Divine Card Creator
ตอนที่ 54 ธงเชงเม้ง
บนพื้นผิวของการ์ด
ก็ยังเป็นภาพทุ่งรกร้างว่างเปล่าเช่นเดิม
เพียงแต่ว่าคราวนี้สิ่งที่เปลี่ยนไปคือมันมีกิ่งไม้ที่มีเศษผ้าอันดูราวกับผ้าอ้อมเปื้อนทารกแขวน
“นี่มันหมายความว่ายังไงอีกละเนี่ย?”
ลู่หมิงอยากจะบ้าตาย
เขาหาข้อสรุปอะไรจากรูปบ้าๆ นี้ไม่ได้เลย!
เดี๋ยวก่อนนะ!
เศษผ้านั่น
ลู่หมิงมองดูเศษผ้าผืนนั้นอยู่นานก่อนจะตระหนักได้ว่า มันไม่ได้เหมือนผ้าอ้อมขนาดนั้น แถมตรงกลางยังมีสัญลักษณ์บางอย่างวาดไว้ มันดูคล้ายสัญลักษณ์บางอย่างเกี่ยวกับศาสนา หรือบางทีธงนี้จะมีความหมายแฝงอยู่จริงๆ?
ทําไมจู่ๆ ก็รู้สึกคุ้นๆ ขึ้นมาฟะ!?
“เฮ้ย นี่มันธงเชงเม้งไม่ใช่เรอะ?”
เดี๋ยวก่อนนะ
หลังจากประมวลสักพักลู่หมิงก็เริ่มจับใจความได้
หรือว่าที่มันจะสื่อคือ เอฟเฟกต์ของการ์ดใบนี้ – หลุมสุสานบรรพบุรุษ = ใช้ที่สังหารศัตรูตายห่ากันทั้งตระกูล แบบจะสื่อว่าแม้แต่บรรพบุรุษเอ็งก็ต้องตายด้วยน้ํามือข้าอย่างนั้นเรอะ?
“นี่…นี่มันใช่หรอวะ? เอิ่ม คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง ฮ่าๆๆ”
หรือบางทีอาจจะเป็นบางอย่างที่มีความหมายคล้ายๆกัน?
“ลองค้นข้อมูลดูก่อนดีกว่า”
ลู่หมิงครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยค้นหาบนอินเทอร์เน็ต
ลู่หมิงเริ่มจากพิมพ์คําว่า “หลุมศพ” ลงในคลังข้อมูลการ์ด
วีบบบ!
มีผลลัพธ์ที่พิลึกกึกกือโผล่ออกมามากมาย
ชุดการ์ดวิญญาณสายแดนซ์: ทําให้คนในหลุมออกมาสนุกไปกับคุณ!
ชุดการ์ดวิญญาณชงกาแฟอยู่ในคาเฟ: วิญญาณที่จะช่วยคุณชงกาแฟอย่างไม่ย่อท้อ!
ชุดการ์ดฮีตเตอร์อินฟราเรดพร้อมใช้งานในหลุม: บรรพบุรุษของคุณจะไม่หนาวในหลุมอันดํามืดอีกต่อไป!
ชุดการ์ดแฮปปี้มีล: ภาพลวงตาแห่งความรักที่จะช่วยให้คุณสุขสมกับคนที่แม้จะตายไปแล้ว!
ลู่หมิงเกาหัวแกรกๆ อยู่เป็นเวลานาน
นี่เหี้ยอะไรวะเนี่ย?
ของพวกนี้นี่มันนรกอะไรฟะ!
ประเด็นคือลู่หมิงถึงกับช็อคเมื่อเหลือบไปมองคอมเมนต์ของผู้ใช้โดยไม่ตั้งใจ :”ของชิ้นนี้ไม่เลวเลยครับ คุณปู่บอกว่าท่านค่อนข้างชอบ อยากได้อีกหลายๆ ใบเลย”
ไอเยะเข้ ไอปู
ลู่หมิงรีบกระเสือกระสนไปเช็คว่าคนนั้นพูดถึงสินค้าอะไร และดูเหมือนว่าจะเป็นชุดการ์ดแฮปปี้มีล..
แถมแมร่งยังมีคุณปคุณย่าอีกนับร้อยคนมากดไลค์คอมเมนต์นั้นอีกต่างหาก!
โอ้แม้เจ้า โลกนี้มันจะไม่พิสดารกันเกินไปหน่อยหรอ! นี่ล้อกันเล่นปะเนี่ย?
ลู่หมิงหลับตาพร้อมปิดหน้าเว็บด้วยใบหน้าอันว่างเปล่าก่อนจะอุทานขึ้นมาว่า
“WTF…?”
จากนั้นเมื่อตั้งสติได้ เขาก็เบนสายตากลับไปยังการ์ดใบเดิมอีกครั้ง
อ-เอาล่ะ
ตั้งแต่การ์ดทําลายล้างใบเป็นต้นมา ทุกครั้งที่ผสมการ์ดลู่หมิงก็ไม่เคยเข้าใจรูปลักษณ์บนหน้าการ์ดอีกเลย
ทางเดียวที่เหลือของเขาก็คงมีแต่จําใจยอมทดลองสร้างมันขึ้นมาดู
แต่ไม่ใช่ว่าปกติสัญลักษณ์หน้าการ์ดมันควรจะบอกเอฟเฟกต์ของการ์ดชัดๆหรอกหรอ?
เพราะตอนนี้ลู่หมิงเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทําไมพอเขาสร้างอะไรออกมาผลลัพธ์มันก็แลดู จะกวงสังติงตลอดเลย!
หรือบางทีมันจะเป็นศิลปะของการ์ดระดับสูง? เหมือนภาพ Abstract ของปีกัสโซที่ถ้าดูรู้เรื่องก็ไม่ใช่ศิลปะอะหรอ?
ลู่หมิงได้แต่คิดแล้วก็สงสัย จนสุดท้ายก็ทําอะไรไม่ได้อีกจึงต้องยอมแพ้ไปก่อน
ลู่หมิงเปลี่ยนมาตรวจสอบความต้องการพลังงานของการ์ดแทน
โอ้…
1 หมื่นแต้ม!
มากกว่าการ์ดที่เขาผสมทั้ง 7 ใบเข้าด้วยกันไปตั้ง 3 พันแหน่ะ!
ซึ่งก็แปลว่าลู่หมิงคงไม่มีโอกาสใช้การ์ดนี้ไปอีกนานและได้แต่เอามาบ่มเพาะแก้ขัดไปก่อน เพราะการ์ดที่มีระดับพลังงานเท่านี้มันเทียบได้กับการ์ดมาตรฐานของผู้บ่มเพาะระดับ 3!
และตอนนั้นเองจู่ๆ ความคิดบางอย่างก็แวบขึ้นมาในหัวลู่หมิง
ตอนแรกที่เขาผสมการ์ด Brutal Charge ให้กลายเป็นวงล้อมกระทิงคลั่งมันก็กลายเป็นการ์ดมาตรฐานที่ใช้พลังงานระดับ 1 พอดิบพอดี!
และหลังจากที่เขารวมวงล้อมกระทิงคลั่งจนกลายเป็นการ์ดทําลายล้างแล้วมันก็กลายเป็นการ์ดระดับ 2 ที่ใช้พลังงาน 1000 แต้ม ซึ่งตรงกับระดับพลังงานขั้นต่ําของผู้บ่มเพาะระดับ 2 พอดีอีกแล้ว!
แถมตอนนี้
การ์ดหลุมศพใบนี้ยังต้องใช้พลังงาน 1 หมิ่นแต้มซึ่งเทียบเท่ากับขั้นต่ําของผู้บ่มเพาะระดับ 3อีก!
ต้องอธิบายก่อนว่าปกติผู้ใช้การ์ดมักจะใช้การ์ดต่ํากว่าระดับของตนเองเสมอ เนื่องจากต้องสํารองพลังงานเอาไว้ทําอย่างอื่น ดังนั้นจึงไม่มีใครสร้างการ์ดที่ใช้พลังงานเต็มขีดจํากัดของขั้นนั้นๆกัน!
โดยทั่วไปการ์ดระดับ 1 จะใช้พลังงาน 50 แต้มขึ้นไป
ระดับ 2 200 แต้มขึ้นไป
และระดับ 3 1000 แต้มขึ้นไป
แต่สําหรับการ์ดของเขา
วงล้อมกระทิงคลั่งล่อไป 300 แต้ม!
การ์ดทําลายล้างไปอีก 1000 แต้ม!
ส่วนการ์ดใหม่ …
เหอะๆ
ก็รู้ๆ กันอยู่
ฉะนั้นจากความรุนแรงที่มันมี พวกมันจึงแทบจะไม่ต่างจากไม้ตายลับเลย!
ถึงแม้มันจะไม่มีประโยชน์มากนักแต่ก็เป็นการ์ดชั้นยอดอย่างไม่ต้องสงสัย!
“ลืมมันไปก่อนดีกว่า”
ลู่หมิงลูบหัวของเขา
“สิ่งที่สําคัญตอนนี้คือใช้มันบ่มเพาะไปก่อนดีกว่า”
ลู่หมิงพลิกไปยังด้านหลังของการ์ด
เขามองมันด้วยสีหน้าว่างเปล่า
เยี่ยม!
เขาไม่เข้าใจลายเส้นพวกนี้แม้แต่นิดเดียว!
ในฐานะคนที่เคยเรียนแคลคูลัสด้วยตัวเอง แถมยังสําเร็จเทคนิค “การเคลือบ” แบบไร้อาจารย์แล้ว ลู่หมิงย่อมมีอีโก้และความภูมิใจในตัวเองสูงมาก!
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองลงมาที่การ์ดใบนี้ ลู่หมิงถึงกับใช้เวลานานกว่าจะกลับมามีสติอีกครั้ง
เส้นพวกนี้มัน
อีหยั่งวะ?!
เอ่อ…
ตรงนี้น่าจะเป็นเส้นป้อนพลังงานเข้าไปในการ์ดแล้วก็แล้วก็ไม่เข้าใจส่วนที่เหลืออีกแล้ว โอ้ นี่คือเส้นและจุดที่ตัดกัน ตรงนี้พลังงานจะถูกเบี่ยงเบนออกไปยังเส้นทางอื่น จากนั้นก็ไม่รู้อีกแล้ว…โอ้ จุดนี้เป็นการประสาน 3 แยกรึเปล่า? พลังงานทั้งหมดมารวมกันที่จุดนี้แล้ว จากนั้น จากนั้นก็งงอีกแล้วโว้ยยยย
ลู่หมิงรู้สึกหงุดหงิด
ลายเส้นยังคงคล้ายเส้นเดิม และจังหวะการวาดก็ยังคงเดิม แต่เขาไม่เข้าใจเลยว่าพวกมันกลายมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไง
จะว่ายังไงดี?
แวบนึงมันทําให้เขารู้สึกราวกับว่าเป็นชาวต่างชาติที่กําลังฝึกหัดภาษาจีน!
จังหวะแนวตั้ง จังหวะแนวนอน จังหวะเอียงซ้ายลง และจังหวะเว้าลงขวา ….
อารมณ์ประมาณ ทําไมเส้นนี้ประกอบกับไอก้อนงี่เง่านี่ถึงกลายเป็นอีกคํานึงได้วะเนี่ย? อะไรทํานองนั้น
นอกจากเทคนิคการรวมเส้นที่ดูยากขึ้นแล้ว อีกอย่างที่ดูซับซ้อนขึ้นก็คือลายเส้นพื้นฐาน
หนึ่ง
สอง…
สาม…
ลู่หมิงกวาดตามองลายเส้นที่เกิดจากลายเส้นพื้นฐานก่อนจะพบว่ามีชนิดที่แตกต่างกันอย่างน้อย 28 แบบ มันเกี่ยวพันกันอย่างซับซ้อนชวนผวา
หรือว่ามันจะเป็นการ์ดชั้นยอดในหมู่ระดับ 3 ด้วยกันจริงๆ?!
เออใช่เลย พวกเอ็งทุกคนเตาถูกแล้ว..ภายใต้สถานการณ์ปกติแม้ว่าจะเป็นนักสร้างการ์ตระดับ 3 ก็ยังไม่มีโอกาสได้สร้างการ์ดชั้นยอดระดับ 3 เหล่านี้ มีแต่เฉพาะนักสร้างการ์ดระดับสูงเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้จัดการกับมัน!
แต่ตอนนี้
ลู่หมิงเพิ่งมาถึงระดับ 2 ก็มีโอกาสได้ชิมลางการ์ดเทพๆอย่างนี้แล้ว
ฉะนั้นเขาต้องเชี่ยวชาญมันให้ได้!
แล้วถ้าสําเร็จขึ้นมาทักษะการสร้างการ์ดของเขาก็จะสามารถพัฒนาไปได้อย่างมาก
ลู่หมิงมุ่งมั่น
แน่นอนว่าก่อนอื่นเลยคงต้องไปซื้อหนังสือพวกพื้นฐานเบื้องต้นมาลองอ่านดูก่อน
การ์ดใบนี้มีเทคนิคผสมอยู่มากมาย อย่างน้อยลู่หมิงก็อยากจะรู้จักชื่อและหน้าที่ของเทคนิคเหล่านี้สักหน่อย เผื่อว่าบางทีเขาจะเข้าใจพวกมันมากขึ้นมาจริงๆก็ได้
เขาคงต้องศึกษาเรื่องหลักการของทักษะพวกนี้ด้วย
บางที่วิทยาลัยน่าจะมีหลักสูตรพิเศษสําหรับนักสร้างการ์ดระดับ 2 ขึ้นไป …
อย่างไรก็ตาม
ลู่หมิงคิดถึงเรื่องนี้ก่อนตัดสินใจว่าจะไม่ไป
เพราะคงจะเสียเวลาเปล่าๆ
สาเหตุคือลู่หมิงขี้เกียจไปนั่งฟังอาจารย์ตอบคําถามนักเรียนคนอื่นๆ เพราะระดับของเขามันล้ําหน้าเกินคนอื่นไปไกลมากจริงๆ ฉะนั้นสําหรับอัจฉริยะเช่นลู่หมิง กิจกรรมประเภทนี้ยังไงก็ไม่คุ้มเวลาที่เสียไป
นอกจากนี้
วิทยาลัยของเขายังเป็นวิทยาลัยระดับล่างๆ ทําให้ขาดแคลนทรัพยากรทางความรู้อยู่มาก ลู่หมิงจึงสรุปความคิดดังกล่าวได้ออกมาอย่างรวดเร็ว
อื่ม…
ฉันควรศึกษาด้วยตนเอง!
จากนั้นลู่หมิงแวบมาดูเงินที่เหลือในบัญชี
ตอนนี้ลู่หมิงมีเงินเหลือประมาณ 3 แสนหยวน เขาใช้เงิน 5 หมื่นหยวนเพื่อจ่ายค่าเช่าของอีกหกเดือนหน้า ส่วนเงินที่เหลืออีก 2 แสนห้าก็น่าจะพอทําอะไรได้บ้างแหล่ะ
ลู่หมิงตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เขาซื้อหนังสือหลายเล่มตามคําแนะนําจากเว็บ ” ปรับแต่งลายเส้น”,” ทักษะสร้างการ์ดระดับ 2 เบื้องต้น” “วิธีการอัพเกรดการ์ดของท่าน”, “โครงสร้างการ์ด” และอื่น ๆ
“เสี่ยวไป เธอสามารถอ่านหนังสือเหล่านี้ได้ทุกเมื่อถ้าเธอมีเวลา”
“อื้อ โอเค”
“หนังสือพวกนี้มีความรู้พื้นฐานที่สําคัญมากหลายอย่างสําหรับนักสร้างการ์ด เธอควรรู้พวกมันทั้งหมด เพราะเธออาจต้องใช้มันในอนาคตอันใกล้ อ้อ อย่าลืมบอกพ่อเธอให้โอนเงินค่าใช้จ่ายมาให้ฉันด้วย”
“ รับทราบค่ะอาจารย์” เสี่ยวไปพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเชื่อฟัง
ลู่หมิงพอใจมาก
ดูสิช่างเป็นศิษย์ที่ดีจริมๆ!
ในช่วงบ่าย
หลังจากซื้อมาครบ ลู่หมิงก็เริ่มอ่านหนังสือเหล่านี้
“โอ้ อาจารย์ก็ต้องอ่านหนังสือพวกนี้ด้วยหรอ?”
เสี่ยวไปตกใจ
“อืมมม ก็ฉันต้องสอนเธอ ฉะนั้นฉันต้องตรวจสอบเนื้อหามันก่อนอยู่แล้ว”
ลู่หมิงตอบอย่างสงบด้วยหน้าหนาฉาบปูน 10 ชั้นของตน
“อ้อ สู้ๆ นะอาจารย์”
เสี่ยวไปชูกําปั้นเล็ก ๆ ของเธอเพื่อเป็นกําลังใจให้กับอาจารย์ของเธอ
เห็นเสี่ยวไปทําอย่างนี้ลู่หมิงรู้สึกราวกับเป็นแก๊งต้มตุ้นสันดานเสียที่มาหลอกขายลูกอมเด็กไปเลย
“เถ้าแก่ขอการ์ด Leviathan ให้ฉันหนึ่งใบ”
ตอนนั้นเองก็มีใครบางคนตะโกนมาจากหน้าประตู
ลู่หมิงยื่นการ์ดให้กับลูกค้า
เนื่องจาก Leviathan ยังคงได้รับความนิยมอยู่พอสมควร ธุรกิจของเขาจึงยังคงดําเนินไปได้ด้วยดี ร้านค้าส่วนใหญ่เริ่มมีการกําหนดมาตรฐานราคาหลังจากแข่งขันตัดราคากันอย่างดุเดือดก่อนหน้านี้
และไม่ทันไรก็มีลูกค้าอีกคนเข้ามาในร้าน
ลู่หมิงเงยหน้าขึ้นและต้องตกใจ เพราะลูกค้าคนนี้คือรุ่นน้องที่สารภาพรักกับเขาเมื่อครั้งก่อน! เธอคือคนที่จางเสี่ยวปังแอบเอารูปลักษณ์ไปสร้างอาชาญากรรมตุ๊กตายางนั่นแหล่ะ!
บอกให้เธอรู้เรื่องพวกนี้จะได้ไปชกจางเสี่ยวปังสักหมัดแทนเขาดีไหมนะ?
“สวัสดี” ลู่หมิงทักทายเธอ
หญิงสาวจ้องเขาเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร
“เอ่อ
ลู่หมิงก่ายหน้าผาก
หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธคําสารภาพของเธอไป? เธอยังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้ไปอีกรี?
“เอ่อเรื่องก่อนหน้าผมต้องขอโทษด้วยนะ”
ลู่หมิงรู้สึกอึดอัดใจ
หญิงสาวส่ายหัว
เธอจ้องมองไปที่ลู่หมิงเงียบ ๆ ก่อนจะจ้องมองไปที่เสียวไป
“คะ?”
เสี่ยวไปรับรู้ได้ว่ามีคนมองตนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
โอ้โห้…
จู่ๆก็มีลมหนาวเข้ามา อุณหภูมิห้องก็เหมือนจะติดไปซะอย่างนั้น
ทุกคนแข็งค้างเอาแต่จ้องกันไปๆ มาๆ
นี่มัน? คงเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว?
ลู่หมิงเกาหัวของตน
ดูเหมือนว่ารุ่นน้องที่น่ารักคนนี้จะมาที่นี่เพื่อเต๊าะลู่หมิง แต่พอเธอเห็นว่าลู่หมิงกําลังใช้เวลาร่วมกับสาวน้อยที่น่ารักซะยิ่งกว่าเธออีก …
อืมม เป็นใครก็คิดดีไม่ได้หรอก ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะเข้าใจผิด
“เธอมาที่นี่เพื่อซื้อการ์ดใช่ไหม?”
ลู่หมิงมองไปที่เธอ
เขาคิดว่ามันไม่สําคัญว่าเธอจะเข้าใจผิดยังไง แต่ในเมื่อเขาไม่ได้มีใจให้เธอฉะนั้นก็ไม่ต้องสน ใจไปอธิบายอะไรดีกว่า
แถมนี้ยังเป็นการแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายด้วยซ้ํา
รุ่นน้องคนนั้นพยักหน้า
“อะ นี่”
ลู่หมิงส่งการ์ด “Leviathan” ให้เธอ
ธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์
หญิงสาวมองแรงไปที่เสี่ยวไปสักพักก่อนที่เธอจะหันกายจากไป
อืม เธอต้องคิดอะไรพิสดารอยู่แน่ๆ
ไม่คิดกันบ้างหรอว่าตอนนี้เสียวไปอายุเพียงแค่ 11-12 ขวบเอง ต่อให้เขาอยากจีบเธอจริงก็ต้องรออีกอย่างน้อย 2-3 ปีจนอายุเข้าเกณฑ์ ฉะนั้นเรื่องพวกนี้คงเป็นไปไม่ได้
อย่างน้อยก็ในเร็วๆ นี้ล่ะนะ เฮะๆ