดนั้นก็หยุดเดิน หันมามองคนคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา “ได้สิ อยากนอนบนเตียง รอให้คุณกลับไปที่เสิ่นเอ้อก็จะได้ตามนั้น” อย่าว่าแต่นอนบนเตียงเลย นอนบนพีระมิดก็ย่อมได้

คืนนี้ เธอวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก เกลียดความใจอ่อนของตัวเองโดยไม่มีเหตุผล

ก่อนเข้านอน เธอบอกกับตัวเองว่า จะใจอ่อนกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เขา

เมื่อตื่นเช้ามา ไป๋ยู่สิงก็โทรมาแล้ว

“ตอนเช้าไม่ได้ ฉันมีประชุมที่สำคัญ” เธอพูด “แต่สามารถรอตอนเย็นได้ ตอนเย็น ฉันจะรีบกลับไป”

การเจรจาเป็นเรื่องของเสิ่นซิวจิ่น

อีกฝ่ายของโทรศัพท์ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า “มีเรื่องจะปรึกษาคุณ เช่นนั้นก็บ่ายสองโมงเจอกันที่บ้านคุณ?”

เธอวางสาย เท้าคางด้วยมือสองข้าง แล้วจ้องมองมาที่เธอ “ทำไมต้องจ้องฉันแบบนี้?”

“พี่สาว พี่สวยมาก”

เสียงพูดของเด็กที่ไม่อ้อมค้อมถ้าไม่ใช่เพราะเธอได้ยินกับหู เธอไม่เห็นกับตา ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมเชื่อ เสียงใสๆแบบนี้ ออกมาจากปากของผู้ชายคนนั้น

“สวย?” เธอยกมุมปากขึ้นช้าๆ เหน็บแนมไม่ออก “บนหน้าผากมีปาน ก็ยังสวยเหรอ?”

คนคนนั้นนิ่งไปสักครู่ มีความเย้ยหยันในใจเธอ กำลังเตรียมจะลุกขึ้น ก็มีเสียงดังขึ้นอย่างช้าๆที่ด้านข้าง

“พี่สาวสวยทุกมุมเลย ในสายตาของอาซิว พี่สาวเป็นคนที่สวยที่สุดบนโลกนี้”

เจี่ยนถงกำหมัดทันทีหันหลังแล้วรีบจากไป

เสิ่นซิวจิ่นในขณะที่เวลาที่ดีที่สุดของฉันหมดไป คุณบอกกับฉันว่า ในสายตาของคุณ ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดบนโลกนี้

เสิ่นซิวจิ่นถ้าคุณสามารถพูดประโยคนั้นออกมาก่อนที่ใจฉันจะอ่อนล้า แม้จะเป็นเพียงแค่ประโยคเดียว ฉันคิดว่า ก็ยังสามารถเป็นหนึ่งในแสงสว่างไม่กี่ดวงในชีวิตฉันกลายเป็นความสุขที่หายากในชีวิต

เธอก้าวเข้าไปในลิฟต์ออกไปโดยไม่หันกลับมามอง

วิเวียนมารอเธอที่ข้างล่างบ้านแล้ว “ประธานเจี่ยน สีหน้าของคุณไม่ค่อยดีเลย”

นมหนึ่งแก้วบวกกับแซนด์วิชหนึ่งชิ้น ยื่นให้เจี่ยนถงที่กำลังขึ้นรถ

“เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ วิเวียน ขอบคุณมาก”

“พูดอะไรเนี่ย เกรงใจอะไรกัน”

เจี่ยนถงทานอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว ถามวิเวียน “เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

“เตรียมเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดอยู่ในแฟ้มเอกสารในกระเป๋าของฉัน”

เจี่ยนถงหยิบแฟ้มเอกสารออกมา เริ่มเปิดอ่าน

“เสี่ยวถงคุณหลับตาและพักผ่อนสักครู่ดีไหม ข้อมูลพวกนี้ เมื่อคืนฉันตรวจเช็กแล้วสามรอบ ไม่มีปัญหาแน่นอน”

แม้จะเป็นเช่นนี้ เธอก็ยังเป็นกังวล

วิเวียนทำได้แค่ส่ายหัว

เจี่ยนถงทุ่มเทมากจริงๆ ทุ่มเทมากเกินจนผิดปกติ

บางคำพูด เธออยากจะถามมาโดยตลอด แต่ก็เก็บไว้ไม่ได้ถาม

แต่เห็นเจี่ยนถงทุ่มเทและให้ความสำคัญกับการเจรจาในครั้งนี้มาก

“ถ้ามีคำถาม คุณก็ถามมาได้เลย”

เจี่ยนถงไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร แต่เหมือนจะรู้สึกได้ว่าวิเวียนมีอะไรจะพูดแต่ก็หยุดๆไป

วิเวียนคิดแล้วคิดอีก “เสี่ยวถง ตามหลักแล้ว ฉันไม่ควรจะถาม แต่ว่า………”

“มีอะไรก็ถามมาตรงๆ ไม่เป็นไร”

“เช่นนั้น…….ฉันถาม” วิเวียนกล่าว

“เสี่ยวถงเจี่ยนซื่อกรุ๊ป………ใช่หรือไม่………”

“ใช่” เธอยังพูดไม่จบ เจี่ยนถงที่กำลังโฟกัสเอกสารในมือ ก็ตอบอย่างเด็ดขาด

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset