ลู่หมิงชูรีบไปที่บ้านใหญ่ตระกูลเสิ่น
“คุณเป็นคนสั่งใช่ไหม?”
ตะโกนถามท่านแก่เสิ่นที่กำลังดื่มชาอย่างสบายๆ อย่างไม่เข้าใจ
“นายวิ่งมาที่นี่อย่างไร้เหตุผล……แล้วมีท่าทีแบบนี้กับปู่เหรอ?” ท่านแก่เสิ่นวางถ้วยชาเล็กในมือลง ใบหน้าแก่หนักอึ้ง
“คุณสั่งให้พ่อบ้านเซี่ยทำแบบนั้นใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพ่อบ้านเซี่ยยังไงก็คงไม่กล้าหรอก?”
“พ่อบ้านเซี่ยอะไร คำสั่งอะไร?”
“เจี่ยนถงเกิดอุบัติเหตุรถชน คุณเป็นคนสั่งอยู่เบื้องหลัง ฉันกำลังถามคุณว่าใช่ไม่ใช่!” ลู่หมิงชูตื่นตระหนกด้วยความโกรธ
ท่านแก่เสิ่นได้ยินชื่อเจี่ยนถง สีหน้าอึมครึมทันที “ทำไม? นายอยากจะคัดค้านกับปู่ตัวเองเพื่อเธอเหรอ?”
“นั่นแสดงว่า……คุณยอมรับโดยปริยายแล้ว”
ลู่หมิงชูบีบกำปั้น โกรธจนทั้งร่างสั่นเทิ้ม “เธอไปทำอะไรให้คุณโกรธ?”
“เธอทำให้ฉันโกรธทุกอย่างนั่นแหละ”
“เธอก็แค่ผู้หญิง เธอทำให้คุณไม่พอใจตรงไหน นับๆ แล้ว เธอก็ต้องเรียกคุณว่าปู่ คูณก็ถือว่าเห็นเธอเติบโต แค้นอะไรขนาดนั้น คุณถึงได้ทำร้ายเธอไปเสียทุกที่?”
“ฉันทำร้ายเธอทุกที่เหรอ?”
“ตอนแรกเรื่องนั้นของเซี่ยเวยเหมิง คุณอย่าบอกว่าไม่ใช่แผนที่คุณตั้งใจทำ คุณอย่าบอกว่าไม่ใช่ฝีมือคุณ ตอนแรกเล่นงานเธอ ตอนนี้ไม่คิดว่าจะสั่งพ่อบ้านเซี่ย คุณจะไม่เลิกรากับเธอเหรอ? ฉันไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้คุณโกรธ! คุณถึงยุ่งไม่เลิกราแบบนี้!”
ท่านแก่เสิ่นก็ถูกกระตุ้นจนโกรธแล้ว ทุบถ้วยชาเล็กในมือดังปัง “เธอทำอะไรให้ฉันโกรธเหรอ? เธอทำให้ฉันโกรธทุกอย่าง! พวกนายแต่ละคน หลงเธอจนตามัวไปหมด? ตอนแรกควรทำลายใบหน้าเธอ ดูสิว่าเธอจะยั่วยวนผู้ชายด้วยความน่าสงสารยังไง!”
ลู่หมิงชูไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หูตนได้ยิน “คุณแก่อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังพูดจาแบบนี้ออกมาได้อีกเหรอ? ยั่วยวนอะไร? ถึงขั้นพูดจาแย่แบบนี้เลยเหรอครับ?”
“หรือว่าฉันพูดผิด? หลานชายสองคนของฉัน แต่ละคนทำเพื่อเธอ เป็นศัตรูกับฉัน แต่ละคนทำเพื่อเธอ ไม่เอาครอบครัวแล้ว เธอเป็นภัยพิบัติอันตราย ตอนแรกควรฉวยโอกาสตอนที่เธอยังอยู่ในผ้าอ้อม ส่งเธอไปไว้ในหุบเขาซะ หลายสิบปีต่อมาหลานชายสองคนของฉัน จะได้ไม่ทำเพื่อเธอจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร!”
“ผ้าอ้อม?” ลู่หมิงชูจับประเด็นได้ทันที “นี่คุณกำลังพูดอะไร?”
ท่านแก่เสิ่นยิ้มเยาะ
“ฉันพูดอะไรไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ หลานชายสองคนของฉันหลงเธอจนตามัวไปหมด! ลูกหลานตระกูลเสิ่น จะตกอยู่ใต้ชายกระโปรงผู้หญิงได้ยังไง? ลูกหลานตระกูลเสิ่น ควรใช้กลยุทธ์ที่โดดเด่น โหดอย่างที่ควรโหด แน่วแน่อย่างที่ควรแน่วแน่ ห้ามถูกผู้หญิงมาขัดขวางมือขวางเท้า!”
“นี่คุณเพราะเรื่องนี้เหรอ? เพราะเรื่องนี้คุณถึงหาเรื่องเธอครั้งแล้วครั้งเล่า?”
“ใช่ ฉันทำเพราะสิ่งนี้ พวกนายแต่ละคน ทิ้งอาชีพการงานไม่สนใจ เอาแต่อยู่ล้อมรอบเธอ ลูกหลานตระกูลเสิ่นของฉันจะเป็นแบบนี้ได้ยังไง!”
ท่านแก่เสิ่นทำหน้ามืดมน “ฉันจะบอกนายให้ เธอหนีไปได้ช่วงหนึ่งเท่านั้นแหละ!”
ความหมายก็คือ เขาจะหาเรื่องเธอตลอดไป
ลู่หมิงชูสูดอากาศเย็น
“คุณคิดจะทำอะไรอีก!”
“ฉันคิดจะทำอะไรเหรอ? ฉันจะทำเพื่อลูกหลานตระกูลเสิ่นให้ดีก่อน! คนในตระกูลเสิ่นของฉัน ไม่อนุญาตให้เห็นความสำคัญของความรักชายหญิง!”
ลู่หมิงชูตื่นตระหนกด้วยความโกรธ ทำอะไรกับชายแก่ตรงหน้าไม่ได้
ไม่มีวิธีป้องกัน ถ้าท่านแก่เสิ่นเอาแต่คิดถึงเธอตลอดเวลา มันจะต้องเกิดขึ้นบ่อยยากที่จะป้องกันจริงๆ
เขาโกรธจนทั้งร่างสั่นเทิ้ม นานสักพัก ก่อนจะคลายกำปั้น เหมือนไก่ที่พ่ายแพ้
“หรือว่า……ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าฉันไม่ติดต่อเธออีก คุณจะไม่ลงมือทำอะไรเธอ”
ท่านแก่เสิ่นอยากตอบว่า “แน่นอนว่าไม่” ด้วยสัญชาตญาณ คำพูดอยู่ที่ริมฝีปาก มองการวิงวอนในดวงตาลู่หมิงชูตรงหน้า เขาก็ยกมุมปากขึ้น เลิกคิ้วชราวัย
“ได้ หลานชายสองคน อีกคนช่วยไม่ได้แล้ว ส่วนนายจะไม่สนใจเธออีกต่อไป ฉันจะสัญญากับนายว่าจะไม่ทำอะไรเธออีก”
ลู่หมิงชูมองชายชราตรงหน้าอย่างลึกซึ้งและไร้หัวใจ “คนแก่อย่างคุณพูดแล้วรักษาคำพูดนะ”
“ฉันพูดแล้วรักษาคำพูดตลอด”
ลู่หมิงชูพยักหน้า “นี่เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าผมดำเนินชีวิตตามที่คุณจัดเตรียม ทำตามความคิดของคุณ แล้วคุณยังทำอะไรเธออีก ผมจะ……ทำให้คุณตายอย่างโดดเดี่ยว”
นี่คือการบอกลาท่านแก่เสิ่น
ในดวงตาท่านแก่เสิ่นมีความไม่พอใจเล็กน้อยปรากฏขึ้น แต่ก็ยังพยักหน้า “โอเค”
……
ภายในโรงพยาบาล
ห้องผู้ป่วยVIPห้องหนึ่ง วันนี้ปรากฏร่างไม่คาดคิดร่างหนึ่ง
“ให้เขาเข้ามา”
ภายในห้องผู้ป่วย ผู้ชายพูดน้อย
ประตูห้องผู้ป่วยเปิดออก ผู้ชายที่โดดเด่นเหมือนกันก็เข้ามา
“ข่าวนายไวมากจริงๆ”
บนเตียงผู้ป่วย ผู้ชายยกปากขึ้นอย่างไม่แยแส กลีบปากไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด
“ฉันมีแหล่งที่มาของข่าว แม้ว่านายจะซ่อนตัวดีแค่ไหน ไม่รับประกันว่าจะไม่เผยพิรุธกับคนของฉัน”
“เฮอะ” ผู้ชายยกยิ้มเบาๆ “อยากได้บริษัทเสิ่นซื่อ นายก็ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น รอฉันตาย บริษัทเสิ่นซื่อก็จะเป็นของนายแน่นอน”
“ช่างมันเถอะ” ผู้ที่มาก็หาเก้าอี้มานั่งเอง “นายตายไปแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดก็จะส่งไปให้เธอหมดล่ะมั้ง”
ไม่ได้บอกว่า “เธอ” คือใคร แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย ในดวงตาเป็นประกาย
“นายรู้จักฉันดีมาก”
“ไม่ๆๆ” ผู้ที่มานั้นแกว่งนิ้วชี้
“แค่วันนั้น ฉันเห็นทนายจางเดินออกมาจากโรงพยาบาลพอดี ทนายจางเป็นคนที่นายว่าจ้างส่วนตัว ให้บริการเสิ่นซิวจิ่นอย่างนายและบริษัทเสิ่นซื่อกรุ๊ปโดยเฉพาะ เขาถือกระเป๋าเอกสาร ด้านหลังมีเสิ่นเอ้อเดินตาม ซึ่งเป็นคนที่อยู่กับนาย คงไม่ได้มาหาหมอมั้ง”
“นี่นายตามเงื่อนงำ แล้วมาหาฉันที่นี่เหรอ?”
ถึงจะเป็นคำถาม แต่เป็นการยืนยันการคาดเดาอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ก็ต้องใช้ความสัมพันธ์นิดหน่อย ถึงจะรู้ว่านายหย่ากับเธอแล้ว ฉันคิดไม่ออกจริงๆ นายมีเหตุผลอะไรที่จะหย่ากับเธอ ตอนแรกตามจีบไม่ยอมปล่อยมือ ใช้ทุกวิถีทาง ถึงขนาดแกล้งโง่ด้วยซ้ำ เรื่องไร้ยางอายพวกนี้ นายก็ทำหมด ฉันไม่เชื่อว่านายจะออกตัวหย่ากับเธอ พอสืบเจาะลึกนิดหน่อยก็รู้แล้ว”
“นายนี่มีฝีมือจริงๆ”
“เฮอะ ไม่เท่านายหรอก จะตายอยู่แล้ว ข้างนอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แม้แต่ภายในบริษัท ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายเลย ตาแก่นั่นในบ้านใหญ่ก็ไม่รู้ อืม……นายว่า ถ้าฉันเผยข่าวที่นายกำลังจะตายให้ตาแก่นั่นที่บ้านใหญ่รู้ นายเดาสิว่าเขาจะร้องไห้เสแสร้งไหม?”
“เขาคงร้องไห้เสแสร้งแหละ ได้บริษัทเสิ่นซื่อรวดเดียวสำเร็จ มีเวลาว่างอาจจะมาจุดธูปหอมที่หลุมฝังศพฉัน จะได้รำลึกฉันสักหน่อย”
“ฮ่าๆๆๆ ……” เห็นได้ชัด ผู้ที่มานั้นขำคำพูดของชายที่อยู่บนเตียงจนน้ำตาแทบไหล “นายรู้จักเขามากจริงๆ”
“แน่นอน” บนเตียงผู้ป่วย ผู้ชายยกมุมปากอย่างเย็นชา
“แต่ฉันเดาว่าที่นายเรียกทนายจางมา ไม่ใช่แค่ดำเนินการหย่า มันเป็นการฆ่าไก่ด้วยมีดฆ่าวัว ฉันเดาว่านายทำพินัยกรรม ตายแล้วจะมอบมรดกให้เธอล่ะสิ ดูเหมือนตาแก่จะดีใจไปเสียเปล่า ฉันยังไม่บอกเขาดีกว่า เขาจะได้ไม่ยุ่งไปเสียเปล่า อายุเยอะขนาดนี้แล้ว เลือดลมจะไหลย้อนจนตายเอา”
“นายก็กตัญญูดีนะ”