นิยาย Divine Card Creator
ตอนที่ 58 เฝ้าประตู
ครึ่งชั่วโมงต่อมาลู่หมิงก็รีบไปที่สถานีตํารวจ
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างในจู่ๆก็ได้ยินเสียงคํารามของสิ่งมีชีวิตบางอย่างดังมาจากข้างใน
“ให้ฉันออกไป! พวกแกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันจะบอกให้ฉันเป็นเพื่อนของลู่หมิง!รู้หรือเปล่าว่าลู่หมิงคือใคร? เขาคือนักสร้างการ์ดที่ทะลวงดากนักอัญเชิญทุกคนจนไม่มีใครกล้าหือ!” จางเสี่ยวปังตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
“หุบปาก!”
ด้วยความบังเอิญตํารวจที่สอบปากคําดันเป็นนักอัญเชิญพอดี ทําให้เธอตะคอกกลับด้วยความหัวเสีย “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ!ทะลวงดากนักอัญเชิญบ้าบออะไร! แน่จริงก็พาเข้ามาที่นี่สิ!ฉันไม่คิดว่า เขาจะกล้าทํามันกับฉั…”
“แค่กๆ” ลู่หมิงไอกลบเกลื่อนก่อนที่จะเดินเข้าไป
“นั่นใคร?”
ตํารวจหญิงจ้องเขาด้วยความดุร้าย
“ผมคือลู่หมิง” ลู่หมิงพูดเสียงเบา
ทั้งห้องเงียบสงัด
“จ่ายค่าปรับแล้วรีบพาเขาออกไปไกลๆ”
“อืม…ในเมื่อเขาเป็นเพื่อนของไอ้อ้วนนี่คนๆ นี้คงไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอนตํารวจหญิงคิดพร้อมมองลู่หมิงด้วยความอาฆาตก่อนจะปล่อยเขาออกไป
ลู่หมิงทําได้เพียงอดทนต่อการจ้องมองที่ไม่เป็นมิตรของเธอ ก่อนจะต้องจําใจจ่ายค่าปรับไป
เฮ้อ….โชคร้ายจริงๆ ที่ลู่หมิงน้อยนั้นไม่มีเพื่อนดีๆสักคนไม่งั้นฉันคงไม่ต้องวุ่นวายแบบนี้!
ตอนจ่ายค่าปรับตํารวจบอกเขามาว่าเรื่องเกิดเมื่อ 2 วันก่อน บังเอิญมีชาวบ้านแจ้งเข้ามาว่ามีการทําอนาจารเสียงดังในที่สาธารณะตลอดทั้งคืนซึ่งรบกวนคนละแวกนั้นอย่างมากมันทั้งเสียงดัง
ฟังชัดและกระแทกกระทั้นจนทําให้พวกเขาอดรนทนไม่ไหว
“พี่ลู่”
จางเสี่ยวปังเรียกเขาด้วยความเป็นอาย
“หุบปาก!”
ลู่หมิงไม่อยากจะสนทนาอะไรกับหมอนี่อีก
แม่*ง… นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาต้องเข้ามาสถานีตํารวจเพื่อประกันตัวผู้ชายขายน้ําแบบนี้!
ชีวิตแบบนี้มันนรกชัดๆ!
ระหว่างทางกลับทั้งคู่ต่างไม่ได้พูดอะไรออกมา
เมื่อพวกเขากลับถึงร้านลู่หมิงบอกให้เสี่ยวไปขึ้นไปสร้างการ์ดข้างบน ก่อนจะ เริ่มทําการสอบสวนสิ่งมีชีวิตทรงกลมที่อยู่ตรงหน้า
“อธิบายมาว่าเกิดอะไรขึ้น?” ลู่หมิงถามอย่างเย็นชา
ก่อนอื่นเลยคือเขาอยากรู้ว่าหมอนี่มันทําอะไรลงไปบ้าง!
“เอ่อ
จางเสี่ยวปังลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า “พี่ลู่พี่จะเชื่อไหมถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ขายตัว”
“เออ!”
ลู่หมิงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว
“จริงหรือ?”
จางเสี่ยวปังรู้สึกประทับใจ
เขารู้อยู่แล้วว่ายังไงพี่ลู่ก็ต้องเชื่อใจเขาแน่นอน
“ฮ่าๆ เขาเชื่อใจฉัน ฉันจางเสี่ยวปังนับว่ายังมีเพื่อนแท้กับเขาอยู่ ฮ่าๆๆ
“เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่นายจะทํามันได้ทั้งคืน 5 วิก็ไปละมั้ง” ลู่หมิงใช้ตรรกะของตนในการวิเคราะห์
ตามที่ตํารวจบอก คนแถวนั้นได้ยินเสียงครางดังตลอดทั้งคืนซึ่งเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับคนอย่างจางเสี่ยวปังแน่ๆ หมอนี่กับตุ๊กตายางยังได้ไม่ถึงครึ่งนาทีเลย!
ฉะนั้นคําอธิบายนี้ย่อมเป็นช่องโหว่อย่างชัดเจนทําให้เขาสามารถหาข้อสรุปได้ทันทีว่าหมอนี่พูดความจริง
จางเสี่ยวปังเถียงไม่ออกแต่ก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง
“คือผมก็แค่ไปทําธุรกิจ
จางเสี่ยวปังพูดด้วยความสํานึกผิด
“โอ?”
ลู่หมิงอุทานด้วยความตกใจ “งั้นถ้านายไม่ได้ขายหรือว่าจะไปซื้อ?”
ใบหน้าของจางเสี่ยวปังเปลี่ยนเป็นสีดํา“พี่ลู่ๆอีกที่นึงผมจะเลิกเป็นเพื่อนพี่ละนะ”
“เหอะๆ งั้นบอกมา”
ลู่หมิงยิ้มเยาะ
ทําธุรกิจ…ด้วยการสร้างภาพลวงตาเป็นรูปฉันแต่งหญิงงั้นหรอ หึๆ?
“มีคนให้ผมสร้างการ์ดภาพลวงตาในราคา 8 พันหยวน ราคานี้รวมการปรับภาพลวงตาตามอารมณ์
จางเสี่ยวปังลูบหัวของตน “หลังจากนั้นพวกเขาก็ขอให้ผมสร้างภาพลวงตาตามภาพถ่ายใบนึ่งผมใช้เวลาสร้างนานมากแต่ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะ ม่จ่ายเงินให้ผมแต่คนพวกนั้นจ่ายผมเป็นผู้หญิงแทน! สุดท้ายผมเลยได้โควต้ามา 4 น้ํา!”
“มันทําให้ผมโกรธมาก!”
“ผมอยากได้เงิน 8 พันหยวน! เงินสุดตั้ง 8 พัน!”
จางเสี่ยวปังหงุดหงิด
เพราะท้ายที่สุด เขาใช้โควต้า 4 น้ํานั้นทั้งหมดภายในเวลา 12 วินาที่…ซึ่งแปลว่าตรรกะของลู่หมิงถูกต้องแล้ว
“หลังจากนั้นผมก็ภาพตัด รู้ตัวอีกทีผมก็นอนอยู่ในคุกแล้ว”จางเสี่ยวปังสํานึกผิด
ช่างเป็นเรื่องราวที่แฟนตาซีจริงๆ!
เทียบชีวิตของหมอนี่กับคนธรรมดาแล้วคงพูดได้แค่ว่าหมอนี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นประเภทที่ทั้งหายากและพิลึกระดับตํานานจริงๆ!
ขนาดหมอนี่ยังเป็นแค่นักเรียนยังเบอร์
แล้วในอนาคต…
อ่า ช่างมันเถอะ
“เฮ้อ ทําไมฉันต้องมาวุ่นวายกับเรื่องปัญญาอ่อนที่หมอนี่ก่อด้วยวะ! นี่มันบทเรียนราคาแพงหูฉีเลย
หลังจากพิจารณาไปสักพักลู่หมิงก็เริ่มไล่เรียงเหตุการณ์ได้
จริงอยู่ที่ภาพลวงตาถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือจางเสี่ยวปัง!
แต่ตัวบงการจริงนั้นคือคนที่ไม่ยอมจ่ายตังค์ไอเอ่อคนนี้แถมยังส่งมันเข้าคุกอีกต่างหาก
เหอะๆ แก๊งพวกนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเนี่ย
ลู่หมิงถอนหายใจ ก่อนตัดสินใจโทรหาจางเหว่ยตํารวจประจําสถานี
จากข้อมูลที่ได้มา ผู้หญิงคนที่ถูกจับพร้อมกับจางเสี่ยวปังได้รับการปล่อยตัวหลังจากจ่ายค่าปรับ 5 ร้อยหยวนไปแล้วแถมยังได้ยินมาว่าตอนถูกจับเธอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาทําให้ตํารวจไม่มี ทางเลือกแล้วได้แต่คิดค่าปรับถูกๆไป
เฮ้อ…แล้วดูจางเสี่ยวปังหมอนี่ทําให้เขาต้องเสียเงินมากถึง 8 พันหยวนซึ่งเมื่อเทียบกับ 5 ร้อยหยวนของผู้หญิงคนนั้นมันต่างกันถึง 16 เท่า!
“จางเสี่ยวปัง แล้วนายไปรู้จักคนพวกนั้นได้ยังไง?” ลู่หมิงถาม
“เอ่อ…”
จางเสี่ยวปังกําลังจะพูดแต่ก็ลังเล
“ถ้านายไม่พูด ฉันจะให้นายกลับไปนอนในคุกอีกรอบ” ลู่หมิงพูดยิ้มๆ
“โอ้ๆ วันนั้นผมบังเอิญเดินผ่านโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งแล้วบังเอิญไปเจอ ใบปลิวแถวทางเข้าน่ะ แล้วจู่ๆผมก็เหมือนถูกผีเข้าตัดสินใจโทรตามเบอร์ไปซะเฉยๆเลย!”จางเสี่ยวปังพูดน้ําไหลไฟดับ
ลู่หมิงมองบน
บังเอิญไปโรงแรมม่านรูด… จู่ๆก็เหมือนโดนผีเข้า…
ดูสิ หมอนี่ให้การเลี่ยงบาลีได้ยอดเยี่ยมขนาดไหน!
“หลังจากนั้นผมก็พบว่ามาตรฐานภาพลวงตาของพวกเขาต่ําไปหน่อยผมเลยช่วยเติมเทคนิคของผมลงไปซึ่งทําให้คนพวกนั้นรู้สึกว่าฟังก์ชั่น ‘การเปลี่ยนแปลงระดับความต้องการทางเพศ’ ของผม มันน่าทึ่งมาก ดังนั้นพวกเขาจึงให้เบอร์โทรติดต่อกับผมน่ะ”พูดเสร็จจางเสี่ยวปังก็เกาหัวของตนด้วยความเขินๆ
“…เอาล่ะ ก่อนอื่นจ่ายค่าปรับที่ฉันเสียไปมาก่อน”ลู่หมิงยื่นมือออกมากรัก
แน่นอนว่าเขาไม่มีทางช่วยไอปัญญานิ่มคนนี้ฟรีๆ อยู่แล้ว
“ตอนนี้ผมมีเงินแค่ 2 พันหยวน..”
จางเสี่ยวปังนับเงินของตนด้วยความสลด “เดี่ยวที่เหลือผมจ่ายพี่ทีหลังละกัน”
ปิบ –
“จํานวนเงินไม่เพียงพอ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของอ้วนจาง
“เอ๋ ฉันจําได้ว่ามีเงินประมาณ 2 พันหยวนอยู่นี่หน่า” จางเสี่ยวปังอุทานด้วยความแปลกใจ
“เหอะๆ” ลู่หมิงหัวเราะเยาะ
“บอกที่อยู่ของคนพวกนั้นมาแล้วฉันจะติดต่ออาจารย์ใหญ่ให้อีกที เดี๋ยวมาดูกันอีกทีว่าเราจะจัดการเรื่องนี้กันเองได้รึเปล่าไม่อย่างนั้นทุกคนคงต้องเดือดร้อนเพราะนายแล้ว”
“โอเค”
จางเสี่ยวปังให้ที่อยู่กับลู่หมิงก่อนกล่าวว่า
“ผมอยากบ่มเพาะ!”
จางเสี่ยวป้งพูดด้วยความจริงจังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน“ผมต้องการพลัง!”
โชคดีที่คราวนี้เขาเจอแค่แก๊งต้มตุนง่อยๆ ทําให้แค่โดนหลอกเงินแล้วก็ติดคุกสถานเบาแต่ถ้าคราวหน้าไปเจอองค์ กรลับแล้วไปล่วงรู้ความลับบางอย่างเข้าล่ะ …
เขาอาจจะตายจริงๆ ก็ได้!
ไม่มีทางๆ คนอย่างฉัน จางเสียวยังไม่ยอมตายง่ายๆ แน่!
สําหรับจางเสี่ยวปังที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนพอได้ประสบกาณ์คราวนี้จึงจําไม่รู้ลืม
เมื่อพูดจบ…เขาก็ก้าวออกไปด้วยความหนักแน่น
เรื่องนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อหมอนี่เป็นอย่างมาก…” ลู่หมิงคิดในใจ
“เสี่ยวไป บันทึกลงในบัญชีว่าเขาเป็นหนี้ค่าปรับพวกเรา 5 พันหยวน” ลู่หมิงเตือนเธอ
“ค่ะ อาจารย์!”
เสี่ยวไปจดบันทึกลงในบัญชีอย่างละเอียด
ขี้เหนียวแบบนี้สิถึงสมกับเป็นลูกศิษย์ ฉัน! ลู่หมิงปลาบปลื้ม
พอจางเสี่ยวปังได้ยิน….จากเดิมที่เดินออกไปเท่ๆ ก็รีบวิ่งหนีออกไปทันทีก่อนจะบ่นออกมาเบาๆโคตรซึ้งกทั้งคู่
แต่ด้วยน้ําหนักเกือบ 150 กิโลกรัมมันเลยทําให้ดูราวกับแพนด้ากําลังกลิ้งบนลานหิน
หลังจากนั้น…สายตาของลู่หมิงหมุนวนกลับมาจับจ้องไปยังที่อยู่ในมือของเขา
“พวกแกคือรายต่อไป” เขาจ้องมองมันด้วยความเย็นชา
อยากรู้จริงๆว่าไอโง่ที่ตัวไหนที่กล้าถ่ายรูปเขาไป?!
ในเขตชานเมือง
ลู่หมิงพบสถานที่แห่งนี้ตามที่อยู่
มันคือย่านการค้าที่ดูค่อนข้างเปลี่ยวซึ่งเต็มไปด้วยหอพักโทรมๆ
ตึกเก่าๆ กล้องวงจรปิดที่ชํารุดและห้องน้ําสาธารณะที่เหมือนไม่ได้ทําความสะอาดมา 10 ปี
มันคือศูนย์รวมอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครจัดการลงได้จนสถานที่แห่งนี้ค่อยๆกลายเป็นย่านการค้าด้วยตัวของมันเอง
“ทางนี้สินะ”
ลู่หมิงค่อยๆ เดินต่อไปเรื่อย
เมื่อเลี้ยวมาถึงมุมหนึ่งของถนน ลู่หมิงก็พบกับวิลล่าหรูสีขาวขนาดใหญ่ท่ามกลางแหล่งอโคจรพวกนี้
โอ้โห้ คนพวกนี้รวยกันขนาดนั้นเลยเรอะ?
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงธุรกิจภาพลวงตาพวกนั้นแล้วยังไงก็ต้องยอมรับว่าน่าจะทํากําไรได้อื้อซ่าจริงๆ
ธุรกิจพวกนี้ทําแปปเดียวก็โตระเบิด!
ที่หน้าประตูบ้านมีบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแกร่ง 2 คนยืนอยู่
ส่วนข้างในนั้น…
จะไปรู้ได้ไงก็ยังไม่ได้เข้าไปเลย
ถ้าอีกฝ่ายมีแค่ 2 คนและเป็นผู้บ่มเพาะที่ระดับไม่เกิน 2 ลู่หมิงก็จัดการได้สบายๆ
แต่ปัญหาคือ…
จํานวนคน – ไม่รู้
ระดับการบ่มเพาะ – ก็ไม่รู้อีก
โดยทั่วไปปัญหาพวกนี้จะถูกแก้ไขโดยคนที่มีความสามารถพิเศษประเภทการมองเห็นหรือการ์ดที่คล้ายๆกันซึ่งกรณีแรกเป็นไปไม่ได้เพราะลู่หมิงมาคนเดียวส่วนข้อหลังก็แพงหูฉีแถมยังไม่มี ประสิทธิภาพมากนัก
แน่นอนว่าตอนนี้ลู่หมิงไม่มีมันจึงได้แต่ลองสอดแนมดูเอง
หลังจากสังเกตอยู่สักพักลู่หมิงก็พบอาคารร้างใกล้ๆ
ประเมินจากตําแหน่งของมันแล้ว …
ใช้ได้อยู่…
น่าจะพอซ่อนตัวได้ เหมาะจะใช้งานมาก!
และขณะที่บอดี้การ์ด 2 คนนั้นหันไปคุยกับลู่หมิงก็โยนการ์ดที่มีออกไปโดยไม่ลังเล!
มออออออออ –
เกิดเสียงคํารามอึกทึกดังขึ้น
ทันใดนั้นกระทิงจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นท่วมท้องฟ้า
“นี่มันบ้าอะไรวะ?”
บอดี้การ์ดมองขึ้นไปบนฟ้าการแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปทันที
ฝูงกระทิงจํานวนมากขนาดนี้มันมาจากไหนกัน?
“หยุดพวกมันซะ!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งตะโกน
ดูจากทรงแล้วแม้จะมีกระทิงอยู่จํานว นมากแต่มันก็ดูไม่ค่อยแข็งแกร่งนักด้วยความสามารถของพวกเขาย่อมน่าจะพอหยุดฝูงกระทิงเหล่านี้ได้อยู่
บอดี้การ์ดทั้งคู่เอาร่างเข้าขวาง
ปัง!
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น
กระทิงที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายหยุดชะงักลงในทันที
“พอจะกันได้อยู่!”
บอดี้การ์ดพูดด้วยความยินดี
“กดปุ่มฉุกเฉินก่อนเร็วเข้า”
บอดี้การ์ดอีกคนลุกขึ้นอย่างใจเย็นพร้อมหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา “พบศัตรูการโจมตีครั้งแรกถูกป้องกันเอาไว้ได้แล้…”
ก่อนที่พวกเขาจะพูดจบ ก็ต้องตกตะลึงในทันที
เพราะเบื้องหลังพวกเขา…เหลือเพียงประตูโกร่นๆ อยู่บานเดียว
ประตูหลักของวิลล่านั้นยังคงอยู่ดีภายใต้การคุ้มครองของทั้ง 2 คน แต่กําแพงข้างๆน่ะโดนแรงกระแทกจากกระทิงคลั่งถล่มเละไปหมดแล้ว
บอดี้การ์ดต่างก็อึ้ง
นี่มันอะไรกัน?
ในขณะเดียวกันนี้เอง…
กลุ่มคนหน้าตาน่ากลัวจํานวนมากก็เดินออกมาจากวิลล่า แต่ใบหน้าของพวกเขาเหวอไปทันทีเมื่อเห็นฉากดังกล่าว
ชายคนหนึ่งในกลุ่มไล่เตะบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตูอยู่ก่อนจะด่ากราด
“ฉันสั่งให้พวกแกสองคนเฝ้าประตู!”
“ฉันสั่งให้พวกแกเฝ้าประตู!”
“แล้วพวกแกสองคนก็เฝ้าแต่ประตู?!”
“ส่วนกําแพง พวกแกก็ปล่อยมันพัง
ยับ?”
“เยี่ยมจริงๆ ฉลาดมาก พวกแกทําหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบสุดๆ”