“พวกคุณรู้จักฉันรึ?”
เจี่ยนถงไม่สนใจเสียงหัวเราะเหน็บแนบของอันธพาลเหล่านี้ ใจเย็นเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“คุณหนูของเจี่ยนซื่อกรุ๊ป คนมีเงิน พวกพี่จะไม่รู้จักได้ยังไง?” คนที่เป็นหัวหน้า แกว่งไม้เบสบอลในมือไปมา คิดว่าตนเองเท่
“คนที่เรียกพวกคุณมา ให้พวกคุณเท่าไหร่ ฉันให้เป็นสองเท่า”
“แปลก~”
เจี่ยนถงเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทางจะยอมอ่อนข้อให้แม้แต่นิดเดียว อันธพาลแบบนี้ ออกมาก่อเรื่อง ก็เพื่อเงินเท่านั้น
แต่คนตรงหน้าเหล่านี้……ไม่ใช่เงินแน่ๆ
อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ใช่เพื่อเงินอย่างเดียว
ไม่อย่างนั้น เธอเพิ่งจะยื่นข้อเสนอให้เงินสองเท่า อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะพิจารณา ปฏิเสธทิ้งทันที
แท้จริงแล้ว……ใครกันนะ?
ในฉับพลัน ภาพเป้าหมายจำนวนหนึ่งแวบขึ้นมาในสมองอย่างรวดเร็ว แสงสว่างแวบนั้น เธอหรี่ตาลงฉับพลัน กล่าวอย่างน่าสะพรึง “คนนั้นที่เรียกพวกคุณมา ร่างกายสูงใหญ่ ผิวดำ หลังมือซ้ายมีแผลเป็น ถูกต้องไหม”
ถึงแม้อีกฝ่ายจะปกปิดดีมาก แต่ยังคงแปลกใจไปชั่วขณะ
“พวกเราไม่รู้ว่าเธอพูดถึงใคร
คุณหนูเจี่ยน เธอต้องจำเอาไว้อย่างหนึ่งนะ
เธอมีจุดจบวันนี้ เธอเป็นคนรนหาที่เอง
พวกพี่ทำงานแลกเงิน วันนี้ คุณหนูเจี่ยนต้องทรมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
ในขณะที่พูด คนหัวหน้า ส่งสายตาโหดเหี้ยมให้กับลูกน้องสองคนด้านข้าง “อย่าออมมือ ฟาดให้แรง”
เจี่ยนถงสีหน้าเปลี่ยน คนพวกนี้ ไม่ได้ล้อเล่นหรือแค่ขู่ขวัญเธอแน่นอน
อันธพาลเหล่านั้นยกไม้เบสบอลในมือ ตรงมาหาเธอ
เมื่อช่วงเวลาคับขันมาถึง จิตใต้สำนึกบอกให้เธอรีบก้าวยาวๆ ไปทางแสงสว่าง
กลับลืมว่า ถึงแม้สองขาของเธอจะสมบูรณ์ ก็อาจไม่มีแรงวิ่งหนีผู้ชายเหล่านี้พ้น
ยิ่งไปกว่านั้น……โครม—เสียงดังขึ้น วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ล้มลงบนพื้นเพราะขาที่เป็นภาระนี้ ความเจ็บปวดจู่โจมที่ก้นกบ เจี่ยนถงสูดลมหายใจด้วยความเจ็บปวด
” วิ่ง?วิ่งสิ” ด้านหลัง มีเสียงหัวเราะกำเริบเสิบสาน พูดไม่ไว้หน้า
“คุณหนูเจี่ยน เธอพิการครึ่งหนึ่งแบบนี้ ยังคิดจะวิ่งไปไหนอีก
เป็นเด็กดีหน่อยสิ วันนี้พวกพี่แค่หาเงิน ไม่คิดจะเอาเธอตาย
แค่อยากให้พวกพี่ทำลายมือข้างหนึ่งของเธอ”
ทำลายมือข้างหนึ่งของเธอ!
“กรอด” เจี่ยนถงกัดฟันแน่น ถลึงตาอย่างโกรธแค้นมองอันธพาลที่เดินเข้ามาหาเธอ
“เจตนาทำร้ายคนแบบนี้ พวกแกไม่กลัวติดคุกรึไง?”
“ถุย~ เธอเห็นพวกพี่เป็นอะไร?
คนที่สามารถเสนอราคาให้ทำลายมือของคุณหนูเจี่ยนได้ ก็ต้องจัดการทางหนีทีไล่ให้พวกพี่แล้วสิ” คนนั้นควักมือถือออกมา เหลือบมอง “เร็วเข้า จัดการเสร็จ พวกเรายังต้องรีบหนีอีก”
เจี่ยนถงเข้าใจแล้ว คนพวกนี้คิดจะทำลายมือข้างหนึ่งของเธอจริง และจะออกจากเมือง Sในคืนนี้เลย
เธอเริ่มสงสัยการคาดเดาเมื่อสักครู่ของตนเอง หรือจะไม่ใช่เสิ่นยี?
สามารถจัดการทางหนีที่ไล่ แถมพวกนอกกฎหมายเหล่านี้ยังขายชีวิตให้ คิดดูแล้วไม่ใช่เงินเพียงเล็กน้อยสามารถซื้อตัวได้
ตอนแรกสงสัยว่าเป็นคนที่เสิ่นยีหามา เพราะเวลาบังเอิญเกินไป ถ้าเสิ่นยีไม่ส่งเธอกลับมา เธอนั่งแท๊กซี่มาเองหรือให้คนจากบ้านใหญ่ตระกูลเสิ่นมาส่ง คืนนี้เธอคงไม่ต้องปะทะกับอันธพาลกลุ่มนี้
เสิ่นยีส่งเธอกลับ แต่พาเธอมาปล่อยเอาไว้บนถนนห่างจากที่พัก สถานที่ที่ปล่อยเธอลง ไฟถนนไม่เยอะ ผู้คนเบาบาง
จากนั้น ก็เจอกับอันธพาลกลุ่มนี้
ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เสิ่นเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด
แต่เธอเชื่อว่า การติดสินบนอันธพาล เสิ่นยี่สามารถทำได้
แต่สามารถให้อันธพาลกลุ่มหนึ่งทำลายเธอประธานคณะกรรมการแห่งเจี่ยนซื่อกรุ๊ป แขนข้างหนึ่งของบุคคลสาธารณะ จำเป็นต้องจัดการหาทางหนีทีไล่ให้อันธพาลที่ขายชีวิตให้เหล่านี้ นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าติดสินบนให้ ไม่ว่าจะเรื่องเงินที่ต้องจ่าย หรือความสามารถในการจัดการเรื่องต่อจากนี้ทั้งหมด เสิ่นยีไม่มีมัน
พูดตามตรง เสิ่นยียังไม่มีฝีมือทำเรื่องแบบนี้
ถ้าไม่ใช่เสิ่นยี แท้จริงแล้ว เป็นใคร?
ท่านแก่เสิ่น?
ไม่ ไม่มีทาง
คุณท่านคนนั้นไม่เห็นเธออยู่ในสายตา เย่อหยิ่ง เป็นนิสัยของคนตระกูลเสิ่นทั้งบ้าน
งั้นแท้จริงแล้ว เป็นใคร?
ในชั่วขณะ สมองของเจี่ยนถงเกิดความคิดเต็มไปหมด รู้สึกยุ่งเหยิง
คว้าก้อนหินบนถนนขึ้นมา ทุบไปบนร่างอันธพาลเหล่านั้น เธออดทนกับความเจ็บปวดที่มาจากกระดูกขาและกระดูกสันหลังส่วนเอว หยัดกายขึ้นมาอย่างยากลำบาก ตรงไปที่ปากซอย คลานไปวิ่งไป
“นังนี้ ช่างไม่รู้ดีรู้ร้ายจริงๆ !”
คำด่าไล่ตามติด ในฉับพลันเจี่ยนถงเจ็บหนังศีรษะ “โอ๊ย” เธอถูกคนดึงผมที่ยาวไปถึงเอวจากด้านหลังเอาไว้ ลากกลับไปอย่างโหดเหี้ยม
“พวกพี่อ่อนโยนกับแกมากเกินไป
นังตัวดีแกยังกล้าทำร้ายคนก่อน”
เธอไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกตบหน้าอย่างรุนแรง จนเจ็บแสบ
“ถุย~ผู้ชายประสาอะไร รังแกผู้หญิง” เจี่ยนถงบิดคออย่างรุนแรง ถุยน้ำลายใส่คนที่ดึงผมยาวของเธอด้านหลังอย่างโหดเหี้ยม
“มา!”
เธอเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย เอื้อมมือไปข้างหน้า ลากคอตะโกน
“แกฟาดสิ!
ฟาดให้พิการเลย มาสิ!
ถ้าฉันส่งเสียงสักเอ๊ะ นับว่าฉันแพ้!”
มีสิทธิ์อะไร?
มีสิทธิ์อะไร!
ไม่ว่าใครบอกจะทำร้ายเธอก็ทำร้ายได้เหรอ?
บอกจะเหยียดหยามก็เหยียดหยามได้?
ทำไมเธอต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้?
เพราะเธอเคยติดคุก?
เพราะเธอเคยกล้ำกลืนความอัปยศ?
ถุย!
เธอเหยียบนิ้วเท้าคนด้านหลังเต็มแรง “อ๊าก” ชายคนนั้นตะโกน ท่าทางชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด
“นังตัวดี !บังอาจนัก!”
ชายคนนั้นเหวี่ยงผมยาวของเธอทิ้ง “เพียะ—” ตบหน้าเธออย่างรุนแรง ทันใดนั้นเอง แก้มบวมออกมาครึ่งหนึ่ง โดยไม่ต้องมอง เธอก็รู้ว่า ใบหน้าของเธอ พรุ่งนี้ไม่อาจเจอใครได้
ราวกับชายคนนั้นถูกกระตุ้นนิสัยเลวทรามของมนุษย์ออกมา นัยน์ตาเปล่งแสงชั่วร้าย “แฮกๆ ” หายใจหอบอย่างคึกคัก “อีนังนี้—ทำตัวกวนบาทา”
ด่าไปพร้อมกับตบหน้าเธออีกสองที
คนที่มาด้วยรีบเข้ามาดึงเอาไว้ “พี่ใหญ่ พอเถอะ พวกเราทำตามเจี่ยน……ทำตามตามคำสั่งของนายจ้างดีกว่า กลางดึกยังต้องหนีอีก อย่าเสียเวลาเลย”
เจี่ยนถงถูกตบไม่ยั้ง สมองเลอะเลือน เวียนหัว หูอื้อไปหมด ราวกับพลาดข้อมูลสำคัญอะไรสักอย่างไป
ไม่มีเวลาให้คิดมาก หัวหน้าอันธพาลคนนั้น ยื่นมือเข้ามา ล็อกตัวเจี่ยนถงไว้ “ไอ้อ้วน ข้าจับมันไว้แล้ว ไม่ให้มันขยับตัว เอ็งเอาไม้ทุบลงไปที่มือมันแรงๆ
แต่อย่าทุบพลาดนะ นายจ้างแค่ให้ทำลายมือข้างเดียว ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย”
เจี่ยนถงหน้าซีดเหมือนกระดาษ ถ้าบอกไม่กลัว ก็โกหกแล้ว
ร่างกายถูกคนล็อกเอาไว้ อันธพาลเหล่านั้นล้อมรอบตัวเธอด้วยเจตนาร้าย
ในชั่วพริบตา เหมือนกลับมาในคุก
“ปล่อยฉัน……ปล่อยฉันนะ……” ตัวสั่นอย่างหยุดไม่ได้ ความเงียบสงบในแววตา มลายหายไปทันที หวาดกลัวตัวสั่นอย่างรุนแรง
“ปล่อยฉันนะ พวกแกปล่อยฉันนะ ” มาถึงตอนสุดท้าย เหมือนเธอถูกปีศาจร้ายเข้าสิง กรีดร้องขึ้นมา “ปล่อยฉัน!ปล่อยฉัน!ฉันบอกให้พวกแกปล่อยฉัน! ปล่อยมือออกไป! ปล่อยมือ!” เธอพยายามดิ้นอย่างรุนแรง กรีดร้องเสียงดัง
อันธพาลที่ล็อกตัวเธอ สีหน้าเปลี่ยน ใช้มืออุดปากเธอไว้
“อู้อี้! อู้อี้อู้อี้!”
เธอยังคงพยายามดิ้น
“หุบปาก! ถ้าแกยังตะโกนอีก ฉันจะไม่เกรงใจนะ!”
“อู้อี้!!” แต่ทว่า เจี่ยนถงกลับเหมือนไม่ได้ยินเสียงจากโลกภายนอก
“พี่ใหญ่ นังนี้มันเป็นอะไรไป?” ชายร่างอ้วนถามอย่างไม่เข้าใจ
“มันเป็นบ้า อย่าไปสนใจ เร็วเข้า! จัดการให้เสร็จ พวกเรารีบเผ่น! นังนี้มันบ้า!”