“ให้บทเรียน…” ลู่หยานเริ่มลังเล
น้องชายของเธออ่อนแอเกินไปนั่นคือสาเหตุที่เกิดปัญหาขึ้น
เธอต้องการให้น้องชายของเธอได้เห็นโลกความจริง รวมถึงได้เห็นผู้ฝึกฝนที่ทรงพลังและอัจฉริยะอีกหลายๆ คน เพื่อที่จะทำให้เขามีความปรารถนาอันแรงกล้าในการบ่มเพาะและมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ!
นักสร้างการ์ดก็แข็งแกร่งได้เช่นกัน!
สำหรับการการสอนจากปรมาจารย์นั้น … ตราบที่เขามีชีวิตเขาก็สามารถหาเรียนเองได้ตลอดเวลา แต่การไปดินแดนแห่งมรดกเป็นโอกาสที่หายากที่นานๆ จะมีครั้งหนึ่ง
“ฉันไม่เห็นด้วย” ลู่หยานส่ายหัว
“รักษาสัญญาของนายเถอะ”
“ไม่งั้นฉันจะทำให้นายต้องชดใช้” เสียงของลู่หยานเย็นชา
วูซซซ—
ไอความเย็นพลุ่งพล่านรอบๆ ตัว ละอองหิมะล่องลอยไปทั่วดาบ เกิดเป็นภาพที่น่ากลัวให้คนทั้งห้องประชุมรู้สึกเย็นยะเยือก
ยัยบ้าคนนี้…
เธอกล้าที่จะเริ่มการต่อสู้ที่นี่จริงๆ หรือ?
โชคดีที่จู่ๆ อาจารย์คนหนึ่งก็พูดด้วยความตื่นเต้น
“ลู่หยาน อาจารย์ของเธอโทรมา”
แวบบ—
อาจารย์แตะสร้อยข้อมือและปรับเป็นโหมดลำโพงทำให้ทุกคนสามารถได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากสร้อยข้อมือของเขา
ผู้บ่มเพาะส่วนมากที่อยู่ในระดับสูงมักจะต้องข้องเกี่ยวกับการต่อสู้อยู่ตลอด ทำให้มันเป็นเรื่องลำบากในการพกมือถือไปมา เหล่านักสู้เลยมักใช้สร้อยข้อมืออัจฉริยะแทน
“ลู่หยานหยุดซะ พอได้แล้ว”
ลู่หยานหยุดทันที
นั่นคือเสียงอาจารย์ของเธอ
ฟู่วววว !
บรรยากาศในห้องประชุมกลับมาอบอุ่นเป็นปกติอีกครั้ง
“ฉันจะจำสิ่งที่คุณพูดเรื่องการให้บทเรียนไว้”
ลู่หยานมองไปที่อาจารย์คนนั้นก่อนที่เธอจะจากไป
เขาได้แต่ยิ้มแบบขมขื่น เขาไม่เหลือทางเลือกอื่นคงได้แต่ทำมันจริงๆ
“หยิ่งชะมัด!”
อู่หงเฟยอยากจะบ้าตาย “แข็งแกร่งแล้วไงล่ะ? หมายความว่าเธอจะทำตามใจได้ตลอดงั้นหรอ เฮอะ เฮอะ!”
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา
เพราะ-
ในโลกนี้คนที่แข็งแกร่งล้วนแล้วแต่ทำทุกอย่างได้ตามปรารถนาจริง ๆ!
“รอฉันได้รับมรดกก่อนเถอะ!”
อู่หงเฟยกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ “ฉันคงต้องให้บทเรียนเธอสักหน่อย”
คนอื่น ๆ มองมาที่เขาแต่ยังคงเงียบไว้ พวกเขาไม่ใส่ใจคำพูดของอู่หงเฟยมากนัก
…..พูดอย่างกับว่านายได้มรดกมาแล้วจะชนะเธอได้อย่างนั้นแหล่ะ…..
“อย่าไปสนใจเธอเลย”
อาจารย์ส่ายหัว “นี่คือบุคลิกของลู่หยาน เธอจะเถียงไม่ว่าจะมีเหตุผลหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ด้วยความที่เธอเป็นที่ 1 ของวิทยาลัยเอกกะไม่ว่าเธอจะตัดสินใจอะไรก็ไม่ผิด แต่เป็นนายที่ต้องรับโทษไปเพราะเป็นคนตั้งกฎ 3 ข้อนั้นขึ้นมาเอง”
“ผม…”
อู่หงเฟยรู้สึกผิด
แต่เขารู้ได้อย่างไรว่าจะมีตัวประหลาดอย่างลู่หมิงโผล่ออกมา! แถมยังได้รับความนิยมอย่างมากและมีผลงานจากการ์ด Fruit Ninja บ้าๆ นั่นทั้งที่ยังเป็นนักสร้างการ์ดระดับ 1
ตอนเด็กๆ ไอหมอนี่มันกินอะไรเข้าไปกัน พิลึกชิ*พ?!
นอกจากนี้เขารู้ได้อย่างไรว่าลู่หมิงเป็นน้องชายของลู่หยาน
และแน่นอนปัญหาใหญ่ที่สุดเกิดจากเสียงโหวต!
ทำไมคนจากวิทยาลัยเอกกะ ที่มีความภาคภูมิใจและยังหยิ่งผยอง ลู่ถึงเลือกลู่หมิงเป็นตัวแทนทั้งที่เขายังอยู่ในระดับ 1 ไปได้?
พวกเขาคิดอะไรกันอยู่วะ? นี่มันไม่เป็นวิทยาศาสตร์เลย!
นั่นทำให้อู่หงเฟยคิดว่าคนเหล่านั้นดูถูกเขาเลยกลั่นแกล้งด้วยการใช้ลู่หมิง
แน่นอน
เขาไม่รู้ว่าลู่หยานจะพกดาบของเธอมาที่คณะการสร้างการ์ด และชี้ไปที่การ์ด Fruit Ninja และบอกทุกคนว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยน้องชายของเธอ
นั่นคือทั้งหมด
ในขณะนี้… ลู่หยาน ได้กลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเองแล้ว
เธอพอใจกับผลลัพธ์ในวันนี้อย่างมาก
เธอไม่คาดคิดว่าเลยอู่หงเฟยจะยอมประนีประนอม หากเป็นเช่นนี้ต่อไปบางทีผู้อาวุโสเหล่านั้นอาจเข้าร่วมในการทะเลาะทำให้เธอไม่เหลืออะไรในที่สุด
เธอไปที่ประชุมเพื่อบังคับให้พวกเขาให้ประโยชน์บางอย่างกับเธอ
รับการชี้แนะ….
ถือว่าผลตอบแทนพอรับได้….
บางทีน้องชายที่อ่อนแอของเธออาจก้าวหน้าขึ้นบ้างหลังจากจบการชี้แนะไปแล้ว
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ …
เธอขมวดคิ้วสงสัยว่าเมื่อไหร่น้องชายของเธอจะทำตัวเหมือนผู้ชายสักที!
และ…เธอจำครั้งสุดท้ายที่เธอไปที่บ้านของเขาได้ ดูเหมือนเธอจะเหลือบไปเห็นเสื้อผ้าผู้หญิง นั่นคือเหตุผลที่เธอรีบออกไปโดยไม่พูดอะไร
เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร
เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี?
ถามถึงประสบการณ์ในการแต่งหญิง?
ปัญญาอ่อนเรอะ!
เธอทำได้เพียงแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไรและรีบกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง
น้องชายของเธอ…
เธอคงต้องบังคับให้เขามีพัฒนาการสักหน่อย!
มิฉะนั้นเมื่อเธอไปเยี่ยมเขาในครั้งต่อไปเธออาจเห็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่เสื้อผ้าผู้หญิงเท่านั้น
ตู๊ดดด—
เกิดการสั่นที่สายรัดข้อมือและมีข้อความปรากฏขึ้นสู่สายตาของเธอ
ลู่หยานมองดูและประหลาดใจที่เธอพบว่ามันเป็นบริการส่งพัสดุด่วน
เธอกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับน้องชายของเธอ – เธอจึงสั่งว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับน้องชายของเธอให้จัดเป็นความสำคัญสูงสุดและต้องส่งถึงเธอทันที เธอจะไม่ยินยอมให้คนอื่นเข้ามาแทรกแซงเด็ดขาด
มันคืออะไร?
เธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่เธอไปรับพัสดุด่วน
มันเป็นถุงเอกสารที่ปิดสนิทที่ปกติจะใช้ในการส่งเอกสาร เมื่อเปิดดูเธอก็ประหลาดใจ และพบว่ามีการ์ดสองใบซ้อนกันอยู่
การ์ดด้านบนคือ Fruit Ninja
เอิ่ม…
หมอนี่ตั้งใจจะอวดหรอ?
ลู่หยานเผยรอยยิ้ม
ในฐานะนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคอาชีวมันสุดยอดมากที่จะสามารถสร้างสิ่งที่เหมือนการ์ด Fruit Ninja ได้ แต่เมื่อเธอเลื่อนการ์ด Fruit Ninja ออกเธอก็ต้องตะลึงไปชั่วขณะเมื่อเห็นการ์ดที่อยู่ด้านล่าง
นี่คือ…
ลู่หยานเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
การ์ดเงาจันทรา!
มันกลายเป็นการ์ดเงาจันทรา !
การ์ดเงาจันทรามีทั้งหมดเจ็ดใบและผู้ถือครองหนึ่งในนั้นคือลู่หมิง!?
เด็กคนนี้…
ลู่หยานใช้เวลาสองสามวินาทีในการสงบสติอารมณ์ก่อนที่เธอจะหัวเราะออกมา น้องชายของเธอได้ทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์เข้าให้แล้ว
เธอคิดอีกสักพัก จากนั้นเธอหยิบการ์ดแล้วรีบกลับไปที่ห้องประชุม
“คุณมาทำอะไรที่นี่อีก”
อู่หงเฟยปวดหัวทันทีที่เห็นเธอ
“โทดทีนะที่ถาม”
ลู่หยานยิ้ม “มีคนที่ยังไม่มีการ์ดเงาจันทราแต่จะเข้าร่วมอีกไหม?”
ทุกคนมองไปที่เกาเทียนหลาง เขาเป็นนักดาบที่มาจากภูมิหลังที่ดี ปัจจุบันเขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่มีการ์ดเงาจันทราในครอบครอง
“ฉันจะได้รับมันหลังจากนี้ไม่กี่วัน”
เกาเทียนหลางดูสงบมาก
“นายแน่ใจนะ?”
ลู่หยานยิ้ม
เธอหยิบการ์ดออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะข้างหน้าเธออย่างเบามือ
วูซซซ—
ไฟส่องสว่าง
ท่ามกลางผู้คนที่มารวมตัวกันรอบโต๊ะประชุม การ์ดในมือของพวกเขาเกิดไฟกระพริบพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ทำให้เกิดความโกลาหลเป้นอย่างมากภายในห้องประชุม!
นี่เป็นสัญญาณว่าการ์ดชุดนั้นมีความรู้สึกและมีปฏิกิริยาต่อกัน!
เงาจันทรา!
การ์ดเงาจันทรา ใบสุดท้ายอยู่กับลู่หยาน!
“อะไรนะ?!”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอุทาน
ทุกคนมองไปที่การ์ดในมือของลู่หยานอย่างไม่น่าเชื่อ
เป็นไปได้ยังไง?!
ใบหน้าของเกาเทียนหลางตกใจเป็นอย่างมาก
เพื่อให้ได้รับการ์ดใบนี้ …
ทุกคนเก็บมันเป็นความลับให้ลึกที่สุด!
การ์ดมรดกใบนี้เป็นวิธีเดียวที่เขาจะเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้!
เขาไม่กล้าส่งคนที่มีอำนาจมากกว่าไปที่จุดสำรวจแร่นั่นเพื่อค้นหามัน เพราะกลัวว่าเขาจะดึงดูดความสนใจของผู้อื่นเกินไป เขาส่งคนไปเพียงสามคนที่มาจากเมืองชิงหมิงเพื่อปลอมตัวว่าพวกเขากลับบ้านไปเยี่ยมญาติและไปค้นหาการ์ดกลับมา
เขาใช้แม้กระทั่งการ์ดเทเลพอร์ตด้วยซ้ำ!
งั้นมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ …
ทำไมการ์ดไปอยู่ในมือของลู่หยานได้?!
“ไม่!”
“มันไม่ถูกต้อง”
เกาเทียนหลางโทรมายืนยันทันที “การ์ดเงาจันทราอยู่ที่ไหน? พวกเขาส่งมันหรือยัง? แล้วมีการเปิดใช้งานการ์ดเทเลพอร์ตแล้วหรือยัง”
“มีการเปิดใช้งานการ์ดเทเลพอร์ตแล้ว”
เขาได้ยินเสียงงุนงงที่ปลายสายอีกด้านหนึ่ง “แต่…สิ่งที่ออกมาลับเป็นกระทิงฝูงหนึ่งซึ่งถูกส่งไปแทน…”
ฝูงกระทิง?
เกาเทียนหลางรู้สึกมึนงง พวกเขาส่งวัวกระทิงนี้ออกมามันหมายความว่าอย่างไร?
อย่างไรก็ตาม…
ทุกคนไม่สนใจเขาอีกต่อไป
เขาหมดสิทธิ์ในการเข้าร่วมไปแล้ว เมื่อเขาไม่ได้รับการ์ดใบนี้มา
“ทุกคน”
ลู่หยานมองไปที่ห้องประชุมพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ “ดังนั้นจากนี้ฉันก็เป็นหนึ่งในผู้นำของการแข่งขันนี้ด้วย”
“ตอนนี้…”
“ฉันเลือกลู่หมิงเป็นนักสร้างการ์ดของฉัน มีใครคัดค้านบ้างไหม”
ลู่หยานกวาดสายตามองไปทั่วห้องประชุมทั้งหมด และทั้งหมดเงียบสนิท
พวกเขาจะพูดอะไรได้?
อู่หงเฟยดูโกรธเคือง
ลู่หยาน…
…เข้าร่วมการต่อสู้แล้ว!
เพื่อให้ลู่หมิงนักสร้างการ์ดระดับ 1 ได้เข้าร่วมเธอถึงกับไปซื้อการ์ดเงาจันทราที่ราคาแพงฉี่และกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการแข่งขันนี้
เธอป่วยทางจิตหรือเปล่า?!
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าอาจารย์ของลู่หยานนั้นทรงพลังมากและเก่งพอ ๆ กับเงาจันทรา!
ฉะนั้นเธอไม่ต้องการมรดกพวกนี้อยู่แล้ว!
หากเธอได้รับมรดกไปก็อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งกับมรดกของเธอเอง ดังนั้นเธอจึงเข้าร่วมในการแข่งขันนี้เพื่อลู่หมิงเพียงแค่ผู้เดียว
เธอทำทั้งหมดนี้เพราะอยากให้น้องชายของเธอออกไปดูโลกกว้าง!
เธอต้องการให้น้องชายของเธอได้เรียนรู้การสร้างการ์ด!
ปัญญาอ่อนชัดๆ!
นี่…
“เธอมันบ้าไปแล้ว”
อู่หงเฟยไม่มีอำนาจที่จะตั้งคำถามหรือคัดค้านเธอ
เพียงแต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าลู่หยานจะลงมืออย่างบ้าคลั่งขนาดนี้เพื่อช่วยน้องชายของตัวเอง
“นี่ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ”
อาจารย์ของเขาหัวเราะและกระซิบ “ลู่หยานเข้าร่วมแข่งขันไม่ใช่เพื่อมรดก ฉะนั้นเธอจะมีคู่แข่งน้อยลงหนึ่งราย”
“จริงด้วย!” อู่หงเฟยเพิ่งนึกขึ้นมาได้
ส่วนลู่หมิงนะหรอ…
หมอนี่มีแค่ Fruit Ninja จะไปทำอะไรได้!
อู่หงเฟยเริ่มรู้สึกว่าการสูญเสียของเขาคุ้มค่ามาก ส่วนคนที่เหลือได้แต่มองหน้ากัน มันเต็มไปด้วยรอยยิ้มลึกลับที่ยากจะสรุป
ในอีกด้านหนึ่งพวกเขาก็มีความสุข แต่ในทางกลับกันพวกเขากลับอิจฉาลู่หมิงและไม่พอใจที่พวกเขาไม่มีพี่สาว Brocon แบบนี้
เธอยินดีจะช่วยน้องชายของเธอโดยไม่มีเงื่อนไข!