บทที่86 แหม นี่ไม่ใช่คุณหนูเจี่ยนเหรอ
“เฮ้ๆ เธอได้ยินหรือยัง? ฉันเห็นเจี่ยนถงคนนั้นถามไปทั่วเลยว่ามีงานแนะนำรึเปล่า หล่อนทำได้ทุกอย่าง”
“ผู้หญิงคนนี้นี่รักเงินจนบ้าไปแล้ว แต่เดิมทีคนอย่างหล่อนก็ไม่เหมาะที่จะอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าข้างบนให้ขี้หนูก้อนนี้เข้ามาได้ยังไง นี่ไม่ใช่ดึงคุณภาพเฉลี่ยของฝ่ายประชาสัมพันธ์เราให้ต่ำลงเหรอ”
“หล่อนน่าจะไม่ได้รับงานอะไรมาเป็นเดือนแล้วมั้ง? ฉันดูหล่อนคงรีบร้อนจนบ้าไปแล้ว วันนี้ได้ไปเที่ยวถามฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเราทั่วเลย”
ในห้องน้ำ สาวๆที่อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้เติมเครื่องสำอางอยู่หน้าอ่างล้างมือและซุบซิบนินทาไปด้วย
“เอาล่ะ อย่าพูดถึงหล่อนเลย อารมณ์เสียเปล่าๆ ไปๆๆ คุณชายเห้อไม่ได้มาเที่ยวตั้งนานแล้ว วันนี้คุณชายพวกนั้นได้เปิดห้องVIPของชั้นหก พวกเราไปหาพวกคุณชายเห้อกันเถอะ”
สาวๆทั้งหลายที่แต่งหน้าจัดเต็มได้ขึ้นไปชั้นหก
เจี่ยนถงขอร้องทุกคนที่สามารถขอร้องได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล เธอได้กลับไปที่ห้องพักผ่อนของประชาสัมพันธ์อย่างผิดหวัง
เธอเงยหน้าดูนาฬิกาแขวนในห้องพักผ่อน เวลากำลังผ่านไปทุกวินาที
ซูเมิ่งส่งข้อความมาให้เธอ บอกเธอว่าอีกยี่สิบนาทีเสิ่นซิวจิ่นจะมาถึงที่ตงหวง
เธอรู้อยู่ว่าแต่ไหนแต่ไรเสิ่นซิวจิ่นเป็นคนที่ตรงต่อเวลา พูดคำไหนคำนั้น ความสิ้นหวังในใจยิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เฮ้ เจี่ยนถง ไปกับพี่”
ประตูของห้องพักผ่อนถูกผลักออก พอเงยหน้าก็เห็นซูเมิ่งที่สะสวยยืนอยู่ตรงนั้น และกำลังมองตัวเองอย่างหน้าบึ้ง
“พี่เมิ่ง?” เจี่ยนถงตกใจและสีหน้าซีดเซียวทันที “เขามาแล้วเเหรอคะ?”
แป๊บเดียวก็มาถึงแล้วเหรอ?
เจี่ยนถงในนาทีนี้หมดหนทางจนเหมือนเด็ก ในใจซูเมิ่งอุดอู้ ทรมานจนหายใจติดขัด เธอหายใจอย่างหนักทีหนึ่ง ถึงมองเจี่ยนถงและพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “บอสใหญ่ยังไม่มา เธอไปกับพี่”
“พี่เมิ่ง?”
ซูเมิ่งขมวดคิ้ว “เธอยังยืนเซ่ออยู่ทำไม? พี่พาเธอไปหาลูกค้าที่พี่รู้จัก”
เจี่ยนถง“ฟึ๊บ”ลุกขึ้นมา “พี่เมิ่ง มาแล้วค่ะ”
ซูเมิ่งไม่ได้พูดอะไร แค่พาเจี่ยนถงขึ้นไปชั้นบน
“ชั้นหก?” สีหน้าของเจี่ยนถงค่อนข้างแปลกประหลาด
“เธอนึกว่า ลูกค้าที่แม้แต่ชั้นหกก็ไม่มีปัญญาใช้จ่าย จะสามารถเอาสินน้ำใจออกมาห้าแสนหยวนเหรอ?” ซูเมิ่งหยุดอยู่ที่หน้าห้องVIPห้องหนึ่ง “เจี่ยนถง ที่พี่สามารถช่วยเธอก็มีแค่นี้แล้ว เดิมทีพี่ไม่ควรพาเธอมาที่นี่……เรื่องบางอย่าง พี่ไม่สะดวกพูดกับเธอ เธอต้องรู้นะว่าพี่เอ็นดูและสงสารเธอ แต่พี่ก็อยากใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยเหมือนกัน”
เจี่ยนถงก้มหน้าลง เธอเข้าใจคำพูดที่ไม่ชัดเจนของซูเมิ่งว่าหมายความยังไง เธอรู้ว่าวันนี้ซูเมิ่งพาเธอมาห้องนี้ ทำการตัดสินใจแบบนี้ ซูเมิ่งลำบากใจมากแค่ไหน “พี่เมิ่งฉันรู้ค่ะ ฉัน….ขอบคุณพี่มากนะคะ ฉันเข้าใจทุกอย่างค่ะ”
คำว่า“ฉันเข้าใจทุกอย่างค่ะ” ได้พูดชัดเจนทุกอย่างแล้ว หนังตาของซูเมิ่งกระตุก มองผู้หญิงตรงหน้าที่ไม่สะดุดตาอย่างละเอียด…….เจี่ยนถง คนที่มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งแต่กลับไม่พูดอะไร เธอสิถึงเป็นคนที่ปลงอย่างแท้จริง
ซูเมิ่งไม่มองเจี่ยนถงอีก ก่อนจะเคาะประตู เธอได้พูดกับเจี่ยนถงที่อยู่ด้านหลังคำหนึ่งว่า “สิ่งที่พี่ทำได้ก็มีแค่นี้แล้ว แต่จะสามารถมีปาฎิหาริย์หรือเปล่า มันก็ต้องดูที่ตัวเธอแล้ว”
จู่ๆเจี่ยนถงนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอได้ดึงมือที่จะเคาะประตูของซูเมิ่งไว้ “พี่เมิ่งคะ ลูกค้าที่พี่รู้จักในห้องนี้ เขาแซ่อะไรเเหรอคะ?”
“แซ่เห้อ…..เดี๋ยว เจี่ยนถง เธอจะไปไหน!” ซูเมิ่งพูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นเจี่ยนถงสีหน้าซีดเซียวจะหันหลังไป ซูเมิ่งรีบจับมือเธอไว้ “นี่เธอจะทำอะไร”
ซูเมิ่งขมวดคิ้วอย่างงุนงง และจับมือเจี่ยนถงไว้ เพราะเมื่อครู่ได้เคาะประตูของห้องจนดังแล้ว คิดไม่ถึงว่าลูกค้าที่อยู่ด้านในจะมีความสนใจวิ่งมาเปิดประตูเอง
“ซูเมิ่ง ไหนเธอบอกว่าจะพาคนมาไม่ใช่เหรอ ทำไมเพิ่งมาล่ะ” เห้ออู่ยืนอยู่หน้าประตู มองเจี่ยนถงอย่างและพูดอย่างมีความสนใจ เขายังดูไม่ออกว่าคือเจี่ยนถง แต่เขาคุ้นกับเสื้อผ้าที่เจี่ยนถงใส่มาก “อุ๊ย นี่ไม่ใช่ของรักของหวงชิ้นใหม่ของคุณชายเจี่ยน ที่เพิ่งเจอในลิฟต์เมื่อกี๊เหรอ?”
เห้ออู่เดินมาข้างหน้า อ้อมมาที่ตรงหน้าของเจี่ยนถง ใช้มือยกคางของเจี่ยนถงอย่างเหลาะแหละ
เจี่ยนถงก้มหน้าก้มตาและอดทนไว้
“แฮะ! สาวน้อยคนนี้อายซะด้วย ยังไม่ให้ดูอีก” เห้ออู่ที่นิสัยอันธพาลก้าวมาข้างหน้าทันที “วันนี้ฉันจะต้องดูให้ได้”
ซูเมิ่งูดอยู่ข้างๆ “เจี่ยนถง เธอไม่ต้องกลัวนะ คุณชายเห้อแค่หยอกเธอเล่นเฉยๆ ที่จริงเขาเป็นคนนิสัยดีอยู่ดี”
มือที่เห้ออู่ยกคางเจี่ยนถงได้หยุดชะงักไว้ มองผู้หญิงที่ก้มหน้าก้มตาตรงหน้านี้ด้วยความสงสัย และถามไปที่ซูเมิ่งว่า “เมื่อกี๊เธอว่า….หล่อนชื่ออะไรนะ?”
เจี่ยนถงตกใจ และตะโกนอย่างหนักแน่น “พี่เมิ่ง อย่าพูดค่ะ!”
พอเธอตะโกนปุ๊บ ถึงพบว่าตัวเองได้ทำเรื่องที่ไม่ควรทำ แบบนี้มีแต่จะทำให้เห้ออู่ยิ่งสงสัย
สีหน้าของเห้ออู่เต็มไปด้วยความสงสัย ซูเมิ่งก็สังเกตเห็นความผิดปกติ ปฏิกิริยาของเจี่ยนถง……แปลกประหลาดเกินไป!
ส่วนปฏิกิริยาของเห้ออู่ ก็แปลกประหลาดมากเหมือนกัน
“เจี่ยนถง?” สายตาของเห้ออู่แฝงด้วยความสงสัย จู่ๆได้คลายมือที่ยกคางของเจี่ยนถงไว้ ไม่รอให้เจี่ยนถงได้หายใจหายคอ ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บหนังศีรษะ ข้างหูคือเสียงตะโกนของซูเมิ่ง “คุณชายเห้อ นี่คุณทำอะไรคะ!”
ในขณะเดียวกัน เจี่ยนถงได้สบตาเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด เจ้าของๆดวงตาคู่นั้นเลียริมฝีปากอย่างคึกคะนอง “เป็นเธอจริงๆด้วย เจี่ยนถง คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงจนขี้เหร่อย่างนี้ แต่ว่า ถึงเธอจะกลายเถ้าถ่าน ฉันก็จำได้อยู่ดี!”
สีหน้าของเจี่ยนถงซีดเซียวทันที
เห้ออู่กระชากผมของเธอไว้ แต่กลับทำท่าทางที่สุภาพบุรุษออกมา “เสี่ยวถง จะให้ฉันเชิญเธอเข้าไปในห้อง หรือเธอเข้าไปเอง?”
สีหน้าของเจี่ยนถงเปลี่ยนไปมาหลายครั้ง แดงกับเขียวสลับกัน เธอรู้ดีว่ายังไงวันนี้หนีไม่พ้นแล้ว
เห้ออู่……..ไม่ปล่อยตัวเองไปแน่นอน!
“ไม่ต้องลำบากให้คุณชายเห้อลงมือเองหรอกค่ะ” เสียงแหบพร่าของเธอพูดอย่างช้าๆ จากนั้นได้ยกมือปัดมือที่เห้ออู่กระชากผมของเธอทิ้ง พร้อมพยายามรักษาความสงบนิ่งเดินเข้าไปในห้อง
จนถึงตอนนี้ ซูเมิ่งก็รู้ดีว่าเรื่องผิดปกติ จึงได้ตามเข้าไป
“มาๆๆ ทุกคนมาดูหน่อยเร็ว นี่คือเจี่ยนถงเชียวนะ” หลังจากเห้ออู่เดินตามเข้าไปในห้อง ก็ได้ยิ้มแฉ่งพร้อมพูดทักทายกับเพื่อนๆในห้อง
แว็บ!
สายตาของแต่ละคนแฝงด้วยการสำรวจและดูตลกต่างๆนานา มองสำรวจเจี่ยนถงอย่างไม่ขาดสาย
ซูเมิ่งมีใจอยากไกล่เกลี่ย “คุณชายเห้อ ที่แท้คุณรู้จักเสี่ยวถงเเหรอคะ แต่วันนี้เสี่ยวถงยังมีธุระอย่างอื่น เดี๋ยวค่อยให้เธอทักทายกับพวกคุณนะคะ ฉันขอพาตัวเสี่ยวถงไปก่อนค่ะ” ระหว่างที่พูดก็จะจูงมือเจี่ยนถงเดินออกไป
มือของซูเมิ่งเพิ่งจูงมือของเจี่ยนถงไว้ ก็ถูกเห้ออู่ผลักออก “ซูเมิ่ง เธอหลีกไปเลย ที่นี่ไม่มีธุระของเธอ ไม่ก็ดูอย่างเงียบๆ ไม่ก็ออกไป แต่ถ้าเธออยากพานังนี่ไป เธอลองถามทุกคนในนี้ดูว่ายอมหรือเปล่า?”
สีหน้าของซูเมิ่งตึงเครียดขึ้นมาทันที
ฐานะของคุณชายพวกนี้ไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นตระกูลไฮโซในเมืองS
นี่ไม่ใช่เศรษฐีใหม่ทั่วไปเชียวนะ
ซูเมิ่งมีใจอยากถามเจี่ยนถงว่า “เสี่ยวถง เธอรู้จักคุณชายเห้อเหรอ?” ใจจริงเธออยากถามเจี่ยนถงว่ามีเรื่องบาดหมางอะไรกับคุณชายเห้อ
แต่เจี่ยนถงกลับเงียบกริบไม่พูดจา
เห้ออู่กลับพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอว่านังนี่ไม่รู้จักฉัน? จึกๆ ซูเมิ่ง เธอมาเมืองSช้าไป คงไม่เคยได้ยินผู้หญิงที่หยิ่งยโสและมีความมั่นใจที่สุดของไข่มุกชายหาดแห่งเมืองS เจี่ยนถง”……ที่เย่อหยิ่งของตระกูลเจี่ยนมั้ง?
“คุณชายเห้อ เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะนะคะ!” เจี่ยนถงพูดขัดจังหวะเห้ออู่ “มันผ่านไปแล้วค่ะ!”
เห้ออู่หัวเราะอย่างเย็นชา “ผ่านไปแล้ว? เธอว่าผ่านไปแล้วก็ผ่านไปแล้วงั้นเหรอ? ฮ่าๆๆ……เจี่ยนถงนะเจี่ยนถง ก่อนหน้านี้ฉันฟังซูเมิ่งบอกว่า ตอนนี้ซูเมิ่งมีพนักงานคนหนึ่งร้อนเงินห้าแสนหยวน พนักงานคนนั้นก็คือเธอสินะ? ฮ่าๆๆ……เจี่ยนถงที่ยโสโอหังก็ขัดสนเงินแค่ห้าแสนหยวนนี้ด้วย?”
เห้ออู่ล้วงเช็คออกมาใบหนึ่งแล้วตบอยู่บนโต๊ะคริสตัล “ได้ เจี่ยนถง วันนี้ฉันจะไม่ให้เธอลำบากใจ เธอคุกเข่าลงมา และตบหน้าตัวเองหนึ่งร้อยที ตบทีหนึ่งก็พูดคำว่า‘ฉันเป็นผู้หญิงสำส่อน’ทีหนึ่ง เสร็จแล้วเงินห้าแสนนี้เธอก็เอาไปเลย”