แก้มของเจี่ยนถงเปียก จากเหงื่อบนหน้าผากของคนตรงหน้า
หัวตาร้อนผ่าว ผลักเขาอย่างแรง คนตรงหน้าถูกเธอผลักโซเซไปสองก้าว “ถงถง อย่า……”
“ไม่เป็นไร ” เธอยื่นมือออกไป คว้าแขนคนนี้ที่กำลังจะกอดอีกอย่างมั่นคง ชายร่างใหญ่มองเห็นเธอ หัวเราะอย่างดุร้าย
“ยังกลัวหาตีเจ้าตัวไม่ได้ แกนี่จะรู้จักคิดสักหน่อย ทำตัวเชื่อฟัง……”
หางตาของเธอเหลือบเห็นไม้เบสบอลที่ชายร่างอ้วนทำหล่นบนพื้น จึงย่อตัวลงไปหยิบขึ้นมา ทุบไปที่อีกฝ่ายทั้งตัวสะเปะสะปะ
ฝีมือการทุบไม่ชำนาญมาก และไม่มีลำดับขั้นตอน เธอก็ไม่รู้ว่าตีโดนหรือเปล่า แค่ในตอนนี้ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดเต็มเปี่ยม ความต้องการต่อต้านเต็มเปี่ยม
“หลีกไป!”
“ไสหัวไป!”
“อย่าเข้ามานะ!”
“บอกให้พวกแกไสหัวไป ไม่ได้ยินรึไง!”
ไม้เบสบอลบ้าคลั่ง เหมือนเม็ดฝนรวมตัวโหมกระหน่ำไปรอบทิศทาง
ตะโกน “ไสหัวไป” ไม่หยุด ด้วยความเศร้าสุดขีด
เธอลืมไปแล้ว ลืมว่านานแค่ไหนที่ไม่ได้ต่อต้านอย่างรุนแรงและตรงไปตรงมาแบบนี้
เมื่อปีนั้น ตอนเพิ่งจะติดไปในกับดักที่ไม่คุ้นเคย เผชิญหน้ากับการกดขี่ เธอเคยต่อต้านและต่อสู้อย่างรุนแรง
ลืมเวลาที่แน่นอนไปแล้ว ลืมแล้วว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่วันไหน ที่เธอเริ่มเงียบไม่พูดจา เริ่มไม่ต่อต้านอีก เริ่มอยู่เหมือนศพเดินได้
แต่วันนี้ ราวกับว่า ได้กลับมาเป็นคนเดิมก่อนที่จะเงียบไม่พูดจา
มือไม้สั่น แต่กลับบีบไม้เบสบอลเอาไว้แน่น ตีไปที่เงาสีดำรอบด้านที่พยายามเข้ามารุมล้อมอย่างสะเปะสะปะ ตีโดนบ้าง ตีพลาดบ้าง เธอก็แยกไม่ถูกว่าตีโดนอันธพาลพวกนั้นหรือเปล่า
เพียงแต่ ในขณะนี้เอง ทุกการเหวี่ยงไม้ออกไป ทำให้เธอหายใจหอบอย่างปลอดโปร่ง
เธอรู้สึกชื่นใจ รู้สึกเหมือนฝนตกเป็นไม้เบสบอล สามารถทำร้ายอันธพาลเหล่านั้นได้
หัวหน้าอันธพาลมีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาถูกไม้ทุบตี ความโกรธอุดตันในหัวใจ เมื่อได้สติคืนกลับมา “อะไรวะเนี่ย” ถลกแขนเสื้อ เตรียมก้าวขึ้นไป เมื่อเงยหน้าขึ้น กลับเห็นฉากปีศาจร่ายรำสะเปะสะปะ
ผู้หญิงคนนั้น เหมือนเป็นคนบ้า ทุบตีสะเปะสะปะตามอำเภอใจ การทำร้ายแบบนี้ แน่นอนไม่สามารถทำอะไรผู้ชายตัวใหญ่อย่างพวกเขาได้ แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่มองอะไรเลย ไม่มองทิศทาง ไม่มองผู้คน สนใจทุบแค่ผู้ชายที่อยู่รอบตัวเธอ
การตีสะเปะสะปะแบบที่ไม่ออกอะไรแบบนี้ ถึงแม้ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ แต่เพราะไม้เบสบอลไม่มีลูกตา พวกเขาจึงไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้
“ถุย!” หัวหน้าอันธพาล ถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างรุนแรง นัยน์ตาโหดเหี้ยม โบกไม้เบสบอลในมืออย่างดุร้าย
“คิดจะขู่ใครวะ
ไอ้ตัวใหญ่ พวกเราสองคนแบ่งกันจัดการ”
ในที่สุดชายร่างอ้วนก็ได้สติกลับมา รีบพุ่งไปแย่งไม้เบสบอลในมือของเจี่ยนถง แน่นอน เขาก็ถูกตีหลายครั้ง
เพิ่งจะแย่งไม้เบสบอลมาไว้ในมือ หัวหน้าอันธพาลใช้ไม้ทุบอย่างรุนแรงทันที ตั้งใจทุบลงบนไหล่ของเจี่ยนถง
เห็นว่าใกล้จะสำเร็จแล้ว ดันมีคนพุ่งตัวเข้ามาจากด้านข้าง งุ่มง่ามเหมือนวัวตัวใหญ่ กอดเอวเขาไว้แน่น “ถงถง รีบหนีไป”
เจี่ยนถงอึ้ง ยืนอยู่กับที่ นิ่งงันเป็นไก่ไม้ไปชั่วขณะ
เขาคนนั้นตรงหน้ากอดอันธพาลไว้แน่น ตะโกนให้เธอวิ่ง
ใต้ฝ่าเท้า เหมือนถูกตะปูตอกเอาไว้ ขยับเขยื้อนไม่ได้
ชายร่างอ้วนถือไม้เบสบอลเอาไว้ คิดไม่ถึงว่าจะทำไม่ลง
ไม่รู้ว่าเจตนาหรือเปล่า ไม่ทันระวังขว้างทางของชายร่างใหญ่
ในเมืองSรถสายตรวจยามค่ำคืนของเมือง แทบจะทุกคืน มักจะลาดตระเวนถนนบางสายอย่างแน่นอนตามเวลาที่กำหนดไว้ ทุกเขตปกครองมีเวลาที่ตายตัว
เสียงรถสายตรวจดังมาแต่ไกล อันธพาลเหล่านั้นสีหน้าเปลี่ยนพร้อมกัน
หัวหน้าอันธพาลมองผู้ชายที่ยังคงกอดเอวของเขาไว้แน่นอย่างลนลาน ใบหน้าร้อนรน “ปล่อยมือ!” เขาไม่มีเวลาชักช้า ยกไม้เบสบอลขึ้น ตุบ—
“จะปล่อยไม่ปล่อย!”
ตุบ—
“บอกให้ปล่อยไม่ปล่อย แกอยากตายใช่ไหม!”
ตุบๆๆ —
เหมือนกับเจี่ยนถงจะได้สติกลับมา ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน โกยแนบไปที่ปากซอย
“ช่วย—”
ชายร่างใหญ่ร้องลนลาน
“ไอ้อ้วน!รีบขวางมันเอาไว้!ระวังมันจะดึงดูดความสนใจจากรถสายตรวจ—”
ชายร่างอ้วนกลับสะดุ้งโหยงทันที โกยแนบออกไป ปิดปากเจี่ยนถงไว้อย่างว่องไว
“อู้—”
ชายร่างใหญ่วิ่งมาทันที “อะไรเนี่ย!ไหนบอกว่ามันขาหัก?วิ่งเร็วมาก!
ถ้าเร็วกว่านี้ มันคงจะวิ่งออกไปแล้ว!”
พูดไปพลาง พร้อมกับตบหน้าของเจี่ยนถง “ใครบอกให้แกวิ่ง!คิดจะหาเรื่องให้พวกฉัน!ไม่แปลกใจที่คนอื่นไม่ชอบขี้หน้าแก!”
เหลือบมองชายร่างอ้วนอีกครั้ง “พี่อ้วน แกเป็นคนอ้วนที่ปราดเปรียว ทำได้ไม่เลว โชคดีที่แกมือเท้าว่องไว ไม่อย่างนั้น—”
แสงไฟของรถสายตรวจ ผ่านปากซอยไป
คนเหล่านั้นหวาดผวา
เจี่ยนถงหมดหวัง
“ใครทำอะไร สวรรค์มีตา” เธอสาปแช่งอย่างเปล่าประโยชน์
ชายร่างใหญ่เหมือนถูกประโยคนี้ของเธอกระตุ้นความโกรธ ยกไม้เบสบอลในมือขึ้น “ปากดีนักนะ!รอก่อนเถอะ!จะทำให้แกเสียแขนข้างหนึ่ง”
เสียงรถสายตรวจห่างออกไป ชายร่างใหญ่ไม่กังวลอย่างเมื่อสักครู่ ยังคงคิดเยาะเย้ย
“ในไม่ช้าแขนข้างหนึ่งของแกจะต้องบอกลาแกแล้วล่ะ
ทำไม มีอะไรอยากจะพูดรึเปล่า?”
เจี่ยนถงพูดไม่ออก ตาแดงก่ำ
“ห้ามตีถงถง!”
เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติขึ้นทันที
ในสายตาของอันธพาลเหล่านี้ ผู้ชายงุ่มง่าม ราวกับมีการช่วยเหลือจากพระเจ้า กอดเอวพี่ใหญ่ของพวกเขาไว้ จนช่วงเอวพลิกคว่ำ
แรงเยอะเหมือนวัว ไม่มากไปกว่านี้
ยังคงงุ่มง่าม กลับโยนคนที่ก่ออาชญากรรมลงพื้นอย่างรุนแรง
ลมจากด้านหลังศีรษะ ชายร่างใหญ่กวัดแกว่งไม้เบสบอลขึ้นสูง ถูกคนดึงเอาไว้จากด้านหลัง เขาคนนั้นพุ่งตรงมาทางนี้อย่างงุ่มง่าม
โดยแท้จริง การต่อสู้ไม่มีกฎเกณฑ์
แต่ทว่า พุ่งเข้าใส่อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ
ชายร่างใหญ่ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกชนล้มไปบนพื้น ในขณะนั้นเอง ยังคงงงๆ อยู่บ้าง ทำไมเขาจึงถูกไอ้ทึ่มนี้เอาชนะได้?
ชายร่างอ้วนวิ่งเข้าไป เงยหน้าขึ้น กลับเห็นท่าจะไม่ดี
แสงในยามราตรี เขาเงยหน้าขึ้น ปะทะกับดวงตาอันน่าสะพรึงกลัว เลือดสีแดงฉานเต็มไปหมด สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ ในดวงตาคู่นั้น ลูกตาดำสนิท เยือกเย็นหาที่เปรียบไม่ได้ เปล่งประกายแสงไอสังหาร
ในชั่วพริบตา สมองของชายร่างอ้วนเกิดความรู้สึกที่ชัดเจนขึ้นมาทันที—เขาคนนี้ฆ่าคนได้จริง!
คนที่น่ากลัวคนนั้น กลับทำหน้าถือทิฐิ พูดกับเขาอย่างโง่เขลา “ฉันจะไม่ทำร้ายแก!แกไม่ได้ทำร้ายถงถง”
ชายร่างอ้วนหวาดกลัวแววตาคู่นั้นจนเสียวสันหลังวาบ
เขากัดฟันพูด “ขอบคุณ” หลังจากพูดจบ จึงพบว่า ตนเองพูดอะไรโง่ๆ ออกไป สีหน้าหงุดหงิด
“ไอ้อ้วน!อย่าปล่อยพวกมันไป! ไม่อย่างนั้นพวกเราจบเห่แน่!” หัวหน้าอันธพาลยังไม่หมดสติไป เงยคอสั่งชายร่างอ้วน
ในใจของเขาสั่นสะท้านทันที……ใช่ ปล่อยไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราทุกคนจบเห่แน่นอน!